เมื่อพวกหลัวจิ่งกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เจินจูรออย่างร้อนรนใจพลางเดินวนไปมาจนเวียนศีรษะไปหมดแล้ว
กระทั่งเห็นหลัวจิ่งที่ครึ่งร่างถูกย้อมเต็มไปด้วยเื เบ้าตาของนางก็แดงรื้นขึ้นมาฉับพลัน
“…ทำไม ถึงได้าเ็หนักเพียงนี้?”
นางกล่าวเสียงสะอื้นไห้แล้วเดินเข้าไปตรงหน้า คำพูดเกือบกล่าวไม่ออก
ล้วนโทษนางทั้งสิ้น หากไม่ใช่เพราะนางดึงเขาออกไปซื้อของคงไม่เกิดเื่เช่นนี้ เมื่อคิดขึ้นได้ในที่สุดน้ำตาก็แตกพรูหล่นร่วงลงมา
“…ไม่เป็ไร เห็นแล้วน่าใ แต่แค่เืไหลออกมาค่อนข้างมากเท่านั้นเอง เ้าไม่ได้เป็อะไรใช่หรือไม่?” หลัวจิ่งรีบกล่าวปลอบเสียงนุ่มนวล ขอแค่นางไม่เป็อะไร าแเล็กน้อยแค่นี้จะนับว่าเป็อะไรกัน
“…ข้า ไม่เป็อะไร”
น้ำตาเม็ดใหญ่ของเจินจูหยดลงเม็ดแล้วเม็ดเล่า นางมาถึงโลกนี้เป็เวลานาน นี่เป็ครั้งแรกเลยที่เสียใจจนร้องไห้หนักเพียงนี้
เมื่อเห็นใบหน้าขาวผ่องของนางมีหยาดน้ำตากลิ้งหล่นลงมา หัวใจเขารู้สึกปวดร้าวตามไปด้วย หากไม่ใช่ว่าคนทั้งห้องมองอยู่ เขาอยากจะดึงนางเข้ามาอยู่ในอ้อมอก แล้วปลอบหัวใจที่ตื่นตระหนกของนางนัก
“…ท่านพี่ ล้วนโทษข้าที่ไม่ดี เพื่อช่วยข้าแล้วพี่ชายยู่เซิงเลยได้รับาแนี้มา”
เสียงของผิงอันอ่อนแรงไร้กำลังเล็กน้อย
“คุณชายหู ท่านได้รับาเ็ภายใน นอนลงก่อนเถอะขอรับ ข้าน้อยได้ส่งคนไปตามท่านหมอมาแล้ว” เหยาเฮ่าหลานประคองเขาไว้อย่างระมัดระวัง เด็กชายเข้มแข็งอย่างมาก ขณะที่กลับมาตลอดทางไม่เอ่ยปากกล่าวอะไรขึ้นเลย จนกระทั่งกลับมาถึงโรงเตี๊ยมจึงเห็นว่าใบหน้าของเขาซีดขาวจนน่าใ พอเหยาเฮ่าหลานจับชีพจรให้เขา ถึงได้รู้ว่าเขาได้รับาเ็ภายในค่อนข้างหนัก
เมื่อเจินจูได้ยินดังนั้น ในใจตื่นตระหนกอย่างมาก รีบใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาและเดินเข้าไปตรวจดู ผิงอันหน้าขาวซีดราวสีหิมะ ลักษณะท่าทางได้รับาเ็จริงๆ
นางปวดใจจนเหมือนหัวใจถูกบีบรัดแน่น รีบประคองเขานอนลงบนเตียงอิฐที่อุ่นอยู่
“พี่จะไปยกน้ำชาร้อนๆ มาให้พวกเ้า รอสักเดี๋ยวนะ”
เจินจูหยิบกาน้ำชาที่เย็นเยียบบนโต๊ะขึ้น แล้ววิ่งเหยาะๆ ไปตลอดทางจนถึงห้องครัวของโรงเตี๊ยม นางยัดเงินหนึ่งก้อนให้กับลูกจ้างร้านที่เฝ้ายามกลางดึก ให้เขาต้มน้ำชาร้อนๆ ไม่กี่กาและนำไปมอบให้กับห้องพักแขกทุกห้อง
ดึกดื่นยามค่ำคืนนี้ พวกเขาวิ่งเต้นกันวุ่นวายเพื่อนาง ในใจนางรู้สึกผิดอย่างมากจากใจจริง
นางยกกาน้ำชาที่ใส่น้ำต้มสุกและผสมน้ำแร่จิติญญาลงไปด้านในจำนวนหนึ่ง
กลับมาถึงภายในห้องของหลัวจิ่ง จัดแจงเทน้ำร้อนให้เขาก่อนหนึ่งถ้วย เห็นว่าเขาดื่มลงไปแล้วจึงเทอีกหนึ่งถ้วยให้ผิงอันที่อยู่บนเตียง
เมื่อผิงอันดื่มลงไป เจินจูถึงได้ผ่อนลมหายใจลงได้
มีน้ำแร่จิติญญาช่วยบำรุงรักษา ตอนนี้น่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก
น้ำร้อนที่เหลืออยู่อีกครึ่งกา นางไม่ทิ้งเสียเปล่า มอบให้เหยาเฮ่าหลานนำไปเทให้หลัวสือซานดื่มสักถ้วย
สองคนดื่มน้ำอุ่นลงไปท่ามกลางการจับตาดูของเจินจู
ท่านหมอมาถึงได้อย่างรวดเร็ว บนถนนที่พวกนางอยู่มีร้านยาสมุนไพร แต่ต่างก็ปิดพักผ่อนไปหมดแล้ว ทว่าได้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเหยาเฮ่าหลานที่ใช้เงินหนักจำนวนหนึ่งไปเชิญมาได้
เมื่อท่านหมอเข้ามาก็เชิญให้สตรีออกไปด้านนอก เนื่องจากาแของหลัวจิ่งจำเป็ต้องถอดเสื้อผ้าและทำการพันแผล
เจินจูออกมาจากห้อง จิตใจหดหู่ลงไปเล็กน้อย นางประเมินสภาพสังคมนี้ได้ประมาทเกินไป คิดว่ามีหลัวจิ่งไปเป็เพื่อน อีกทั้งตนเองก็มีมิติช่องว่างอยู่ติดกาย คงไม่มีทางเกิดปัญหาอะไรขึ้นแน่
ผลสุดท้ายเกิดเื่ขึ้นจริงๆ เสียนี่
ท้ายที่สุดพวกเขาจัดการกันอย่างไรนะ นางยังไม่ทันได้ถามเลย
เฮ้อ... หาได้ยากนักที่นางจะแต่งกายงดงามเช่นนี้ได้สักรอบ กลับก่อปัญหาขึ้นเสียนี่ ยุคโบราณเช่นนี้การเป็สาวงามช่างลำบากจริงๆ
นางกลับมาในห้องของตนเอง เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวฮุยนอนรับความอบอุ่นอยู่ริมเตียงอิฐ
พวกมันยังไม่ได้ล้างอุ้งเท้า จึงประพฤติตัวกันอย่างดีโดยการไม่ได้ขึ้นไปบนเตียงนอน
เจินจูเหลือบไปเห็นบนกรงเล็บของเสี่ยวเฮยด้วยสายตาอันแหลมคม พบคราบรอยเืสีแดงเข้มติดอยู่
“ไอ๊หยา เสี่ยวเฮย เ้าก็ช่วยลงมือด้วยหรือ?” นางนั่งยองลงไปแล้วยกอุ้งเท้าของมันขึ้นมาดู มีเืและเศษเนื้อติดอยู่จริงๆ ด้วย
มารดาเถอะ พอคิดได้ว่านี่เป็เืและเนื้อของคน นางก็รู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมาอย่างมาก
“เหมียว” คนผู้นั้นทำผิงอันได้รับาเ็ ข้าแก้แค้นให้แล้ว
เจินจูเกิดความรู้สึกซาบซึ้งใจอยู่ข้างในอย่างมาก แทบอยากอุ้มมันขึ้นมาอยู่ในอ้อมอก แล้วจับมันมาจูบมาหอมสักรอบเหลือเกิน
“เ้าอย่าเพิ่งขยับ ห้ามเลียและห้ามใช้ข่วนเกาด้วย เล็บเ้าเต็มไปด้วยเืสกปรก ข้าจะให้คนต้มน้ำร้อนมาแล้วล้างให้เ้าสักหน่อย”
นางหาลูกจ้างร้านผู้หนึ่งได้จึงให้เขาไปยกน้ำร้อนขึ้นมาหนึ่งกะละมัง
เมื่อลูกจ้างผู้นั้นได้รับเงินรางวัล ทั้งยังเป็คำสั่งจากสาวงาม ย่อมเต็มใจวิ่งไปทำตามคำสั่งอย่างเต็มที่ ไม่นานก็ยกน้ำร้อนหนึ่งกะละมังขึ้นมา
เจินจูเทน้ำร้อนลงไปในกาน้ำชาที่เย็นแล้ว และอุ้มเสี่ยวเฮยขึ้น เดินไปถึงริมกระโถน จากนั้นเทน้ำอุ่นร้อนจากการาดกรงเล็บของมัน คราบเืหยดลงในกระโถนเกิดเสียงดังขึ้น
“กางเล็บเ้าออกมาที ยื่นให้ถูกน้ำหน่อย ใช่... นั่นแหละ”
จนกระทั่งทำความสะอาดให้เสี่ยวเฮยและเสี่ยวฮุยเรียบร้อย ในที่สุดห้องฝั่งตรงข้ามก็มีเสียงเปิดประตูออกมา
เหยาเฮ่าหลานสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพาท่านหมอไปส่ง แล้วถือโอกาสนำยากลับมาด้วย
เจินจูรีบวิ่งออกไปทันที
หลัวจิ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาพาดเสื้อคลุมตัวหนาบนไหล่ เสื้อคลุมปกปิดาแอยู่ และสีหน้าของเขายังคงขาวซีดเล็กน้อย
“ยู่เซิง เป็อย่างไรบ้าง ท่านหมอว่าเช่นไร?”
นางอยากเปิดเสื้อคลุมของเขาออกแล้วดูาแด้านในนัก ทว่าในห้องยังมีดวงตาหลายคู่จับจ้องอยู่
“ไม่เป็อะไร แค่เืออกนิดหน่อย กดไว้ก็หยุดแล้ว”
หลัวจิ่งรู้ว่านางกังวลใจจึงกล่าวออกมาโดยเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เป็กังวล
หลัวสือซานฟังอยู่ด้านข้าง ชำเลืองมองผู้เป็นายของเขาแวบหนึ่ง เห็นอยู่ว่ากระดูกไหล่หลุดแท้ๆ ยังอวดว่าเป็วีรบุรุษอยู่อีก
เจินจูมองริมฝีปากไร้สีเืของเขาด้วยความสงสัย สภาพเมื่อครู่ของเขามีเืสีแดงฉานออกมาท่วมครึ่งกายจนน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ทำไมดูแล้วไม่เหมือนท่าทางที่ได้รับาเ็เล็กน้อยเลย
นางหันกลับไปมองหลัวสือซานปราดหนึ่ง าแของเขาก็ไม่น้อยแต่ไม่ได้รับาเ็ที่จุดสำคัญ ผ่านการพันแผลไว้ ดูแล้วไม่มีปัญหาอะไรมาก
จู่ๆ ผิงอันที่นอนอยู่บนเตียงก็เอ่ยปากขึ้น “ท่านพี่ ข้าหิวแล้ว”
เด็กค่อนข้างโต ประสบกับการต่อสู้ที่กระตุ้นความตื่นเต้นตึงเครียด และอีกนิดก็เกือบจะทิ้งชีวิตไปแล้ว เมื่อจิตใจผ่อนคลายลงได้จึงรู้สึกท้องร้องโครกครากขึ้นมา เขาได้รับาเ็ภายใน ท่านหมอจ่ายยาให้และสั่งให้นอนพักผ่อนอย่างสงบ
“อ้อ... ได้ พี่จะให้ห้องครัวทำน้ำแกงไก่ตุ๋นให้เ้า”
เจินจูได้ยินดังนั้นก็รีบร้อนไปหาลูกจ้างอีกครั้ง
หลังจากหลัวจิ่งมองเจินจูเดินออกไปนอกประตูห้องแล้ว จึงหันไปแลกเปลี่ยนสายตากับเหยาเฮ่าหลาน เขาคิดถึงเื่ของจวนสกุลจ้าวขึ้น
“หลางเจียงหลัว สองพี่น้องจวนสกุลจ้าวยืนกรานปฏิเสธเื่ที่พวกเขาจับตัวคนไป เห็นได้ชัดว่าจะปัดความรับผิดชอบทิ้ง ดังนั้นถามแม่นางหูให้ชัดเจนจะดีที่สุด ว่าเป็ผู้ใดจับตัวนางไปขอรับ” เหยาเฮ่าหลานพะวงเื่ของสกุลจ้าวอยู่ตลอดอย่างชัดเจนเช่นกัน จึงกล่าววิเคราะห์ออกมาอย่างสุขุม
หลัวจิ่งพยักหน้า เื่ที่เจินจูถูกจับตัวไปจะให้คนพวกนั้นถูไถผ่านไปง่ายๆ ไม่ได้ พี่ใหญ่สกุลจ้าวที่ปลิ้นปล้อนและเลวทรามต่ำช้านั่น อาศัยมองจากท่าทีเล็กๆ น้อยๆ ของพวกเขาก็คิดจะผลักความผิดออกไปทำให้ฝ่ายตัวเองสะอาด
“พรุ่งนี้ตรวจสอบความเป็มาของพวกเขาหน่อย กล้าทำความชั่วโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้นเช่นนี้ ถึงขนาดที่ว่ากล้าจับตัวคนบนถนนไปได้ ไม่มีทางไร้คนอยู่เื้ัแน่”
ลูกพี่ใหญ่สกุลจ้าวผู้นั้นเอาแต่แสดงการขอโทษ บอกว่าทำให้พวกเขาได้รับาเ็รู้สึกขออภัยเป็อย่างยิ่ง พรุ่งนี้จะมาขอขมาสำนึกผิดถึงที่
ส่วนจ้าวเจ๋อเหิงผู้เป็น้องชายกลับยืนอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าเหมือนคนท้องผูก เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ
“หลางเจียงหลัวโปรดวางใจ อำเภอฉีหลินใกล้กับเมืองหลวง นายอำเภอของที่นี่ข้าน้อยเคยพบ พรุ่งนี้พอรุ่งเช้าข้าน้อยจะไปตรวจสอบทันทีขอรับ”
หลัวจิ่งเป็หลางเจียงขั้นสี่ ตามยศแล้วมีตำแหน่งสูงกว่าเหยาเฮ่าหลาน
“รบกวนเซี่ยวเว่ย [1] เหยาแล้ว”
“มิได้ขอรับ นายท่านกั๋วกงให้พวกข้าน้อยคุ้มครองแม่นางหูไปส่งให้ถึงบ้าน แต่ผู้ใดจะคิดเพิ่งออกจากเมืองหลวงมาไม่เท่าไร ก็ทำให้แม่นางหูถูกคนจับตัวไปเสียแล้ว เป็พวกข้าน้อยปฏิบัติหน้าที่บกพร่องจริงๆ” เหยาเฮ่าหลานแค้นเคืองใจ เขาน่าจะจัดกำลังคนคุ้มครองสองพี่น้องอยู่ตลอดเวลา
“…นี่ไม่โทษพวกท่านหรอก เป็ข้าที่ประมาทเกินไป”
หลัวจิ่งส่ายหน้า เขาเองก็ไม่ควรออกห่างจากเจินจูเช่นกัน
ขณะที่เจินจูเดินเข้ามา สีหน้าของทั้งสองคนดูไม่ค่อยดี
“ข้าให้คนไปปลุกคนครัวแล้ว มอบเงินให้ไปสิบเหลียง รออีกเดี๋ยวก็จะได้ทานแล้ว”
นางมองพวกเขาด้วยความลังเลใจ สีหน้าพวกเขาช่างดูกดดันยิ่งนัก
“เจินจู เ้ามานั่งนี่สิ ลองว่ามาที วันนี้ถูกคนจับไปที่นั่นได้อย่างไร?” หลัวจิ่งชี้ไปที่เก้าอี้ด้านข้าง ่เวลาที่ออกห่างจากเขาไปหนึ่งเค่อ นางเจอเข้ากับอะไรบ้างนะ?
เจินจูนั่งลงแต่โดยดี นึกถึงตอนที่ตนเองอยู่ในห้องข้างห้องโถงนั้น นึกถึงคำพูดที่ได้ยิน สีหน้าจึงจริงจังขึ้นด้วยเช่นกัน
นางกล่าวถึงเื่ที่ได้พบออกมาอย่างช้าๆ หนึ่งรอบ ขณะกล่าวถึงเนื้อหาที่ได้ยินในห้องนั้น ก็ได้เลี่ยงเนื้อหาที่เกี่ยวกับนางไปเล็กน้อย
เมื่อหลัวจิ่งได้ยินว่าคนพวกนั้น้าจะนำนางไปมอบให้กับคนเบื้องบน สีหน้าจึงเปลี่ยนไปจนเขียวคล้ำด้วยความโมโหทันที
คิดจะนำเจินจูไปมอบเป็เนื้อต้องห้าม [2] ให้คนงั้นหรือ จ้าวเจ๋อเหิงผู้นี้คิดวางแผนเช่นนี้นี่เอง มือขวาข้างที่ไม่ได้รับาเ็ของหลัวจิ่งกำหมัดแน่น ความโมโหในดวงตาราวกับจะมีลูกไฟพวยพุ่งออกมา
กระทั่งเขาได้ยินประโยคที่ว่า ‘สาวงามที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดเจ็บป่วย’ สติของเขาก็หยุดชะงัก ราวกับเกิดความคิดบางอย่างขึ้นในใจ
หรือคนเบื้องบนที่พวกเขายึดเหนี่ยวอยู่จะเป็เขา?
ใบหน้าเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งทันที
“แม่นางหูเห็นลักษณะของคุณชายสามผู้นั้นหรือไม่ขอรับ?” เหยาเฮ่าหลานถามขึ้น
“ไม่เลย ตอนที่เขากำลังคุยกัน พวกหลัวจิ่งก็มาถึงพอดี ทางลานแว่วเสียงการเคลื่อนไหวต่อสู้ขึ้น คุณชายสามผู้นั้นก็นำคนเร่งออกไปแล้ว” เจินจูส่ายหน้า นางไม่เห็นรูปโฉมของชายผู้นั้นจริงๆ เพราะมีผ้าม่านผืนหนากั้นอยู่ จึงมองไม่เห็นเงาคนทั้งสิ้น
เหยาเฮ่าหลานสบสายตากับหลัวจิ่งแวบหนึ่ง ในเมืองหลวงผู้ที่มีความสามารถทำให้คนยอมจำนนได้ และทำให้ผู้มีอำนาจทุกประเภทเหล่านี้ไม่ไว้หน้าคนได้... จะมีสักกี่คน โดยเฉพาะหลังจากองค์ไท่จื่อสิ้นพระชนม์แล้ว
องค์ชายสามหานอี้ ความทะเยอทะยานร้อนแรงไม่น้อยเลยนี่ องค์ไท่จื่อยังไม่ประกาศการสิ้นพระชนม์ ก็เริ่มหาคนที่มีความสามารถมากมายมาอยู่ภายใต้กำลังของตนเสียแล้ว
พี่น้องสกุลจ้าว คาดว่าคงเป็หนึ่งในนั้น
เพื่อให้ได้ความชอบต่อหน้าหานอี้ จ้าวเจ๋อเหิงจึงอยากจับคนงามถวายขึ้นไป เพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากองค์ชายสาม
หากเชื่อมโยงไปถึงองค์ชายสาม เช่นนั้นเื่คงจัดการไม่ง่ายแล้ว
เหยาเฮ่าหลานกำลังพิจารณา องค์ชายสี่เป็ผู้เลื่อนตำแหน่งให้กับหลัวจิ่ง เขาจึงนับได้ว่าเป็คนขององค์ชายสี่ องค์ชายสามมีเช่อเฟยอยู่คนหนึ่งซึ่งเป็ลูกพี่ลูกน้องของเขา จวนสกุลหลัวได้เกี่ยวพันการเชื่อมโยงของนางเข้า จึงประสบกับการถูกค้นบ้านยึดทรัพย์สินและปะาทั้งตระกูล ตามหลักแล้วหลัวจิ่งควรโกรธแค้นองค์ชายสามอย่างถึงที่สุด
การต่อสู้เพื่อเป็องค์รัชทายาทนั้น แต่ไหนแต่ไรมาเป็ความโหดร้ายไร้ความปราณีมาโดยตลอด หลังจากองค์ชายคนไหนก็ตามที่พ่ายแพ้ไป ต่างก็ต้องมีขุนนางที่หนุนหลังจำนวนมากโชคร้ายตามไปด้วย
ผู้ชนะกลายเป็เ้า เป็ธรรมดาที่ฝ่ายชนะจะยิ้มได้จนถึงสุดท้าย
ผู้ชนะเป็เ้าผู้แพ้เป็โจร ผู้ที่ยืนหยัดอยู่ในความยุติธรรมมีคุณธรรมและความเมตตา ย่อมได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือเป็จำนวนมาก ส่วนคนที่ไร้ความยุติธรรมไม่มีคุณธรรมและไร้ความเมตตา ย่อมอยู่โดดเดี่ยวไร้คนช่วยเหลือสนับสนุน
เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาของเหยาเฮ่าหลานนำวัตถุดิบสมุนไพรกลับมา เจินจูจึงถามวิธีการต้มให้ชัดเจน แล้วจึงออกจากห้องเดินมุ่งไปทางห้องครัว
หลิวอี้ที่รออยู่ด้านข้างวิ่งเข้ามา และยึดงานต้มสมุนไพรไป
ลูกจ้างโรงเตี๊ยมยกอาหารเข้ามาพอดี เจินจูรีบเข้าห้องไปพยุงผิงอันให้ลุกขึ้นนั่ง
ใบหน้าเล็กของเขาขาวซีด เจินจูลูบแก้มของเขาด้วยความปวดใจ
“ผิงอัน เ้าเจ็บตรงไหนหนักที่สุด?”
“ท่านพี่ ข้าไม่เป็ไร แค่ตอนออกแรง ตรงหน้าอกเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่ขยับก็ไม่เจ็บแล้ว” ผิงอันส่ายหน้า ท่านหมอบอกว่าเขาถูกพลังภายในส่งเข้ามาทำให้เส้นเืหัวใจาเ็ ตอนออกแรงจะเจ็บเล็กน้อย เพราะเช่นนั้นภายในระยะเวลาอันสั้นนี้จำเป็ต้องพักอย่างสงบ
คิดถึงตรงนี้เขาก็เบะปาก ‘เฟยหยุน’ ของเขาตอนนี้ไม่สามารถขึ้นไปขี่ได้แล้ว
ทั้งห้องล้วนเป็ผู้ชาย เจินจูทำได้เพียงเลี่ยงออกมา นางวิ่งมาช่วยในห้องครัว เห็นหลิวอี้ต้มยาอยู่ข้างเตาเล็ก ยาสามชุดเป็ยาสามหม้อ สองคนเฝ้าเตาไฟต้มยาสมุนไพร ผ่านไปครึ่งชั่วยามจึงนับได้ว่าต้มยาเสร็จสิ้น
นางยกยาเดินเข้ามา แล้วส่งให้พวกเขารับไป จากนั้นค่อยพยุงผิงอันกลับมาบนเตียงอิฐของตัวเอง ช่วยเขาล้างหน้าทำความสะอาด
ยุ่งมาครึ่งค่อนคืน นับว่าได้พักเสียที
“เฮ้อ” เจินจูปีนขึ้นไปบนเตียงอิฐ โผเข้าไปบนผ้านวมอันแสนอบอุ่น พลางถอนหายใจออกมา
วิ่งไปทั่วมาทั้งเย็น นางก็เหน็ดเหนื่อยมากพอแล้วเช่นกัน แล้วยังดึงพวกเขาให้ได้รับาเ็ไปด้วยอีก ในใจของนางอัดอั้นเล็กน้อย
ปิ่นไข่มุกบนศีรษะและต่างหูบนติ่งหูล้วนถูกนางถอดเก็บเข้าในมิติช่องว่างไปแล้ว
เสี่ยวเฮยปีนขึ้นมา และเลียบนหลังมือของนาง มันกำลังปลอบใจนางอย่างไร้เสียง
เจินจูอบอุ่นใจขึ้นทันที อุ้มมันมาแนบชิดกันอยู่พักหนึ่ง
ไม่เป็ไร ชีวิตคนเรามักเต็มไปด้วยความไม่รู้เสมอ จะมาเป็เพราะหวาดกลัว แล้วซึมเซาหยุดเดินต่อไปไม่ได้
ใบหน้าของนางแนบอยู่บนขนนุ่มของเสี่ยวเฮย ความหดหู่ข้างในสูญสลายไปอย่างมาก
เชิงอรรถ
[1] เซี่ยวเว่ย คือ ยศพันเอก
[2] เนื้อต้องห้าม คือ เนื้อชิ้นที่งดงามที่สุด สงวนเอาไว้ให้เฉพาะราชวงศ์เท่านั้น อุปมาถึงของมีค่า มีไว้สำหรับสร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเองเท่านั้น ผู้อื่นจับต้องไม่ได้