ระบบอั่งเปาสะท้านภพ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 41 ละลาบละล้วง

      เซียวไห่ยืนอยู่หน้าประตูรถ พวกเขามาถึงบ้านตระกูลเซียวได้สักพักแล้ว แต่เย่จื่อเฉินก็ยังนั่งอยู่ในรถไม่ยอมออกมาสักที

      "เสี่ยวเย่ ลงมาเถอะน่า"

      "พี่ทำแบบนี้มันเข้าข่ายลักพาตัวรู้ไหม?"

      เย่จื่อเฉินทำหน้าหยิ่งผยอง บอกแล้วนะว่าไม่มาไม่มา แต่เซียวไห่กลับจับเขาโยนใส่รถมาที่นี่เลย

     นี่คือสิ่งที่พึงกระทำที่มีต่อผู้มีพระคุณเหรอ?

      เขาช่วยชีวิตคุณปู่ของเซียวไห่เอาไว้ได้นะ ไม่ปฏิบัติต่อเขาด้วยความสุภาพแล้วยังจะกระทำการหยาบคายกับเขาอีก

     ต่อให้เป็๞ใครก็ต้องโมโหกันทั้งนั้น

      "ฮ่าฮ่า ได้ยินว่าเสี่ยวเย่มาแล้ว"

     เสียงใสดังอยู่นอกประตูรถ เซียวไห่หันไปมองแล้วก็มีสีหน้า๻๷ใ๯

      "คุณปู่ ออกมาทำไมครับ"

     คุณเซียวมาแล้วเหรอ

     เย่จื่อเฉินที่เอนกายอยู่บนรถอย่างกับคุณชายลุกขึ้นนั่ง เขาทำตัวอวดดีกับเซียวไห่ได้ เพราะพวกเขาทั้งคู่อยู่ในวัยเดียวกัน

     แต่กับคุณปู่เซียวคนนี้เขาไม่กล้า

     "สวัสดีครับคุณเซียว"

     เย่จื่อเฉินยืนอยู่ต่อหน้าชายชราด้วยท่าทางนอบน้อมถ่อมตน คุณปู่เซียวหัวเราะร่าแล้วพูด

      "นี่เสี่ยวเย่สินะ ไม่เลวเลย บุคคลผู้มีความสามารถ"

      "คุณเซียวชมเกินไปแล้วครับ"

     เย่จื่อเฉินทำความเคารพ

      "ฮ่าฮ่า ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก เธอช่วยชีวิตคนแก่อย่างฉันไว้ เธอก็คือผู้มีบุญคุณกับคนแก่อย่างฉันนะ" คุณปู่เซียวหัวเราะเสียงใส แล้วพูด "มาแล้วก็เข้าบ้านกันเถอะ"

      สำหรับบ้านตระกูลเซียวนั้น เย่จื่อเฉินถือว่ามาเป็๲ครั้งที่สองแล้ว

     แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังแอบตะลึงกับความหรูหราของบ้านตระกูลเซียวอยู่ดี

     คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว พื้นที่เกือบจะมีขนาดใหญ่เท่ากับโซนพื้นที่ทั้งหมดตรงที่เขาซื้อบ้านเลย

     เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของบ้าน บนโต๊ะรับแขกในห้องนั่งเล่นมีกาน้ำชาหนึ่งใบวางอยู่พร้อมด้วยถ้วยชาสามถ้วย

      "นั่งสิ"

     คุณเซียวชี้ไปยังตำแหน่งบนโซฟา เป็๞เชิงบอกให้นั่งลง

      "เสี่ยวเย่ บอกตามตรงนะว่าฉันขอบใจนายมากจริงๆ ทีแรกคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนเตียงคนป่วยเสียแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่า..."

     ในน้ำเสียงของคุณเซียวเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เย่จื่อเฉินเพียงแค่ยิ้มตอบด้วยความประหม่า

     เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนแก่ที่มีอายุมากขนาดนี้ เขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำตัวอย่างไร

     เซียวไห่ที่ดูภูมิฐานเมื่ออยู่ข้างนอก ตอนนี้ก็นั่งอยู่ข้างเย่จื่อเฉินเหมือนกับเด็กที่เชื่อฟัง แม้แต่ประโยคเดียวก็ไม่กล้าพูดออกมา

     ทันใดนั้น บรรยากาศในห้องนั่งเล่นก็เริ่มมีความกระอักกระอ่วนขึ้นมาเล็กน้อย

      "เสี่ยวเย่"

      "ครับ" เย่จื่อเฉินยืดตัวตรงทันที

      "ได้ยินอาไห่บอกว่าสิ่งที่เธอใช้ช่วยชีวิตฉันไว้คือยาที่เรียกว่ายาวิเศษเหรอ" ตอนที่คุณเซียวพูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาก็เปล่งประกายขึ้นมา

      "ใช่ครับ" เย่จื่อเฉินพยักหน้า

      "ไม่ทราบว่าบรรพบุรุษของเสี่ยวเย่เป็๞..." คุณเซียวพูดได้ครึ่งประโยคก็ส่ายหน้ายิ้ม "ขอโทษที ฉันถามมากไปแล้ว นี่เป็๞ความลับของเสี่ยวเย่ ฉันไม่มีสิทธิ์ไปละลาบละล้วง"

      "เอ่อ ฮะ..." เย่จื่อเฉินฉีกยิ้มหัวเราะแห้งๆ เขารู้สึกชายชราคนนี้ไม่ได้หน้าซื่อตาใสเหมือนกับบุคลิกภายนอกที่เห็น

     จะว่าไปแล้วมันก็ใช่ คนที่สามารถสร้างธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ได้จะเป็๞แค่คนธรรมดาได้ยังไง

      "เสี่ยวเย่ ไม่ทราบว่าเธอยังมียาวิเศษอีกไหม?"

      คุณเซียวเปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง เส้นประสาทของเย่จื่อเฉินตึงเครียดขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน

      "อย่าคิดมาก ฉันก็แค่อยากขอยาให้เพื่อนของฉัน เขาก็พอๆ กับฉันนั่นแหละ อายุมากแล้วก็มีโรคเยอะ"

      "คุณเซียวครับ ยกโทษให้ผมด้วยนะครับที่ผมไม่มีความสามารถทำอะไรได้"

     เย่จื่อเฉินเผยรอยยิ้มจนปัญญาออกมา เขาไม่มียาวิเศษอยู่ในมือแล้วจริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้โง่

     เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้ได้กลิ่นบางอย่างที่ไม่ปกติ ถ้าหากเขาพูดอะไรโง่ๆ ออกไปก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

     จากที่ผู้การหลิวเคยถามเขาแปลกๆ ว่าเขาใช่คนที่มาจากที่นั่นหรือเปล่า

     ที่นั่นคือที่ไหน เขาก็ไม่รู้

     ในเมื่อไม่รู้ก็แปลว่าอันตราย ทางที่ดีเขาไม่ไปแตะต้องจะดีกว่า

      "ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดายจริงๆ"

     คุณเซียวส่ายหน้า ก่อนจะคลึงขมับพูด

      "อาไห่ แกนั่งอยู่ที่นี่เป็๞เพื่อนเสี่ยวเย่นะ ฉันจะกลับไปพักที่ห้องก่อน แก่แล้วสภาพร่างกายก็ไม่ดี นั่งแป๊บเดียวก็จะไม่ไหวแล้ว"

      "ปู่เดินดีๆ นะครับ"

     เมื่อคุณเซียวเดินกลับห้องโดยได้มีผู้ดูแลประคองไปแล้ว เซียวไห่ถึงได้ยิ้มพร้อมกับพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

      "เสี่ยวเย่ นายอย่าคิดมากนะ คุณปู่ของฉันท่านก็เป็๲แบบนี้แหละ ท่านอยู่ในแวดวงธุรกิจมานานก็เลยชอบอ่านใจคน แต่นายเชื่อได้เลยนะว่าท่านเป็๲คนจิตใจดี ไม่มีทางบังคับนายหรือว่าแอบสืบหาข้อมูลนายแน่นอน"

      เซียวไห่อธิบายแทนคุณปู่เซียว เย่จื่อเฉินจึงพยักหน้ายิ้มแล้วพูด

      "เข้าใจครับ"

      "โอเค งั้นนายอยู่ที่นี่ไปก่อนนะ ฉันจะไปบอกคนให้เตรียมอาหารเย็น"

      "ครับ"

     หลังจากที่เซียวไห่ออกไปแล้ว ทั้งห้องนั่งเล่นจึงเหลือเย่จื่อเฉินคนเดียว

     และในตอนนี้เขาจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา

     คุณเซียวชอบอ่านใจคน แล้วทำไมเซียวไห่ถึงจะไม่ชอบล่ะ

     มันคือธุรกิจ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีจุดเด่นของนักธุรกิจ นั่นก็คือการอ่านใจคนอื่น

     เย่จื่อเฉินคิดว่าต่อไปนี้ควรคบค้ากับนักธุรกิจให้น้อยลงหน่อยจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นสักวันหนึ่งแชทกลุ่มเทพเซียนของเขาอาจจะโดนเปิดเผยได้

      "อาไห่ แกคิดว่าเสี่ยวเย่เป็๲คนยังไง?"

      ภายในห้องของคุณเซียว นี่ถ้าเย่จื่อเฉินรู้ว่าเซียวไห่ไม่ได้ไปเตรียมเ๹ื่๪๫อาหารเย็นแต่กลับไปที่ห้องของคุณเซียวแทน เขาจะต้องโกรธเป็๞ฟืนเป็๞ไฟแล้วสะบัดหน้ากลับไปทันทีเป็๞แน่

      "คุณปู่ครับ เสี่ยวเย่เป็๲น้องชายคนหนึ่งของผม คุณปู่อย่าใช้สายตาแบบที่นักธุรกิจใช้มองศัตรูกับเขาได้ไหมครับ"

     เซียวไห่รู้สึกขุ่นเคืองอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ชายชรากลับตบโต๊ะอย่างแรง

      "โง่เง่า"

     เซียวไห่ก้มหน้าทันที

      "สิ่งที่เราใช้ในการทำธุรกิจก็คือการอ่านใจคน มันถึงเดินมาไกลได้ขนาดนี้ เด็กเย่จื่อเฉินคนนี้มีความลับ ถ้าฉันไม่รู้เบื้องลึกเ๤ื้๵๹๮๣ั๹ของเขาให้แน่ชัดแล้วจะผูกมิตรกับเขาได้ยังไง อีกอย่างฉันว่าเสี่ยวเย่เองก็ไม่ได้จริงใจกับแกจริงๆ หรอก"

      "คุณปู่ครับ คุณปู่จะเอาทัศนคติแบบเก่าของคุณปู่มาใช้กับเสี่ยวเย่ไม่ได้นะครับ เขาไม่เหมือนคนอื่น"

     เซียวไห่คิดจะเอาเหตุผลเข้าแย้งต่อ แต่พอนึกถึงความดื้อรั้นของชายชรา เขาจึงยอมแพ้ไป

      "ช่างมันเถอะครับ มื้อเย็นนี้ไม่ต้องมีก็ได้ ผมไม่อยากไปละลาบละล้วงว่าลึกๆ ในใจของเสี่ยวเย่นั้นคิดอะไรอยู่ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วยว่าเขาจะจริงใจกับผมไหม อีกอย่างคุณปู่ไม่รู้สึกเลยเหรอครับว่าเสี่ยวเย่เหมือนเพื่อนเก่าคนหนึ่งของคุณปู่มาก?"

     "ใคร"

      "คุณตากู่"

     สิ้นเสียงของเซียวไห่ ชายชราก็ตกอยู่ในความเงียบงันทันที

      "ปู่ครับ ปู่คิดดูนะครับว่าเมื่อก่อนก็เพราะว่าปู่ชอบอ่านใจของคนอื่นแบบนี้แหละ สุดท้ายคุณตากู่ถึงได้จากไป ไม่ใช่เหรอครับ? "

     "จองหอง!"

      อ่อก!

     ชายชราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กระอักเ๣ื๵๪ออกมาทันที ก่อนจะล้มลงกับพื้น

     เย่จื่อเฉินนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นมานาน จึงพบว่าห้องนั่งเล่นนี้มันค่อนข้างน่ากลัว

     เขาไม่กล้าแม้แต่จะยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู ใครจะไปรู้ว่าในบ้านหลังนี้จะมีกล้องวงจรปิดคอยจับภาพเขาอยู่หรือเปล่า

     ตึกๆๆๆ

     เสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นที่บันไดชั้นสองของบ้าน พอเย่จื่อเฉินเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นเซียวไห่กำลังวิ่งมาทางเขาด้วยสีหน้าร้อนรน

     เย่จื่อเฉินค่อนข้างงงเล็กน้อย

     ๻ั้๹แ๻่ที่เซียวไห่เดินออกไปก็ไม่เห็นเขาเข้ามาอีกเลย

     แล้วทำไมถึงได้วิ่งลงมาจากชั้นสอง

      "พี่ไห่ พี่จะไม่อธิบายให้ผมฟังหน่อยเหรอ?"

      เย่จื่อเฉินมีสีหน้าเยือกเย็น เซียวไห่จับแขนของเขาไว้

     "เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้นายฟังทีหลัง เสี่ยวเย่ ตอนนี้ไปช่วยคุณปู่ฉันก่อนเถอะ"


 


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้