โจวเทียนหยางมองกัวไฮว่แวบหนึ่งแล้วมองหลิวเหวินหลิวเหวินกัดริมฝีปาก ส่วนโจวเทียนหยางผงกศีรษะเบาๆ แล้วก็ลุกขึ้นมาก่อนจะลงไปในอ่างไม้ที่เต็มไปด้วยน้ำร้อน
“อย่ามัวชักช้าอยู่เลย ใส่ยาเข้าไปตามลำดับที่ฉันบอกพวกเธอไปเมื่อกี้ถ้ายาไม่ได้ผลทำอาโจวแขวนชีวิตล่ะก็ พวกเธอทั้งหมดต้องรับผิดชอบ” กัวไฮว่พูดด้วยเสียงดังลั่น เมื่อเฉินจย่าตี้และคนอื่นๆเห็นว่ากัวไฮว่ไม่ได้พูดล้อเล่นก็ตั้งสติขึ้นมาจากนั้นก็เทยาจีนที่เตรียมเอาไว้แล้วลงไปในอ่างไม้
“เสี่ยวโม่ ทำไมเขาถึงได้ร้อนขนาดนั้น เขาไม่เป็ไรใช่ไหม” หลิวเหวินกัดริมฝีปากมองไอร้อนที่ออกมาจากอ่างไม้พร้อมกับถามเหอโม่ที่อยู่ด้านข้างขึ้นเบาๆ
“ใครเหรอ” เหอโม่ยิ้มพลางมองพี่สาวที่แก่กว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ก่อนจะถามขึ้น “น้าเหวินหมายถึงอาโจวเหรอ”
“เสี่ยวโม่ ไม่พูดด้วยแล้ว” หลิวเหวินพูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ “ฉันไปถามเสี่ยวซือดีกว่า”
“น้าเหวิน น้าไม่ต้องกังวลนะ ไม่มีอะไรหรอกน้ายังไม่รู้ความสามารถของกัวไฮว่อีกเหรอ” หลิวเย่าซือพูดหยอกล้อเช่นเดียวกัน
“กัวไฮว่ ไม่เรียกว่าผอ. แล้วนะ ดูทรงแล้วเสี่ยวซืออยากจะเป็เมียผอ. ล่ะสิท่า” หลิวเหวินพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ แต่เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำเอาหลิวเย่าซือเขินอายจนหน้าแดงก่ำ
“อ๊าก เจ็บจะตายอยู่แล้ว เสี่ยวไฮว่ เธอบอกว่าไม่เจ็บไม่ใช่เหรอ” โจวเทียนหยางร้องะโเสียงดังอยู่ในอ่างไม้
“แค่นี้ก็เจ็บแล้วเหรอ ทนไปก็พอแล้ว อาโจว ในชีวิตคนเราโอกาสแบบนี้มีน้อยนะถ้าครั้งนี้อาคว้าไว้ไม่ได้ งั้นทั้งชีวิตอาก็ไม่อาจก้าวข้ามเขตแดนไคกวงแล้วแหละ” กัวไฮว่ะโเสียงดัง โจวเทียนหยางผงกศีรษะเบาๆ อยู่ในอ่างไม้ จริงสิเกรงว่าโอกาสแบบนี้จะมีแค่ครั้งเดียว ฉันจะต้องบรรลุให้ได้
“ใคร ใครบรรลุกัน” ณูเาโบราณปู้โจวซานที่อยู่ห่างออกไปสามพันกิโลเมตร ผู้าุโรายหนึ่งค่อยๆลืมตาขึ้นมา ผู้าุโคนนี้อยู่ในระดับไคกวงระยะหลังเขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโจวเทียนหยางที่เกิดจากการบรรลุได้อย่างชัดเจน
“เผิงเทียนฮั่ว แกเองก็รู้สึกได้เหรอ ฉันยังนึกว่าเป็ภาพลวงตาซะอีกคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าในเวลาไม่ถึงหนึ่งร้อยปีบนโลกมนุษย์จะมีคนบรรลุอีก” ณ ูเาโบราณปู้โจวซานก็มีผู้าุโที่มองอายุไม่ออกรายหนึ่งปรากฏตัวอยู่ข้างกายเผิงเทียนฮั่วพร้อมกับพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
“เ้าบ้าฉิน ดูทรงแล้วตำแต่งที่บรรลุจะอยู่ที่เมืองอู่เฉิงจากที่ฉันรู้เมืองอู่เฉิงไม่มีผู้บำเพ็ญเพียรนี่ ไม่รู้ว่าเป็ใครกัน” เผิงเทียนฮั่วพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
“ยังจำพลังงานที่สะพัดเมื่อหลายวันก่อนได้หรือเปล่าเหมือนว่าจะมาจากเมืองอู่เฉิงเหมือนกันนะ ไม่แน่ว่าอาจมียอดฝีมืออาศัยอยู่ที่เมืองอู่เฉิงแล้วก็ได้” ฉินเฟิงอวี่พูดยิ้มๆ “หลายวันก่อนมีพวกจากสำนักวิชาขึ้นเขามาบอกว่าที่เมืองอู่เฉิงมีคลินิกไม่ ไม่รู้ว่าเป็ของศิษย์จากสำนักสันโดษสำนักไหนวิชาแพทย์ของผอ. คลินิกเก่งสุดยอดไปเลย”
“เก่งแล้วยังไง เกี่ยวอะไรกันกับพวกเรา จะมีวิชาแพทย์สูงส่งแค่ไหนแล้วจะรักษาพวกเราสองคนให้หายดีได้เหรอฮ่าๆ เ้าบ้า อย่ามัวคิดเื่อื่นเลย เราไปบำเพ็ญเพียรกัน” พูดเสร็จ เผิงเทียนฮั่วก็หายตัวไปท่ามกลางยอดูเา
“ก็ไม่ถูกนะ บางทีเขาอาจจะรักษาให้พวกเราได้ก็ได้ แกไม่ไปฉันไปเองไว้ถึงตอนนั้นถ้าฉันหายดีขึ้นจริงๆ ฉันจะจัดการแกให้เรียบเลย” เมื่อพูดเสร็จ ฉินเฟิงอวี่ก็หายตัวไปท่ามกลางยอดเขา
“ผอ. ในอ่างไม่ขยับแล้ว” ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงสมุนไพรถูกใส่ลงไปในอ่างทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังได้ยินเสียงของโจวเทียนหยางเป็ระลอกๆทว่าสิบห้านาทีมานี้ ไม่มีการขยับเขยื้อนภายในอ่างแม้แต่นิดเดียว
“ไม่ขยับน่ะถูกแล้ว ให้พวกเธอใส่ยาแรงไปเยอะขนาดนี้ต่อให้เป็เทพเซียนก็จบเห่” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้มส่วนคนอื่นๆ ก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา
“ไม่เลวเลย ตอนนี้ยังหัวเราะออกมาได้อีก พวกเธอผลัดกันวัดชีพจรให้อาโจวจำชีพจรแบบนี้ไว้ให้ดี ถ้า่นี้มีคนมาที่คลินิกไม่ให้พวกเธอรักษาแล้วบังเอิญเจอชีพจรแบบนี้ ก็ไปเรียกอาโจวมาให้จัดการซะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆจากนั้นพนักงานคลินิกไม่ทั้งสิบแปดรายต่างก็ต่อแถวผลัดกันจับชีพจรโจวเทียนหยาง
“น้องไฮว่ เหล่าโจวไม่เป็ไรใช่ไหม เธอดูเขาสิไม่ขยับเลยเธอรีบทำให้เขาตื่นเถอะ” หลิวเหวินกัดริมฝีปากเดินไปข้างกัวไฮว่แล้วพูดขึ้น
หลิ่วเยียนหาวทีหนึ่ง ตอนแรกนึกว่าตนจะมีสติตื่นพอดูกระบวนการรักษาแต่ไม่คิดเลยว่าตลอดกระบวนการกัวไฮว่ไม่ได้ใช้แม้แต่เข็ม แสนจะน่าเบื่อรู้อย่างนี้ตนกลับไปก่อนตั้งนานแล้ว
“อาโจว ผมมียาลูกกลอนไม่เยอะ ถ้าอาบรรลุไม่ได้ เดี๋ยวผมจะหลอมยาให้อาแล้วก็ต้องทำยาลูกกลอนออกมาอีก” ในขณะที่พูดกัวไฮว่ก็ยัดยาลูกกลอนเจ็ดสีเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของโจวเทียนหยางกล้ามเนื้อบนกายของโจวเทียนหยางที่ไร้ลมหายใจเมื่อสักครู่ก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมาทำเอานักศึกษาทั้งสิบแปดคนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
“ชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับคุณ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขา อาโจว อยากหน่อยไหม” กัวไฮว่ะโเสียงดัง เข็มในมือส่องแสงสว่างวาบเข็มทั้งเก้าฝังลงไปบนตัวของโจวเทียนหยางแทบจะในเวลาเดียวกันจากนั้นโจวเทียนหยางก็ร้องะโเสียงดังลั่น ดีที่ห้องของคลินิกไม่แข็งแรงทว่ากระจกคลินิกรอบๆ ต่างก็แตกไม่เหลือชิ้นดี
“ลืมเื่นี้ไปซะ” กัวไฮว่เห็นว่าโจวเทียนหยางขยับร่างกายเยอะไปก็โยนหยกหกชิ้นไปข้างๆตัวโจวเทียนหยาง สร้างค่ายกลแยกตัวขึ้น จึงจะได้หายใจเข้าเฮือกใหญ่
“ผอ. กัวอยู่ใช่ไหม คลินิกพวกเธอไม่เป็ไรใช่ไหมเมื่อกี้ได้ยินเสียงกรีดร้องเหมือนว่าจะดังมาจากฝั่งพวกเธอ” เวรรักษาการตำรวจถนนซิ่งหลินมีความรับผิดชอบสูงมากผ่านไปไม่ถึงสามนาทีก็มีตำรวจมาอยู่หน้าประตูคลินิกไม่แล้ว
“พี่จาง ไม่มีอะไรหรอกครับ เมื่อกี้ผมก็ได้ยินเสียงกรีดร้องพวกเราไม่มีเื่อะไรนะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆส่วนจางฟ่างเห็นว่าในคลินิกไม่มีคนยืนอยู่เต็มก็ยิ้มแล้วก็เดินจากไป
“อาโจว ผมรู้ว่าอาได้ยินที่ผมพูด เดี๋ยวผมจะบอกพลังภายในให้อานะถือโอกาสตอนที่มีแสงจันทร์ก็ซึมซับไปหน่อย” กัวไฮว่พูดเบาๆ “กลับไปพักผ่อนกันเถอะ ทางนี้ไม่มีอะไรแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปเมืองหลวงมีอะไรก็โทรมาหาฉันนะ”
“แล้วอาโจวจะทำไงล่ะ” หลิวเหวินรีบถามขึ้นอย่างร้อนรน
“ประมาณตีห้าวันพรุ่งนี้เขาก็ฟื้นแล้วล่ะไว้ตอนนั้นเขาจะรู้เองว่าควรจะกินอะไร” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “พี่เหวินเหวินรอไว้ผมกลับมาจากเมืองหลวงผมจะจัดการเื่ของพี่กับอาโจวให้นะ ฮ่าๆ” พูดเสร็จ กัวไฮว่ก็เดินไปข้างๆ หลิ่วเยียนพร้อมกับลากเธอออกไปจากคลินิกไม่ไม่นานทั้งคลินิกไม่ก็เหลือเพียงแค่โจวเทียนหยางที่นั่งสมาธิอยู่ในอ่างไม้กับหลิวเหวินที่นั่งอยู่บนบันไดหน้าประตู
“พี่หลิ่วเยียน ผมทำให้พี่ผิดหวังรึเปล่า ฮ่าๆ” กัวไฮว่เห็นหลิ่วเยียนไม่กระปรี้กระเปร่าก็ถามยิ้มๆ
“ก็ดีแล้ว แต่นายทำกับอาโจวแบบนี้ จะไม่เป็ไรจริงๆ เหรอ” หลิ่วเยียนถามขึ้นด้วยความกังวลใจ
“ไม่เป็ไรหรอก ดึกแล้ว ผมไปส่งพี่กลับเถอะ” กัวไฮว่พูดอย่างยิ้มแย้มโดยไม่ได้สนใจว่าหลิ่วเยียนจะตกลงหรือไม่เขารีบไปนั่งที่นั่งฝั่งคนขับ หลิ่วเยียนเองก็จำต้องส่งกุญแจให้กัวไฮว่ต่อมาก็ได้ัักับความสามารถในการซิ่งรถของกัวไฮว่ สี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิง
“เฮ้อ นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนั้นฉันขับรถเร็วขนาดนี้แล้วาเ็หนักขนาดนั้นได้ยังไง” กัวไฮว่พูดพึมพำกับตนเอง “หลิ่วเยียน ถึงแล้วลงรถเถอะ เอากุญแจเธอไป”
“นายขับรถกลับไปเถอะ ไกลขนาดนั้น นายเดินไปไม่รู้จะถึงเมื่อไหร่” หลิ่วเยียนพูดยิ้มๆ “หรือไม่ก็วันนี้นายก็ไม่ต้องกลับไปนั่งข้างบนกับฉัน ในบ้านไม่มีใครอยู่” เมื่อพูดเสร็จใบหน้าของหลิ่วเยียนก็แดงก่ำขึ้นมา
“จะคืนจันทร์เต็มดวงก็ช่างมันเถอะ ไว้ครั้งหน้าฉันจะไปนั่งในบ้านเธอนะ ฮ่าๆ” เมื่อพูดเสร็จหลิ่วเยียนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่พบว่ากัวไฮว่ก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาตนเอง
“ตาบ้า ไอ้ตาบ้า ฉันตกหลุมรักหมอนี่เหรอเนี่ย” หลิ่วเยียนลูบหน้าตนเองพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้