เมื่อสิ้นคำถาม หานโม่ก็ดึงเถาวัลย์จากบนต้นไม้มาหนึ่งเส้นแล้วเหวี่ยงไปทางเ้านกโง่ตัวนั้น เถาวัลย์เส้นโตบวกกับท่าทางคล่องแคล่วของหานโม่ทำให้เ้านกโง่ถูกมัดเอาไว้อย่างแ่า
“ในเมื่อไม่มีผลชื่อหลิงแล้ว หากว่าข้าย่างเ้านกโง่ที่กินผลชื่อหลิงไป บางทีอาจจะยังมีพอสรรพคุณของผลชื่อหลิงเหลืออยู่ก็ได้” หานโม่พูดพึมพำกับตัวเอง แต่แววตากลับคอยสังเกตดูท่าทางของเ้านกโง่ตลอดเวลา
“เ้ากล้า! เ้า นางผู้หญิงโง่นี่” เมื่อนกโง่ได้ยินเช่นนั้นก็กลัวจนตัวสั่น แม้ว่าปากจะยังพูดจาข่มให้ดูน่าเกรงขาม แต่หานโม่ก็ยังสามารถเห็นถึงความตื่นตระหนกในแววตาของมันได้
ดวงตางามมีแววขบขับที่มองไม่เห็นบางๆ
เป็เยี่ยงนี้นี่เอง
ั้แ่ครั้งแรกที่เห็นเ้านกโง่ตัวนี้ หานโม่ก็ััได้ถึงความไม่ธรรมดา มันสามารถฉกฉวยเอาของของนางไปได้อย่างเงียบเชียบ เ้านกโง่ตัวนี้ไม่ใช่สามัญอย่างแน่นอน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของหานโม่จะยังไม่กลับคืนมาสมบูรณ์เต็มที่เหมือนก่อนที่จะทะลุมิติมา แต่ความสามารถในการรับรู้ของนางนั้นจัดว่ายอดเยี่ยมที่สุดในโลกแห่งนี้อย่างแน่นอน แต่เนื่องจากเ้านกตัวนี้สามารถที่จะหลบเลี่ยงการรับรู้ของนางอย่างง่ายดาย จึงสามารถนับได้ว่ามันไม่ธรรมดาแล้ว
หลังจากคิดทบทวนอีกครั้ง ในใจของหานโม่ก็ตัดสินใจได้ นางมองดูเ้านกที่แม้จะหวาดกลัว แต่กลับไม่ยอมเอ่ยขอความเมตตา พลางเปล่งเสียงหัวเราะเสียงเย็นเบาๆ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มร้ายกาจขึ้น
“เหตุใดข้าถึงจะไม่กล้าเล่า? อย่าพูดว่าผู้ชนะคือาา [1] ในป่าไร้ิญญาแห่งนี้ ถึงข้าจะฆ่าเ้าให้ตายตกไป แต่์คงมิกล้าว่ากล่าวอันใด หากข้าบอกว่าเ้าแอบขโมยและกินผลชื่อหลิงของข้าก่อน เป็เื่ธรรมดาที่ข้าย่อมอยากได้คำอธิบายจากเ้า วิธีการของข้าไม่ว่าจะเป็ทางด้านอารมณ์หรือเหตุผลล้วนไม่มีสิ่งใดที่ไม่เหมาะสมเลยแม้แต่น้อย แล้วเหตุใดข้าถึงจะไม่กล้าย่างเ้ากินเล่า?”
เ้านกตัวน้อยเงยหน้าขึ้นลอบมองหานโม่ มันได้เห็นถึงความคิดอันชั่วร้ายอัดแน่นอยู่ภายในแววตาของนาง ชั่วขณะหนึ่งมันรู้สึกได้ว่าดวงตาของสตรีที่อยู่เบื้องหน้าสามารถฆ่ามันได้ทันที
“ไม่! เ้าฆ่าข้ามิได้!” เ้านกน้อยที่ถึงแม้ว่าจะเย่อหยิ่ง แต่เมื่ออยู่ใน่เวลาแห่งความเป็ความตายแบบนี้กลับรู้จักที่จะหวาดกลัวด้วยเช่นกัน ร่างกายน้อยๆ ของมันสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่าง
ในดวงตาของหานโม่ปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อยพาดผ่านและหายวับไปอย่างรวดเร็ว
นางเอื้อมมือออกไปหิ้วเ้านกตัวนั้นขึ้นมา พลางแสร้งทำทีเป็ว่าจะไปเก็บฟืนมาก่อไฟโดยที่ไม่พูดคุยอะไรกับเ้านกน้อยเลยเป็ระยะเวลาหนึ่ง
เ้านกน้อยเห็นว่าหานโม่ไม่พูดอะไรอีก ก็คิดว่านางจะปล่อยตัวเองไป เมื่อเห็นว่านางกำลังทำท่าราวกับกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ มันก็อดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้ "เ้ากำลังมองหาสิ่งใดหรือ?"
หานโม่พูดด้วยน้ำเสียงเ็าโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมา "หาฟืนเพื่อก่อไฟย่างเ้าอย่างไรเล่า"
"..."
หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเ้านกน้อยก็เปล่งเสียงร้องแหลมสูง "ว้ากกกกก" ก่อนจะร้องไห้ออกมา
ขณะที่ร้องไห้ก็ใช้ปีกข้างหนึ่งชี้ไปที่หานโม่แล้วพูดตัดพ้ออย่างเศร้าๆ "เ้า... ฮือๆ ... เ้ากล้าย่างข้าได้อย่างไรกัน?"
หานโม่ขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่าในคำพูดของเ้านกน้อยตัวนี้เหมือนจะมีอะไรบางอย่างแฝงอยู่ ดังนั้นจึงเบ้ปากแล้วเอ่ยนิ่งๆ "แล้วเหตุใดข้าถึงกินเ้าไม่ได้? เ้าลองให้เหตุผลว่าเหตุใดข้าถึงกินเ้าไม่ได้มาสักหนึ่งข้อ ถ้าข้ารู้สึกว่าเหตุผลของเ้ามีความจริงใจมากพอ ข้าก็จะไม่กินเ้า”
“ข้า...” นกน้อยอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เห็นได้ชัดว่าเหมือนมันจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลืองกลิ้งไปมา ในที่สุดมันก็เอ่ยขึ้นมาด้วยใบหน้าของนกที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญ “ฮือๆ โตวเย่ว์น่ารักขนาดนี้ ทำไมเ้าถึงอยากจะกินโตวเย่ว์กัน? โตวเย่ว์เป็สัตว์เทพนะ โตวเย่ว์แข็งแกร่งมาก"
หานโม่มองเ้านกน้อยที่กำลังเล่นแง่อย่างทำอะไรไม่ถูก
ไหนท่านโตวโตวจะน่ารักเยี่ยงนี้ เหตุใดเ้าถึงอยากกินท่านโตวโตวกัน...
เอ่ยกันตามตรง นี่เป็ครั้งที่สองแล้วที่หานโม่สงสัยว่าเ้านกโง่ตัวนี้ทะลุมิติมาเช่นกัน หรือว่าท่าทางน่ารักเช่นนี้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองโดยไม่มีผู้ใดสอน?
“เอาล่ะ เ้าไม่ต้องร้องไห้แล้ว เ้าบอกว่าเ้าแข็งแกร่งมากอย่างนั้นหรือ?” ในใจหานโม่พูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ทำให้ใบหน้างามนั้นกลับดูย่ำแย่ ราวกับว่ากำลังถูกเหล่าเป่า [2] บังคับให้กลายเป็หญิงคณิกา
น่าเสียดายที่เ้านกตัวนี้มองเจตนาของหานโม่ไม่ออก เมื่อฟังคำของหานโม่ก็รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "ใช่ ใช่ โตวเย่ว์เป็สัตว์เทพ โตวเย่ว์นั้นยอดเยี่ยม!"
หานโม่ “...”
ความรู้สึกที่ว่าโตวเย่ว์ก็ทะลุมิติมาเช่นกันบังเกิดขึ้นอีกครั้ง
“ในเมื่อเ้าเป็สัตว์เทพ อีกทั้งยังพูดว่าเ้าแข็งแกร่งมาก เช่นนั้นข้าจะให้เ้าทำสัญญาแม้ว่าเ้าอาจจะไม่เต็มใจก็ตาม แต่เนื่องจากเ้ากินของของข้าไป ดังนั้นต่อแต่นี้ไปเ้าจะต้องทำงานเพื่อชดใช้ให้ข้า” หานโม่กล่าว
ดวงตารูปถั่วเหลืองของเ้านกน้อยกะพริบปริบๆ "เ้าหมายถึงสัญญาเสมอภาครึ?"
หานโม่ยิ้ม “สัญญาข้ารับใช้”
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] ผู้ชนะคือาา หมายถึง คนชนะจะถืออำนาจสูงสุด ไม่ว่าจะดีหรือเลว ขอเพียงเอาชนะได้ จะพูดอย่างไรก็เป็ไปตามนั้น แม้ว่าสิ่งที่ผิดก็กลับให้เป็ถูกได้
[2] เหล่าเป่า หมายถึง แม่เล้า