เซี่ยเสี่ยวหลานนึกว่าถ้าจี้เจียงหยวนไม่โมโหก็ต้องรู้สึกดีใจ อารมณ์สองประเภทนี้คงสุดโต่งไปอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน
ถึงอย่างไรเขาก็ตามมาถึงโรงพยาบาล เพราะเดาบางอย่างได้แล้วมิใช่หรือ?
แต่จี้เจียงหยวนนิ่งเกินไปแล้ว!
หลังทังหงเอินยอมรับสถานะของตัวเอง จี้เจียงหยวนกลับไม่ใสักนิดราวกับรู้ล่วงหน้า และมั่นใจอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังคงเคยคิดถึงวันนี้มาหลายต่อหลายครั้งแน่นอน
เขาดูนิ่งเฉยเหลือเกิน ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยแล้ววางแอปเปิลลงบนโต๊ะ
“ขอโทษ? คุณสมควรขอโทษจริงๆ นั่นล่ะ ทว่ามันไม่ค่อยเหมือนที่ผมคิดไว้เท่าไร”
ที่เขาคาดการณ์ไว้คือ พ่อบังเกิดเกล้าของเขาคงเป็คนที่เลวร้าย และมีคุณภาพชีวิตคงย่ำแย่ถึงจะถูก หากเป็เช่นนั้นจี้เจียงหยวนอาจจะให้อภัยอีกฝ่ายได้อย่างสนิทใจ ถึงอย่างไรสำหรับชาวจีนที่แร้นแค้น การซื้อตั๋วเครื่องบินไปอเมริกาก็คงเป็เื่ยากไม่ใช่หรือ
ทว่าทังหงเอินกลับไม่เหมือนคนจนสักนิด นอกจากนี้เขายังพักรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยระดับสูงด้วย
หากไม่ใช่เพราะมีเงิน มีอำนาจ หรือมีทั้งสองอย่าง ทังหงเอินคงต้องไปเบียดเสียดอยู่กับคนอื่นในห้องผู้ป่วยรวมแล้วน่ะสิ
จี้เจียงหยวนค่อนข้างรู้สึกหงุดหงิด
พ่อของเขาดูมีหน้ามีตาในสังคม จุดนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็อย่างยิ่ง
เขาวางแอปเปิลบนโต๊ะและคิดที่จะกลับทันที แต่เซี่ยเสี่ยวหลานชิงก้าวออกจากห้องผู้ป่วยเสียก่อน และช่วยปิดประตูให้พวกเขาอย่างหวังดี “พวกคุณคุยกันไปก่อนนะคะ!”
ภายในห้องจึงเหลือแค่ทังหงเอินกับจี้เจียงหยวน
แสงแดด่กลางวันค่อนข้างดี นี่คือการพบหน้ากันอย่างเป็ทางการของสองพ่อลูกในรอบ 12 ปีของทังหงเอิน ในที่สุดเขาก็ได้เห็นใบหน้าของจี้เจียงหยวนอย่างชัดเจน
จี้เจียงหยวนหน้าตาหล่อเหลา เนื่องจากหน้าตาของเขาได้รับการถ่ายทอดมาจากตระกูลจี้
พอคิดถึงตระกูลจี้ ทังหงเอินก็รู้สึกปวดกระเพาะขึ้นมาเล็กน้อย
แต่กับจี้เจียงหยวนไม่เหมือนกัน เพราะจี้เจียงหยวนคือลูกชายแท้ๆ ของเขา
จี้เจียงหยวนพยายามฝืนทำเป็นิ่ง ก่อนจะลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมา
“นั่งลงแล้วค่อยๆ คุยกันเถอะครับ”
—------------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานนั่งพักอยู่ที่ม้านั่งยาวตรงโถงทางเดิน ไม่นานนักเสี่ยวหวังก็ถือเอกสารปึกหนึ่งเดินตรงมา
“อ้าว ทำไมมาอยู่ข้างนอกล่ะ ไม่เข้าไปหรือ”
เธอคงไม่ได้ให้หัวหน้าเขาเก็บของเองหรอกนะ
เซี่ยเสี่ยวหลานทำท่าบอกให้เสี่ยวหวังนั่งลง
“พี่หวัง พี่ทำงานกับคุณอาทังมากี่ปีแล้วหรือ”
“มันเกี่ยวกับเื่ออกจากโรงพยาบาลวันนี้รึ ฉันทำงานกับหัวหน้ามาแล้วสี่ปีแล้ว...”
เสี่ยวหวังค่อนข้างร้อนใจ เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนฉลาด ไม่มีทางถามเื่นี้ขึ้นมาโดยพลการอย่างแน่นอน หรือหัวหน้าบอกอะไรกับเซี่ยเสี่ยวหลาน อย่างเช่นอยากสั่งย้ายเขาไปที่อื่น?
คนขับรถและเลขาของหัวหน้า ไม่อาจรับใช้อยู่ข้างกายเขาไปตลอดชีวิตได้
ฝึกปรือฝีมือเพียงไม่กี่ปีก็จะสามารถรับมอบหมายหน้าที่อื่นได้
แต่หากอยู่กับหัวหน้าแล้วทำงานดีมีประสิทธิภาพ ความสามารถได้รับการยอมรับ และได้รับความเชื่อใจจากหัวหน้า ย่อมมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน
เสี่ยวหวังไม่อยากถูกย้ายไปทำงานอื่นเร็วเกินไป เขากับทังหงเอินยังผูกพันกันไม่มากพอ อนาคตหัวหน้าจะจำเขาได้นานเท่าไรกัน อีกอย่าง ทังหงเอินกำลังอยู่ใน่ขยายธุรกิจที่เผิงเฉิง ่แรกเริ่มมักยากลำบากที่สุด เสี่ยวหวังไม่อยากย้ายตำแหน่งไปทำงานอื่นใน่เวลาที่ยากลำบากแบบนี้
เสี่ยวหวังใจตุ้มๆ ต่อมๆ เขาไม่ฉุกคิดเลย หากทังหงเอิน้ามอบหมายงานอื่นให้เขา จะให้เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนบอกได้อย่างไร!
เสี่ยวหวังถูกเซี่ยเสี่ยวหลานลากมานั่งบนม้านั่ง เขารู้สึกวิตกกังวล แต่กลับได้ยินเซี่ยเสี่ยวหลานพึมพำว่า
“คุณอาทังกำลังคุยอยู่กับลูกชายในนั้น พ่อลูกพบหน้ากันเหมือนฉากในละครเลย พี่ติดตามคุณอาทังมาตั้งสี่ปี สถานการณ์แบบนี้หากพี่เข้าไปคงไม่ดีเท่าไรนัก”
ถ้าเกิดทังหงเอินกำลังร้องไห้ แล้วถูกเสี่ยวหวังเห็นเข้าคงไม่เหมาะสม
เซี่ยเสี่ยวหลานหวังดีต่อเสี่ยวหวังจริงๆ
เสี่ยวหวังนั่งตัวตรงทันที “พ่อลูกพบหน้า?!”
“ใช่น่ะสิ ลูกชายของคุณอาทังเป็เพื่อนฉันที่มหาวิทยาลัย พี่ว่าบังเอิญไหมล่ะ วันนั้นคุณอาทังมาหาฉันที่หัวชิงเลยบังเอิญเจอเขาเข้า”
เซี่ยเสี่ยวหลานพูดได้เท่านี้ ที่เหลือให้เสี่ยวหวังไปคิดต่อเอาเอง
มิน่าโรคกระเพาะของหัวหน้าถึงกำเริบ!
บังเอิญเจอลูกชายที่หัวชิง พอไปที่บ้านอดีตภรรยาก็ถูกไล่ตะเพิดสินะ
เสี่ยวหวังชักเป็ห่วง วันนี้หมอเพิ่งอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล หัวหน้าก็เจอเื่กระทบกระเทือนจิตใจอีก ร่างกายของหัวหน้าจะรับไหวหรือเปล่านะ
เสี่ยวหวังชะเง้อมองอยู่ตลอดเวลา ทว่าประตูห้องผู้ป่วยยังคงปิดสนิท ไม่มีเสียงพูดคุยเล็ดลอดออกมาแต่อย่างใด
หลังจากนั่งไม่ติดกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออก จี้เจียงหยวนเดินออกมาด้วยสีหน้าปกติ
“สหายเซี่ยเสี่ยวหลาน ฉันจะไปรอเธอที่ชั้นล่างนะ”
สรุปแล้วพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ไม่อาจเดาได้
จี้เจียงหยวนลงไปข้างล่างก่อนตามที่บอก
ในห้องผู้ป่วย อารมณ์ของทังหงเอินยังคงค่อนข้างตื่นเต้น แต่ไม่เหมือนอย่างที่เซี่ยเสี่ยวหลานกับเสี่ยวหวังคิดไว้ สองพ่อลูกะกอดกันร้องไห้นั้นย่อมเป็ไปไม่ได้ จี้เจียงหยวนเ็าเกินไป ไม่ให้โอกาสทังหงเอินแสดงบทบาทพ่อที่รักลูกแม้แต่น้อย
หากจี้เจียงหยวนชี้หน้าด่าเขาว่าเป็คนไร้ความรับผิดชอบ ทังหงเอินคงรู้สึกดีกว่านี้
แต่จี้เจียงหยวนนิ่งเหลือเกิน เขาถามทังหงเอินแค่ว่า ทำไมหลายปีนี้ถึงไม่ติดต่อเขามาเลย
คำถามนี้ตอบได้ไม่ยาก เริ่มแรกเพราะกลัวเป็ตัวถ่วงของอดีตภรรยาที่หย่าร้างกันไปแล้ว แม้ยังมีความรักให้กันแต่ก็ต้องข่มมันเอาไว้ ตอนหลังเมื่อทังหงเอินจัดการเื่ยุ่งยากเสร็จก็ทำการติดต่อหาจี้หย่าอีกครั้ง เขาทั้งเขียนจดหมายและส่งเงินไปให้ แต่กลับไร้การตอบกลับ
ตระกูลจี้บอกว่าจี้หย่าพาลูกไปต่างประเทศแล้ว ทั้งยังขอให้ทังหงเอินอย่าไปรบกวนพวกเขา
คนทั้งตระกูลเห็นทังหงเอินเป็ดั่งปีศาจร้าย เมื่ออยู่ห่างกันคนละซีกโลก ทังหงเอินเองก็จนปัญญาที่จะตามหา
ครั้งนี้ถ้าจี้เจียงหยวนไม่ได้ถูกเลือกให้เป็หนึ่งในผู้เข้าร่วมเดินขบวนเกียรติยศ ทังหงเอินคงไม่สังเกตเห็นเขา
หรือพูดได้ว่าหากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้อยู่ในขบวนเกียรติยศ แล้วทังหงเอินจะไปตั้งใจดูได้อย่างไร
เป็เพราะจี้หย่ารู้ว่าเขาทำงานอยู่ที่ทางใต้ เธอถึงได้ยอมให้เจียงหยวนมาเรียนที่หัวชิงสินะ
เซี่ยเสี่ยวหลานกับเสี่ยวหวังลอบสังเกตสีหน้าของทังหงเอิน เขากลบเกลื่อนความรู้สึกอันซับซ้อนแล้วกล่าวว่า “ช่วยเก็บสายตาของพวกเธอหน่อยได้หรือไม่ เมื่อครู่ฉันได้ยินเจียงหยวนบอกว่า เธอเจอเื่ยุ่งยากที่มหาลัยหรือ”
เซี่ยเสี่ยวหลานเปลี่ยนเื่อย่างว่าง่ายทันที
“ยุ่งยากนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร”
ทังหงเอินแค่นเสียงฮึอย่างเ็า “เป็ลูกข้าราชการยิ่งควรรักษาเกียรติของตัวเอง ถ้าทุกคนใช้อำนาจของครอบครัวมารังแกผู้อื่นกันหมด ประเทศนี้ยังจะเป็ของประชาชนอยู่อีกหรือ”
เซี่ยเสี่ยวหลานขอบตาร้อนผ่าว คุณอาทังช่างปกป้องเธอเหลือเกิน
ทังหงเอินรู้สึกได้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกำลังจะร้องไห้จึงผ่อนเสียงลง
“กลัวอะไร โลกนี้มีที่ที่รับฟังเหตุผล อย่างไรก็ย่อมมีคนยินดีเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเธออยู่แล้ว”
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว คุณอาทัง!”
เซี่ยเสี่ยวหลานช่วยเก็บของที่เหลือ ตอนจะกลับเสี่ยวหวังก็เหลือบไปเห็นแอปเปิลถุงหนึ่งในห้อง ทังหงเอินบอกให้เขานำกลับไปด้วย เสี่ยวหวังเข้าใจทันที แอปเปิลคงเป็ของที่ลูกชายหัวหน้าให้มาสินะ ทังหงเอินมีนิสัยอย่างหนึ่งคือไม่รับของจากใครง่ายๆ ครั้งก่อนตอนออกจากโรงพยาบาลเผิงเฉิง สิ่งเดียวที่เขานำกลับไปด้วยคือซานเย่าของเซี่ยเสี่ยวหลานนั่นเอง
ครั้งนี้สิ่งที่นำกลับไปคือแอปเปิลของจี้เจียงหยวน
เซี่ยเสี่ยวหลานคอยวิ่งวุ่นทำธุระทุกอย่าง เสี่ยวหวังรู้สึกว่าเธอช่างมีน้ำใจมากเหลือเกิน เธอไม่กลัวว่าหลังหัวหน้าเจอลูกชายแท้ๆ แล้วจะหมางเมินเธอบ้างหรือ?
ที่จริงเสี่ยวหวังกับเลขาเผิงล้วนคาดเดาว่า ที่ทังหงเอินใส่ใจเซี่ยเสี่ยวหลานเช่นนี้ เพราะเห็นเป็ตัวแทนของลูกตนเอง
ลูกแท้ๆ ไม่อยู่ข้างกาย มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันคอยดูแลเอาใจใส่ทั้งวัน เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เพียงปากหวาน ทว่ายังทำงานเก่งอีกด้วย อยากเกลียดเธอก็ยังยากนัก
แน่นอนว่าตอนนี้ทังหงเอินเจอกับลูกชายแท้ๆ แล้ว เมื่อครู่แม้สีหน้าของลูกชายจะเ็า แต่ถึงอย่างไรก็เป็ลูกบังเกิดเกล้า วันเวลายังอีกยาวไกล หลังความเ็าแปรเปลี่ยนเป็ความใกล้ชิด แล้วเซี่ยเสี่ยวหลานจะมีความสำคัญอะไรอีก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้