หลังกลับมาจากงานเลี้ยงจวนตระกูลไป๋แล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาและเสี่ยวเย่วหยาก็ถูกเรียกไปพบที่เรือนใหญ่ในทันที เสี่ยวฮูหยินจ้องมองบุตรสาวทั้งสองของตน ก่อนจะเอ่ยถาม
"ข้าสอนพวกเ้ายังไง บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าห้ามก่อเื่ เ้าก็อีกคนเย่วหยา ถูกทำร้ายกลางงานเช่นนี้ผู้คนคงเอาไปพูดจากันสนุกปากแล้ว"
"ข้าขออภัยเ้าค่ะท่านแม่"
เสี่ยวเย่วหยาไม่เอ่ยสิ่งใดมาก เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเสี่ยวฮูหยินให้มากความ เมื่อเสี่ยวฮูหยินเห็นเช่นนั้นก็พอจะคลายโทสะลงไปได้บ้าง แต่เมื่อหันมามองเสี่ยวจิ่วฮวาที่มีสีหน้าเรียบเฉย โทสะก็พุ่งปะทุขึ้นมาอีกครา
"อาจิ่ว เ้าไม่จดไม่จำที่ข้าสอนเลยหรือ ข้าบอกเ้าว่าอย่ามีเื่กับผู้ใด เ้าทำไมไม่ทำตามที่ข้าสั่ง"
เสี่ยวจิ่วฮวาเงยหน้าขึ้นมามองมารดาของตนเอง ก่อนจะเอ่ย
"ท่านแม่จะให้ข้ายืนมองดูคนพวกนั้นดูแคลนเช่นนั้นหรือเ้าคะ หลินซินหลันด่าเสี่ยวเย่วหยาว่าเป็คนโง่ ด่าข้าว่าถูกเลี้ยงดูมาจากอนุที่ต่ำช้า ไม่ให้เกียรติตระกูลเสี่ยว แต่ท่านแม่กลับจะให้ข้ารักษาหน้าตาตนเองแล้วปล่อยผ่านเื่นี้ไป ท่านยอมให้คนมาดูแคลนบุตรสาวของท่านหรือ ข้าขอยืนยันคำเดิม ใครไม่ยุ่งกับข้า ข้าก็ไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้าใครมาต่อว่าข้า ต่อว่าคนตระกูลเสี่ยวต่อหน้าข้า ข้าก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน ท่านแม่จะลงโทษก็ลงโทษเถิด แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดในเื่ที่ข้าไม่ได้ทำผิด"
เสี่ยวฮูหยินเดิมทีคิดจะต่อว่าบุตรสาวอีกสักหลายประโยค แต่เมื่อได้ยินความหมายในคำพูดของเสี่ยวจิ่วฮวา ว่าจะไม่ยอมให้ใครมาด่าทอหรือรังแกคนในตระกูลเสี่ยวได้ ในใจของนางก็พลันคลายโทสะลงไปได้ไม่น้อย
คล้ายว่าหลายวันมานี้เสี่ยวจิ่วฮวาจะดูเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อย
แต่ถึงอย่างไรย่อมต้องลงโทษ นางจึงสั่งให้สาวใช้ไปนำไม้เรียวยาวออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาเสี่ยวจิ่วฮวา
"ยื่นมือมา แม่จะทำโทษเ้า"
เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที
"ท่านแม่ ไม่ได้นะเ้าคะ อาจิ่วทำไปเพราะปกป้องข้า หลินซินหลันด่าทอข้าสารพัด อีกทั้งยังลงไม้ลงมือด้วย ท่านแม่ หากจะตีก็ตีข้าด้วยเถอะ ข้าเองก็ผิดที่ไม่ปรามอาจิ่วเ้าค่ะ!!!"
เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นอย่างนั้นก็ดึงเสี่ยวเย่วหยาไปหลบอยู่ด้านหลังตน ก่อนจะเอ่ย
"อย่าตีนาง!! นางไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ตีข้าคนเดียวก็พอ ข้ามันหนังหนา ทนแรงทุบตีดุด่าได้อยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าโดนเสียหน่อย ท่านแม่รีบตีมาเถอะ ตีเสร็จข้าจะได้ไปนอน ข้าง่วงแล้ว"
ยิ่งได้เห็นท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเสี่ยวจิ่วฮวา เสี่ยวฮูหยินก็โมโหอีกรอบ เพราะไม่ยั้งมือนางจึงตีมือทั้งสองข้างของเสี่ยวจิ่วฮวาจนมีเืซึม เสี่ยวจิ่วฮวาเม้มริมฝีปากแน่น เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นว่ามือของน้องสาวมีเืไหลซึมแล้วก็รีบเข้าไปคุกเข่าขอร้องมารดาทันที
"ท่านแม่ ฮืออ พอเถอะเ้าค่ะ!!"
เสี่ยวฮูหยินตีไปน้ำตาก็ไหลไป ก่อนจะเอ่ยกับเสี่ยวจิ่วฮวา
"เ้าคิดว่าข้าอยากตีเ้าหรือ ที่ข้าต้องสั่งสอนเ้า เพราะว่าข้าไม่อยากให้คนอื่นว่าเ้าไม่ดี ไม่อยากให้เ้ามีชื่อเสียงไม่ดี หากเ้าเป็ที่นินทาของผู้คน เ้าจะมีชีวิตที่ดีและสงบสุขได้อย่างไร!! เ้าจะมีงานแต่งงานที่ดีได้อย่างไร หากเ้าไม่มีความสุข เ้าลำบาก เ้าคิดว่าข้าจะตายได้อย่างสงบสุขหรืออาจิ่ว!!"
เสี่ยวฮูหยินโยนไม้เรียวทิ้งลงไปบนพื้น ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตา นางตีเสี่ยวจิ่วฮวาก็เท่ากับตีหัวใจตนเอง แต่หากไม่สั่งสอนนางก็กลัวว่าสักวันบุตรสาวอาจจะไม่ได้พบจุดจบที่ดี
เสี่ยวจิ่วฮวาเม้มริมฝีปากแน่น นางเองไม่ได้โกรธเคืองอันใด ตีแล้วก็แล้วไปเถิด อย่างไรท่านแม่ก็ไม่ได้คิดจะตีนางให้ตายอยู่แล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงเอ่ยขึ้นมาทันที
"ท่านแม่ไม่ต้องกังวล เดิมทีข้าก็ไม่เคยคิดเื่แต่งงานอยู่แล้ว คนอย่างข้าไม่เหมาะกับใครเขาหรอก แต่งเข้าจวนใดจวนนั้นคงร้อนเป็ไฟ หากไม่มีสิ่งใดแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะเ้าคะ ขอบคุณท่านแม่ที่สั่งสอน"
เมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองหรืออาละวาดด่าทอเช่นทุกครั้งที่โดนดุด่าลงโทษ ใจของเสี่ยวฮูหยินก็ยิ่งบีบรัด นางพยายามระงับโทสะ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับสาวใช้
"ไปตามท่านหมอมาดูอาการคุณหนูรอง"
เมื่อสาวใช้ออกไปแล้ว นางก็หันไปมองเสี่ยวเย่วหยาที่ยืนร้องไห้ ก่อนจะกวักมือเรียกให้บุตรสาวมานั่งลงข้างๆ ตน
"ไม่ต้องร้อง ทุกคราแม่ก็สั่งสอนอาจิ่วเช่นนี้ ไม่เห็นเ้าจะร้องไห้เลย"
เสี่ยวเย่วหยายกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะเอ่ย
"ท่านแม่ หลายวันนี้ที่ข้าได้อยู่ใกล้น้องรอง ข้าดูออกว่าน้องรองแท้จริงไม่ได้เลวร้ายอันใด ที่ผ่านมาเพราะนางอยากให้ท่านสนใจจึงทำตัวแบบนั้น ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงนางไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับข้าเลย ไม่หักหน้าข้า ไม่ด่าทอข้า และไม่ได้หาเื่ใคร แต่ผู้คนกลับมาหาเื่น้องรองก่อน นางดูน่ารักน่าชังขึ้นมากนะเ้าคะ อีกทั้งยังช่วยปกป้องข้าด้วย ท่านแม่ ท่านลงมือหนักเกินไปแล้วนะเ้าคะ ข้าสงสารน้องรองยิ่งนัก"
เสี่ยวฮูหยินไม่เอ่ยตอบ นางรู้ตัวว่านางลงมือหนักไป แต่ที่ทำก็เพื่อเสี่ยวจิ่วฮวาทั้งสิ้น
ด้านเสี่ยวจิ่วฮวาเมื่อเดินกลับมาที่เรือนก็สั่งให้หูเป่าไปเอาน้ำอุ่นมาให้นางล้างมือ เมื่อแผลโดนน้ำนางก็ถึงกับซูดปาก ท่านแม่มือหนักจริงๆ มือนางแตกเป็รอยหมดแล้ว
หูเป่าร้อนใจยิ่งนัก นางรีบเอ่ยกับเสี่ยวจิ่วฮวาทันที
"คุณหนู ท่านอย่ายั่วโทสะฮูหยินอีกเลยเ้าค่ะ ดูสิ เืออกไม่น้อยเลย"
เสี่ยวจิ่วฮวามีท่าทีเรียบเฉย นางใช้ผ้าสะอาดซับเื ก่อนจะครุ่นคิดถึงคำพูดของมารดาเมื่อครู่
ท่านแม่กลัวนางจะไม่ได้แต่งเข้าตระกูลดีๆ กลัวนางลำบาก แต่ท่านแม่ไม่รู้ว่าแท้จริงนางไม่อยากแต่งงานเลย นางไม่อยากแต่งกับบุรุษใดทั้งสิ้น ชั่วชีวิตนี้นางอยากใช้ชีวิตอิสระ โผบินดั่งนก ไปทุกที่ได้ตามใจหมาย ใช้ชีวิตในทางที่ถูกที่ควร
และเหตุผลสำคัญที่นางไม่้าแต่งงานอีกนั่นก็คือ นางกลัว!
ั้แ่คืนนั้นที่โดนกระทำอย่างทารุณมันก็กลายเป็าแในใจนาง นางกลัวที่จะต้องแต่งงานมีสัมพันธ์ทางกายกับบุรุษ นางกลัวเหลือเกิน
ยิ่งคิดถึงเื่ในคืนนั้นนางก็หนาวเย็นะเืขึ้นมาทันที นางส่ายศีรษะไปมาพยายามสลัดเื่เหล่านี้ออกไปจากสมองเสียให้พ้น และจัดการซับเืที่มือของนางต่อ หูเป่าจะช่วยนางก็บอกว่าไม่ต้องเพราะหูเป่าทำงานไม่ถูกใจนาง
"อาจิ่ว!!"
เสี่ยวจิ่วฮวาที่กำลังใช้ผ้าสะอาดซับเืบนฝ่ามือตนอย่างทุลักทุเลเมื่อได้ยินเสียงเรียกก็หันมามอง ก่อนจะพบกับเสี่ยวเย่วหยาที่เดินเข้ามาหานางพอดี เมื่อเห็นรอยแผลบนฝ่ามือของน้องสาว เสี่ยวเย่วหยาก็อดน้ำตาซึมไม่ได้ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับหูเป่า
"เหตุใดเ้าไม่ทำแผลให้คุณหนูรอง มายืนมองทำไมกัน!!"
เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาทันที
"นางทำไม่ถูกใจข้า เ้าอย่าดุนางเลย ข้าไม่เป็อันใดหรอก อีกเดี๋ยวเืก็คงหยุดไหลแล้ว"
นี่เป็ครั้งแรกที่เสี่ยวจิ่วฮวาเห็นว่าเสี่ยวเย่วหยาขึ้นเสียงกับสาวใช้ นับว่าเป็ด้านที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน เวลาเสี่ยวเย่วหยาขึ้นเสียงนี่ก็น่าดูเหมือนกัน
"เ้ามีอันใดหรือ จึงมาที่เรือนของข้า"
เสี่ยวเย่วหยาทิ้งกายลงนั่ง ก่อนจะเอ่ย
"ข้าขอโทษ เป็เพราะข้าไม่ดีเอง ข้าดูแลเ้าไม่ดี"
เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกขมฝาดในลำคอไม่น้อยเลย ชาติก่อนเสี่ยวเย่วหยาก็เอ่ยเช่นนี้
"ไม่ใช่ความผิดของเ้า อย่าใส่ใจเลย ใบหน้าของเ้าก็อย่าลืมทายาด้วยเล่า"
เสี่ยวเย่วหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย
"น้องรอง เ้าไม่เกลียดข้าแล้วหรือ"
เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ตอบสิ่งใด เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นว่าน้องสาวนิ่งเงียบไม่เอ่ยตอบ ก็รีบลนลานเอ่ยขึ้นมาทันที
"เอ่อ ข้าไม่อยากให้เ้าเกลียดข้า เราเป็พี่น้องกัน ข้า คือ..."
"ข้าเคยเกลียดเ้า เกลียดมากเหลือเกิน แต่ตอนนี้ข้าไม่เกลียดเ้าแล้วแหละ และที่ข้าไม่หาเื่เ้าเพราะว่าข้าเบื่อแล้ว อยู่จวนเดียวกัน เป็พี่น้องกันจะรังแกกันไปทำไม อีกอย่างรังแกเ้าไม่สนุกสักนิด ข้าชอบคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อมากกว่า เ้าอ่อนแอเกินไป แกล้งไม่สนุกสักนิด แล้วอีกอย่างนะเย่วหยา จำคำของข้าไว้ อย่าอ่อนแอเกินไป ใครทำเ้า เ้าก็ทำกลับเสีย ปกป้องตนเองให้ได้ อย่าไว้วางใจผู้ใดง่ายๆ เข้าใจหรือไม่"
เสี่ยวเย่วหยาพยักหน้าและยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปหยิบผ้ามาช่วยเช็ดเืให้เสี่ยวจิ่วฮวาอย่างใส่ใจ
"ข้าไม่เคยคิดแย่งความรักของท่านแม่ไปจากเ้าเลยแม้แต่น้อย"
"อืม เ้าก็ไม่ได้แย่งไปเสียหน่อย ท่านแม่ก็ยังรักข้าอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทุบตีดุด่าข้าบ่อยๆ แล้วอีกอย่างหนึ่ง ท่านแม่เลี้ยงดูเ้ามาั้แ่วัยเยาว์ ต่างจากข้าที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็บุตรสาว แต่อย่างไรก็ไม่ได้ประคบประหงมเลี้ยงดูกันมาั้แ่แบเบาะ ย่อมมีความห่างเหินเป็ธรรมดา ข้าไม่ใส่ใจแล้วแหละ เ้าวางใจเถอะ"
"น้องรอง เ้าเติบโตขึ้นมากแล้วจริงๆ"
เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย สองพี่น้องสนทนากันอยู่ไม่นานท่านหมอก็มาถึง เสี่ยวจิ่วฮวาแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อรู้ว่าท่านแม่เป็คนออกคำสั่งให้สาวใช้ไปตามท่านหมอมาดูอาการของนาง เสี่ยวจิ่วฮวาก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก
มือทั้งสองข้างของเสี่ยวจิ่วฮวาถูกพันเอาไว้จนทำสิ่งใดไม่ได้ หลายวันที่รักษาาแที่มือนางเอาแต่นอนและให้หูเป่าคอยป้อนอาหาร ชีวิตที่สุขสงบ ไม่แก่งแย่งชิงดีไม่ริษยาผู้ใดเช่นนี้ก็มีความสุขไม่น้อยเลย
ในขณะเดียวกันเสี่ยวเย่วหยาก็มักจะทำขนมอร่อยๆ มาให้นางกินอยู่เสมอ อีกทั้งยังนำบทละครงิ้วมาให้นางอ่านอีกด้วย และนี่ก็เป็อีกด้านหนึ่งที่นางได้รู้ พี่สาวของนางที่ภายนอกดูงดงามอ่อนหวาน ปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบอยู่เสมอนั้น แท้จริงก็ชอบอ่านของพวกนี้เช่นเดียวกับนางเหมือนกัน
เสี่ยวจิ่วฮวาอยู่ว่างๆ ก็เหงา นางเอาแต่คิดถึงเื่ในกาลก่อนนั้น เื่ที่ตระกูลของนางถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับพวกฏ
แน่นอนว่าเื่นี้ย่อมต้องเกิดซ้ำรอยเดิมเป็แน่ นางเป็สตรีจะต่อสู้กับเื่พวกนี้ย่อมไม่ใช่เื่ง่าย นางจำวันเวลาที่จะเกิดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินได้ มันคืออีกไม่กี่ปีข้างหน้าแล้ว ตอนนี้นางต้องหาทางหนีทีไล่เอาไว้ และหาวิธีบอกเื่นี้กับท่านพ่อและพี่ชายใหญ่ หากวันหนึ่งเกิดเื่ขึ้นมาจะได้เตรียมพร้อมรับมือและลดการสูญเสียให้มากที่สุด
แต่จะบอกด้วยวิธีใดนั้นนางคงต้องคิดใคร่ครวญเตรียมคำพูดดีๆ เสียก่อน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้