“ท่านอาเล็ก ท่านย่าคือแม่ของท่าน ท่านควรแสดงความกตัญญูต่อนาง รีบนำของออกมาเถิดขอรับ” ซย่าเผิงเฟยส่งเสียงเอะอะมาจากด้านข้างจนซย่าชุนอวิ๋นพูดมิออก
ซย่าเผิงเฟยจะว่าเด็กก็มิเด็ก เขาอายุสิบกว่าขวบแล้ว แต่กลับยังคิดว่าทุกสิ่งที่ได้มา เขามิจำเป็ต้องลงแรง คิดเช่นเด็กมิเอาอ่าว
“ลูกสาวแต่งออกไปกลายเป็ลูกของคนอื่น การแสดงความกตัญญูกับนาง เป็สิ่งที่เ้ากับพ่อของเ้าต่างหากที่ต้องทำ”
“เ้า เ้ามันลูกเนรคุณ” เกาซื่อโกรธจนหน้าดำหน้าแดง นางปรายตาเ็าใส่ซย่าชุนอวิ๋น “ข้าเลี้ยงเ้ามาจนโต เ้าปฏิบัติกับข้าเช่นนี้หรือ?”
“นอกจากให้กำเนิดข้า ท่านเคยให้สิ่งใดกับข้าอีกเล่า ท่านมิชอบข้ามาั้แ่เล็ก ในใจของท่าน ข้าเทียบกับเกาเจินเจินมิได้ด้วยซ้ำ”
ซย่าชุนอวิ๋นคิดว่าเื่นี้น่าขำยิ่งนัก หากทุกคนเห็นแก่ตัวเหมือนแม่ของนาง เช่นนั้นมนุษย์คงสูญพันธุ์ไปนานแล้ว
เกาซื่อเป็แม่ของนางจริงอย่างมิต้องสงสัย แต่นางเคยพยายามทำหน้าที่แม่สักวันหรือไม่?
“พวกคนเลว รังแกท่านแม่ของข้า” หานเอ๋อร์น้อยเห็นเกาซื่อเงื้อมมือจะตีซย่าชุนอวิ๋น นางจึงก้าวเข้าไปผลักเกาซื่อทันที แต่เกาซื่อขยับขาและยกเท้าถีบหานเอ๋อร์น้อยตามสัญชาตญาณ หานเอ๋อร์น้อยถูกถีบเข้าที่อกจนนางล้มหมดสติไปทันที
“ท่านแม่ ท่านใจร้ายยิ่งนัก หานเอ๋อร์น้อยยังเด็กเช่นนี้ ท่านทำลงได้อย่างไร” ซย่าชุนอวิ๋นตกตะลึงกับการกระทำของเกาซื่อ นางมิคิดว่าเกาซื่อจะทำร้ายลูกสาวของนาง นางอุ้มหานเอ๋อร์น้อยขึ้นมาเขย่าตัวอย่างกังวล แต่หานเอ๋อร์น้อยก็ยังมิตื่น
เกาซื่อกับซย่าเผิงเฟยเองก็ตระหนกใเช่นกัน
“ลูกสาว ขอโทษ ข้า ข้ามิได้ตั้งใจ”
“ไสหัวออกไปจากบ้านของข้าเดี๋ยวนี้” หูเหยียนซูเดินออกมาจากลานหลังบ้าน เขาชี้นิ้วไปทางประตูและไล่พวกเกาซื่อออกไป
“สามี ข้าประมาทเอง ข้ามิคิดว่าท่านแม่จะทำร้ายหานเอ๋อร์น้อย” ลูกสาวของนางสลบไสลมิยอมฟื้น ทำให้ซย่าชุนอวิ๋นหวาดกลัวยิ่งนัก นางกล่าวโทษตนเอง เพราะนางประมาท คนร้ายถึงได้ทำสำเร็จ
“พวกเรารีบพานางไปส่งโรงหมอเถิด” หูเหยียนซูเองก็ร้อนใจมากเช่นกัน เขากล่าวแล้วรีบไปเตรียมรถม้าทันที
“ท่านย่า คงมิเกิดเื่ขึ้นกับหานเอ๋อร์น้อยจริงๆ ใช่หรือไม่ขอรับ”
“ท่านแม่เฒ่า หากลูกสาวของข้ามีอันเป็ไป ข้าจะฝังท่านไปด้วยแน่” ซย่าชุนอวิ๋นถลึงดวงตาที่แดงก่ำอย่างอาฆาตใส่เกาซื่อ จนนางสะพรึงกลัว
“ลูกสาวเอ๋ย ข้ามิได้ตั้งใจ เ้าอย่าโกรธเลย นางเพียงแค่หมดสติไปชั่วครู่เท่านั้น มิเป็ไรหรอก”
“ภรรยา ข้าเตรียมรถแล้ว เ้าอุ้มหานเอ๋อร์น้อยขึ้นรถก่อน ข้าจะไปปิดบ้าน แล้วจะรีบมาขับรถ” หูเหยียนซูมิกล้าล่าช้าแม้แต่เค่อเดียว เขาเข้าไปที่ห้องครัวยกหม้อที่อยู่บนเตาลง และรีบเดินกลับไปที่ลานบ้าน
เกาซื่อกับซย่าเผิงเฟยยังยืนอยู่ตรงลานบ้าน หูเหยียนซูหยิบไม้กวาดมาตีไล่พวกเขาให้ออกไป
หูเหยียนซูเร่งความเร็วรถ พวกเขาสามีภรรยามิกล้าหยุดพักระหว่างทาง
แม้ลูกสาวจะยังมีลมหายใจ แต่นางถูกเกาซื่อถีบ คงเจ็บหนักมิเบา!
“หานเอ๋อร์น้อย เ้าลืมตามองแม่หน่อยเถิด”
“ท่านอาเขยเล็ก ท่านร้อนใจเช่นนี้ จะรีบไปที่ใดหรือเ้าคะ?” หูเหยียนซูกับซย่าชุนอวิ๋นบังเอิญเจอกับพวกจิ่นเซวียนระหว่างทาง จิ่นเซวียนบอกซ่งเฉวียนให้หยุดรถ นางจะลงไปดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
“ท่านย่าของเ้าถีบหานเอ๋อร์น้อยจนหมดสติ เซวียนเซวียน เ้าช่วยตรวจให้หานเอ๋อร์น้อยเร็วเข้า” หูเหยียนซูบอกความจริงกับจิ่นเซวียนด้วยสภาพเหงื่อซก เมื่อจิ่นเซวียนได้ยินเช่นนั้น นางก็โกรธจัด
“แม่เฒ่ามิใช่คนแล้ว หานเอ๋อร์น้อยเด็กเพียงนี้ นางทำลงได้อย่างไร” จิ่นเซวียนด่าย่าชั่วร้ายพลางเดินไปที่รถม้าของหูเหยียนซู นางอยากดูอาการของหานเอ๋อร์น้อย
“ภรรยา เ้ามิต้องกังวล หานเอ๋อร์น้อยจะมิเป็ไร” ซ่งจื่อเฉินก็ลงจากรถเช่นกัน เขาเดินไปจับชีพจรของหานเอ๋อร์น้อยด้วยตนเอง เวลานี้ชีพจรของนางเต้นมิเป็ระเบียบ อันตรายถึงชีวิต โชคดีที่หานเอ๋อร์น้อยพบกับพวกเขาก่อน มิเช่นนั้นคงได้ตายจริงๆ แน่
“จื่อเฉินเอ๋ย หานเอ๋อร์น้อยเป็อย่างไรบ้าง?” ซย่าชุนอวิ๋นถามซ่งจื่อเฉินอย่างวิตก ซ่งจื่อเฉินบอกนางว่าหานเอ๋อร์น้อยาเ็ภายใน โชคดีที่บังเอิญพบพวกเขาก่อน มิเช่นนั้นหากส่งไปในเมือง หานเอ๋อร์น้อยคงมิรอด
“ท่านอาเล็ก หานเอ๋อร์น้อยยังมิได้สติ ข้าป้อนยาให้นางมิได้ ท่านดื่มยาน้ำนี้เข้าไป แล้วใช้ปากป้อนให้นางเถิดเ้าค่ะ”
จิ่นเซวียนหยิบขวดน้ำศักดิ์สิทธิ์ส่งให้ซย่าชุนอวิ๋น เพื่อให้นางป้อนให้หานเอ๋อร์น้อย
“สีหน้าของหานเอ๋อร์น้อยดีขึ้นแล้ว ท่านมิต้องกังวลนะเ้าคะ” หลังซย่าชุนอวิ๋นป้อนน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้หานเอ๋อร์น้อย สีหน้าของนางก็ค่อยๆ กลับมาเป็ปกติ
เมื่อพวกซ่งเฉวียนรู้เื่ราวทั้งหมด พวกเขาก็โกรธยิ่งนัก บนโลกนี้มียายอำมหิตเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ น่าใจริงๆ
“ท่านแม่ น้องสาวผู้นั้นคงมิเป็ไรนะเ้าคะ” ซ่งหยวนหยวนมุงดูอาการของหานเอ๋อร์น้อย ซย่าตงชิงแก้คำเรียกขานให้นาง
“เ้าเรียกนางว่าน้องสาวมิได้หรอก แม่ของนางคือท่านอาเล็กของข้า เ้าต้องเรียกนางว่าท่านน้าเล็ก”
“ข้าจะจำไว้เ้าค่ะ” ซ่งหยวนหยวนมิคิดว่าลำดับาุโในครอบครัวของหานเอ๋อร์น้อยจะสูงเช่นนี้
รอประมาณครึ่งชั่วยาม หานเอ๋อร์น้อยก็ฟื้นคืนสติ เมื่อครู่นี้ใจของหูเหยียนซูและซย่าชุนอวิ๋นแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา
หานเอ๋อร์น้อยนอนอยู่ในอ้อมกอดของหูเหยียนซู นางร้องไห้อย่างเ็ป เมื่อได้ยินนางร้องไห้ จิ่นเซวียนก็ใจสลาย เด็กตัวเล็กๆ เช่นนี้ จะทนรับหมัดรับเท้าของผู้ใหญ่ได้อย่างไร
ย่าชั่วร้ายมิใช่คนแล้ว พฤติกรรมของนางไร้ยางอายเกินไปจริงๆ
“หานเอ๋อร์น้อย ข้าคือพี่สาวเอง เ้ายังจำข้าได้หรือไม่?” จิ่นเซวียนจับมือของหานเอ๋อร์น้อย เอ่ยปลอบโยนและช่วยเช็ดน้ำตาให้นาง
“พี่สาว คนเลวถีบข้า ข้าเจ็บตรงนี้มากเลยเ้าค่ะ” หานเอ๋อร์น้อยคลำตรงหัวใจ น้ำตานองหน้าฟ้องจิ่นเซวียน นางร้องไห้จนหูแดงก่ำ ทำให้ผู้ที่พบเห็นปวดใจยิ่งนัก เกาซื่อลงมือกับเด็กตัวเล็กๆ เช่นนี้ได้ ช่างโเี้นัก
“เซวียนเซวียน ท่านย่าของเ้าโเี้เกินไปแล้ว ข้าตัดสินใจจะตัดความสัมพันธ์กับนาง จากนี้เป็ตายร้ายดีอย่างไรก็มิต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก” หูเหยียนซูพูดอย่างจริงจัง หากมิมีเื่ของหานเอ๋อร์น้อย เขาก็ยังพอนับเกาซื่อเป็แม่ยายต่อได้ แต่ลูกสาวของเขาถูกนางทำร้ายจนเกือบตาย เขารับความจริงข้อนี้มิไหวจริงๆ
มิว่าภรรยาของเขาจะเห็นด้วยหรือไม่ เขาจะตัดขาดกับเกาซื่อ
“ท่านอาเล็ก ความเห็นของท่านเล่าเ้าคะ?” จิ่นเซวียนมองออกว่าท่านอาเขยเล็กของนางรู้สึกผิดหวังยิ่งนัก นางจึงอยากฟังความเห็นของท่านอาเล็กด้วย
“ข้ามิมีแม่ที่ใจดำอำมหิตเช่นนี้ ั้แ่เล็กจนโต นางก็มิได้ชอบข้าอยู่แล้ว จะมีหรือมิมีนาง ย่อมมิต่างกัน” ซย่าชุนอวิ๋นเลือกยืนข้างสามี นางมิชอบแม่ของนางเช่นกัน ต่อให้เกาซื่อจะเป็แม่ของนาง แต่แล้วอย่างไรเล่า คลอดแต่มิเลี้ยง สู้มิคลอดออกมาเลยมิดีกว่าหรือ นางยินดีให้เกาซื่อบีบคอนางให้ตายไปในห่อผ้าอ้อมั้แ่เล็กยังดีเสียกว่า
“ภรรยา ย่าของเ้าเลือกปฏิบัติเช่นนี้ หากนางรู้ว่าเ้ามีอาจารย์หมอเทวดา นางอาจจะสร้างปัญหาให้เ้าได้ เ้าต้องเตรียมใจให้ดี” ซ่งจื่อเฉินกังวลว่าพวกเขากลับไปเยี่ยมบ้านของภรรยาหนนี้ จะทำให้ท่านแม่เฒ่ามิพอใจ
“มิไปบ้านนางแล้ว เอาของขวัญที่เตรียมไว้ไปมอบให้ท่านปู่หัวหน้าตระกูลกันเถิด” จิ่นเซวียนเองก็โกรธมากเช่นกัน หากย่าชั่วร้าย้าสร้างปัญหาก็ปล่อยไป นางมิมีค่าพอให้ไปพูดไร้สาระด้วยหรอก
“ข้าคิดว่าพวกเรามิควรไป มันมิใช่ความคิดที่ดีเท่าใดนัก ถึงอย่างไรนางก็เป็ย่าแท้ๆ ของเ้า ทั้งยังมีพ่อที่ตบตายากของเ้าอีก” ซ่งจื่อเฉินเข้าใจความรู้สึกของจิ่นเซวียน มีย่าชั่วร้ายเช่นนี้ ช่างโชคร้ายยิ่งนัก
โชคดีที่เขาสลัดแม่เลี้ยงน่ารังเกียจออกไปแล้ว จากนี้เขาจึงมิต้องทนมองนางยืมจมูกผู้อื่นหายใจอีก
“เช่นนั้นก็นำขนมสองกล่องนี้ไปหานางเถิด” จิ่นเซวียนตัดสินใจนำองุ่นป่าไปให้หัวหน้าตระกูล หัวหน้าตระกูลเป็ผู้มีคุณธรรมและบารมีที่สูงที่สุดของตระกูลซย่า และท่านย่าชั่วร้ายของนางก็ขวางหูขวางตาเขาเช่นกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้