ชาวบ้านมองส่งแผ่นหลังของทั้งสามคนที่เดินจากไปต่างก็กระซิบพูดคุยกัน
เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ ไม่ได้บีบคั้นผู้อื่นเหมือนแต่ก่อนช่างเปลี่ยนไปมากเสียจริง
นี่เป็การทวงคืนความยุติธรรมให้สองพี่น้องจริงหรือ?
หรือว่าไม่อยากมีเื่ผิดใจกับหลัวซื่อ?
หรือจะรูปงามแต่เป็คนโง่เขลา?
ไม่เข้าใจเลยว่าเซี่ยยวี่หลัวกำลังคิดอะไรกันแน่!
เถียนเอ๋อไปดูหลัวซื่อ"แม่เสี่ยวฮวา เ้าไม่เป็อะไรจริงหรือ? "
เซี่ยยวี่หลัวลงมืออย่างเบาหวิวน่าจะไม่เป็อะไรกระมัง?
หลัวซื่อะโโลดเต้นครู่หนึ่งก่อนกล่าวอย่างได้ใจ "ข้าจะเป็อะไรได้ สบายดี! เซี่ยยวี่หลัวนั่นแรงน้อยเหมือนลูกแมวอย่างมากก็เหมือนเกาให้ข้าหายคัน"
เถียนเอ๋อถอนหายใจ"ข้าว่านางมีดีแค่หน้าตา สมองใช้การไม่ได้ ยังดีที่เ้าเลือกวิธีนี้ ไม่อย่างนั้นต้องชดใช้ทั้งค่ายารักษาและไก่ให้นาง ไม่คุ้มกันเลย"
หลัวซื่อเบ้ปาก "ให้นาง? เฮอะ ข้าสู้ยอมเก็บไว้ใช้รักษาตัวเองดีกว่า ข้าจะไม่ยอมให้นางแม้แต่ครึ่งอิแปะ!"
เถียนเอ๋อชูนิ้วโป้ง"เยี่ยม เยี่ยมจริงๆ ! "
เซี่ยยวี่หลัวจูงมือเด็กสองคนกลับบ้าน
"ยังเจ็บหรือไม่?" เซี่ยยวี่หลัวถามถึงาแของเซียวจื่อเซวียน
เซียวจื่อเซวียนส่ายหน้าไม่อยากให้พี่สะใภ้ใหญ่เป็ห่วง "พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่เจ็บแล้วขอรับ! "
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกขอบตาร้อนผ่าว"เด็กโง่ ต่อไปอย่าทำเช่นนี้อีก อย่าว่าแต่หมวกหนึ่งใบเลย ต่อให้เป็ของล้ำค่าโดนแย่งไปแล้วก็ปล่อยให้โดนแย่งไป ตัวเ้าสำคัญที่สุด เข้าใจหรือไม่? "
ยังดีที่วันนี้เป็หลัวซื่อหากเป็นักเลงหรืออันธพาลคนอื่นล่ะ? เซี่ยยวี่หลัวไม่กล้าคิดด้วยซ้ำดังนั้นนางจึงต้องคุยกับเด็กๆ ให้ชัดเจน มีเพียงชีวิตของตัวเองเท่านั้นที่สำคัญที่สุด!
เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยท่าทางอัดอั้นใจ"แต่นั่นเป็ของที่พี่สะใภ้ใหญ่ทำ จื่อเมิ่งก็ชอบถึงเพียงนั้น..."
"เด็กโง่! "เซี่ยยวี่หลัวโอบกอดเซียวจื่อเซวียนไว้ในอ้อมอก "ถ้าชอบ พี่สะใภ้ใหญ่ยังทำให้อีกได้..."
แต่ที่บ้านไม่มีหมวกแล้ว!
เซี่ยยวี่หลัวนึกขึ้นได้ว่าในหีบของตัวเองยังมีผ้าฝ้ายละเอียดสีขาวอีกจำนวนหนึ่ง จึงกล่าว "จื่อเมิ่ง พี่สะใภ้ใหญ่จะปักผ้าเช็ดหน้าให้เ้าผืนหนึ่งดีหรือไม่?"
ปักผ้าเช็ดหน้าไม่ต้องใช้เงิน
เซียวจื่อเมิ่งพยักหน้าด้วยท่าทางว่าง่าย"ดีเ้าค่ะ! "
เซี่ยยวี่หลัวนำเข็มและด้ายออกมาเริ่มปักผ้าเช็ดหน้า
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งนั่งอยู่ข้างๆนาง ดูนางปักผ้าเช็ดหน้า เมื่อสังเกตเห็นว่าเซียวจื่อเซวียนเหมือนอยากกล่าวอะไรแต่ไม่กล้ากล่าวเซี่ยยวี่หลัววางเข็มลง ยิ้มพร้อมกล่าว "อยากถามพี่สะใภ้ใหญ่ว่า เหตุใดถึงตีแม่เสี่ยวฮวาเบาขนาดนั้นใช่หรือไม่?"
เซียวจื่อเซวียนรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยแต่ก็ยังพยักหน้า "ขอรับ! "
คนในหมู่บ้านต่างก็ว่าพี่สะใภ้ใหญ่โง่เขลา
พวกเขาต่างกล่าวว่า ยืนกรานจะเอาเงินและไก่ดีกว่ากันมากอย่างไรเสีย เื่นี้แม่เสี่ยวฮวาก็เป็ฝ่ายผิด
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว"วางใจได้ นางไม่สุขสบายแน่! "
เซียวจื่อเซวียนไม่เข้าใจ"อะไรนะขอรับ? " ่ที่พวกเขากลับมา แม่เสี่ยวฮวาวิ่งได้ ะโได้ยังพูดจาด้วยน้ำเสียงมีพลังเต็มเปี่ยมอยู่เลย!
เซี่ยยวี่หลัวกระพริบตา"เ้าเชื่อหรือไม่ว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะทวงคืนความยุติธรรมให้เ้า? "
"แน่นอนขอรับ! "เซียวจื่อเซวียนพูดโพล่งออกมาโดยไม่คิดด้วยซ้ำ
เซียวจื่อเมิ่งก็รีบกล่าวเสียงใส"ข้าก็เชื่อพี่สะใภ้ใหญ่เ้าค่ะ"
นางไม่เข้าใจอะไรมากนักเห็นว่าพี่สะใภ้ใหญ่ตีแม่เสี่ยวฮวา นึกว่าเื่จบไปแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวคิ้วงามโก่งโค้ง"เช่นนั้นพวกเราก็รอต่อไป! "
เคราะห์กรรมที่หลัวไห่ฮวาจะได้รับคือหลังจากนี้ต่างหาก!
เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวแสดงสีหน้ามั่นใจเต็มเปี่ยมและแย้มรอยยิ้มเซียวจื่อเซวียนไม่เข้าใจ แต่ก็ยังเชื่อพี่สะใภ้ใหญ่
เวลานั้นพี่สะใภ้ใหญ่เคยบอกเขาว่าจะช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้เขา!
เขาเชื่อพี่สะใภ้ใหญ่
เซี่ยยวี่หลัวตัดด้ายเส้นสุดท้ายออก มองดูผ้าเช็ดหน้าที่ตัวเองปักพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ไม่เลว!
เด็กสองคนดูไปดูมา ทนความง่วงไม่ไหวจนผล็อยหลับไปเซี่ยยวี่หลัวปลุกพวกเขาจนตื่น "จื่อเซวียน จื่อเมิ่ง ตื่นได้แล้ว"
เด็กสองคนขยี้ตา ตื่นขึ้นแล้ว
พี่รองช่วยสวมใส่เสื้อผ้าให้น้องสาวเซี่ยยวี่หลัวเทน้ำอุ่นหนึ่งถ้วยให้สองพี่น้อง ชงน้ำผึ้งหนึ่งช้อนวางไว้บนโต๊ะ ก่อนไปห้องครัวเพื่อทำอาหารเย็น
เด็กสองคนสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จเดินไปกินน้ำผึ้งที่อยู่บนโต๊ะ
เมื่อเห็นผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่พับไว้อย่างเป็ระเบียบวางไว้บนโต๊ะเซียวจื่อเมิ่งมองจนแววตานิ่งอึ้ง
บนผ้าเช็ดหน้า ปักลายแมวแสนน่ารักบนหัวของมันผูกปมผีเสื้อสีแดงขนาดใหญ่ กำลังลืมตากว้างจ้องมองพร้อมยิ้มให้นาง!
ด้านล่างมีผ้าเช็ดหน้าอีกหนึ่งผืนบนนั้นก็ปักลายแมวไว้หนึ่งตัว แต่มันไม่ได้ติดปมผีเสื้อ แต่ผูกปมผีเสื้อไว้ใต้คอ
แมวสองตัวนี้ มองแวบเดียวก็รู้ได้ว่าเป็ตัวผู้หนึ่งตัวตัวเมียหนึ่งตัว!
ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้!
เซี่ยยวี่หลัวที่กำลังง่วนกับการทำอาหารอยู่ในห้องครัวได้ยินเสียงร้องแหลมดังขึ้นจากในห้องจากนั้นจึงเป็เสียงฝีเท้าที่วิ่งอย่างรีบร้อน เด็กสองคนพุ่งพรวดจากในห้องมาถึงห้องครัวกอดเซี่ยยวี่หลัวด้วยความตื่นเต้น "พี่สะใภ้ใหญ่ สวยเหลือเกิน สวยเหลือเกินเ้าค่ะ!"
จะไม่สวยได้อย่างไร?
พวกเขาเพิ่งเคยเห็นการปักลายแมวที่เหมือนมนุษย์!
ช่างดูดี ช่างน่ารัก ช่างสวยเหลือเกิน!
เซี่ยยวี่หลัวใส่ฟืนอยู่หลังเตาไฟมือโอบเด็กสองคนไว้ ให้พวกเขานั่งอยู่บนตักนาง ยิ้มจนคิ้วงามโก่งโค้ง "พวกเ้าชอบก็ดีแล้ว"
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวด้วยท่าทางตื่นเต้น"พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านปักผ้าเช็ดหน้าได้ดูดีกว่าพี่ิจูมากทีเดียว! ข้าไม่เคยเห็นผ้าเช็ดหน้าที่ดูดีขนาดนี้มาก่อนเลยเ้าค่ะ!นางปักแต่ดอกไม้ใบหญ้า ไม่เคยปักแมวเลย ไม่เคยปักลายแมวที่น่ารักขนาดนี้! "
เซียวจื่อเซวียนก็ชอบมาก"พี่สะใภ้ใหญ่ ดูดีจริงๆ ข้าชอบมากขอรับ! "
เขาชอบจนลืมความเจ็บที่ถูกหลัวซื่อตีไปเลยแย้มรอยยิ้ม แต่กลับกระทบกับแผลตรงมุมปาก เจ็บจนเขาต้องรีบหุบยิ้ม ได้แต่กลั้นรอยยิ้มนั้นไว้
เซี่ยยวี่หลัวได้ฟังวาจาของเด็กสองคนก็ฉุกคิดบางอย่างได้ หากตนเองนำผ้าเช็ดหน้าไปขายในตัวเมืองล่ะ?
ฝีมือการปักผ้าเช็ดหน้าของนางถือว่าธรรมดาแต่แมวที่ปักบนผ้าเช็ดหน้าโดดเด่นไม่เหมือนใคร หากสามารถขายลวดลายเหล่านี้ให้ร้านปักผ้าได้แล้วรับเงินจากการขายลวดลาย ก็ทั้งสะดวกและประหยัดเวลาไม่ใช่หรือ?
นี่ถือเป็หนทางสู่ความร่ำรวยเลยทีเดียว
เซี่ยยวี่หลัวตัดสินใจแล้วจึงลงมือทำทันทีวันรุ่งขึ้นก็พาเด็กสองคนไปในตัวเมืองแต่เช้า
เซี่ยยวี่หลัวพาเด็กสองคนไปเลือกหาร้านขายผ้าหนึ่งร้าน
นางจงใจเลือกร้านขายผ้าที่ค่อนข้างใหญ่ร้านใหญ่มักไม่หลอกลวงลูกค้า ร้านนั้นมีชื่อว่าฮวาหม่านยี ชื่อร้านฟังดูดีมีสง่า หลังจากเข้าไปภายในร้านขนาดใหญ่มีลูกค้าอยู่สี่ถึงห้าคน บ้างก็กำลังวัดขนาดร่างกาย บ้างก็กำลังเลือกผ้า
บนชั้นวางสินค้าด้านหลังมีผ้าหลากหลายสีสันนานาชนิดวางเรียงกันอย่างเป็ระเบียบ ด้านในยังมีการจัดวางดอกไม้สดตามฤดูกาลมองแวบเดียวก็รู้สึกชื่นตาสบายใจ
ขณะเซี่ยยวี่หลัวเดินเข้าไปเถ้าแก่ก็เห็นนางแล้ว
เถ้าแก่ร้านฮวาหม่านยีเป็สตรีผู้หนึ่งมีนามว่าฮวาเหนียง
ฮวาเหนียงเข้ามาทักทายอย่างเป็กันเอง "แม่นางผู้นี้จะซื้ออะไรงั้นหรือ? "
นั่นเป็เพราะเซี่ยยวี่หลัวมีหน้าตางดงามการแต่งตัวก็ไม่ธรรมดา เมื่อนางเข้ามา แม้ฮวาเหนียงอยากมองไม่เห็นยังยากเลย
แม่นางน้อยรูปโฉมงดงามกว่าดอกไม้เสียอีกที่สำคัญคือรูปร่างดูดีด้วย ไม่ว่าจะใส่เสื้อตัวไหนในร้านก็ล้วนแต่ดูดี
เซี่ยยวี่หลัวกวาดสายตามองดูเสื้อผ้าที่ลูกค้าภายในร้านสวมใส่ล้วนแต่เป็เสื้อผ้าหรูหราสง่างาม ผ้าและเสื้อสำเร็จรูปที่วางไว้บนชั้นวางสินค้า ล้วนแต่เป็สินค้าคุณภาพดีเป็ระดับที่คนสวมใส่เสื้อผ้าฝ้ายอย่างนางไม่อาจซื้อได้
แต่ขณะที่เถ้าแก่เนี้ย [1] ผู้นี้มองนางกลับไม่มีท่าทางดูถูกดูแคลนแม้แต่น้อย ทำให้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกว่าที่ตัวเองเลือกร้านนี้ถือว่าเลือกไม่ผิด
เซี่ยยวี่หลัวเดินขึ้นหน้าสองก้าวแย้มรอยยิ้มให้ฮวาเหนียง “เถ้าแก่เนี้ย ข้ามีของอยากขายให้ท่าน! ”
ฮวาเหนียงยังคงแย้มรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นเดิมนางเปิดร้านมาหลายสิบปี เคยผ่านเื่ราวต่างๆ มามากมาย รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวน่าจะมาจากหมู่บ้านละแวกนี้จึงยิ้มพร้อมกล่าว “ได้ แม่นางน้อยจะขายอะไรงั้นหรือ? กล่องบนโต๊ะเก็บเงินของข้า ขายสิ่งของที่รับซื้อมา ไม่ว่าจะเป็ผ้าเช็ดหน้าพื้นรองเท้า ถุงหอม ล้วนมีทั้งหมด! ”
เมื่อสตรีที่แต่งงานแล้วและหญิงสาวจำนวนไม่น้อยปักผ้าเช็ดหน้าหรือถุงหอมที่ดูดีขึ้นมาหรือทำพื้นรองเท้าที่ดูดี ล้วนแต่นำมาขายที่นี่ นางไม่รับถูกขายแพง ให้ราคาตามคุณภาพและลักษณะของสินค้าอย่างมากก็เอากำไรส่วนต่างเพียงสองถึงสามอิแปะเท่านั้น
นางทำการค้าอย่างสุจริตไม่หลอกลวงผู้อื่นจึงมีสัมพันธ์อันดีกับผู้คนเป็วงกว้าง เป็ผู้มีชื่อเสียงอันดีในแวดวงช่างปักผ้าในละแวกนี้
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้มนำผ้าเช็ดหน้าที่ปักให้เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งเมื่อวานออกมา ยื่นส่งให้ฮวาเหนียง“เถ้าแก่เนี้ย ท่านลองดูนี่...”
เดิมทีฮวาเหนียงกำลังจะดูแต่มีลูกค้าคนสำคัญเข้ามาทางประตูพอดี นางจึงไม่ได้ดู เพียงะโเรียก “ถงเต๋อ รับซื้อผ้าเช็ดหน้าของแม่นางท่านนี้ด้วย!”
จากนั้นจึงมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยแววตารู้สึกผิดเล็กน้อยก่อนจะไปรับรองลูกค้าคนอื่น
เื่เล็กแค่นี้ ให้ลูกจ้างดูแลก็พอแล้ว!
เซี่ยยวี่หลัวยื่นส่งผ้าเช็ดหน้าในมือให้ลูกจ้างเมื่อลูกจ้างเห็นว่าเป็ผ้าฝ้ายละเอียด จึงกล่าว “ผ้าเช็ดหน้าที่ทำจากผ้าฝ้ายละเอียดเช่นนี้ปกติจะรับผืนละสามอิแปะ”
พวกเขาจะนำไปขายห้าอิแปะทำตามกฎเกณฑ์เช่นนี้มาตลอด หากขายไม่ออกจริงๆ ก็จะมอบให้สาวใช้หรือหญิงรับใช้สูงวัยที่ซื้อของจำนวนมากเป็ของที่ระลึก
เหล่าคุณหนูและฮูหยินในเรือนใหญ่ย่อมไม่เห็นของเช่นนี้อยู่ในสายตา
เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม“ข้าอยากขายห้าตำลึง! ”
ถงเต๋อเบิกตากว้างจ้องมองเซี่ยยวี่หลัวราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาด น้ำเสียงยังคงเรียบสงบเหมือนเมื่อครู่ “เช่นนั้นท่านคงมาผิดที่แล้วท่านไปหาร้านอื่นเถอะ! ”
เขาไม่ได้ลบหลู่ดูิ่เซี่ยยวี่หลัวทั้งยังกล่าววาจาจากใจกับเซี่ยยวี่หลัว “ราคาที่ท่านเรียกมา ไม่มีร้านไหนรับแน่ หากเจอกับร้านที่ไม่คิดเจรจาด้วยเกรงว่าจะไล่ตะเพิดท่านออกจากร้าน! ”
ตั้งราคาสูงถึงเพียงนั้นเ้านึกว่าเ้ากำลังขายผ้าเช็ดหน้าทอจากเส้นไหมทองคำหรืออย่างไร!
จะขายราคาสูงก็ต้องดูคุณภาพด้วยเพียงผ้าเช็ดหน้าผ้าฝ้ายธรรมดา สามอิแปะถือว่ามากพอแล้ว!
เชิงอรรถ
[1] เถ้าแก่เนี้ย คือคำเรียกหญิงจีนที่เป็เ้าของกิจการหรือเป็ภรรยาของเถ้าแก่