เ่ิูชะงัก กำลังจะอ้าปากถาม เสียงอะไรบางอย่างแหวกอากาศดังฟ้าวๆ ผนังสีดำและอากาศธาตุเหนือหัวผุดสายโซ่ทมิฬออกมา พุ่งเข้าชนเร็วแรงดุจฟ้าแลบ
“อ๊า เจ็บๆๆ”
เ่ิูสูดลมหายใจเย็นะเื รู้สึกถึงแต่ความเ็ปร้าวไปยันขั้วใจ กระดูกทั้งร่างเหมือนถูกหักจนแตก พลังไม่อาจเกาะรวม เขาร่วงหัวคะมำทิ่มพื้นแข็งโป๊กอย่างจัง ไร้เรี่ยวแรงจะลุกอยู่นาน
หากมิใช่เพราะฝึกร่างกายถึงขีดสุด จนกล้ามเนื้อและกระดูกทรหดอดทน ตอนนี้เขาคงกลายเป็ก้อนเนื้อไปแล้ว
“ฮ่าๆๆๆๆๆ...” ห้องด้านข้างหัวร่อดังสนั่นเป็ฟ้าผ่า สุขใจชนิดไม่คิดจะปิดบังกันเลย
เ่ิูนวดเอวพลางลุกขึ้นนั่ง ทั้งใทั้งโกรธ บวกกับประหลาดใจอย่างช่วยไม่ได้ รู้อยู่ว่าผนังห้องนี้มีกระบวนอักขระกันเสียงอยู่ แต่เสียงหัวเราะคนๆ นี้ยังอุตส่าห์ข้ามผ่านมาได้ชัดแจ๋ว เห็นได้ชัดว่าเ้าของเสียงหัวเราะนั้นมีพลังมากมายจนน่าใ
้าศีรษะนั้น โซ่ดำทะมึนยังโบกขยับคล้ายจะตามราวี แต่สุดท้ายก็ค่อยๆ จางหายไป
เ่ิูมองอย่างรอบคอบ ว่าตรงไหนคือโซ่แส้อะไร และพบว่าเป็กลุ่มแสงก่อจากอักขระดำสนิทเนืองแน่น คงหนีไม่พ้นเป็ขีดสูงสุดที่เด็กหนุ่มคึกคะนองจะลอยผ่านไปได้ ไปัักระบวนลงโทษเข้าให้ ถึงได้ถูกชนอย่างแรงจนพูดไปก็ขายขี้หน้า
“แม่เ้าโว้ย รอพ่อพลังพอก่อนเถอะ จะทำลายกระบวนยุทธ์เป็ชิ้นๆ เลย...ฟู่ๆ เจ็บจริงว่ะ”
เ่ิูด่าอย่างเคืองแค้น
เสียงเพื่อนบ้านดังมาอีกระลอก “เด็กดี คิดเหมือนข้าเป๊ะ มีปณิธานแรงกล้า ข้าชอบเ้านะ”
เ่ิูสูดลมหายใจแล้วผ่อนออกมายาวๆ ค่อยๆ พลิกฟื้นความปวดร้าวที่ได้รับ อารมณ์แปลกใจเริ่มครอบงำ เขาะโถามเสียงดัง “ข้างห้องคือท่านใดหรือ? หัวเราะสุขสำราญได้ปานนี้?”
แต่คราวนี้กลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมา
เขาหยุดนิ่ง ก่อนะโถามอีกครั้ง
ไม่มีใครตอบกลับมาเช่นเดิม
“เฮ้ย เป็ใบ้หรือไง?” เ่ิูเสียดสี เล่นโจ๊กไปเื่หนึ่ง ครู่ใหญ่ๆ ก็ไม่ถามอะไรอีก แต่กลับนั่งสมาธิ ขนถ่าย รับและดึงดูดพลังแห่งใต้หล้า ฟื้นฟูพลังภายในที่ตนใช้ไปกับการควบคุมของและเดินบนอากาศก่อนหน้า
การลองวิชานั้นผลาญพลังไปหนึ่งในสี่ของน้ำพุ จำนวนไม่ใช่น้อยเลย
ครึ่งชั่วโมงเต็มผ่านพ้นไป กายเนื้อก็ฟื้นสภาพจนกลับไปเท่าตอนก่อนหน้าได้แล้ว
เ่ิูพยักหน้าพึงใจ ขณะนั้นเองที่เื่ไม่คาดฝันอุบัติขึ้น
ตอนพลังภายในเฟื่องฟูได้ที่นั้นเอง เด็กหนุ่มพลันรู้สึกถึงกระแสน้ำร้อนในสมองท่วมท้นขึ้นมา ยังไม่ทันให้เขาตอบโต้อะไร ทะเลสำนึกพลันเรืองไอสีทองหม่นกันยกใหญ่ ที่แท้แล้วเป็เพราะคัมภีร์ทองแดงเล่มนั้น ‘ท่วงทำนองยุคเทพมาร’ เลือนลั่นโครมคราม ราวว่ามีชีวิต
“บ้าอะไรเนี่ย?”
เ่ิูใจวนจะะโ
ตอนนั้นเองที่เขารู้สึกได้ฉับพลันถึงกลางโลกทะเลทรายตันเถียน พลังภายในใจกลางบ่อน้ำพุิญญาเหมือนสิ้นไร้การควบคุม ท่วมท้นไปทั่วถึงทุกอณูร่าง สุดท้ายก็กลายเป็น้ำร้อนหลั่งลงทะเลสำนึก ถูกคัมภีร์ทองแดงโบราณรับเอาไว้นับจำนวนไม่ถ้วน
ความเร็วว่องไวถึงที่สุด
เ่ิูไม่มีทางจัดการได้เลย
พริบตาเดียวเท่านั้น บ่อน้ำพุก็เหลือพลังงานอยู่เพียงครึ่งเดียว ถูกคัมภีร์โบราณท่วงทำนองยุคเทพมารกลืนกินอย่างลืมเคี้ยว
และขั้นตอนนี้ ก็เหมือนจะดุเดือดไม่หยุดเสียที
เ่ิูตระหนกพลางรีบเร่งรัดพลังภายใน ้าหยุดยั้งการรั่วไหลของพลังในน้ำพุิญญาเสีย
สำหรับนักยุทธ์ขั้นน้ำพุิญญาแล้ว พลังของน้ำพุคือหัวใจของพื้นฐาน หากถูกดูดหายไป ไม่เพียงจะต้องผนึกพลังใหม่ั้แ่เริ่ม หรือบุกเบิกน้ำพุิญญาใหม่เท่านั้น ยังอาจลามไปถึงเป็การทำร้ายตัวตนของผู้ฝึกอีกด้วย
ทว่าพลังของคัมภีร์ทองแดงนั้นมหาศาลน่าพิศวงจนน่ากลัว ไม่ว่าเ่ิูจะต่อต้านหรือสู้ศึกอย่างไร กระทั่งใช้วิชาลมหายใจไร้ชื่อผนวกด้วย ก็ยังไม่สัมฤทธิ์ผล
โลกตันเถียนของเขา น้ำพุเหือดแห้งกลายเป็เหลือแค่ตัวน้ำพุแค่ตาเดียว ขับพลังภายในออกเป็ว่าเล่น รั่วไหลไปถึงคัมภีร์ทองแดงในทะเลสำนึกกว้างใหญ่
เหมือนร่างกายสูญเสียการควบคุมจนยากจะสกัดกั้นไว้
เวลาผ่านไปทุกวินาที
กระบวนการนี้ ยืนหยัดอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้ว
ใบหน้าเ่ิูซีดขาว หอบหายใจถี่รัวจนน่ากลัว
และกลางทะเลทรายตันเถียนนั่นเอง น้ำพุที่เขาบุกเบิกด้วยความยากลำบากแห้งขอดจนหมด กลับกลายเป็ทะเลทรายไม่น่าอภิรมย์อีกรอบ เหลือไว้แต่หลุมลึกโบ๋เป็ตำหนิ ไม่เหลือเค้าว่าเคยมีน้ำพุอยู่ตรงนั้น...
อารมณ์เปราะบางไร้เรี่ยวแรงเข้าครอบงำเ่ิู
ประหนึ่งชายชราสูงวัยสิ้นเรี่ยวสิ้นแรง เดินทางมาถึงบั้นปลายชีวิต ดับสิ้นทุกสิ่งอย่าง
“จบเห่แล้ว มืดแปดด้านแล้วข้า...คัมภีร์ทองแดงช่างชั่วช้าเหลือเกิน กล้าดูดพลังภายในที่ข้าอุตส่าห์ฝึกฝนแทบจะขอดหนังขูดกระดูกกว่าจะได้มา ...”
เหงื่อเย็นเม็ดโตไหลท่วมศีรษะเด็กหนุ่ม
ความคิดเคลื่อนย้ายไปมาบ้าคลั่ง คิดหาทุกวิถีทางเพื่อแก้ปัญหาอย่างไม่ยอมแพ้
ทันใดนั้นเอง คัมภีร์ทองแดงนามท่วงทำนองยุคเทพมารพลันหยุดสั่นะเื มันปล่อยเปลวแสงสีทองหม่นพราวโรจน์ออกมา
เครื่องหมายอักขระแปลกประหลาดไหลเวียนอยู่ฉากหน้าของแสงนั้น ผลุบโผล่ไปมา เป็สีแดงอ่อนจาง ดั่งโลหิตไหลเวียนเป็สายธาร
ภาพตรงหน้าน่าพิศวงมาก
เวลาต่อมา เหมือนจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเข้าอีก เปลวแสงสีทองหม่นดั่งวาฬเพชฌฆาตพุ่งเข้าหาคัมภีร์โบราณ คัมภีร์เก่าแก่ที่เดิมทีปิดผนึกแ่าเปิดไม่ออก ดุจสายวายุยามใบไม้ผลิแฉลบผ่าน เปิดออกโครมครามโดยอัตโนมัติ...
เ่ิูไม่ได้ตาฟาง เขาเพียงแค่มองเห็นภาพในคัมภีร์นั้น ทว่ามิได้รู้เื่แจ่มแจ้งว่าอะไรเป็อะไร
หลังจากนั้นคัมภีร์โบราณก็ปิดลงสนิทอีกครา
มีเสียงสั่นเบาบางล่องลอยมา
จากนั้น เปลวแสงสีทองหม่นที่จมจ่อมอยู่ในคัมภีร์ก็ทะลักออกมา
ไม่ได้รีรอให้เ่ิูรับมือเลย มันพ่นพล่านเป็พญางูทรงพลังบุกเข้าทะเลความคิด ดังแทรกซึมเข้าไปในอากาศ ซึมซาบเข้าอวัยวะทั้งสามสิบสองของเด็กหนุ่ม พลังงานที่แอบแฝงภายในบริสุทธิ์และอบอุ่นขึ้นอีก ครั้นผ่านไปครบทุกที่ ก็แปลงกายเป็กระแสพลังภายในสายยาว กลับไปยังตาน้ำพุแห้งขอดเป็หลุมบ่ออีกคราหนึ่ง
ความเปลี่ยนแปลงนี้ ก็เหนือความคาดหมายของเ่ิูไปคนละทิศละทางเช่นกัน
เพราะสิ่งที่พวกมันนำมาให้ คือพลังมากมายไร้สิ้นสุด
เด็กหนุ่มรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ ว่าร่างกายร่วงโรยอ่อนแอของเขาพลันกระตือรือร้นมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครา ความรู้สึกว่างเปล่าสิ้นพลังหมดไป เหลือเพียงความรู้สึกแข็งแกร่งเฉียบขาดมากกว่าตอนเฟื่องฟูอย่างเทียบไม่ติด
เมื่อใช้ญาณมองในรูปกาย ตาน้ำพุิญญาแห้งผากนั้นได้กลับมาเปี่ยมเต็มล้นหลามเช่นเดิม
ทว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของน้ำพุนี้กว้างกว่าอันก่อนเป็สิบเท่า สิบห้าสิบหกเมตรเห็นจะได้ พลังภายในน้ำพุพิสุทธิ์ไหลโกรกและเดือดพล่าน ดั่งน้ำต้มสุกที่เปี่ยมพลังชีวิต ใสบริสุทธิ์กว่าคราวก่อนไม่รู้กี่เท่า มองไม่เห็นสิ่งสกปรกหรือตำหนิเลยแม้แต่นิดเดียว
น้ำพุพิสุทธิ์พ่นออกมาจากตาน้ำพุทีหนึ่ง สูงชะลูดร้อยกว่าเมตร มันแผดร้องยามไหวกระเพื่อมราววกับัเดือด
“พลังภายในบริสุทธิ์กว่าก่อน ไหลเร็วกว่า ศักยภาพแข็งแกร่งกว่า ให้ความชุ่มชื้นกับทะเลทรายไวกว่า หมายความว่าการฝึกฝนของข้าก็จะไวขึ้นไปด้วย รวดเร็วกว่าน้ำพุิญญาที่ข้าบุกเบิกไปมากนัก!”
เ่ิูทั้งใทั้งยินดี
ไม่นึกเลยว่าจะมีเื่เช่นนี้อุบัติขึ้นได้
ตอนถูกคัมภีร์ทองแดงรับพลังภายในทั้งหมดไป เขานึกว่าจะตายอย่างเขียดเสียแล้ว ใจตราหน้าคัมภีร์นั้นว่าเป็ของขัดขวางความเจริญเรียบร้อย ใครจะนึกเล่าว่าหลังจากมันดูดกลืนพลังภายในไปจนหมด จะเพิ่มระดับความใสสะอาด แล้วมอบคืนให้แก่ตนงามๆ เสียอีก
ขั้นตอนแบบนี้ เหมือนตอบแทนบุญคุณชะมัด
พลังภายในที่ได้มาใหม่นั้นทั้งบริสุทธิ์กว่า กระชับรัดกุม แข็งแกร่ง หากนำไปเปรียบกับของเก่าแล้วเหมือนกลับตัวกลับใจเป็คนใหม่ก็ไม่ปาน
“คัมภีร์ทองแดงโบราณเล่มนี้ เป็ของวิเศษสูงค่าจริงๆ ด้วย!”
เ่ิูตกลงให้นิยามมันชนิดไม่ลังเล
หากทำตามความเร็วการฝึกฝนปรกติทั่วไปแล้วล่ะก็ เ่ิูประมาณการดู ว่าตัวเขาคงต้องใช้เวลาอย่างต่ำหนึ่งเดือน ถึงจะชะล้างน้ำพุพลังให้สะอาดเอี่ยมอ่อง ให้ปากทางอาณาน้ำพุิญญามาจนถึงขั้นนี้ ให้ไหลเร็วและเปี่ยมพลังชีวิตเช่นตอนนี้ได้!
แต่ผลสะท้อนกลับของคัมภีร์โบราณท่วงทำนองยุคเทพมารนี้ ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็สำเร็จเสร็จสรรพ
เ่ิูรู้ตัวแล้วว่า ตนได้สมบัติล้ำค่ามาไว้ในกำมือ
สมบัติล้ำค่าที่มิอาจประเมินราคา
มันฉายเดี่ยวช่วยในการฝึกฝนของเขาได้ เห็นทีว่าสมบัตินี้จะสามารถพอนับเป็เครื่องมืออักขระขั้นสูงสุดแล้ว
เขาอารมณ์ดีเหลือจะเอ่ย
“ฮ่าๆๆๆ...โชคดีหล่นทับอะไรอย่างนี้ ใครหน้าไหนก็ขวางข้าไม่ได้แล้ว”
คัมภีร์ทองแดงเก่าแก่เขาแค่พบมันโดยบังเอิญเท่านั้น ดันพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้จริงๆ เสียอีก
ตื่นเต้นไปมองห้วงคิดของตนไป
เห็นเพียงคัมภีร์เล่มเดิมลอยสงบนิ่งอยู่กลางนภาประดับดาวเช่นก่อนเก่า ไม่สั่นโครมครามอีกแล้ว สิ้นไร้แสงสว่างใดเอ่อท้น ราวว่าเข้าสู่บรรทมนิทราตลอดชาติอีกรอบหนึ่ง
เ่ิูลองสะกิดหรือติดต่อมันด้วยวิธีอื่น ทว่าก็ไร้การโต้ตอบ
ลึกลับเสียจริง!
ดูท่าคัมภีร์ทองแดงโบราณของยุคเทพมารนี้จะยังเก็บงำความลับไว้มหาศาล
เด็กหนุ่มลองทำนายทายทัก ว่าที่คัมภีร์รับพลังภายในของเขาไปนั้นก็เป็การเสริมเติมและซ่อมแซมพลังของมันเองด้วย ดังนั้นจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง ทว่าก็มีแนวโน้มที่ระดับการฝึกของเขายังห่างไกล...ห่างไกลนักจากการเติมเต็มความ้าของมัน
และอาจพูดได้ว่า หาก้าปลุกคัมภีร์อย่างเต็มคราบ จะต้องใช้พลังภายในจำนวนมาก?
แน่นอน มันก็เป็แค่การคาดคะเนของเ่ิูเท่านั้น
ไม่ว่าอย่างไร การมีอยู่ของหนังสือเล่มนี้ต้องปกปิดไว้เป็ความลับมิให้ใครรู้
เ่ิูแน่วแน่นัก คาดเบาะแสได้ก็ตัดสินใจเลย
เมื่ออารมณ์สงบลงแล้ว เขาก็นึกอะไรออก สั่งการในใจให้คัมภีร์เล่มนั้นหลุดออกมาจากห้วงความคิด แวบเดียวเท่านั้นมันก็มาปรากฎอยู่กลางฝ่ามือ
ความรู้สึกหนักหน่วงยังคงอยู่
เ่ิูลองเปิดหน้าแรกดู
เขาเปิดมันได้
เด็กหนุ่มเคยเปิดแผ่นนี้มาก่อนหน้า สิ่งที่เห็นก็คืออักษรโบราณระบุเป็สารบัญสืบค้น
ยังคงเป็อักษรของยุคเทพมาร เร้นลับซับซ้อน ขีดแทบจะพันกันยุ่ง หากเป็คนสามัญเห็นเข้าแวบเดียวก็เวียนหัวตึ้บ
แต่เ่ิูไม่
หลังจากสืบค้นมาหลายวัน เด็กหนุ่มก็คุ้นเคยกับหนังสือเก่าแก่โบราณที่ถูกทอดทิ้งในหอสมุด การจะอ่านตัวอักษรเก่าแก่ของยุคเทพมารอีกมิใช่ปัญหาใหญ่ ถึงจะคลุมเครือบ้างบางส่วน แต่ส่วนมากก็เข้าใจแล้ว
เ่ิูจำได้แม่นมั่น ว่าคราวก่อนที่เปิดหน้าปกหนังสือเล่มนี้ก็เจอหน้าสารบัญเป็หน้าแรก แต่หน้าต่อๆ ไปเขาเปิดไม่ออกเลย ไม่ว่าจะลองด้วยวิธีไหนก็ไร้ผล
แต่คราวนี้ มีบางอย่างเปลี่ยนแปลง
ตัวอักษรสมัยเทพมารบนหน้าสารบัญ มิใช่สีเทาอีกต่อไป แต่เป็สีเงินอ่อนจางแทน
“นี่มันหมายความว่า...”
เ่ิูใจเต้น มือจิ้มลงบนตัวหนังสือสีเงินนั้น ััอบอุ่นแช่มชื้นราวกับผิวกายคนคุ้นเคยส่งผ่านเข้ามา คัมภีร์คร่ำครึที่ก่อนหน้าเปิดไม่เคยออก บัดนี้พลิกหน้าด้วยตัวเอง ส่งเสียงเปิดกระดาษไม่ขาดสายเมื่อตรงไปหน้าที่เ้าตัวได้กดไว้