หวงหนิวยิ้มแฉ่ง เพราะมันแค่ไปคอมเมนต์ใน เว็บ ‘รูปเห่ยๆ’ มาทางนี้ แค่สองสามคำ ก็ดึงดูดผู้คนอย่างล้นหลามมากดไลก์ให้มัน
เห็นอย่างนี้ โจวเฉวียนก็หัวใจจะวาย มันสุดจะทานทนจริงๆ
“พวกคุณไม่รู้หรอก ว่าเื้ัเครื่องมือสื่อสารนั่น เป็วัว เป็คน หรือเป็ตัวประหลาดอะไร!”
นี่เป็ข้อความที่โจวเฉวียนแปะไว้ใต้รูปพวกนั้นด้วยความเคียดแค้นถึงขีดสุด
“เข้าใจความปวดร้าวนี้เลย”
มีคนตอบคอมเมนต์เขาหลังไมค์ นั่นถึงกับทำให้ตาอ้วนโจวน้ำตาแทบเล็ด นี่สิถึงจะเป็ความเข้าอกเข้าใจถึงน้ำตาที่กลั่นออกมาเป็สายเือย่างแท้จริง นี่มันความในใจเขาเลย
สุดท้าย เขาไล่ส่องมันโดยละเอียด ก็พบว่าชื่อของคนที่เข้าไปเขียนข้อความก็คือ ท่านหวงหนิว
“อั่ก!”
ครั้งนี้ โจวเฉวียนเหลือทนแล้วนั่น แค่อ้าปากก็พ่นไฟพรวด เขาโมโหจนแทบจะลมจับ ช่างเป็วัวที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!
ต่อมา ทั้งหู ทั้งจมูกของเขาเริ่มพ่นควัน ลมร้อนๆ คุกรุ่น พลุ่งพล่าน แทบจะพ่นออกมาจากทวารทั้งเจ็ด
หวงหนิวเข้าไปคอมเมนต์ แน่นอนย่อมคึกคักกันอย่างมาก ผู้คนเข้ามาคอมเมนต์กันยาวเหยียด พริบตาก็กลายเป็กระทู้ร้อนแรง
“ขายหน้าโว้ย ขายหน้าชะมัด!” โจวเฉวียนแหงนหน้าะโก้อง
ฉู่เฟิงประหลาดใจ เอ่ยถาม “แปลกแฮะ โจวเฉวียนพลังของนายเพิ่มขึ้นนิดหน่อยนะ ฉันรู้สึกว่านายพ่นไฟออกมาได้รุนแรงขึ้น”
บนพื้นดิน แผ่นดินแถบหนึ่งละลายกลายเป็ของเหลวข้นสีแดงสดเดือดปุดๆ ก่อให้เกิดกลิ่นไข่เน่าแสบจมูก
โจวเฉวียนหลอมพื้นดินบนเขาแถบหนึ่งกลายเป็ลาวาร้อนแรง!
หวงหนิวผงกหัว รับรู้ว่าโจวเฉวียนมีความก้าวหน้า
อย่างนี้ก็ได้ด้วยเหรอ? ฉู่เฟิงพูดไม่ออก ด้วยการกระตุ้นอย่างนี้ ทำให้เปลวเพลิงที่โจวเฉวียนพ่นออกมาเพิ่มความร้ายกาจขึ้นอีกขั้น
หวงหนิวเขี่ยพื้น ในเผ่าพันธุ์ของพวกมัน พลังที่ะเิออกมาด้วยโทสะจะยิ่งร้ายกาจ เป็การกระตุ้นพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ให้ปลดปล่อยออกมาได้มากกว่ายามปรกติ
“แล้วจะอยู่ตัวไหม?” ฉู่เฟิงถาม
“กระตุ้นอีกสักครั้ง ก็น่าจะนิ่งแล้ว” หวงหนิวตอบ
ยังจะกระตุ้นอีกเหรอ? โจวเฉวียนตอนนี้บ้าไปแล้ว
หวงหนิวไม่ใจสนแม้แต่น้อย สักนิดเดียวก็ไม่มี มันเดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้างโจวเฉวียน ทำเอาเส้นเืที่ขมับเขาแทบจะะเิ
จากนั้น หวงหนิวสะกิดโจวเฉวียน ชี้ให้เขาดูยอดวิวของรูปพวกนั้น
“แปดแสนแล้ว!?” โจวเฉวียนแผดเสียง นี่เป็เพราะกระทู้ถูกปักหมุดอยู่นานแน่ๆ จะแตะหลักล้านอยู่แล้ว
วินาทีต่อมา เขาถูกกระตุ้นแรงไปหน่อย ไม่ใช่แค่ปากเท่านั้นที่พ่นไฟออกมา แต่หูกับจมูก อีกทั้งั์ตาทั้งสองล้วนมีเปลวเพลิงพวยพุ่งร้อนแรง
จากนั้น เขาก็กลายร่างเป็มนุษย์เพลิง ร่างทั้งร่างแดงฉาน ควันหนาคละคลุ้ง พออ้าปากเปลวเพลิงร้อนแรงก็พวยพุ่ง พอเปล่งเสียงก็เกิดแสงไฟ มันน่ากลัวจริงๆ
“อ๊ากกก...”
โจวเฉวียนกู่ร้อง ปลดปล่อยเพลิงโทสะเริงแรง
“ได้ละ!” หวงหนิวถอยกรูด แล้วเขี่ยตัวอักษรบนพื้น
ผ่านไปเนิ่นนาน บริเวณนี้จึงสงบลง พื้นดินที่เลี่ยนโล่งกลายเป็หินหลอมเหลวที่ตอนนี้เย็นตัวลงแล้ว จับตัวเป็ูเาหินลาวาแทน
ฉู่เฟิงเดินข้ามไปหาโจวเฉวียน ตบบ่าเขาแล้วบอกเขาว่าได้เวลากลับกันแล้ว
“ความแข็งแรงก้าวหน้าขึ้น ยิ่งเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งแกร่งขึ้น” ฉู่เฟิงบอกโจวเฉวียนว่า ความแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่งแล้ว
หวงหนิวก็ฉีกยิ้มเดินเข้ามา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใส่ความเหยียดเข้าไปด้วย เป็เพราะรูปของโจวเฉวียนทำให้มันรู้สึกตัวลอยจากคำอวยของคนอ่าน ข้ามแม่น้ำแล้วทำลายสะพานทิ้งก็ไม่ได้อ่ะนะ?
ูเาไท่หังซานกว้างใหญ่ไพศาล ครอบคลุมพื้นที่กว้างไกล ยอดเขาสูงนับไม่ถ้วน
ทันใดนั้น หวงหนิวชะงัก หูตั้งชัน ั์ตาเขม้นมองไปข้างหน้า
“หยุด!”
ฉู่เฟิงเองก็ร้องบอก สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย คว้าลากโจวเฉวียนไปหลบอยู่หลังก้อนหินใหญ่ทันที
“ทำไม?” โจวเฉวียนยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ถูกฉุดกระชากอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ตื่นตูม นึกว่ามีสัตว์ร้ายอันตรายอะไรอยู่ใกล้ๆ
“ข้างหน้ามีอันตราย นายซ่อนอยู่ตรงนี้ให้ดี!” ฉู่เฟิงบอก เขาเพ่งไปที่แนวป่า ั์ตาทอประกายคมปลาบอย่างกับจะเชือดคนได้
เขาปรับสีหน้าราบเรียบ เสียงชิ้งดังขึ้นตอนเขาดึงกระบี่สั้นสีดำออกมา
โจวเฉวียนสะดุ้ง ระวังตัวในทันที ความสงสัยวนเวียน เพราะตอนที่ฉู่เฟิงต่อสู้กับนกั์ดุร้ายในูเาานั่น ยังไม่เห็นเขาชักกระบี่ออกมาเลย ยามนี้กลับเครียดขมึงเช่นนี้
“ฉันจะช่วยนาย!” โจวเฉวียนกลัวก็กลัว แต่ว่าไม่อยากถอยหนี เกาะติดคอยช่วยเหลือ
“ไม่ต้อง รอฉันตรงนี้ดีกว่า ห้ามออกไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่มีสมาธิ” ฉู่เฟิงกำชับ
พูดจบ แค่ขยับร่างเขาก็หายตัว ไปโผล่อีกทีที่ระยะห่างออกไปหลายร้อยเมตร สำหรับเขาแล้ว แค่ไม่กี่วินาทีก็ไปถึงตรงนั้น มันเป็การทำลายขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์แล้ว
เขาลุยเดี่ยว ไม่ได้พาหวงหนิวไปด้วย
ลึกลงไปในลูกั์ตาฉู่เฟิงส่งประกายเย็นเยียบ จากจุดนั้นเขาค่อยๆ ย่าง ประหนึ่งเสือชีตาห์ เงียบงันไร้สำเนียง คืบคลานแอบแฝงเข้าไปในป่ารกชัฏ
เขาเห็นคนกลุ่มหนึ่งจำนวนไม่น้อย เครื่องแต่งกายจัดเต็ม กระจัดกระจายอยู่ในป่า ยึดชัยภูมิคุมเชิงอยู่บนเส้นทางที่เขาจำต้องผ่าน
ปากกระบอกปืนมืดดำซุ่มอยู่ในกอหญ้า เย็นเยียบ ทว่าน่ากลัว มันเป็เครื่องมือสังหารคน
“มาจริงๆ ด้วยแฮะ!”
ลูกั์ตาของฉู่เฟิงเย็นเยือก เขาทิ้งข้อความไว้ที่บ้านอย่างนั้นแหละ แต่กลับมีคนตามมาจริงๆ แถมยกมาทั้งทีมเสียด้วย
จำนวนคนน่าจะหลายสิบ พร้อมอาวุธอย่างดี ปืนรุ่นใหญ่ทั้งนั้น ถ้าโดนเข้ามีหวังหายไปครึ่งตัวแน่นอน
ฉู่เฟิงเมื่อสำเร็จหมัดปีศาจวัว ประสาทััเฉียบคม ต่อให้อยู่ห่างไกลก็ััได้ถึงจิตสังหารรุนแรง งานนี้ถ้าบุ่มบ่ามบุกเข้าไป เื่รอดชีวิตนั้นไม่ต้องพูดถึง
ตอนนี้ เขารู้สึกได้เลยว่าประโยชน์สูงสุดที่ได้รับจากการฝึกมวยก็คือประสาทัั ลางสังหรณ์จากสัญชาตญาณที่เกิดขึ้น ช่วยให้เขารับรู้ล่วงหน้าได้ถึงอันตราย และเตรียมการป้องกันได้ทันการ
คนพวกนี้ล้วนแต่ไม่ธรรมดา ซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย แต่ละคนอย่างกับหินแกะสลัก แววตาเย็นเยียบ เป็พวกฝีมือดีที่เห็นเืมานักต่อนัก
“ให้เกียรติกันจริงๆ เอาบาซูก้ามาซะด้วย!”
ลูกั์ตาฉู่เฟิงดำลึก ไอสังหารเพียงนิดก็ไม่มีเล็ดลอดออกมา เขาเห็นอย่างชัดเจน ด้วยอาวุธทรงอานุภาพร้ายแรงอย่างนั้น หากโดนเข้าไปเต็มๆ ย่อมไม่ตายดีอย่างแน่นอน
เขาซ่อนตัวอยู่ในป่า ค่อยๆ ใช้ััค้นหา เพื่อจะดูว่ามีกี่คนกันแน่ และซ่อนตัวอยู่ตรงไหน
พวกมือดีที่ถืออาวุธร้ายแรงมีทั้งหมดสี่สิบสองคน นอกจากปืนไรเฟิลแล้วก็มีบาซูก้าอีกสิบกระบอก ต่อให้เป็รถถังก็พรุนได้
อย่าว่าแต่คนธรรมดา ต่อให้เป็ยอดฝีมือของมนุษย์พิเศษก็มีสิทธิ์ถูกถล่ม
นี่มันชุดใหญ่เลยนะเนี่ย!
ถ้าทะเล่อทะล่าออกไป รับรองไม่ได้ตายดีแน่
นอกจากนี้ ฉู่เฟิงยังพบว่ามีมนุษย์พิเศษอีกสองคน พวกเขาน่าจะตื่นรู้พร้อมกัน เนื่องเพราะมี่แขนสีทองเหมือนกัน
เดาได้ว่า พวกเขากินลูกไม้ลึกลับชนิดเดียวกัน
เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ฉู่เฟิงััได้ถึงไอสังหารที่พลุ่งพล่านรุนแรง ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วเรอะ เพื่อที่จะช่วยแบทแมนกับไอ้แมงมุมที่ถูกจับ ถึงกับคิดจะฆ่าเขา!
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ลงมือ หากไม่ใช่เพราะฝีมือเขาเข้าขั้น มีหวังถูกหยามเหยียดเดียดฉันท์ สุดท้ายก็คงกลายเป็ซากศพเย็นชืดที่ถูกเธอดูถูกดูแคลน
“ขนกำลังคนมาเท่าไหร่ ฉันก็จะกำจัดมันเท่านั้นแหละ เอาให้เจ็บจนลืมไม่ลงเลย” ฉู่เฟิงกดเสียงต่ำ
จากนั้น เขาก็เริ่มลงมือ
เขาไปยังด้านหลังูเาหิน การเคลื่อนไหวแ่เบาเหมือนใบไม้ปลิดปลิว เหวี่ยงหมัดเข้าที่ท้ายทอยของสองคนที่ซุ่มอยู่ มือดีสองคนสลบเหมือดโดยไม่มีเสียงเล็ดลอดสักแอะ
ฉู่เฟิงแฝงตัวเข้าไปในป่า ไร้สุ้มเสียง เยือกเย็น
ในเวลาไม่นาน เขาทยอยเก็บไปร่วมยี่สิบคน เงียบเชียบ ไม่มีใครรู้สึกตัวเลยสักคน
ทันใดนั้น ตอนที่เขากำลังสอยคนที่ยี่สิบสองก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ด้วยจิตััพิเศษ คนคนนั้นพลันหันมา ั์ตามีแสงสีทองเรืองรอง
มนุษย์พิเศษ!
มือดีคนนี้แต่งตัวครบเครื่อง ในมือมีอาวุธปืนแท้จริงแล้วไม่ใช่คนธรรมดา หากเป็มนุษย์พิเศษแฝงตัวมา ในวินาทีสุดท้ายนั้นเขาััได้ถึงอันตราย
“แก...” เขาตระหนกอย่างยิ่งที่มีคนเข้าถึงตัวเขาในระยะใกล้ได้ถึงเพียงนี้ แทบจะแตะตัวเขาได้เลยทีเดียว
“โครม!”
ฉู่เฟิงมือซ้ายกำหมัด มือขวากุมกระบี่ เพียงแค่ยืดตัวก็พุ่งขึ้นโจมตี เกือบจะปลิดชีวิตเขาได้อยู่แล้ว
ในพริบตาเท่านั้น มนุษย์พิเศษผู้นี้ทั่วร่างพลันเปล่งแสง จากนั้นก็ปรากฏเกล็ดสีทองขึ้นหนึ่งชั้น ปกคลุมทั้งส่วนบนส่วนล่าง แม้แต่ใบหน้าก็เช่นกัน
มองดูแล้ว อย่างกับว่าเขาเป็สัตว์ประหลาดเสียงั้น!
ปฏิกิริยาโต้ตอบเขารวดเร็ว หลบพ้นการจู่โจมเอาชีวิตของกระบี่สั้นสีดำที่ปาดเข้าตรงลำคอ แต่ว่าไม่อาจหลบพ้นหมัดซ้ายของฉู่เฟิง จึงถูกจู่โจมที่บริเวณทรวงอก
เสียงปึ้กดังขึ้นเหมือนกระแทกเข้ากับต้นไม้แห้งๆ พลังป้องกันของเขาช่างน่าใ ถึงแม้จะมีเืซึมที่มุมปาก แต่เพราะการจู่โจมนี้ เขาจึงะโถอยฉากออกห่าง
“เป้าหมายปรากฏตัว อยู่ตรงนี้!” เขาะโลั่นสนั่นไปทั่วป่า
การจู่โจมคือการป้องกันที่ดีที่สุด นี่เป็สิ่งที่ฉู่เฟิงเลือก เขาะโรวดเร็วว่องไวดั่งนกล่าเหยื่อ พุ่งเข้าโจมตีมนุษย์พิเศษคนนั้น
เสียงปืนดังสนั่น แสงไฟะเิลงตรงจุดที่เขาปรากฏตัวขึ้นเมื่อครู่ ก้อนหินต้นหญ้าแถบนั้นถูกทำลายราบ
พร้อมกันนั้น ฉู่เฟิงก็ไล่ตามเป้าหมาย
เสียงดังสนั่น หมัดของเขาส่องแสง ใส่พลังเต็มที่แล้วชกออกไป หมัดรุนแรงราวกับพายุหิมะ พลังอันน่ากลัวแผ่กระจาย
ตึง!
มนุษย์พิเศษคนนั้นยังไม่ทันร่วงก็ถูกฉู่เฟิงไล่ตาม กระแทกหมัดเข้าที่กลางหลัง ยุบลงไปทั้งหมัด ถึงแม้เกล็ดสีทองจะเหนียวทนทาน หากก็ไม่สามารถสลายพลังได้ทั้งหมด
มนุษย์พิเศษคำรามในคอ กระดูกหัก แต่ทว่าการป้องกันของเขาแกร่งกว่ามนุษย์พิเศษคนอื่นๆ จึงยังไม่ถึงฆาต พอตกลงถึงพื้นก็พลิกตัวหนีทันที
ปุ!
ในตอนนั้น กระบี่สั้นสีดำของฉู่เฟิงก็บินมาทัน รวดเร็วดุจสายฟ้าสีดำ ถึงแม้ประสาทััเขาจะว่องไว แต่ก็ยังโดนเข้าจนได้
เขาหลบอย่างเฉียดฉิว ทว่าแขนข้างหนึ่งถูกกระบี่สั้นคมกริบเฉือนจนแทบจะสะบั้นแขนเขาไปทั้งข้าง เืสดๆ ไหลริน ก้อนเนื้อห้อยย้อย
การสูญเสียครั้งนี้รุนแรง มนุษย์พิเศษร้องโหยหวน ใบหน้าบิดเบี้ยว เกล็ดสีทองทั่วร่างพลันอับแสง
ตึง!
พร้อมกันนั้น ฉู่เฟิงกวาดขาออกไป เตะเข้าที่ศีรษะของเขาส่งให้ร่างลอยไปกระแทกกับหินั์หนักร่วมตัน แล้วรูดลงไปกองกับพื้น แน่นิ่งไม่ไหวติง
วินาทีต่อมา ฉู่เฟิงก็หายตัวไปจากตรงนั้น
ะุสารพัดชนิดดุจห่าฝน ซัดลง ณ ตำแหน่งนั้น สะเก็ดไฟท่วมทั่ว
ตามด้วยเสียงะเิสนั่น ทั้งป่าเต็มไปด้วยแสงไฟ หินั์ก้อนแล้วก้อนเล่ากลายเป็ผุยผง ต้นไม้สูงตระหง่านไม่น้อยหักสะบั้น ใบไม้ปลิวกระจาย
มีคนยิงบาซูก้าเข้าไปถล่ม
ประหนึ่งไดโนเสาร์ที่ตื่นจากการหลับใหล ฉู่เฟิงยอบตัวลง พุ่งผ่านกลางป่าไปอย่างรวดเร็วว่องไว หลบหลีกลูกะุ ระหว่างนี้เขาก็สอยร่วงไปอีกสามคน
“ทางนั้น ถล่มมัน!” เสียงคนะโ
เปรี้ยง!
แสงไฟท่วมฟ้า หินผาถล่มทลาย ต้นไม้ั์โค่นล้มไปทั้งแถบ แผ่นดินสะท้านภูผาะเื สายควันพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า
วินาทีนั้น แสงไฟไม่ขาดตอน เปลวเพลิงเริงแรงแผดเผา ต้นหญ้าแถบนั้นถูกเผาจนเหี้ยนเตียน
อานุภาพของปืนไฟร้อนแรง!
ห่างออกไป โจวเฉวียนตาค้างปากค้าง แข็งเป็หินไปทั้งตัว นี่เขากำลังดูอะไรอยู่? อาวุธปีนที่ทรงอานุภาพร้ายแรงเชียวนะ ทั้งหมดส่องไปที่ฉู่เฟิง
ตูม!
ยอดเขาขนาดย่อมที่อยู่ตรงนั้นถูกทำลายราบคาบ
สำหรับโจวเฉวียนแล้ว วันนี้ช่างเป็วันอันหนักหน่วง ั้แ่หนังป่าเถื่อนไปจนหนังสยองขวัญ ขนาดเขาไม่ใช่คนขวัญอ่อนยังถึงกับตัวสั่นเทา
“เร็วเข้า ช่วยฉู่เฟิงเซ่!” โจวเฉวียนแตกตื่น ถลาไปทางหวงหนิว ร้องด้วยเสียงอันดัง
หวงหนิวนิ่งเฉย อาการบ่งบอกว่าไม่เป็กังวลแต่อย่างใด
ในป่า พื้นดินดำเป็ตอตะโกไปแถบจากการะเิของปืนบาซูก้า ทั่วบริเวณร้อนระอุ แห้งผากเป็ผุยผง
ทว่า ก็ยังคงไม่อาจสอยเป้าหมายให้ร่วงได้ มีเสียงร้องโหยหวนอย่างต่อเนื่อง หรือไม่ก็เปลวไฟในบางจุดดับมอดลงอย่างประหลาด
ชัดเลยว่า มีคนถูกเก็บ!
สุดท้าย แสงไฟทั้งหมดก็ดับลง ความเงียบกลับคืนมาอีกครั้ง ป่าทั้งป่าเงียบงันวังเวง
“คิดหนีเรอะ!” ฉู่เฟิงะโ พลันไล่ตาม ทิ้งเงาไว้ด้านหลัง เพียงห้าหกวินาทีก็พุ่งไปไกลกว่าร้อยเมตร เขาดักไว้ได้สามคน
ทั้งหมดเป็มนุษย์พิเศษ ทั้งยังมีความสามารถประเภทเดียวกัน ฝ่ามือส่องแสงสีทองระเรื่อ ตอนนี้พวกเขาเปล่งแสงสว่างไสว ทั่วทั้งร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทอง
ฉู่เฟิงรู้ทันที ครั้งนี้มีมนุษย์พิเศษทั้งหมดสี่คน สองในนั้นปลอมตัวปนเปไปกับคนธรรมดา ที่ถืออาวุธปืนที่เขาเพิ่งสอยร่วงลงไปหนึ่ง
ตอนนี้ มนุษย์พิเศษทั้งสามคิดจะหลบหนี
หากเป็ตามที่เขาคิดไว้ มนุษย์พิเศษพวกนี้กินลูกไม้ประหลาดจากที่เดียวกัน มีพลังพิเศษประเภทเดียวกัน พลังมหาศาล การป้องกันแข็งแกร่งจนน่าใ
เมื่อร่างกายของพวกเขาปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทอง ลูกะุธรรมดาย่อมทำอะไรไม่ได้
ทว่าตอนนี้ พุ์พิเศษทั้งสามเผชิญหน้ากับฉู่เฟิง ก็เกิดอาการหวาดกลัว ไม่เห็นเหรอขนาดใช้บาซูก้ายิงถล่มเมื่อกี้ หมอนี่ยังรอดมาได้เลย
ยังไงพวกเขาสามคนก็ไม่สามารถทำอย่างนี้ได้!
เสื้อผ้าของฉู่เฟิงขาดวิ่นเล็กน้อย ทว่าทั่วร่างไร้ซึ่งร่องรอยาเ็โดยสิ้นเชิง
ปัง!
ทันใดนั้น มนุษย์พิเศษหนึ่งในนั้นเหนี่ยวไกปืนสังหาร ฉวยจังหวะที่ฉู่เฟิงไม่ทันระวังตัว น่าเสียดายที่พลาด ะุพุ่งใส่เงาดำ วินาทีต่อมา เขาก็ถูกตะบันหน้าจนตัวลอย พลันหน้ามืดตามัว ต่อให้เกล็ดกิเลนวิเศษคุ้มกาย เขาก็ไม่อาจต้านรับได้ เืซึมกบปาก พอร่างกระแทกพื้นก็สลบเหมือด
อีกสองคนพอได้เห็นสถานการณ์ก็ถึงกับสิ้นหวัง พวกเขาเรียกได้ว่าเป็ผู้ที่แข็งแกร่งในกลุ่มมนุษย์พิเศษ จับมือกันปฏิบัติภารกิจ ทว่าต่อหน้าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับไม่อาจต้านทานได้!
ที่จริงแล้ว ฉู่เฟิงเองก็ลอบตระหนกอยู่ในใจ เขาทุ่มพลังไปทั้งหมด ยังทำได้เพียงแค่ให้พวกเขาหมดสติ หากเป็มนุษย์พิเศษคนอื่นล่ะก็ ถูกหมัดของเขาทะลวงร่างไปนานแล้ว
“ฆ่ามัน!”
ที่เหลืออีกสองคนฮึดสู้ตาย
บนเขา เสียงลมหวีดหวิวรุนแรง แสงสีทองเจิดจ้า คนประหลาดสองคนที่แม้แต่ใบหน้าก็ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทองเข้าแลกชีวิตกับฉู่เฟิง
ทว่าน่าเสียดาย ไม่มีความเห็นใจใดๆ คนทั้งสองล้วนถูกอัดจนกระอักเลือก นอนสิ้นสติอยู่บนพื้น
โจวเฉวียนวิ่งออกมา กระหืดกระหอบ มองดูป่าที่ถูกทำลายไปเป็แถบ แล้วหันกลับมามองคนสิบกว่าคนที่นอนแผ่อยู่กับพื้น ใบหน้าซีดเผือด เอ่ยว่า “นายฆ่าทิ้งหมดเลยเหรอ?”
“ฉันจะไปโหดอย่างนั้นได้อย่างไร? ไม่ตายสักคน” ฉู่เฟิงท่าทางชิลๆ
โจวเฉวียนถอนใจพรืด แต่แล้วก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที คนพวกนี้กะเล่นงานฉู่เฟิงถึงตายเชียวนะ จำนวนมากขนาดนี้ แล้วจะจัดการอย่างไรดีล่ะ?
คำพูดของฉู่เฟิงต่อมาทำเอาเขาสะดุ้ง
“ยังไม่มาช่วยกันอีก มาช่วยกันโยนเข้าไปในูเาาเร็ว” ฉู่เฟิงร้องบอกหวงหนิวกับโจวเฉวียน
โจวเฉวียนยิ้มแหย เป็รอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าทำหน้าร้องไห้ ถามว่า “โยนเข้าไปหมดเลยเหรอ?”
“หรือจะทิ้งไว้ให้พวกนี้มาตามไล่ฆ่าฉันล่ะ?” ฉู่เฟิงถาม พลางเดินหาเถาวัลย์มามัดรวมพวกที่สลบเข้าด้วยกัน
ขุนเขากลับมาสงบเงียบอีกครั้ง
ทว่า ลึกเข้าไปในป่าา เสียงสัตว์ป่าร้องคำรามไม่หยุดหย่อน
“แล้วจะทำอย่างไรกับของพวกนี้ดี?” โจวเฉวียนชี้ไปที่ปืนบาซูก้าพวกนั้น
“ซ่อนไว้ก่อนดีกว่า ฉันต้องใช้!” ฉู่เฟิงตอบ แววตาทอประกายที่อ่านไม่ออก เขาเกิดความคิดฆ่าฟัน
สุดท้าย พวกเขาเดินทางกลับ โดยส่งโจวเฉวียนที่สะโหลสะเหล ใบหน้าซีดขาวราวกับหิมะกลับอำเภอเมืองก่อน
“่หลายวันนี้ นายก็นั่งทำใจ สงบสติอารมณ์อยู่ที่บ้านก่อน อย่าออกไปไหนนะ แล้วก็ห้ามไปหาฉันเด็ดขาด!” ฉู่เฟิงกำชับ
โจวเฉวียนพยักหน้ารับคำรัวๆ เขาอยากอยู่อย่างสงบ สำหรับเขาแล้ว เื่วันนี้มันน่าหวาดเสียวเกินไปแล้ว
หัวค่ำ ฉู่เฟิงอ่านหนังสือเงียบๆ ระหว่างนั้น เครื่องมือสื่อสารดังขึ้นหลายครั้ง แต่เขากลับไม่สนใจ
อ่านหนังสือเสร็จ เขาหยิบแผนที่ออกมากาง ศึกษาอย่างละเอียด มันเป็แผนที่ของจั่วจวิ้นที่เขาคัดลอกเก็บไว้
“หวงหนิว พรุ่งนี้พวกเราขึ้นไปบนเขากัน ไปหาผลไม้ให้แกกินไง!” ฉุ่เฟิงบอกหวงหนิว
อีกพักต่อมา เสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นอีก ยังคงเป็คนผู้นั้น เธอโทรหาเขาตลอดทั้งเย็น
ฉู่เฟิงหาวหวอด รู้สึกง่วงหน่อยๆ แล้วจึงหยิบเครื่องมือสื่อสารมารับสาย
“ฉู่เฟิง! เสียงผู้หญิงลอยมาตามสาย
“ผมเอง”
พอได้ยินเสียงตอบรับ หญิงสาวทั้งผิดหวังทั้งใ ไอ้บ้าไท่หังซานนี่ยังคงอยู่ดีมีสุข แต่อีกทางหนึ่งกลับสูญเสียการติดต่อ
นี่มันไม่ใช่เื่เล็กๆ เธอเป็พะวักพะวน ไม่อยากถูกเบื้องบนตำหนิ
“มีอะไรล่ะ?” ฉู่เฟิงถาม ยังคงเป็หญิงสาวคนนั้น ไม่ใช่หลินนั่วอี
“วันนี้มีคนไปรับมนุษย์พิเศษที่ได้รับาเ็ที่บ้านนายหรือเปล่า?” หญิงสาวพยายามระงับอารมณ์เต็มที่ แล้วเอ่ยถาม
“ก็เห็นอยู่หลายคน ร่อนลงมาจากฟ้าเลย เกือบจะหกล้มคอหักตายหน้าบ้านผมแน่ะ เืงี้ท่วมตัว...”
“แกว่าอะไรนะ?!” ปลายสาย เสียงหญิงสาวดังปรี๊ดสิบแปดหลอด ถามอย่างมีอารมณ์ “เกือบคอหักตาย หมายความว่าอย่างไร!?”
“ก็บอกแล้วไง หน้าบ้านผมมีหลุมั์อยู่นะ”