เพียงการโจมตีดาบเดียวของหลินเฟิงก็สามารถตัดแขนหลินฮ่าวเจี๋ยได้แล้ว
ทว่ามันไม่สามารถเรียกว่าดาบได้ มันเป็เพียงฝ่ามือที่ฟาดฟันไปในอากาศจนเกิดประกายแสง เมื่อหลินฮ่าวเจี๋ยแขนขาดทำให้ห่าฝนที่สวยงามบนท้องฟ้านั้นกลายเป็เื่ตลก
ส่วนคำว่า ‘ดาบห่าฝนทองคำ’ ก็กลายเป็ยิ่งกว่าเื่ตลกเสียอีก
เหมือนกับคำพูดของหลินเฟิง ‘เ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเรียกตัวเองว่านักดาบได้ แม้แต่ดาบเ้าก็ไม่สมควรจับ!’ เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินเฟิง หลินฮ่าวเจี๋ยก็เป็แค่เศษสวะ และไม่อาจเทียบเคียงหลินเฟิงได้เลยแม้แต่น้อย
ช่างน่าขันนัก จื่ออีเห็นหลินเฟิงเป็เศษขยะมาโดยตลอด ส่วนหลินฮ่าวเจี๋ยก็เป็ชายหนุ่มที่หล่อเหลา นางคิดว่านางจะเป็ัในหมู่มนุษย์และนางก็เข้าหาหลินฮ่าวเจี๋ยเพื่อทำให้สถานะสูงขึ้น เพราะเธอไม่ฟังคำเตือนของหลินเฟิง จึงได้รับคำดูถูกกลับมาแทน
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” จู่ๆ จื่ออีก็หัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะของนางราวกับปีศาจ ซึ่งในตอนนี้หลินฮ่าวเจี๋ยได้สูญเสียแขนไปข้าง ช่างน่าสมเพชยิ่งนัก และที่หลินเฟิงไปปกป้องต้วนซินเยี่ยอย่างองอาจก็ยิ่งไร้สาระ
หลินเฟิงต่างหากถึงจะเป็ัในหมู่มนุษย์อย่างแท้จริง เขาไม่ยึดติดกับสิ่งใด แม้จะถูกนางดูถูกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กลับไม่โกรธ ไม่โมโห เพราะเขาเป็คนใจกว้าง ไม่สนใจอะไรและก็ไม่เคยเกลียดชังใคร แม้เขาจะเป็คนที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยก็ตาม นี่สิถึงจะเป็หลินเฟิง!
จื่อหลิงเองก็กำลังใจลอยขณะมองหลินเฟิงที่อยู่บนทางเดินอย่างองอาจ ราวกับว่านี่เป็ครั้งแรกที่นางรู้จักหลินเฟิง เขาตัดแขนของหลินฮ่าวเจี๋ยอย่างไม่ลังเลและมันช่างป่าเถื่อนเหลือเกิน นี่หรือชายหนุ่มที่นางเก็บมา? นี่หรือชายหนุ่มที่คอยกวาดลานบ้าน? นี่หรือชายหนุ่มที่คอยก้มหัวให้พวกนางและถูกเยาะเย้ยมาโดยตลอด?
จื่ออีและจื่อหลิงเพิ่งเข้าใจเจตนาของจื่อหนานผู้เป็บิดาของพวกนาง ที่จื่อหนานให้หลินเฟิงพาพวกนางมาตระกูลจื่อ เพราะเขาต้องให้หลินเฟิงปกป้องพวกนาง ในขณะเดียวกันอาจมีโอกาสให้พวกนางได้สานสัมพันธ์กับหลินเฟิง แต่ช่างน่าขันนักที่หนึ่งในพวกนางเรียกหลินเฟิงว่าเศษขยะมาตลอด ไม่เคยเหลียวแลหลินเฟิงและยังถูกหลินฮ่าวเจี๋ยพรากพรหมจรรย์ไป ส่วนอีกคนก็ไม่เคยเคารพหลินเฟิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ไม่สมควรจับดาบ!”
หลินฮ่าวเจี๋ยยังคงยืนอยู่ที่เดิม ขณะที่แขนข้างที่ถูกตัดไปก็มีเืไหลออกมาต่อเนื่องและใบหน้ากลายเป็ซีดขาว นี่เป็ครั้งแรกของเขาที่มีคนบอกว่า เขาที่มีสมญานามว่า ‘ดาบห่าฝนทองคำ’ ไม่สมควรจับดาบ
“ดาบคือความแหลมคมและความดื้อรั้น ผู้ที่มีจิตใจเที่ยงตรงและซื่อสัตย์ ถึงจะมีคุณสมบัติจับดาบ หากเ้ามีจิตใจต่ำช้าหรือรักโลภโกรธหลง แม้แต่เงาดาบก็กลายเป็จินตภาพ กระทั่งดาบเ้าก็ไม่สมควรจะจับและยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักดาบ”
หลินเฟิงกล่าวอย่างเยือกเย็น หลินฮ่าวเจี๋ยมีจิตใจต่ำช้า ดาบของเขาไล่ตามหาแต่ความงดงาม จึงสูญเสียความแหลมคมที่แท้จริงของดาบไป
“เ้ากล้าตัดแขนข้า? เ้าเป็ใครกันแน่?” หลินฮ่าวเจี๋ยเงยหน้าขึ้นจ้องหลินเฟิงอย่างไม่ละสายตา ความรู้สึกที่คุ้นเคยนั้นมันเริ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ใช่แค่แขนของเ้าเท่านั้น...” หลินเฟิงยิ้มเย็น ทันใดนั้นร่างของหลินเฟิงก็หายวับไป เพียงพริบตาก็ไปปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าหลินฮ่าวเจี๋ย
หลินฮ่าวเจี๋ยกำลังสั่นเทาอย่างรุนแรง เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินเฟิง เขากลับไร้การปกป้องใดๆ และััได้ถึงเจตจำนงดาบอันทรงพลังที่หมายทำลายชีวิตของตัวเอง ตอนนี้ใบหน้าของเขาดูบิดเบี้ยวอย่างมากขณะจ้องหลินเฟิงอย่างเอาเป็เอาตาย
หลินเฟิงไม่เพียงแค่ตัดแขนของหลินฮ๋าวเจี๋ยเท่านั้น แต่ยัง้าชีวิตของเขาด้วย!
“เป็เ้า!”
หลินฮ่าวเจี๋ยตกตะลึงขณะมองหลินเฟิง ั์ตาที่นิ่งสงบคู่นี้คือคนนั้นที่อยู่ในกระท่อมที่นั่งผิงไฟเงียบๆ และถูกหลินฮ่าวเจี๋ยเรียกว่าเศษขยะและขี้ขลาดตาขาว
ตอนนั้นในกระท่อม หลินเฟิงเป็คนไร้ประโยชน์และขี้ขลาด แต่หลินเฟิงในตอนนี้กลับสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย ความแตกต่างของพละกำลังทำให้เขาต้องใจสั่นระรัว ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันได้ถูกกำหนดเอาไว้ทั้งหมด
“ใช่ ข้าเอง!”
หลินเฟิงตอบกลับเสียงเย็นขณะวางมือไว้บนอกของหลินฮ่าวเจี๋ยและปลดปล่อยคลื่นดาบที่รุนแรงออกมา หลินฮ่าวเจี๋ยร้องโหยหวนอย่างเ็ป ลมปราณของเขาสลายหายไป อย่างไรก็ตามดวงตาของเขายังคงเบิกกว้าง เขาไม่อาจยอมรับความตายนี้ได้ เขามีชาติตระกูลที่ดี ทั้งยังมีพร์และหล่อเหลา เขาจะมาตายง่ายๆ แบบนี้ต่อหน้าฝูงชนกลุ่มใหญ่ได้อย่างไรกัน?
“ตูม! ตูม! ตูม!”
เมื่อฝูงชนเห็นร่างไร้ชีวิตตกลงบนพื้น หัวใจของพวกเขาก็พลันเต้นเร็วขึ้น
หลินเฟิงได้สังหารนักดาบห่าฝนทองคำ หลินฮ่าวเจี๋ยไปแล้ว เขาไม่สนใจสถานะทางสังคมของหลินฮ่าวเจี๋ย และสังหารเขาในกระบวนท่าเดียวอย่างเรียบเฉยราวกับกำลังบี้แมลงตัวหนึ่งเท่านั้น
แต่ตอนนี้ผู้ที่ตื่นตระหนกมากที่สุดก็คือสองพี่น้องจื่ออีและจื่อหลิง
หลินฮ่าวเจี๋ยตายแล้ว?
มันดูเป็เื่ง่ายสำหรับหลินเฟิงที่จะสังหารหลินฮ่าวเจี๋ย?
“ท่านพี่ ที่เขาจงใจสวมหน้ากาก นั่นเป็เพราะเขากับผู้หญิงคนนั้นรู้จักกัน และเขาก็รู้ด้วยว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น เขาจึงต้องทำแบบนี้ เพราะไม่อยากลากพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะกลัวพวกเราจะตกอยู่ในอันตราย”
จื่อหลิงเข้าใจทันทีว่าทำไมหลินเฟิงถึงสวมหน้ากาก นั่นก็เพราะเขาไม่้าให้คนอื่นรู้ว่าเขามาพร้อมกับจื่ออีและจื่อหลิง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกนางไม่เจอปัญหาเพราะเขา
“พวกเ้าทั้งสองคนไม่ได้ติดหนี้อะไรกับหลินฮ่าวเจี๋ยอีกต่อไป”
คำพูดของหลินเฟิงยังคงดังก้องอยู่ในใจของพวกนาง ด้วยความแข็งแกร่งของหลินเฟิง สามพี่น้องหยางถัวจะทำร้ายพวกนางได้อย่างไร?
หลินเฟิงมักจะใคร่ครวญเพื่อพวกนางอย่างเงียบๆ เขาอ่อนน้อมและเก็บงำฝีมือของตัวเองไว้ แต่พวกนางกลับเอาแต่ไล่ตามความหรูหราเพียงเปลือกนอกอย่างหลินฮ่าวเจี๋ย พวกนางหลงใหลความหยิ่งผยองและชื่อเสียงอันเกรียงไกรของดาบห่าฝน
พวกนางรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองเป็อย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจื่ออีที่ได้สูญเสียพรหมจรรย์ของตัวเองให้หลินฮ่าวเจี๋ย เพื่อแลกกับคำพูดหวานหูเพียงไม่กี่คำ ก่อนถูกเขาเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดีในวันต่อมา แต่จะมัวมานึกเสียใจก็เปล่าประโยชน์ เพราะสุดท้ายหลินฮ่าวเจี๋ยก็ถูกหลินเฟิงสังหารไปแล้ว แม้ว่าหลินเฟิงจะไม่เคยมองนางเป็ผู้หญิงแบบนั้น ทว่าความเย่อหยิ่งของนางก็กลายเป็ความรู้สึกต้อยต่ำในทันที
นางเคยดูถูกหลินเฟิงว่าเป็ขยะ แต่ความจริงแล้วในสายตาของหลินเฟิงนั้น นางนั่นแหละที่เป็ขยะจริงๆ สำหรับเขาแล้วนางคงเป็ได้แค่ผู้หญิงโง่เง่าที่น่าเพชเท่านั้น หลินเฟิงไม่เคยใส่ใจนาง นั่นเป็เพราะว่าเขาดูแคลนนาง
“เ้าต้องตาย!!!”
เมื่อคนตระกูลจื่อเห็นศพนอนกองอยู่ที่พื้น สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป จื่อโฉงะโออกมาอย่างเ็า
หลินเฟิงไม่เพียงมาแย่งเ้าสาวในอนาคตของเขาเท่านั้น แต่ยังสังหารน้องเขยในอนาคตของเขาอีกด้วย
ความอัปยศแสนสาหัสนี้ ตระกูลจื่อจะทนรับได้อย่างไร!!!
หลินเฟิงไม่แม้แต่จะชายตามองจื่อโฉง นั่นเป็เพราะเขาดูถูกจื่อโฉง
หลินเฟิงหันกลับไปมองต้วนซินเยี่ย ซึ่งใบหน้านางในยามนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่นอกจากคราบน้ำตาที่ข้างแก้มแล้ว ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏขึ้นอีกด้วย ต้วนซินเยี่ยยืนเงียบๆ อยู่ด้านหลังหลินเฟิง
“คนที่บังคับจิตใจเ้าจะต้องตาย!”
หลินเฟิงกล่าวอย่างสงบ แต่ในน้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความหนักแน่น
“อยู่ใกล้ข้าไว้”
“อืม” ต้วนซินเยี่ยพยักหน้าเล็กน้อย
หลินเฟิงเอื้อมมือไปชักดาบด้านหลังของเขาออกมา
ดาบของเขาราวกับสายน้ำที่ใสกระจ่าง แม้ไม่มีสีสันฉูดฉาด แต่กลับมีแสงสีเงินที่เปล่งประกายบ่งบอกถึงความแหลมคมของมัน
“ดาบ!”
เมื่อฝูงชนเห็นดาบในมือของหลินเฟิงแล้ว หัวใจของพวกเขาพลันเต้นแรงขึ้นมา หลินเฟิงพูดกับดาบห่าฝนทองคำหลินฮ่าวเจี๋ยว่า เขาไม่คู่ควรกับดาบของตัวเอง และยังสังหารหลินฮ่าวเจี๋ยด้วยมือเปล่าอย่างง่ายดาบ ขนาดมือยังแหลมคมขนาดนี้ แล้วดาบล่ะ? จะคมขนาดไหน???
มือของจื่อหลิงกำแน่น นั่นมันดาบ หลินเฟิงดึงดาบของเขาออกมาแล้ว
นางชื่นชอบนักดาบ เพราะพวกเขาดูมีสง่าราศี แข็งแกร่งและทรงพลัง
แต่ปรมาจารย์ดาบนั้นมีน้อยมาก ดังนั้นดาบห่าฝนทองคำจึงเป็นักดาบที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่นางเคยพบมา ดาบของหลินฮ่าวเจี๋ยดูหรูหรา สวยงาม แต่กลับถูกหลินเฟิงสังหารลงอย่างง่ายดาย แล้วดาบของเขาล่ะ จะร้ายกาจขนาดไหน? จื่อหลิงตั้งตารอชมอย่างใจจดใจจ่อ
เสื้อผ้าสีขาวและดาบสีเงิน
หลินเฟิงดึงดาบของเขาออกมา แล้วยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบสงบ แต่กลับให้ความรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่าหากหลินเฟิงขยับสักนิด ฟ้าดินก็สามารถพลิกกลับอย่างง่ายดาย ความรู้สึกนี้ดูคล้ายกับหลินเฟิงได้หลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกับโลกไปแล้ว
จื่อโฉงก็รู้สึกแปลกๆ เช่นกัน แม้เขาจะพูดว่าหลินเฟิงต้องตาย แต่เขากลับไม่กล้าโจมตีด้วยตัวเอง!!!
หลินเฟิงยังคงยืนนิ่งอยู่ที่ ซึ่งทำให้จื่อโฉงรู้สึกด้อยกว่า และเขาก็เกลียดความรู้สึกนั้น
“ฆ่ามัน”
ผู้นำตระกูลจื่ออย่างจื่ออิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า ทันใดนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา สีหน้าของพวกเขาดูเคร่งขรึม ขณะที่ปลดปล่อยจิตสังหารออกมา ทำให้บรรยากาศพลันหนักอึ้งและเต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล
เงาร่างของแต่ละคนต่างพุ่งเข้ามาจู่โจมหลินเฟิง แต่ถึงอย่างนั้นหลินเฟิงก็ยังคงยืนอยู่กับที่ราวกับเป็ูเาที่ตั้งตระหง่านไม่หวั่นเกรงพายุ
เมื่อฝ่ายตรงข้ามเข้ามาใกล้ตัวเขา หลินเฟิงก็เคลื่อนไหวในที่สุด
เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าเล็กน้อย
ใน่เวลานั้น คลื่นดาบสังหารที่รุนแรงก็แผ่กระจายไปในอากาศ ก่อนจะเปลี่ยนเป็คมดาบสายลมเข้าปะทะกับฝ่ายตรงข้าม วินาทีนั้นกลุ่มคนที่พุ่งเข้าหาหลินเฟิงก็รู้สึกหายใจลำบาก ราวกับว่าที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ใช่คน แต่เป็ดาบ และยังเป็ดาบที่ไร้เทียมทานอีกด้วย!!!
ในที่สุดจื่อหลิงก็รู้แล้วว่าระหว่างหลินเฟิงกับหลินฮ่าวเจี๋ยนั้นแตกต่างกันตรงไหน ดาบของหลินฮ่าวเจี๋ยดูหรูหราและสวยงาม แต่ดาบของหลินเฟิงเป็ดาบที่มีไว้ฆ่า แม้มันอาจดูไม่สวยงาม แต่ความแหลมคมนั้นนับว่าไม่เป็รองใคร
ในขณะนั้นจื่อหลิงก็รู้สึกหายใจไม่ออกเช่นกัน
ประกายดาบสีเงินที่ส่องสว่างนั่น ราวกับเป็ลมหายใจของโลก
ฝูงชนกลายเป็เงียบงัน ผู้คนที่กำลังพุ่งเข้าหาหลินเฟิงได้ชะงักเคลื่อนไหวทั้งหมด ราวกับว่าเวลาได้ถูกหยุดลงตรงนี้!!!