บทที่ 6 เมื่อ้าใช้เงิน ก็ต้องหาเงิน!
ภายนอกห้องของฮูหยินผู้เฒ่า บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นทุกขณะ
"ข้าบอกว่าไม่ได้เ้าค่ะ!" อาหนิงกางแขนขวางประตูไว้อย่างแ่า แม้ร่างกายจะสั่นเทา แต่ั์ตากลับเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว
"คุณหนูใหญ่กำลังทำการรักษาให้ท่านผู้เฒ่าอยู่ข้างใน และสั่งห้ามไม่ให้ใครรบกวน!"
สาวใช้คนสนิทของฮูหยินรองแค่นเสียงเ็า
"คุณหนูใหญ่งั้นรึ? นังเด็กที่ถูกทิ้งขว้างนั่นน่ะรึจะไปรู้อะไรเื่การรักษา เ้าหลีกไปหากขัดขวางการดูแลท่านผู้เฒ่าของฮูหยินรอง เ้าจะไม่มีที่อยู่ในจวนนี้อีก!"
"ต่อให้ต้องตาย ข้าก็ไม่หลีก!" อาหนิงยืนกรานเสียงแข็งป้าหลินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็เข้ามาสมทบยืนเป็ปราการป้องกันประตูอีกแรง
ความโกลาหลและเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด...ขบวนของนายหญิงผู้กุมอำนาจในจวนก็มาถึง
"เกิดอะไรขึ้น! เหตุใดจึงมาส่งเสียงดังรบกวนการพักผ่อนของท่านแม่สามี!"
เสียงของหลิวซื่อดังขึ้นอย่างทรงอำนาจนางเดินนำหน้าบุตรสาวและบ่าวไพร่กลุ่มใหญ่มาด้วยท่าทีสง่างาม ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มแห่งความเมตตาเช่นเคย แต่แววตากลับฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน
"ฮูหยินรองเ้าคะ!" สาวใช้คนสนิทรีบเข้าไปฟ้อง
"บ่าวจะนำชาบำรุงมาให้ท่านผู้เฒ่า แต่อาหนิงกับนังเฒ่าหลินขัดขวางไว้ บอกว่าคุณหนูใหญ่กำลัง 'รักษา' ท่านผู้เฒ่าอยู่ข้างในเ้าค่ะ!"
หลิวซื่อหรี่ตาลง...คุณหนูใหญ่? นังเด็กนั่นกล้ามาถึงที่นี่เชียวรึ?
"ช่างเหลวไหลสิ้นดี!" นางตวาด "พวกเ้าสองคนหลีกไป! ข้าจะเข้าไปดูท่านแม่สามีด้วยตัวเอง!"
นางตั้งใจจะใช้โอกาสนี้สั่งสอนกู้ชิงอวิ๋นให้หลาบจำ โทษฐานที่กล้ามาเหยียบย่ำอำนาจของนาง!
แต่ก่อนที่นางจะได้ก้าวเข้าไป...
แอ๊ด...
บานประตูห้องก็เปิดออกช้าๆ ร่างผอมบางของกู้ชิงอวิ๋นปรากฏขึ้นที่หน้าประตู นางยืนนิ่งสงบ แววตาเรียบเฉยราวกับสระน้ำไร้ระลอกคลื่น ความสงบนิ่งของนางช่างขัดแย้งกับความวุ่นวายภายนอกโดยสิ้นเชิง
"ส่งเสียงดังอะไรกัน" นางเอ่ยถามเสียงเรียบ "ท่านย่าเพิ่งจะหลับไปหลังจากได้ดื่มยาบำรุงสูตรใหม่ของข้า พวกท่าน้าอะไร?"
หลิวซื่อชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงของกู้ชิงอวิ๋น นางระงับความประหลาดใจไว้แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงของผู้าุโ "ยาอะไรของเ้า? เ้าจะไปรู้อะไรเื่การรักษา! หลีกไป ข้าจะเข้าไปดูอาการท่านแม่!"
นางคิดจะผลักกู้ชิงอวิ๋นให้พ้นทาง แต่กู้ชิงอวิ๋นกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย นางเพียงยืนขวางประตูไว้ด้วยร่างที่ผอมบาง แต่กลับให้ความรู้สึกมั่นคงดุจขุนเขา
"ไม่ได้" กู้ชิงอวิ๋นตอบเสียงเย็น "ท่านย่า้าการพักผ่อนที่สงบที่สุดในตอนนี้ การเข้าไปรบกวนนอกจากจะไม่เป็ผลดีแล้ว ยังอาจทำให้อาการของท่านกำเริบได้"
คำพูดของนางไม่ใช่การขอร้อง แต่เป็การ "สั่งห้าม" อย่างชัดเจน!
หลิวซื่อเริ่มโกรธจนหน้าเขียว...นางเป็ถึงฮูหยินผู้ดูแลจวน แต่นังเด็กนี่กลับกล้ามาสั่งนาง! แต่ในขณะเดียวกัน...ความขี้ขลาดในใจนางก็เริ่มทำงาน ความมั่นใจและแววตาที่คาดเดาไม่ได้ของกู้ชิงอวิ๋นทำให้นางรู้สึกหวาดหวั่น...หากนางดึงดันเข้าไปแล้วท่านแม่สามีเกิดเป็อะไรขึ้นมาจริงๆ ...ความผิดทั้งหมดจะตกมาอยู่ที่นาง!
"ท่านแม่! จะไปยอมมันได้อย่างไร!" กู้ชิงเหลียนที่ทนไม่ไหวะโขึ้น "มันต้องทำอะไรแปลกๆ กับท่านย่าแน่! พวกเ้า! ไปจับตัวมันไว้!"
บ่าวไพร่ของหลิวซื่อทำท่าจะขยับ แต่หลิวซื่อกลับยกมือขึ้นห้ามบุตรสาวไว้ นางสูดลมหายใจลึก พยายามระงับโทสะและสวมหน้ารอยยิ้มจอมปลอมอีกครั้ง
นังเด็กนี่มันแปลกไป...ต้องรอดูท่าทีไปก่อน การผลีผลามตอนนี้ไม่เป็ผลดีแน่...
นางตัดสินใจแล้ว...ความโลภในอำนาจทำให้นางไม่้าสร้างปัญหาที่อาจจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในตอนนี้
"ก็ได้..." หลิวซื่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะให้ดูเมตตาที่สุด "ในเมื่อเ้าบอกว่ากำลังดูแลท่านแม่ได้เป็อย่างดี งั้นข้าจะเชื่อใจเ้าสักครั้ง...แต่จำไว้ให้ดีนะกู้ชิงอวิ๋น...หากท่านแม่สามีเป็อะไรไป...เ้าจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด!"
นางทิ้งท้ายคำขู่ไว้ ก่อนจะสะบัดชายแขนเสื้อแล้วหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
กู้ชิงอวิ๋นมองตามร่างของคนที่เดินจากไปราวกับหนีอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มเ็า...
นี่เป็เพียงการเริ่มต้นเท่านั้น...ฮูหยินรอง...บัญชีหนี้แค้นของเรายังอีกยาวไกล
ณ เรือนประธานที่เคยดูโอ่อ่า บัดนี้กลับอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความขุ่นมัว
เพล้ง!
ถ้วยชาราคาแพงถูกปัดตกลงบนพื้นจนแตกละเอียด!
"นังเด็กเหลือขอ!" หลิวซื่อตวาดลั่นด้วยความโมโหจนตัวสั่น ใบหน้าที่เคยประดับ ด้วยรอยยิ้มจอมปลอม บัดนี้บิดเบี้ยวด้วยโทสะอย่างไม่ปิดบัง "มันไปเอาความกล้าและเล่ห์เหลี่ยมพวกนั้นมาจากไหนทั้งเื่กฎหมาย ทั้งวิชาแพทย์ปีศาจ...หรือว่าที่ผ่านมามันแกล้งโง่มาตลอด!"
กู้ชิงเหลียนที่นั่งอยู่ข้างๆ รีบผสมโรง "ท่านแม่! ท่านจะปล่อยให้มันทำตามใจชอบแบบนี้ไม่ได้นะเ้าคะ! มันหยามหน้าพวกเราชัดๆ ท่านต้องสั่งสอนมัน!"
"สั่งสอนรึ?" หลิวซื่อแค่นเสียง "ตอนนี้มันมีท่านย่าเป็เกราะกำบัง ข้าจะทำอะไรผลีผลามได้อย่างไร? หากแม่สามีของข้าเป็อะไรขึ้นมาจริงๆ ท่านพ่อของเ้าคงไม่ปล่อยข้าไว้แน่!" ความจริงนางก็สงสัยว่าเพราะเหตุใดอยู่ดีๆ นังเด็กนั้นถึงได้แข็งข้อและเก่งกาจขึ้นมา นางอยากจะหาคำตอบเหมือนกัน..แต่ก็กลัวคำตอบที่จะได้รับดังนั้นเื่นี้นางไม่อาจจะผลีผลามได้เลย
นางนึกถึงสายตาอันเย็นเยียบของกู้ชิงอวิ๋นแล้วก็รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาในใจ...นางร้ายกาจกับคนที่อ่อนแอกว่าได้เสมอ แต่เมื่อเจอคนที่แข็งแกร่งและคาดเดาไม่ได้เช่นนี้ ความขี้ขลาดในใจนางก็เริ่มทำงาน
ทันใดนั้น บ่าวคนสนิทก็เดินเข้ามารายงานด้วยสีหน้ากังวล
"เรียนฮูหยินรองเ้าค่ะ...คนจากจวนใต้เท้าซ่งมาขอพบ...เขามาถามว่าเมื่อไหร่จะส่งตัวคุณหนูใหญ่ไปเสียทีเ้าค่ะ"
เื่ที่นางไม่อยากได้ยินที่สุดก็มาถึงจนได้!
หลิวซื่อหน้าซีดเผือด นางรู้ดีว่าไม่มีปัญญาไปลากตัวกู้ชิงอวิ๋นมาได้อีกแล้ว นางนั่งนิ่งใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตัดสินใจกัดฟันพูดออกมา
"ไปบอกพวกเขา...ว่าคุณหนูใหญ่ล้มป่วยกะทันหัน...อาการหนักมาก หมอบอกว่าอาจจะเป็โรคระบาดร้ายแรง เพื่อความปลอดภัยของจวนใต้เท้าซ่ง เราจึงไม่สามารถส่งตัวนางไปได้"
"แล้วเื่เงินมัดจำเล่าเ้าคะ?" บ่าวคนสนิทถามต่อ
หลิวซื่อถึงกับสะอึก เงินก้อนนั้นนางเอาไปใช้จ่ายส่วนตัวจนเกือบจะหมดแล้ว แต่การผิดสัญญาซื้อขายกับขุนนางชั้นผู้ใหญ่อย่างใต้เท้าซ่งก็เป็เื่ใหญ่เกินไป
นางหันไปสั่งบ่าวอีกคน
"ไปที่ห้องเก็บเงิน...เบิกเงินยี่สิบตำลึงมาให้ข้า"
บ่าวคนนั้นมีสีหน้าลำบากใจ "แต่ฮูหยินเ้าคะ...เงินในคลังหลวงตอนนี้..."
"ข้าสั่งให้ไปก็ไปสิ!" นางตวาดลั่น บ่าวคนนั้นจึงรีบวิ่งออกไปอย่างหวาดกลัว
ไม่นานนัก ถุงเงินที่ดูไม่ค่อยจะพองนักก็ถูกนำมาวางตรงหน้า หลิวซื่อมองมันด้วยสายตาเ็ปใจ เงินยี่สิบตำลึง...นี่คือเงินก้อนสุดท้ายที่นางมีไว้ใช้จ่ายส่วนตัวในเดือนนี้! แต่ก็จำต้องยอมตัดใจ นางผลักถุงเงินนั้นไปให้บ่าวคนสนิทอย่างไม่เต็มใจนัก
"เอาเงินมัดจำนี่...คืนกลับไปให้พวกเขาด้วย! บอกว่าเป็ค่าเสียเวลาและขอขมา!"
เมื่อบ่าวคนนั้นจากไปแล้ว หลิวซื่อก็ทุบโต๊ะอย่างแรงด้วยความเจ็บแค้น! ความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้นางสูญเสียทั้งเงินและหน้าตา!
"ดูสิ! ทั้งหมดนี่ก็เพราะท่านพ่อของเ้า!" นางหันไปตวาดใส่กู้ชิงเหลียน
"ดีแต่คิดเื่กองทัพ เื่ชายแดน ไม่เคยสนใจเลยว่าคนในบ้านจะอดอยากปากแห้งกันแค่ไหน สมบัติของจวนก็เอาไปประเคนให้พวกทหารจนหมดสิ้น แล้วตอนนี้เป็อย่างไร? ข้าต้องมานั่งกลุ้มใจเื่เงินไม่กี่ตำลึงนี่!"
นางระบายความอัดอั้นทั้งหมดที่มีต่อสามีผู้ไม่เคยใส่ใจเื่ในเรือน ท่านแม่ทัพกู้เจิ้นเทียนผู้จงรักภักดีต่อแคว้นยิ่งกว่าครอบครัวตัวเอง เขาพร้อมจะสละทุกอย่างเพื่อรักษาชายแดน แต่กลับปล่อยให้คนในบ้านของเขาต้องเผชิญกับความยากจนและความขัดแย้งที่กัดกินจวนแห่งนี้ให้ผุพังลงทุกวัน
หลิวซื่อนั่งหอบหายใจด้วยความโมโห ในใจเต็มไปด้วยความโลภและความเคียดแค้น
ในเมื่อข้าขายมันไม่ได้...ก็ต้องหาทางอื่น...สมบัติสินเดิมของแม่มันร้านค้ากับที่นาพวกนั้น...ข้าจะต้องเอามันมาเป็ของข้าให้ได้!
หลายวันต่อมา ภายใต้การดูแลอย่างพิถีพิถันของกู้ชิงอวิ๋น อาการของฮูหยินผู้เฒ่าก็ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ จากที่เคยนอนซมไร้เรี่ยวแรง บัดนี้ท่านสามารถลุกขึ้นนั่งพิงหมอนและทานโจ๊กบำรุงได้บ้างแล้ว ใบหน้าเริ่มมีสีเืฝาด และเสียงไอก็น้อยลงไปมาก ปาฏิหาริย์นี้ทำให้อาหนิงและป้าหลินยิ่งเคารพและภักดีต่อคุณหนูใหญ่ราวกับเทพธิดาโดยสมบูรณ์
"คุณหนูใหญ่เ้าคะ โอสถของท่านช่างวิเศษนัก!" ป้าหลินกล่าวด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตันขณะเช็ดตัวให้ฮูหยินผู้เฒ่า
กู้ชิงอวิ๋นยิ้มบางๆ
"ยาเป็เพียงส่วนหนึ่ง ที่สำคัญกว่าคืออาหารบำรุง แต่ด้วยสภาพของจวนเราตอนนี้..."
นางทอดถอนใจ นางรู้ดีว่าไม่สามารถพึ่งพาครัวใหญ่ที่ขาดแคลนได้ตลอดไปดังนั้นนางคิดหาทางนำของที่อยู่ในมิติของนางออกมาใช้!
หลังจากที่กู้ชิงอวิ๋นได้ดูแลท่านย่าและจัดการเื่ราวต่างๆ จนดึกดื่น นางก็กลับมายังเรือนพักของตนเอง อาหนิงได้จัดเตรียมสำรับอาหารที่ได้มาจากครัวใหญ่ไว้ให้...มันคือข้าวสวยกับผัดผักและเนื้อหมูชิ้นเล็กๆ ซึ่งถือว่าดีที่สุดเท่าที่ครัวจะหาให้ได้ในตอนนี้แล้ว
นางมองอาหารตรงหน้า แล้วในใจก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับของชั้นเลิศในมิติหีบโอสถของนาง...
จิตของนางเพียงแค่คิด ภาพของสเต็กเนื้อวากิว A5, ปลาแซลมอนสดๆ จากนอร์เวย์, และผักออร์แกนิกนานาชนิดก็ปรากฏขึ้นในมโนนึก นางมีวัตถุดิบที่ดีที่สุดในโลกอยู่ในมือ สามารถปรุงยาและอาหารบำรุงที่วิเศษที่สุดเพื่อฟื้นฟูร่างกายของท่านย่าและของนางเองได้อย่างรวดเร็ว
แต่... นางถอนหายใจเบาๆ ข้าจะเอาของพวกนี้ออกมาได้อย่างไร?
นางจะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดในเรือนซอมซ่อที่ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อฟืนดีๆ ถึงได้มีเนื้อวัวชั้นเลิศหรือปลาทะเลน้ำลึกปรากฏขึ้นมาได้? ผู้คนในจวน โดยเฉพาะฮูหยินรองหลิวซื่อ กำลังจับตาดูนางทุกฝีก้าวอยู่แล้ว พวกเขากำลังหวาดกลัวในวิชาแพทย์ประหลาดของนาง หากนางเริ่มเสกของกินของใช้ออกมาจากความว่างเปล่าอีก...หลิวซื่อคงได้โอกาสป่าวประกาศว่านางเป็ปีศาจและเรียกนักพรตมาทำพิธีขับไล่เป็แน่
ไม่ได้...ข้าจะทำอะไรผลีผลามเช่นนั้นไม่ได้ ของทุกอย่างที่ข้านำออกมาจากหีบโอสถ จะต้องมี 'ที่มา' ที่สมเหตุสมผลและตรวจสอบได้
นางตระหนักได้อย่างชัดเจน...นางไม่สามารถใช้ของวิเศษเหล่านี้ได้อย่างอิสระจนกว่านางจะมีเกราะกำบังที่แข็งแกร่งพอ เกราะกำบังที่เรียกว่า...เงิน!
นางต้องมีเงิน...มีเงินมากพอที่จะซื้อทุกอย่างที่นาง้าได้อย่างเปิดเผย เมื่อนั้นนางก็จะสามารถนำของจากในมิติออกมาใช้สับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมได้อย่างแเีโดยไม่มีใครสงสัย
ในเมื่อต้องใช้เงิน...ก็ต้องหาเงิน
ความคิดนั้นทำให้ั์ตาของนางสว่างวาบขึ้นมาทันที!
****
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้