จ้านอู๋มิ่งยังมิทันได้ติดตามเหยียนชิงชิงและสื่อรั่วหนานจนทัน ชิงย่วนและสัตว์อสูรั์ตาทองเนตรเขียวกลับตามมาถึงแล้ว นอกจากนี้ยังได้ข่าวว่าทุกคนภายนอกถ้ำกำลังพากันโจมตีถ้ำอย่างรุนแรง
จ้านอู๋มิ่งกลับไม่รู้สึกนอกเหนือคาดหมาย หลังจากเขาดูดซับเจตจำนงของคุนเผิงจนหมดสิ้นแล้ว ก็รู้สึกได้ว่าพลังผนึกป้องกันของถ้ำคุนเผิงนั้นอ่อนแอลงมาก คาดว่าใช้เวลาอีกไม่นาน ก็จะไม่สามารถขัดขวางผู้ที่้าเข้ามาได้แล้ว
สำหรับโอสถจิติญญาและสมุนไพรจิติญญาที่สัตว์อสูรั์ตาทองเนตรเขียวและชิงย่วนรวบรวมมา จ้านอู๋มิ่งรู้สึกพึงพอใจมาก คนอื่นๆ ล้วน้าเสาะแสวงหาสมบัติล้ำค่า จึงได้ละเลยโอสถจิติญญาและสมุนไพรจิติญญาเหล่านี้ไปแล้ว เว้นแต่จะอยู่ใกล้มือเหมือนอย่างราชันิญญา อูสิงอวิ๋น ภายในแหวนจักรวาลของเขามีโอสถจิติญญาที่อายุยาวนานและหายากยิ่งเพียงสิบกว่าต้นเท่านั้น คาดว่าน่าจะประจวบจังหวะเดินผ่าน จึงได้เก็บพวกมันขึ้นมา
สัตว์อสูรั์ตาทองเนตรเขียวและชิงย่วนแค้นที่ไม่สามารถนำเอาแผ่นดินทั้งผืนใส่ในแหวนจักรวาลของตน ไม่ได้มีการแยกแยะชนิดประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะมีประโยชน์ใช้สอยได้หรือไม่ ล้วนหยิบเอามาเก็บไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน
หลังจากได้รับข่าวการทำลายผนึกประตูแล้ว ทำให้จ้านอู๋มิ่งตระหนักถึงวิกฤตอันตราย ผู้ที่เข้ามาจะต้องเป็ตัวประหลาดเฒ่าของแต่ละสำนักนิกาย เขาไม่้าให้สัตว์อสูรั์ตาทองเนตรเขียวและชิงย่วนปรากฏตัว เพราะเกรงว่าจะมีอันตราย จึงให้เข้าไปอยู่ในสมบัติวิเศษพื้นที่มิติโดยตรง มุ่งหน้าไล่ติดตามไปคนเดียว
……
ตอนที่จ้านอู๋มิ่งพบกับเหยียนชิงชิงและสื่อรั่วหนาน หญิงสาวทั้งสองและบุตรชายเหยี่ยวฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้แบ่งปันสมบัติวิเศษสามชิ้นเท่าเทียมกันเสร็จแล้ว ที่ทำให้หญิงสาวทั้งคู่รู้สึกเหนือความคาดหมายก็คือ พื้นที่มิติของขวดหยกสองใบนั้นใหญ่มาก ที่บรรจุอยู่ภายในกลับเป็โลหิตั
บุตรชายเหยี่ยวฟ้าศักดิ์สิทธิ์เมื่อเห็นสิ่งของภายในขวด รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก ควรตระหนักว่าเหยี่ยวศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพตหมื่นสัตว์อสูรถึงแม้จะมีสายเืของเหยี่ยวสายฟ้าปีกทอง แต่ว่าไม่ใช่สายเืระดับสูงสุด ถ้าหากได้โลหิตัไป และกลืนกินพลังชีพจรสายเืของโลหิตั พวกเขาก็จะสามารถพัฒนาเป็เหยี่ยวัสายฟ้าปีกทอง วิวัฒนาการบรรลุสู่ระดับของสัตว์อสูรเทพเ้า
ดังนั้น บุตรชายเหยี่ยวฟ้าศักดิ์สิทธิ์จึงหมายปองโลหิตัทันที เกล็ดย้อนของัถึงแม้จะเป็สมบัติวิเศษที่ประมาณค่ามิได้เช่นกัน แต่ว่าในแผ่นดินแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถหล่อหลอมสร้างวัสดุระดับเทพเ้าชิ้นนี้ให้แปรเปลี่ยนเป็อาวุธได้ ด้วยเหตุนี้ เกล็ดย้อนของัจึงไม่มีประโยชน์อันใดที่เป็รูปธรรมอย่างจริงจัง ดังนั้น สุดท้ายยามที่สามคนแบ่งปันสมบัติวิเศษ เหยียนชิงชิงจึงหยิบเอาเกล็ดย้อนของัชิ้นนั้นไปอย่างไม่เต็มใจนัก ส่วนสื่อรั่วหนานและบุตรชายเหยี่ยวฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้รับโลหิตัไปคนละขวด
ตำนานเล่าขาน คุนเผิงกินเจียวหลง[1]เป็อาหาร ยังไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันเื่นี้ได้ตลอดมา เวลานี้ ในที่สุดเหยียนชิงชิงและสื่อรั่วหนานก็เชื่อแล้ว มิฉะนั้นจะมีเกล็ดย้อนของัและโลหิตัอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หากไม่ใช่เพราะคุนเผิงสังหารัขนาดใหญ่มหึมาจนเสียชีวิต สมบัติวิเศษเหล่านี้จะมาจากที่ใด
ขณะที่เหยียนชิงชิงนำเกล็ดย้อนของัที่หนักอย่างยิ่งใส่เข้าไปในแหวนจักรวาล ถ้ำของคุนเผิงก็เกิดเสียงดัง "ตูมมม" สนั่นหวั่นไหว เดิมถ้ำที่เปล่งประกายลำแสงสว่างไสวพลันมืดสลัวลงในทันใด
จ้านอู๋มิ่งเพิ่งจะเร่งรุดมาถึงห้องโถงในเวลานี้พอดี ถูกการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ใจนสะดุ้งโหยง
“ตูมมม…” ห้องโถงใหญ่พังทลายลงอย่างกะทันหัน ถ้ำของคุนเผิงคล้ายดั่งปากที่อ้าออกจนกว้างก็มิปาน จ้านอู๋มิ่ง เหยียนชิงชิง สื่อรั่วหนานและบุตรชายเหยี่ยวฟ้าศักดิ์สิทธิ์พากันตกลงไปพร้อมๆ กัน…
ทุกคนไม่ได้ตกลงบนพื้น แต่ตกลงไปในน่านน้ำมหาสมุทรที่เย็นะเืแห่งหนึ่ง
ข้างล่างใต้รังนกขนาดใหญ่แห่งนี้ ดูเหมือนว่ามีกระแสน้ำวนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง หลายคนนี้ยังมิทันได้มีโอกาสตอบสนองใดๆ ก็ถูกกระแสน้ำวนม้วนพัดเข้าไปในก้นทะเลลึก
……
“ตูมมม…” ม่านแสงเป็ชั้นเหนือประตูถ้ำคุนเผิงกลายเป็ลำแสงมากมายนับไม่ถ้วนกระจายออกไปรอบทิศทาง ความพยายามของเสวียนเสวียนจื่อและเหยียนเต้าจื่อไม่ได้สูญเปล่า ในที่สุดก็ทลายกำแพงกั้นเขตแดนของถ้ำคุนเผิงออกแล้ว
เลวี่ยเหวินซิวมองประตูถ้ำที่ถูกกระทุ้งจนเปิดออก ด้วยรู้สึกอับจนปัญญาอย่างยิ่งเช่นกัน ถึงแม้จะถูกขนานนามว่าคนคลั่งเฒ่า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าตัวประหลาดเฒ่าเสวียนเสวียนจื่อและเหยียนเต้าจื่อแล้ว เขาเป็เพียงผู้เยาว์คนหนึ่งเท่านั้น แม้ว่าเยว่หลิงซานจะมาด้วยตนเอง ก็ต้องเห็นแก่หน้าเสวียนเสวียนจื่อและเหยียนเต้าจื่อเช่นกัน ดังนั้นเลวี่ยเหวินซิวต้องนำฝูงชนตามตัวประหลาดเฒ่าสองคนไปถล่มประตูใหญ่คุนเผิงอย่างต่อเนื่อง
เลวี่ยเหวินซิวอธิษฐานในใจตลอดเวลา ขออย่าให้ตัวประหลาดเฒ่าเหล่านี้ค้นพบจ้านอู๋มิ่งเด็ดขาด ด้วยอุปนิสัยเช่นนั้นของลูกศิษย์ เขาเข้าไปในถ้ำแล้ว จะต้องไม่เหลือโอสถจิติญญาแม้แต่ต้นเดียวอย่างแน่นอน หากถูกตัวประหลาดเฒ่าผู้นั้นพบเห็น รับประกันได้ยากว่าจะไม่อิจฉาตาร้อน
ประตูใหญ่ของถ้ำถูกกระแทกเปิดออก เหล่าบรรดาวีรบุรุษไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เร่งรีบพากันถลันเข้าถ้ำไป
ทุกคนเพิ่งจะเข้าไปในถ้ำคุนเผิง ก็รู้สึกทั้งถ้ำเกิดการสั่นะเือย่างรุนแรงขึ้นมา คล้ายดั่งมีะเิลูกใหญ่ะเิออกกลางถ้ำของคุนเผิงก็มิปาน ผู้ที่ฐานบ่มเพาะค่อนข้างต่ำหน่อยถูกะเืจนล้มลงแล้ว และผู้ที่มีระดับฐานบ่มเพาะสูงก็ต้องทบทวนสภาพแวดล้อมสถานที่นี้ใหม่อีกครั้งเช่นกัน
“เกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?” มีคนถามด้วยความเป็ห่วง แต่ไม่มีผู้ใดทราบสาเหตุ
ฝูงชนเดินเข้าไปในประตูหินที่เปิดอยู่ บริเวณภายในถึงแม้พลังเหนือธรรมชาติกดดันผู้คน แต่สะอาดสะอ้านอย่างยิ่ง หญ้าบนพื้นก็กระจัดกระจายเบาบางยิ่งนัก ยิ่งมิต้องพูดถึงโอสถจิติญญาอายุเก่าแก่เนิ่นนานปีแล้ว
“สถานที่นี้เดิมเคยมีสมุนไพรจิติญญาและโอสถจิติญญาจำนวนมากมาย” คนที่พูดจาเป็ตัวประหลาดเฒ่าของสำนักหลอมโอสถ เขาคุ้นเคยกับกลิ่นอายของโอสถจิติญญาในอากาศที่ยังไม่ได้จางหายไปจนหมดสิ้น
“โอสถจิติญญาในที่นี้สมควรเพิ่งจะถูกคนเก็บไปไม่นาน” ตัวประหลาดเฒ่านั้นสูดดมฟุดฟิดแล้วพูดขึ้น
ก่อนหน้าพวกเขามีคนเข้ามาในถ้ำของคุนเผิงก่อนแล้ว และเก็บกวาดทุกอย่างไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว
“กลับมีคนเข้ามาก่อนแล้ว มันคือผู้ใดกันแน่?” สีหน้าเสวียนเสวียนจื่อคล้ำทะมึนแล้ว คนเหล่านี้รอคอยอยู่ข้างนอกเนิ่นนานแล้วล้วนแต่ยังไม่ได้เข้ามา กลับมีคนเข้ามาก่อนแล้ว สมบัติวิเศษภายในถ้ำคงจะต้องถูกกวาดเรียบจนไม่เหลือสิ่งใดแล้ว
“เสาะแสวงหาคนที่น่าสงสัย” เสวียนเสวียนจื่อสั่งลูกศิษย์ของสำนักิญญาเร้นลับคำหนึ่ง คนที่เข้าไปในถ้ำก่อนจะต้องสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน ตลอดจนมรดกตกทอดของคุนเผิง
และแล้วคนทั้งหมดก็เริ่มทยอยเข้าด้านในราวกับปูพรม เวลานี้โอกาสวาสนาของพวกเขาก็คือการตามหาคนที่ได้รับไปก่อนหน้านี้แล้ว
น่าเสียดายที่จ้านอู๋มิ่งและคนอื่นๆ ไม่ได้อยู่ภายในถ้ำของคุนเผิงแล้ว หลายคนถูกกระแสน้ำวนม้วนพัดพาเข้าไปในก้นมหาสมุทรอันมืดมิดแห่งหนึ่ง จะถูกม้วนพัดพาไปถึงสถานที่ใดนั้น จ้านอู๋มิ่งเองก็ไม่ทราบเช่นกัน
……
ความสับสนวุ่นวายในสถานพำนักของคุนเผิงดำเนินต่อเนื่องเป็เวลาหลายเดือน ไม่ว่าจะเป็ชนเผ่าสมุทรหรือเผ่ามนุษย์ หรือตลอดจนกลุ่มสัตว์อสูรของเทือกเขาหมื่นสัตว์อสูร ล้วนแล้วแต่ประสบความสูญเสียอย่างหนัก
หลังจากถ้ำคุนเผิงถูกเหล่าวีรบุรุษของใต้หล้าพังทลายเปิดออก ในนั้นมีหญ้าจิติญญาหายากและโอสถวิเศษที่มีอายุยาวนานเนิ่นนานปี ซึ่งมีอยู่น้อยและหาได้ยากยิ่งนักในโลกหล้าจำนวนหนึ่งจริงๆ เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้ แต่ละกลุ่มอำนาจก็ต่อสู้เพื่อแย่งชิงกันอย่างดุเดือดเืพล่านอีกรอบหนึ่ง
มีคนค้นพบห้องลับภายในถ้ำ ภายในนั้นเก็บโครงกระดูกเจียวหลงไว้จำนวนมาก หลังจากผ่านไปหลายหมื่นปี โครงกระดูกบางส่วนกลายเป็ฝุ่นผงไปแล้ว มีบ้างที่กลับยังสมบูรณ์เหมือนใหม่ โครงกระดูกเหล่านี้น่าจะเป็ัเจียวหลงระดับเทพเ้าา ซึ่งคุนเผิงกินเนื้อหนังจนหมดสิ้นแล้วทิ้งเอาไว้
สำหรับคุนเผิงแล้ว สิ่งของเหล่านี้ล้วนแต่เป็ขยะ ทว่าสำหรับเหล่าวีรบุรุษใต้หล้าแล้ว สิ่งของเหล่านี้ล้วนเป็ทรัพย์สมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักบริบาลปีศาจ เพื่อให้ได้โครงกระดูกเหล่านี้ หลั่งเืเสี่ยงชีวิตซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายโครงกระดูกัที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ค่อนข้างดีหลายชุดยังคงถูกสำนักนิกายใหญ่หลายกลุ่มหยิบเอาไป
มีคนพบหลุมยุบขนาดมหึมาแห่งหนึ่งภายในถ้ำของคุนเผิง ใต้หลุมยุบเป็กระแสน้ำวนของผืนทะเลแห่งหนึ่ง ไม่มีผู้ใดทราบว่ากระแสน้ำวนนั้นนำไปสู่สถานที่ใด มีคนคาดเดาว่าเป็ไปได้อย่างยิ่งที่จะเป็ทางออกอีกทางหนึ่งของถ้ำคุนเผิง แต่กลับไม่มีผู้ใดหาญกล้าไปทดลอง
ยืนอยู่ข้างหลุมยุบก็สามารถััได้ถึงแรงดึงดูดของกระแสน้ำวน ราวกับว่าแม้แต่จิติญญาก็จะถูกดูดเข้าไปภายในกระแสน้ำวนนั้นแล้ว
มีคนค้นพบง้าวัคราม อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่คุนเผิงใช้ในปีนั้นแล้ว ตำนานเล่าขาน ง้าวัครามสร้างขึ้นจากกระดูกและเขาัคราม ไม่ได้สร้างขึ้นโดยคุนเผิงเอง แต่เป็ทรัพย์สมบัติเทพเ้าที่บิดามารดาคุนเผิงตกทอดไว้ให้ เป็อาวุธวิเศษที่อยู่เหนือโลกหล้าแห่งนี้ คุนเผิงอาศัยอาวุธวิเศษชิ้นนี้เอง จึงสามารถตัดผนึกประทับของฟ้าดินออก นำไปสู่อาณาจักรต่างแดน
เมื่อง้าวัครามปรากฏ พลันแต่ละกลุ่มอำนาจก็คลุ้มคลั่งแล้ว หลังจากทุกคนต่อสู้กันดุเดือดเืพล่านจนโลหิตหลั่งนองเป็สายธารแล้ว กลับค้นพบอย่างสิ้นหวังว่าไม่มีผู้ใดสามารถทำให้ง้าวัครามยอมรับเป็เ้านายได้
หลังจากเสวียนเสวียนจื่อบรรพบุรุษเฒ่าของสำนักิญญาเร้นลับถูกเสียงคำรามก้องคราหนึ่งของง้าวัครามะเืจนาเ็ กระอักโลหิตออกมาสามลิตรแล้ว ไม่มีผู้ใดหาญกล้าทดลองง้าวนี้อีกต่อไป นักบ่มเพาะอิสระบางคนที่มิอาจตัดใจก็ไปทดลองสักครั้งแล้วเช่นกัน หลังจากง้าวัครามคำรามก้องคราหนึ่ง ร่างกายก็ฉีกขาดแยกจากกันเป็ชิ้นๆ ส่วนน้อยไม่กี่คนที่โชคดีรอดชีวิต แต่ก็กลายเป็คนพิการแล้ว
ทุกคนจึงได้ค้นพบว่า มีิญญาของัครามอยู่บนง้าวัคราม หากควบคุมิญญาของัครามไม่ได้ เป็ไปไม่ได้ที่ง้าวัครามจะยอมรับเป็เ้านาย
ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าคือ หลังจากการต่อสู้หลั่งเืเสี่ยงชีวิตรอบหนึ่งแล้ว เืทั้งหมดบนห้องโถงถูกดูดซับหมดสิ้นโดยง้าวัคราม สุดท้ายง้าวัครามที่ดูดเืจนเพียงพอแล้วกลายเป็ัครามตัวหนึ่ง ทลายนภากาศออกไป ทุกคนที่้าจะยับยั้งมัน ล้วนถูกัครามกลืนกินไปแล้ว ทุกคนได้แต่มองดูง้าวัครามบินหนีไปต่อหน้าต่อตา แหงนหน้ามองฟ้าทอดถอนใจ
วีรบุรุษของใต้หล้าที่เข้าไปในถ้ำคุนเผิงแทบจะค้นหาทุกตารางนิ้วของพื้นดินภายในถ้ำ ค้นพบห้องโถงว่างเปล่าจำนวนมากมาย ไม่มีผู้ใดทราบว่าคนที่เข้าไปในถ้ำก่อนหยิบสิ่งของใดออกไป หรือว่าแรกเริ่มเดิมทีก็ว่างเปล่าอยู่แล้ว
ทุกคนค้นหากลับไปกลับมาในถ้ำคุนเผิงเป็เวลาหนึ่งเดือน ค่ายกลมหาเบญจธาตุการเกิดและดับสูญภายนอกสถานพำนักของคุนเผิงกำลังค่อยๆ ซ่อมแซมกลับคืนสู่สภาพเดิม ถ้าไม่ออกไปก่อนค่ายกลซ่อมแซมแล้วเสร็จ หากรอจนกลับคืนสู่สภาพเดิม ทุกคนก็จะถูกผนึกอยู่ภายในสถานพำนักของคุนเผิง
แม้ว่าหลายคนจะอาลัยอาวรณ์นิ่งนัก มิอาจตัดใจจากพลังแก่นแท้จิติญญาที่มีอยู่อย่างเบาบางภายในสถานพำนักของคุนเผิง แต่กลับมิอาจไม่จากมาเช่นกัน และแล้ว กองกำลังหลักก็ค่อยๆ ถอยออกมาจากถ้ำของคุนเผิง ถอยออกจากสถานพำนักของคุนเผิงมาอยู่ที่ด้านนอกของค่ายกลมหาเบญจธาตุการเกิดและดับสูญอีกครั้ง
ถ้ำคุนเผิงถูกพังทลายเข้าไปแล้ว สัตว์อสูรในมหาสมุทรนอกสถานพำนักของคุนเผิงไม่อยู่คอยปกป้องสถานที่แห่งนี้อีกต่อไป เสวียนเสวียนจื่อไม่สามารถสรุปตำแหน่งตาค่ายกลของค่ายกลเบญจธาตุตามพฤติการณ์ของสัตว์อสูรได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่ปัญญาเปิดค่ายกลมหาเบญจธาตุการเกิดและดับสูญออกใหม่อีกครั้ง
ถึงแม้สถานพำนักของคุนเผิงจะปิดลงแล้ว แต่การเข่นฆ่าสังหารในน่านน้ำมหาสมุทรคุนเผิงยังไม่ได้ยุติลง กองกำลังหลักเ่าั้ที่สามารถยึดแผ่นป้ายศิลาเริ่มเกิดความขัดแย้งปะทะกันเอง ไม่ว่าจะเป็ชนเผ่าสมุทรหรือว่าแปดสำนักนิกายหลัก ล้วนหวังที่จะได้รับแผ่นป้ายศิลามากขึ้น หลังจากที่สถานพำนักของคุนเผิงปิดลงอีกครั้ง การสะกดข่มฐานบ่มเพาะในน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้ไม่เข้มแข็งเช่นนั้นอีกต่อไป ยอดฝีมือเข้าร่วมต่อสู้แย่งชิงมากยิ่งขึ้น ั้แ่ราชันาถึงจักรพรรดิาตลอดจนมหาจักรพรรดิา จักรพรรดิาศักดิ์ล้วนถูกม้วนเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อสู้แย่งชิงครั้งนี้
แผ่นป้ายศิลาหลายแผ่นถูกเปลี่ยนมือหลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าตกอยู่ในมือใครกันแน่ โจรสลัดจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นในบริเวณน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้ ทุกคนที่อยู่ลำพังล้วนแล้วแต่อยู่ในขอบข่ายที่จะถูกโจมตี เป้าหมายของคนเหล่านี้คือแหวนจักรวาลของทุกคนในน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้
ความวุ่นวายดำเนินไปอย่างต่อเนื่องยาวนาน หลังจากการต่อสู้ในสถานพำนักของคุนเผิงแห่งนี้ ผู้คนจำนวนมากไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย สิบราชันพั่วเหยียนในตำนานดับสูญไปหลายคน
ราชันวายุ หนานกงเฉิงเสียชีวิต ราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยเสียชีวิต ราชันสัตว์ร้าย เฉวียนหรูเซินเสียชีวิต ราชันเร้นลับ ตู๋กูเช่อก็ป้ายิญญาแตกสลายเช่นกัน เห็นได้ชัดเจนว่าสิ้นชีพแล้ว ราชันิญญา อูสิงอวิ๋นก็เช่นกัน
สิบราชันพั่วเหยียน เสียชีวิตไปแล้วห้าคน เป็ที่ทราบกันว่าราชันวายุเสียชีวิตด้วยน้ำมือของจ้านอู๋มิ่ง การเสียชีวิตของราชันกระบี่ เฝิงอู๋เซวี่ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับพิษมีชีวิตของเหยียนชิงชิง แต่ก็ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับจ้านอู๋มิ่งเช่นกัน
ส่วนการเสียชีวิตของราชันสัตว์ร้าย ราชันเร้นลับและราชันิญญาล้วนกลายเป็ปริศนา ไม่มีใครทราบว่าสามคนนี้ถูกผู้ใดสังหารกันแน่ ตัวประหลาดเฒ่าของหลายสำนักโกรธเคืองอย่างยิ่ง กลับไม่มีต้นตอให้สามารถตรวจสอบได้ ในน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้ ฐานบ่มเพาะของทุกคนถูกสะกดข่มอยู่ใน่ราชันาขั้นต้น การเสียชีวิตกลายเป็เื่ธรรมดาอย่างยิ่ง ต่อให้เก่งกาจล้ำเลิศแค่ไหนก็สู้การปิดล้อมโจมตีของฝ่ายตรงข้ามที่ระดับเดียวกันไม่ได้
สำนักกระบี่ิญญาและสำนักเบญจพิษขัดแย้งกันขึ้นมาแล้ว เนื่องจากราชันกระบี่เสียชีวิตอย่างเหนือความคาดหมาย เหยียนชิงชิง ธิดาเทพของสำนักเบญจพิษหายสาบสูญไป ทำให้เื่นี้เปลี่ยนเป็ลึกลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น แต่ป้ายิญญาของราชันพิษเหยียนชิงชิงไม่ได้แตกสลาย ดังนั้นนางจึงยังไม่เสียชีวิต เพียงแต่ผ่านไปหลายเดือนแล้ว ยังคงไม่มีผู้ใดค้นพบร่องรอยของนาง คนของสำนักเบญจพิษก็รู้สึกเป็ห่วงขึ้นมาแล้วเช่นกัน
สิ่งที่ทำให้สำนักเบญจพิษขุ่นข้องเศร้าใจมากที่สุดก็คือ บรรพบุรุษผู้เฒ่าเทียนเจวี๋ยของพวกเขา ก็เสียชีวิตในน่านน้ำมหาสมุทรแห่งนี้เช่นกัน นี่คือเื่ที่อยู่เหนือความคาดหมายอย่างหนึ่ง ผู้ใดก็คาดไม่ถึงว่า บรรพบุรุษผู้เฒ่าเทียนเจวี๋ยผู้มีเขตแดนพิษ์ภัยพิบัติคอยป้องกันตัว กลับถูกคนสังหารเสียชีวิตไปแล้ว
[1] ัสมุทรเขาเดียว
