หลงอวี้ได้ใช้เวลาสองวันในการฝึกฝนเคล็ดหอกสยบฟ้าจนบรรลุถึงขั้นกลาง สามารถหลอมรวมมหาพลังสยบฟ้าเข้าไปได้
หลงอวี้ในตอนนี้ มือถือหอกั์ เมื่อหลอมรวมมหาพลังฟ้าดินแห่งการกดทับเข้าไป ใช้เคล็ดหอกสยบฟ้าเพียงหนึ่งหอกแทงออก ก็มีอานุภาพสูงส่งเทียบเท่าได้กับวิทยายุทธ์ขั้นสุดยอดอย่างหมัดมัวเมาล้มสู่ปรภพเลยทีเดียว!
อีกทั้งมันยังแฝงด้วยพลังฟ้าดินแห่งการกดทับด้วย สามารถรวบรวมมหาพลังแห่งการกดทับไปอัดแน่นที่ปลายหอกเพียงจุดเดียว สามารถแสดงอานุภาพของมันออกมาได้สูงที่สุด
หลงอวี้พยักหน้าพึงพอใจ
การจะฝึกวิทยายุทธ์ขั้นสูงให้บรรลุถึงขั้นสูง แม้ว่าหลงอวี้จะได้พลังของสัญลักษณ์ัปรภพช่วยเหลือก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน
การที่บรรลุขั้นกลางได้ในเวลาสั้นๆ แค่สองฝันก็นับว่าไม่เลว
หลงอวี้ในตอนนี้ ได้ฝึกวิชาวายุก้าวพริบตาจนบรรลุถึงขั้นสูงสุด สามารถสร้างภาพลวงตาทิ้งไว้ได้ และสามารถก้าวพริบตาได้ต่อเนื่องสามก้าว ไกลถึงสิบจ้าง
วิชากายาพิชิตมารนั้นเขาบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว บรรลุได้สูงกว่าวายุก้าวพริบตาหนึ่งขั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งดุจหินผา แต่ยังหล่อหลอมอวัยวะภายในทั้งหมดและตันเถียนด้วยแล้วหนึ่งครั้ง ทำให้เขามีลมปราณและพลังชีวิตสูงกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปหลายเท่า
นอกจากนี้ เขายังมีวิชาหมัดัปรภพที่บรรลุขั้นสูงแล้วอีกหนึ่งกระบวนท่า หมัดสู่ปรภพ รวมถึงวิชาท่าร่างขั้นพิเศษอย่างวิชาิญญาเคลื่อนและเคล็ดหอกสยบฟ้าที่บรรลุขั้นกลาง
‘การฝึกต่อจากนี้ ต้องเน้นไปที่การฝึกหมัดสู่ปรภพ ิญญาเคลื่อน แล้วก็เคล็ดหอกสยบฟ้า’
หลงอวี้คิดในใจว่า เขาไม่มีความจำเป็ต้องเสียเวลาไปกับวายุก้าวพริบตาอีกแล้ว ส่วนวิชากายาพิชิตมารบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์ได้ก็มากพอแล้ว
แต่หมัดสู่ปรภพ ิญญาเคลื่อน และเคล็ดหอกสยบฟ้า วิทยายุทธ์ทั้งสามวิชานี้ เมื่อบรรลุถึงขั้นถัดไปได้ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เวลาทั้งหมดที่ทุ่มเทกับวิชาเหล่านี้ไปไม่มีทางสูญเปล่าแน่นอน
“ได้เวลาไปลานประลองแล้ว”
หลงอวี้มองดูท้องฟ้า มองเห็นว่าแสงแรกอรุณเพิ่งจะเริ่มสาดส่องลงมา ใกล้จะถึงเวลาประลองตามที่ถูกท้า
คู่ต่อสู้ของเขาครั้งนี้ คือลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับที่สิบห้าเมิ่งเช่อ และเ้าเมิ่งเช่อนั่นก็เป็ลูกสมุนของหลัวไท่หลงด้วย!
“นี่ๆ รอข้าด้วยสิ ข้าจะไปด้วย!”
เลี่ยวเล่อเล่อวิ่งตามอย่างรีบร้อน
ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังที่ตั้งของลานประลองลัทธิสยบฟ้า
......
ลานประลอง
เมิ่งเช่อได้ประกาศท้าประลองกับหลงอวี้ ทำให้มีลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้าจำนวนมากสนใจมาชม ทำให้ในลานประลองตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยอื้ออึงทั่วบริเวณ ต่างก็คาดเดากันว่าใครจะเป็ผู้ชนะในศึกนี้
“ฝีมืออย่างเ้าหลงอวี้น่ะ อย่างมากสุดก็อยู่แค่อันดับห้าสิบเท่านั้นแหละ วันนี้มันต้องแพ้การประลองแน่นอน!”
“มันก็ไม่แน่นะ ข้าได้ยินว่า เ้าหลงอวี้สามารถเอาชนะเฟิงอวิ๋นได้จริงๆ ความแข็งแกร่งของเฟิงอวิ๋นไม่ได้อยู่แค่อันดับสิบแล้วนะ”
“เ้าล้อเล่นหรือเปล่า ถ้าเฟิงอวิ๋นไม่โดนสามตระกูลใหญ่ร่วมมือกันเล่นงานล่ะก็ เขาจะแพ้ได้อย่างไร?”
“ใช่แล้ว เ้าหลงอวี้นี่ก็แค่ฉวยโอกาสไปก็เท่านั้น หลังผ่านการประลองวันนี้ไป ความสามารถที่แท้จริงของมันก็จะถูกเปิดเผยเอง”
ลูกศิษย์ส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยเชื่อในความแข็งแกร่งของหลงอวี้สักเท่าไร
ถึงอย่างไรเมืองอวี้กวนก็อยู่ห่างไกลจากลัทธิสยบฟ้า เื่ที่เกิดขึ้นฝั่งนั้น กว่าจะถูกส่งมาถึงที่นี่ก็ย่อมถูกเปลี่ยนแปลงไปบ้างอยู่แล้ว!
บนอัฒจันทร์นั้น หลัวไท่หลงที่แค่มองดูรู้สึกว่าโเี้นั่งอยู่ด้านหน้าสุด บรรยากาศเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ด้านหลังของเขามีชายหนุ่มที่ดูค่อนข้างสง่างามผู้หนึ่งกำลังนั่งเช็ดกระบี่ในมืออยู่
“เมิ่งเช่อ มั่นใจไหม?”
หลัวไท่หลงเอ่ยถามขึ้น
ชายหนุ่มผู้สง่างามคนนั้นแย้มยิ้มบางๆ
“เื่นั้นยังต้องถามอีกหรือ กระบี่ในมือข้าเป็ถึงยุทธภัณฑ์ขั้นสูงที่ได้รับมาจากลัทธิเมื่อเดือนก่อนนะ ข้ารอตั้งสามเดือนกว่าจะได้มา”
คนผู้นี้ ก็คือเมิ่งเช่อ
ยุทธภัณฑ์ขั้นสูง อานุภาพไม่ธรรมดา แม้แต่เฟิงอวิ๋นก็ไม่เคยได้!
ลูกศิษย์ระดับพิเศษคนใดที่้ายุทธภัณฑ์ขั้นสูง จำเป็ต้องทำภารกิจของลัทธิให้สำเร็จสามเดือนติดต่อกัน แต่ตลอดทั้งสามเดือนนั้นจะไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย จำเป็ต้องเก็บสะสมผลงานจนกว่าจะได้รับยุทธภัณฑ์ขั้นสูงมาหนึ่งชิ้น
ยุทธภัณฑ์ระดับสูงนั้น คล้ายคลึงกับกระบี่โบราณปิ่งถงของเฟิงฉางเกอ สามารถเพิ่มอานุภาพของวิทยายุทธ์ประเภทวิชากระบี่ให้สูงขึ้นได้อย่างน่าสะพรึงกลัว
รวมกับเมิ่งเช่อมีวิถียุทธ์ขั้นเก้าแล้ว การจะต่อกรกับหลงอวี้ที่วรยุทธ์แค่ขั้นแปดคนเดียว เขามีอะไรต้องหวาดกลัวอีก?
“ดีมาก หลังจากขึ้นไปประลองแล้ว ไม่ว่ามันจะร้องขอความเมตตาหรือไม่ อย่างน้อยก็ต้องทำลายวรยุทธ์ของมันทิ้ง เข้าใจไหม?”
หลัวไท่หลงกดเสียงต่ำพูดเตือน
“ศิษย์พี่หลัว ท่านวางใจเถิด นับจากนี้ไป ต่อให้หมอมันไม่ตายก็ต้องกลายเป็สวะแน่นอน”
เมิ่งเช่อที่ภายนอกดูสง่างาม แต่แววตากลับประกายความอำมหิต
เขากับหลงอวี้นั้นไม่มีความแค้นใดๆ ต่อกัน แต่เพื่อเอาใจหลัวไท่หลงและผลประโยชน์ เขาพร้อมที่จะฆ่าหรือทำลายวรยุทธ์ของหลงอวี้!
ในตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั่นเอง เงาร่างสองสายได้ปรากฏที่หน้าทางเข้าลานประลอง หนึ่งในนั้นคือคนที่ทุกคนรอคอย ชายหนุ่มในชุดสีดำ หลงอวี้!
ส่วนอีกคนหนึ่ง คือเลี่ยวเล่อเล่อในชุดสีน้ำเงิน เมื่อเงาร่างที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูปรากฏตัว ก็พลันดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนได้ไม่น้อย
ต้องยอมรับว่า เลี่ยวเล่อเล่อนั้นมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างน่ารัก โดยเฉพาะยามที่ตั้งใจแต่งหน้าแต่งตัว นางดูเปลี่ยนไปจากเดิมทันที
หากใช้วิธีพูดแบบนางมาพูดก็คือ “อุตส่าห์ได้ออกมาข้างนอกกับหลงอวี้ทั้งที ก็ต้องแต่งตัวให้สวยหน่อยอยู่แล้ว”
แต่หลงอวี้กลับไม่ได้สนใจเื่นี้แม้แต่น้อย
ทำให้เลี่ยวเล่อเล่อแอบหงุดหงิดในใจ เ้าบ้านี่ไม่สนใจนางเลยสักนิด!
พอมาถึงลานประลอง หลงอวี้กวาดตามองครู่เดียวก็เห็นหลัวไท่หลงและชายหนุ่มรูปงามที่นั่งด้านหลัง เมิ่งเช่อ
ยุทธภัณฑ์ขั้นสูง ไม่เลว
หลงอวี้หรี่ตามอง ก่อจะก้าวเข้าไปในลานประลอง
อีกฝ่ายมียุทธภัณฑ์ขั้นสูง เขาเองก็มีหอกั์!
ตอนที่หลงอวี้ต่อสู้กับเฟิงอวิ๋น หลงอวี้ได้ใช้วิชาหมัดสู่ปรภพในการโค่นล้มอีกฝ่ายลงในหมัดเดียว แต่ตอนนี้ เขาไม่คิดจะใช้หมัดมัวเมาล้มสู่ปรภพ แต่คิดจะใช้พลังของหอกั์และเคล็ดหอกสยบฟ้า
“พยายามเข้านะ”
เลี่ยวเล่อเล่อให้กำลังใจเขาเล็กน้อย จากนั้นก็วิ่งไปข้างๆ เพื่อรอชมการประลอง
หลงอวี้ก้าวเท้าขึ้นไปยังใจกลางของลานประลอง ใช้หอกชี้ไปทางเมิ่งเช่อ
“ออกมา!”
พอผู้คนทั้งหลายมองเห็นหอกในมือหลงอวี้ ก็ถูกร่องรอยความเสียหายบนหอกดึงดูดสายตาทันที อดที่จะส่งเสียงหัวเราะไม่ได้
“เ้าหมอนี่ ต่อให้จะฝึกวิชาหอกมา ก็ไม่ควรไปเอาหอกยาวผุๆ พังๆ แบบนั้นมาใช้มั้ง!”
“ช่างน่าขันจริงๆ มันคิดจะเอาหอกผุๆ แบบนี้มาต่อกรกับยุทธภัณฑ์ขั้นสูงของศิษย์พี่เมิ่งเช่ออย่างนั้นหรือ”
“ข้าว่าแค่กระบวนท่าเดียวหอกนั่นก็คงถูกหักทิ้ง!”
ผู้คนทั้งหมดส่งเสียงหัวเราะดังลั่น รวมถึงหลัวไท่หลงและเมิ่งเช่อด้วย
หลัวไท่หลงไม่คิดว่าหลงอวี้จะเอาหอกผุๆ แบบนั้นมาใช้ต่อสู้ ตอนที่เห็นหลงอวื้ถือหอกเล่มนี้หน้าหอวิทยายุทธ์ เขาคิดว่าหลงอวี้จะใช้มันเพื่อฝึกวิชาชั่วคราวเท่านั้น
“หักหอกของมัน ทำลายวิถียุทธ์ของมันเสีย!”
หลัวไท่หลงพูดอย่างโเี้
“ศิษย์พี่หลัว กระบี่ในมือข้าไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่”
เมิ่งเช่อขยับตัววูปเดียวก็ขึ้นไปอยู่บนลานประลอง
หลงอวี้ถือหอกไว้ในมือมองไปทางเมิ่งเช่อ
ลมปราณในตัวเขาถูกรวบรวม มหาพลังฟ้าดินถูกรวบรวมไปอัดแน่นที่ปลายหอกั์อย่างรวดเร็ว!
“หลงอวี้ ตอนแรกข้าก็รู้สึกคาดหวังกับพลังของเ้า แต่ตอนนี้ เ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก เ้าขึ้นมาอันดับสิบได้ง่ายๆ แบบนี้ ไม่เหมือนกับที่ข้าคิดไว้เลย”
เมิ่งเช่อขึ้นมาบนลานประลองแล้ว ก็ได้พูดเสียงเรียบ มองไปทางหลงอวี้ด้วยแววตาผิดหวังอย่างชัดเจน!
“ไม่ต้องพล่ามให้มากความ”
หลงอวี้ตอบกลับไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ก้าวเท้าออกไป เงาร่างเคลื่อนไหว พุ่งทะยานพร้อมกับแทงหอกไปทางเมิ่งเช่ออย่างดุดัน!
“เคล็ดหอกสยบฟ้า มหาพลังฟ้าดิน จงสยบมัน!”
พริบตานั้นเอง เมิ่งเช่อยังไม่ทันได้ตั้งตัว หลงอวี้ได้ปล่อยมหาพลังสยบฟ้าอันน่าสะพรึงออกมาทั่วร่าง หลังจากที่มหาพลังได้ถูกรวบรวมไปที่ปลายหอกแล้ว ก็ได้จี้แทงทะลวงกระแสลมออกไป!
เมิ่งเช่อคาดไม่ถึงว่าหลงอวี้จะลงมือทันทีเช่นนี้!
เขายังเล่นกระบี่ในมืออยู่เลย แต่พอหลงอวี้โถมโจมตี สิ่งที่ทำให้เขาตื่นตระหนกใมากที่สุดคือ ทั้งที่หอกของหลงอวี้ยังไม่ทันมาถึงตัว แต่มหาพลังแห่งการกดทับอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งกลับมาถึงเขาแล้ว
วูม!!!
ตัวเขาพลันถูกสะกดอยู่กับที่ในพริบตา ไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย!
ลมปราณภายในตัวเขาหยุดนิ่งลงอย่างสมบูรณ์แล้ว!
เขาจึงคิดจะปล่อยจินตภาพสยบฟ้าที่ตัวเองบรรลุได้ออกมา แต่พบว่าแม้แต่จินตภาพสยบฟ้าก็ไม่สามารถใช้ได้
เมื่อใช้เคล็ดหอกสยบฟ้าคู่กับหอกั์แล้ว การโจมตีที่หลอมรวมมหาพลังฟ้าดินเข้าไปด้วยสามารถสะกดศัตรูได้ในพริบตา แม้ว่าความคิดจะยังชัดเจนเป็ปกติ แต่ร่างกายกลับไม่สามารถตอบสนองอะไรได้เลย!
นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น!
ปลายหอกพุ่งมาจ่อที่ลำคอของเมิ่งเช่อในพริบตา จนถึงตอนนี้ เมิ่งเช่อก็ยังไม่สามารถขยับตัวได้
“เ้า แพ้แล้ว!”
หลงอวี้พูดเสียงเรียบ
อึก!
เมิ่งเช่อกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ เหงื่อไหลเปียกโชก แววตาที่มองดูหลงอวี้แฝงด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย
ตอนนี้ หลงอวี้เพียงแค่ต้องแทงหอกออกไปเท่านั้น ก็จะสามารถปลิดชีวิตของเขาได้อย่างง่ายดาย!
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลงอวี้ก็ชักหอกกลับ
ตอนนี้ ลัทธิสยบฟ้ากำลังเผชิญภัยคุกคามครั้งใหญ่จากลัทธิพันไหม ในเวลาแบบนี้ หลงอวี้ไม่้าจะทำลายหรือสังหารยอดฝีมือของลัทธิสยบฟ้าให้เสียกำลังคนอย่างไร้ประโยชน์
นอกจากนี้ เ้าเมิ่งเช่อเป็หนึ่งในยอดฝีมือลัทธิสยบฟ้าที่จะได้ไปประลองในงานประลองยุทธ์เจ็ดสำนักด้วย!
แต่ในตอนที่เขาชักหอกกลับและหันหลังเตรียมจะเดินออกจากลานประลองนั่นเอง ดวงตาของเมิ่งเช่อพลันฉายแววตาชั่วร้ายอำมหิต มันพุ่งไปที่ด้านหลังของหลงอวี้หมายจะลอบโจมตี
ประกายกระบี่สว่างวาบ การลอบโจมตีของเมิ่งเช่อครั้งนี้ มันใช้วิทยายุทธ์ประเภทวิชากระบี่ขั้นพิเศษของลัทธิสยบฟ้า วิชากระบี่ชมสารท!
วิชากระบี่ชมสารทที่บรรลุถึงขั้นสูงแล้ว เมื่อใช้คู่กับกระบี่ที่เป็ยุทธภัณฑ์ขั้นสูงในมือเขาด้วย หนึ่งกระบี่ที่ใช้ราวกับนำทิวทัศน์อันเปลี่ยวเหงาของใบไม้ยามสารท สายลมแห่งสารทเกรี้ยวกราด พัดพาใบไม้ที่ร่วงโรยจนลอยว่อน
หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟัน คือการมาเยือนของสารทแห่งความตายของศัตรู!
“หืม?”
หลงอวี้มีประสาทััไวต่อจิตสังหารมากอยู่แล้ว เมิ่งเชื่อยังไม่ทันได้ลงมือ สัญชาตญาณก็กระตุ้นเตือนเขาทันที
ในตอนที่เพลงกระบี่ชมสารทตั้งท่าลอบโจมตีด้านหลังของหลงอวี้ เขากลับไม่มีใครคิดจะหลบเลี่ยงสารทวายุที่เกรี้ยวกราดนั่นเลย
“มหาพลังสยบฟ้า สะกดมันไว้!”
หลงอวี้พลันแทงหอกสวนกลับไปทันที หอกั์ที่อัดแน่นไปด้วยมหาพลังฟ้าดินแห่งการกดทับแทงไปทางด้านหลังอย่างดุดัน!
มหาพลังสยบฟ้าอันน่าสะพรึงกลัว เมื่อปะทะเข้ากับสายลมแห่งสารทอันเกรี้ยวกราดแล้ว พริบตาเดียวก็ได้สะกดสารทวายุไว้ได้อย่างสิ้นเชิง จากนั้นหอกยาวก็ได้แทงเข้าใส่กระบี่ของเมิ่งเช่อตรงๆ
เปรี้ยง! เพล้ง!
เพียงหอกเดียวเท่านั้น ใบมีดของกระบี่ยาวเล่มนั้นก็ถูกพลังมหาศาลตรงปลายหอกขยี้จนแตกกระจาย ยุทธภัณฑ์ขั้นสูงชิ้นหนึ่งถูกหลงวี้ทำลายอย่างง่ายดาย!
มหาพลังสยบฟ้าบนปลายหอกยังคงพุ่งตรงไปอย่างไม่หวนกลับ หลังจากทำลายกระบี่แล้ว มันก็ได้ปกคลุมเมิ่งเช่อไว้ทั้งตัวทันที
เมิ่งเช่อถูกสะกดอยู่กับที่อีกครั้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
ไม่มีใครคาดคิดว่า หลงอวี้จะมีพลังแข็งแกร่งจนสามารถสยบเมิ่งเช่อได้เช่นนี้!
ยุทธภัณฑ์ขั้นสูงหนึ่งชิ้นได้ถูก ‘หอกผุๆ’ ในมือหลงอวี้ทำลายจนแหลกเละ!
“ตาย!”
หลงอวี้ค่อยๆ ก้าวเท้า ใช้ด้ามหอกฟาดเข้าใส่เอวของเมิ่งเช่ออย่างรวดเร็ว พละกำลังอันมหาศาลไหลทะลักเข้าสู่ร่างกายของเมิ่งเช่อในพริบตา ทำให้มันกระเด็นไปตกจนมือกระแทกพื้นอย่างรุนแรง!
