“ได้ยินมาว่าการแข่งขันการพิสูจน์เครื่องเคลือบจะจัดขึ้นในอีก10 วันข้างหน้า ่นี้คุณก็ไม่ต้องออกไปข้างนอกแล้วล่ะอาจารย์จะสอนคุณเพิ่มเติมอีกสักหน่อย แล้วคุณก็ห้ามทำให้อาจารย์ขายหน้าด้วย!”
“ครับ!” หลินเยว่พยักหน้ารับคำอย่างหนักแน่น
พลังพิเศษตาทิพย์สามารถใช้พิสูจน์ว่าเครื่องเคลือบอยู่ในยุคสมัยไหนแล้วเขายังต้องกลัวอะไรอีกล่ะ ถึงตอนนั้นเขาคงไม่ได้มีผลการทดสอบแย่จนถึงขนาดทำให้อาจารย์ของเขาต้องเสียหน้าหรอก
ตอนกลางคืนหลังจากกลับเข้ามาที่ห้องหลินเยว่จึงหยิบมีดแกะสลักจันทราหนาวเหน็บออกมาฝึกฝนต่อ...
แกะรูป ผ่าธูป......
ทั้ง 5 วันหลังจากนั้นหลินเยว่ก็ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเครื่องเคลือบจากท่านเฮ่อฉางเหออยู่ในห้องพักตอนนี้ภายในบรรดาผู้เข้าร่วมแข่งขันการพิสูจน์เครื่องเคลือบทั้งหมดเขาเป็คนที่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องเคลือบน้อยที่สุดและก็มีประสบการณ์หลากหลายน้อยที่สุด หากไม่มีพลังพิเศษตาทิพย์ศักยภาพโดยรวมของเขาก็ด้อยที่สุดเช่นกัน
ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 10 คนนี้ คนที่ติดตามอาจารย์น้อยที่สุดก็อยู่ที่ 9ปี ส่วนหลินเยว่นั้นหากพยายามนับรวมเวลาทั้งหมดแล้วเขาก็เพิ่งเรียนมา2 เดือนเท่านั้นความแตกต่างเหล่านี้ไม่ต้องคิดก็รู้กันเป็อย่างดี
แต่ทว่าหลินเยว่ก็ไม่รู้สึกกลัวเขายังมีพลังพิเศษ ถึงแม้ว่าการใช้พลังพิเศษจะต้องใช้พลังค่อนข้างมากแต่เครื่องช่วยโกงเช่นนี้ก็ยังใช้ได้ผลค่อนข้างดี
ตอนนี้สิ่งที่หลินเยว่กังวลที่สุดก็คือลักษณะการทดสอบของการแข่งขันในครั้งนี้
หากไม่ได้ให้สังเกตเครื่องเคลือบเพียงชิ้นเดียวก็คงจะเป็เื่ลำบากสำหรับหลินเยว่ เพราะตอนนี้หลินเยว่สามารถใช้พลังพิเศษได้เป็ระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น หากเขาใช้มันนานๆ เขาย่อมทนไม่ไหวอย่างแน่นอน
หากให้หาเครื่องเคลือบของแท้สักชิ้นจากเครื่องเคลือบทั้งหมด100 ชิ้นการทดสอบเช่นนี้ต้องใช้ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับเครื่องเคลือบโดยตรง
พลังพิเศษตาทิพย์จะช่วยโกงตอน่เวลาสำคัญเท่านั้นก็เหมือนกับการกู้ะเิ ก่อนอื่นจะต้องใช้ความรู้เฉพาะทางในการแกะชิ้นส่วนด้านนอกแต่ทว่าเมื่อถึงจุดที่ต้องแยกแยะสายไฟในขั้นสุดท้ายก็จะใช้พลังพิเศษในการช่วยตัดสินใจ
แต่ละส่วนทำหน้าที่ไม่เหมือนกันหากสามารถจัดสรรงานอย่างเหมาะสมก็จะทำให้ได้ผลสำเร็จที่ดีที่สุด
แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่เขาขาดก็คือความรู้และประสบการณ์เฉพาะทางและนี่ก็เป็จุดอ่อนในการใช้พลังพิเศษหากเขาไม่มีความรู้เฉพาะทางที่ใช้สำหรับแยกแยะเครื่องเคลือบว่าเป็ของแท้หรือของปลอมแล้วเขาจะสามารถหาของแท้ว่าเป็ชิ้นไหนได้อย่างไร
ณ เวลานี้ หลินเยว่จึงรู้สึกว่าตัวเขาเองขาดทักษะความรู้เฉพาะทางอย่างยิ่งยวดเขาตัดสินใจแล้วว่า่ไม่กี่วันนี้เขาจะตั้งใจศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเครื่องเคลือบให้มากที่สุดและเมื่อเหตุการณ์นี้ผ่านไป เขาก็จะแบ่งเวลาขอติดตามศึกษาหาความรู้จากอาจารย์ของเขาต่อ
หาก 1 ปียังไม่ได้เื่ก็2 ปี... หาก 2ปียังไม่ได้เื่ก็ 3 ปี...สุดท้ายต้องมีสักวันที่ความรู้ทั้งหมดจะหลอมรวมเป็หนึ่งเดียว
และ 5 วันมานี้เฉินเฟยและหลี่เฉียนโจวอาจารย์และลูกศิษย์สองคนนั้นก็ยังไม่ได้มาหาเื่จากเหตุการณ์ต่อยคนของเขาในวันนั้นมันดูผิดปกติจนเกินไป ซึ่งก็ทำให้หลินเยว่รู้สึกข้องใจยิ่งนัก
แต่ทว่าท่านเฮ่อฉางเหอก็พูดบอกสาเหตุอย่างตรงจุด“ตาแก่คนนั้นเป็พวกมีอุบายเยอะแยะซับซ้อน ก็เหมือนกับคันธนูและลูกศรยิ่งง้างไว้ตึงเท่าไร เมื่อยิงออกมาผลของมันก็ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากเป็เื่เกี่ยวกับเฉินเฟยแล้วไม่ว่าจะเป็เวลาใดก็ตามคุณต้องตื่นตัวตลอดเวลา ต้องห้ามประมาทเพราะตอนที่คุณไม่ระมัดระวังเขาจะทำตัวเหมือนอสรพิษร้ายที่เข้าฉกคุณอย่างรวดเร็วและรุนแรง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลินเยว่จึงพยักหน้ารับด้วยท่าทีจริงจัง ไม่กลัวขโมยขโมยของก็กลัวขโมยจับจ้องอยู่ เขาจะต้องระมัดระวังตลอดเวลา
วันที่ 6 หลินเยว่และท่านเฮ่อฉางเหอได้มีโอกาสเดินทางออกจากโรงแรมครั้งนี้พวกเขาจะไปร่วมงานประมูลงานหนึ่ง ซึ่งงานนี้ทางจิ่งเต๋อเจิ้นเป็ผู้รับผิดชอบหลักในการจัดงานไม่ได้เป็งานที่จัดขึ้นมาสำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศทั้ง 10 คน แต่เป็การจัดงานประมูลทั่วๆ ไปงานหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็ใครก็สามารถเข้าร่วมงานได้
หลินเยว่ยังไม่เคยไปร่วมงานประมูลมาก่อน ดังนั้นครั้งนี้ท่านเฮ่อฉางเหอจึงคิดจะพาเขาไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆในขณะเดียวกันก็ให้เขาออกไปสูดอากาศด้านนอกบ้าง เพราะตลอด 5 วันที่ผ่านมาเขาขลุกตัวอยู่แต่ในโรงแรมหากเป็คนทั่วๆ ไปก็อาจจะทนไม่ไหวแล้ว
แน่นอน... ยังมีเื่สำคัญอีกเื่หนึ่งเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญอีก 9 คนและลูกศิษย์ของพวกเขาล้วนไปร่วมงานประมูลในครั้งนี้ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็โอกาสอันดีที่เขาจะได้แนะนำหลินเยว่ให้กับทุกคน
ส่วนเหตุผลที่ซ่อนอยู่ของทางจิ่งเต๋อเจิ้นก็มิอาจปิดบังจากท่านเฮ่อฉางเหอผู้เป็เฒ่าจิ้งจอกจอมเ้าเล่ห์ได้เลยการจัดงานประมูลในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้พวกเขาทั้ง 10 คนได้พบหน้ากันจะให้ดีก็มาแข่งขันประหนึ่งัพยัคฆ์แย่งชิงทำให้งานประมูลมีความดุเดือดยิ่งขึ้น อีกส่วนก็เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 10คนที่เป็ผู้าุโทั้งหมดมาช่วยยกระดับในงานนี้ซึ่งก็เป็การเพิ่มชื่อเสียงให้กับงานนี้อีกด้วย
ท่านเฮ่อฉางเหอบอกเหตุผลที่ซ่อนอยู่ให้กับหลินเยว่ฟังเพื่อให้เขาได้ศึกษาว่าคนอื่นวางกลยุทธ์ไว้อย่างไร
ตอนแรกหลินเยว่ไม่ได้รู้เื่รู้ราวว่าทางจิ่งเต๋อเจิ้น้าทำไปด้วยเหตุผลอันใดแต่เมื่อฟังอาจารย์ของตนพูดแล้ว เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที
ช่างเป็วิธีที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอันแสนล้ำลึกจริงๆ
ถึงจะรู้เหตุผลที่อีกฝ่ายซ่อนอยู่แต่ก็ยังจำเป็จะต้องเดินไปทางเส้นทางที่อีกฝ่ายกำหนดไว้
ไอ้บ้าเอ๊ย! นี่เป็แผนการที่ใครคิดขึ้นมาวะ? มันสุดยอดมาก!
หลินเยว่ไม่รู้ว่าเขาควรจะด่าหรือว่าชมคนคนนั้นกันแน่แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเดินทางมุ่งหน้าไปยังงานประมูลอยู่ดี
งานประมูลของจิ่งเต๋อเจิ้นสามารถใช้คำว่า“หรูหราอลังการ” มาบรรยายได้อย่างเต็มปากเต็มคำถึงแม้ว่าหลินเยว่จะไม่เคยไปงานประมูลมาก่อนแต่เขาก็ััได้ถึงความโอ่อ่าสง่างามของที่นี่ ถึงจะนำไปเปรียบเทียบกับโรงแรมหรูระดับห้าดาวก็ไม่ได้ดูด้อยกว่าแต่อย่างใด
เมื่อเข้าไปถึงห้องประมูลหลินเยว่ก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งหนึ่ง
ห้องประมูลมีขนาดใหญ่เท่ากับ 3 สนามบาสเกตบอล การตกแต่งหรูหราเป็ที่สุดมีโดมสูงยอดโค้งที่มีโคมไฟระย้าคอยให้แสงสว่างอันนุ่มนวลเต็มไปหมด การจัดเรียงของโคมไฟระย้าก็มีความประณีตสวยงามตรงกลางเป็ไฟดวงใหญ่ 7 ดวง ไม่รู้ว่าเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่ดวงไฟเหล่านี้มีการจัดเรียงคล้ายกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ มีไฟดวงเล็กๆล้อมรอบมากมายระยิบระยับ แต่หากพิจารณาให้ละเอียดจะต้องมองเห็นความนัยอีกอย่างที่แฝงอยู่เพราะมันไม่ใช่กลุ่มดาวของต่างประเทศ แต่เป็ “ยี่สิบแปดดวงดารา สามสิบหกเทพเ้า” ที่เป็รูปแบบดั้งเดิมของประเทศจีน
เป็การจัดสถานที่ได้สวยงามมีความหมายล้ำลึกจริงๆ!
โคมไฟระย้าตรงยอดโดมไม่ได้ดูสับสนไม่เป็ระเบียบแต่กลับดูสวยงามน่าสนใจ และให้ความรู้สึกโอ่อ่าใหญ่โต และสร้างความลึกลับเหมือนลอยเคว้งคว้างในเวลาเดียวกัน
แสงจากโคมไฟทำให้ห้องประมูลกลายเป็สีเหลืองอร่ามแวววาวราวกับถูกคลุมทับด้วยผ้าโปร่งดิ้นทอง ดูสวยงามอลังการยิ่งนัก
ภาพวาดบนผนังทั้ง 4 ด้าน คือ ภาพริมชลาลัยในเทศกาลเช็งเม้ง(ชิงิซ่างเหอถู) ซึ่งเป็ภาพเขียนอันเก่าแก่ลือชื่อของประเทศจีนทำให้ผู้ที่อยู่ในที่แห่งนี้รู้สึกเหมือนกับมีชีวิตอยู่ในสมัยโบราณราวกับกำลังจะแข่งกันประมูลร่วมกับคนโบราณเลยทีเดียวบุคคลในภาพบางจุดไม่ได้วาดภาพลงสีเหมือนกับภาพริมชลาลัยในเทศกาลเช็งเม้งแบบต้นฉบับแต่กลับแต่งเติมสีสันให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวทำให้บุคคลในภาพดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
ผนังทั้ง 4 ด้านก็ประกอบเป็ภาพริมชลาลัยในเทศกาลเช็งเม้งแบบเต็มภาพพอดี
เป็ภาพที่ดูยิ่งใหญ่จริงๆ!
หลินเยว่แอบตกตะลึงอยู่เงียบๆ หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆกดความรู้สึกนี้ลงไป และมองไปยังเวทีที่อยู่ด้านหน้า
เมื่อเทียบกับบริเวณรอบๆ แล้ว การประดับตกแต่งทางด้านหน้าก็ดูเรียบง่ายธรรมดาเป็อย่างยิ่ง
มีเพียงโพเดียมเล็กๆที่จัดไว้สำหรับผู้ดำเนินการประมูลเคาะไม้และโต๊ะที่ปูด้วยผ้าสีแดงตัวหนึ่งน่าจะเป็ส่วนที่ไว้สำหรับจัดแสดงสินค้า ส่วนทาง้าขวามีจอ LCD ขนาดั์ น่าจะมีไว้สำหรับแสดงภาพสินค้าที่นำมาประมูล
หลินเยว่ััถึงความโอ่อ่าหรูหรารอบๆ ตัวเขาจึงเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
จิ่งเต๋อเจิ้นเป็ถึงเมืองแห่งเครื่องเคลือบที่มีชื่อเสียงระดับโลกย่อมมีคนร่ำรวยมาท่องเที่ยวและเข้าชมสถานที่แห่งนี้ไม่ขาดสาย การมีงานประมูลหรูเช่นนี้สามารถทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกอยากวางเดิมพันในครั้งเดียวด้วยเงินมหาศาลและทำให้พวกเขาสามารถหาสิ่งของที่ตนเองปรารถนาได้จากที่นี่ การตกแต่งหรูหราเช่นนี้ก็สามารถทำให้พวกเขารู้สึกได้รับเกียรติอย่างสูงทำให้พวกเขารู้สึกว่าการมาร่วมงานประมูลหรูเช่นนี้ก็จะได้มีหน้ามีตามากยิ่งขึ้น
พนักงานที่ทำหน้าที่ต้อนรับโดยเฉพาะเป็ผู้พาท่านเฮ่อฉางเหอและหลินเยว่เดินไปยังที่นั่งที่อยู่ในตำแหน่งดีมากที่หนึ่ง
พวกเขานั่งลงไม่นานนักก็เห็นท่านจวงและหลานสาวของเขาเดินเข้ามา
“ในที่สุดคุณก็ออกมาแล้ว ผมคิดว่าคุณจะฝังตัวอยู่ในห้องตลอดไปเสียอีก”
ท่านจวงย่อมรู้ดีว่าท่านเฮ่อฉางเหอทำอะไรอยู่ในห้องใน่หลายวันมานี้ดังนั้น ประโยคนี้จึงเป็เพียงการแซวเล่นเท่านั้น
“ก็ต้องออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้างสิ”ท่านเฮ่อฉางเหอส่งยิ้มเล็กน้อย
และ่ไม่กี่วันนี้เองที่หลินเยว่ได้รู้จากปากของท่านเฮ่อฉางเหอว่าชื่อที่แท้จริงของท่านจวงและเสี่ยวเตี๋ยคืออะไร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้