เนื่องจากไป๋ซูเหอเฝ้าอยู่ข้างกายของไป๋เหล่าฮูหยินทุกวัน ส่วนไป๋หว่านหนิงก็บำรุงครรภ์ วันเวลาในจวนสกุลไป๋จึงแปรเปลี่ยนเป็เงียบสงบ
เพียงแต่ภายใต้ความเงียบสงบนี้ ไม่ทราบว่ามีระลอกคลื่นมากมายเพียงใดที่รอสบโอกาสถึงจะลงมือ
“คุณหนู คุณหนูเ้าคะ รีบตื่นเร็วเ้าค่ะ!”
เสียงเอะอะดังอยู่ข้างหู...
มันดังซ้ำไปซ้ำมา
ไป๋เซี่ยเหอข่มความปรารถนาที่จะบีบคอฝูเอ๋อร์ให้ตาย ก่อนจะเลิกผ้าห่มขึ้นมานั่ง ความง่วงงุนยังไม่จางหายไปไหน
“มีเื่อันใด?”
แต่ละคำล้วนแฝงไว้ด้วยไอสังหาร
ฝูเอ๋อร์หดคอโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว นางเอ่ยเสียงเบา “วันนี้มีเทศกาลดอกไม้เ้าค่ะ”
เหล่าเด็กสาวในยุคนี้ศรัทธาในเทพบุปผา ดังนั้นจึงมีการจัดเทศกาลดอกไม้ขึ้น
นอกจากจะกินขนมดอกไม้และนำบทกวีไปแขวนแล้ว ยังมีการปล่อยโคมดอกไม้ด้วย
วันนี้เป็วันที่สตรีทุกนางสามารถออกจากจวนไปเที่ยวเล่นอย่างเปิดเผยได้
เมื่อฝูเอ๋อร์เห็นโทสะบนใบหน้าของไป๋เซี่ยเหอค่อยๆ สลายไป ก็ขยับเข้ามาใกล้พร้อมยิ้มตาหยี
“บ่าวเตรียมขนมดอกไม้ไว้ให้คุณหนูแล้วเ้าค่ะ คุณหนูรีบลุกมาชิมนะเ้าคะ”
เสียงของฝูเอ๋อร์ฟังดูนุ่มนวล มีความคาดหวังแฝงอยู่ในความออดอ้อน
ไป๋เซี่ยเหอลุกจากเตียง แล้วปล่อยให้ฝูเอ๋อร์แต่งตัวให้
ยังคงเป็ชุดกระโปรงยาวดอกฝูหรงสีชมพูที่เคยสวมใส่ในวันนั้น ราวกับว่าหลังจากสวมครั้งหนึ่งแล้ว ฝูเอ๋อร์ก็อยากให้นางสวมชุดนี้อีก
เรือนผมถูกมัดเป็มวยลูกหนึ่งอย่างประณีต เนื่องจากปกติไป๋เซี่ยเหอมักขอให้ฝูเอ๋อร์ทำผมอย่างเรียบง่าย นางจึงไม่เคยรู้เลยว่าฝีมือทำผมของฝูเอ๋อร์เก่งกาจปานนี้
ดอกไม้สีชมพูดอกเล็กที่ดูงดงามประมาณสองสามดอกถูกนำมาตกแต่งที่มวยผม ทั้งยังมีปิ่นปักผมดอกปิ้งตี้ฝูหรง[1]ด้ามหนึ่งเสียบเอียงๆ ที่มวยผม ดูวิจิตรงดงามทว่าไม่ลายตา
ใบหูทั้งสองข้างมีต่างหูมุกที่ดูเรียบง่ายห้อยอยู่ มันเปล่งประกายไปตามการก้าวเดินและการขยับตัว
แต่งกายเพียงเท่านี้ก็ดูงดงามล่มเมืองแล้ว
“คุณหนูดูดีจริงๆ เ้าค่ะ”
ฝูเอ๋อร์มองตาค้าง
ไป๋เซี่ยเหอหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าเล็กของฝูเอ๋อร์แล้ว จู่ๆ นางก็ตัดสินใจบางอย่างได้
“เ้าก็ไปจัดการตนเองให้ดี อีกประเดี๋ยวข้าจะพาเ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง”
มีบางเื่ที่ฝูเอ๋อร์ควรรู้ไว้
ฝูเอ๋อร์เด้งตัวขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น นางกลัวว่าวันนี้คุณหนูจะทิ้งนางไว้แล้วออกไปข้างนอกคนเดียว นึกไม่ถึงว่าคุณหนูจะเต็มใจพานางไปด้วย
ไป๋เซี่ยเหอหยิบขนมดอกไม้ที่ฝูเอ๋อร์ทำเองมาบิกินคำเล็กๆ
รสชาติอร่อยเป็อย่างยิ่ง
เมื่ออธิษฐานขอพรเสร็จ ก็ต้องแขวนบทกวีตามธรรมเนียม จากนั้นไป๋เซี่ยเหอก็ถูกฝูเอ๋อร์ทาเล็บให้อย่างประณีต กว่าจะเสร็จเวลาก็เลยมาถึงพลบค่ำ
“คุณหนู ไป๋เหล่าฮูหยินบอกว่าให้ไปรวมตัวที่ห้องโถงด้านหน้าได้แล้วเ้าค่ะ”
ไป๋เซี่ยเหอพาฝูเอ๋อร์ออกไปอย่างไม่รีบร้อน นางเดินช้าๆ ราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ก็ไม่ปาน
เมื่อนางมาถึง ไป๋เหล่าฮูหยิน ไป๋หว่านหนิง และไป๋ซูเหอก็อยู่ที่นั่นแล้ว
ไป๋เหล่าฮูหยินถลึงตามองไป๋เซี่ยเหอด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็ไม่พูดอะไร เพียงกำชับอย่างจริงจังเท่านั้น
“เอาล่ะ พวกเ้าที่ยังเยาว์วัยออกไปเที่ยวเล่นเถิด”
เมื่อไป๋เหล่าฮูหยินพูดจบ ไป๋ซูเหอก็ลุกขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อนจะเอ่ยอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล “่นี้ท่านย่าไม่ค่อยสบาย ข้าไม่ไปเที่ยวเล่นนะเ้าคะ ข้าขออยู่ดูแลท่านย่าในจวนจะดีกว่าเ้าค่ะ”
จากนั้นนางก็ยอบกายให้ไป๋เซี่ยเหอกับไป๋หว่านหนิงอย่างมีมารยาท
“พี่สาวทั้งสองไปเที่ยวเถิดเ้าค่ะ มีข้าอยู่ไม่ต้องกังวลเื่ในจวน หวังว่าพี่สาวทั้งสองจะเที่ยวให้สนุกนะเ้าคะ”
ณ ประตูจวนสกุลไป๋
ไป๋หว่านหนิงเหลือบมองไป๋เซี่ยเหอที่เยื้องย่างออกมาด้วยท่วงท่าสง่างาม
ความงดงามของนางทำให้ไป๋หว่านหนิงอิจฉาจนแทบคลั่ง ใบหน้าเปลี่ยนเป็แดงก่ำทันที ก่อนจะกล่าวประชดประชันอย่างเ็า “ข้านึกว่าเมื่อพี่สาวสูญเสียความโปรดปรานจากเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว ก็จะมัวแต่หลบอยู่ในเรือนของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงหัวเราะเยาะจากผู้คนเสียอีก”
“คุณหนูรอง คุณหนูใหญ่คือพี่สาวแท้ๆ ของท่าน ท่านพูดจาเช่นนี้ได้อย่างไรเ้าคะ?” ฝูเอ๋อร์เม้มปาก
ใบหน้าเล็กที่ขาวราวหิมะของไป๋เซี่ยเหอสงบนิ่งดุจสายน้ำ “เ้ายังไม่กลัวคนหัวเราะเยาะเลย แล้วข้าจะกลัวไปไย?”
สายตาของนางมองไปยังหน้าท้องของไป๋หว่านหนิง
แม้ว่าครรภ์จะยังมองเห็นไม่ชัด ทว่าไป๋หว่านหนิงกลับสวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าน้ำทะเลที่หลวมเล็กน้อย เขียนดอกท้อบนใบหน้า ประดับประดาไปด้วยไข่มุกและมรกต มองไม่เห็นความซีดเซียวแบบหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์แม้แต่น้อย
ไป๋หว่านหนิงเอียงตัวหลบโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว สายตาเ็าของนางแฝงไว้ด้วยความชั่วร้าย “ไป๋เซี่ยเหอ เ้าอย่าได้คิดอะไรบ้าๆ!”
นี่คือสถานการณ์ที่เรียกว่าโจรจับโจร
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็ฝ่ายหาเื่ก่อน ทว่ากลับคิดว่าคนทั้งโลกปองร้ายตนเอง!
“เฮอะ เ้ายังไม่รู้สินะ สตรีที่ออกไปเที่ยวเล่นในวันนี้ล้วนแล้วแต่มีการหมั้นหมายกันแล้วทั้งนั้น คู่หมั้นของพวกนางจะพาไปปล่อยโคมดอกไม้ แล้วขอพรให้เทพบุปผาคุ้มครองดูแลความรักไปชั่วชีวิต”
“อีกไม่นานไท่จื่อก็จะมารับข้า แล้วเ้าเล่า?”
น้ำเสียงแหลมเล็กแปรเปลี่ยนเป็เสียงหัวเราะอย่างไม่ประสงค์ดี “อันหนิงจวิ้นจู่ผู้นั้นก็อยู่ที่จวนเซ่อเจิ้งอ๋อง เ้าว่าเซ่อเจิ้งอ๋องจะมาหาเ้า หรือจะดื่มด่ำกับความอ่อนหวานที่อยู่ในเรือนกันเล่า?”
“คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยมาสายแล้วขอรับ”
เซี่ยถิงเดินเข้ามาก่อนจะทำความเคารพไป๋เซี่ยเหอ
ไป๋หว่านหนิงยิ่งมองเซี่ยถิงก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา จวนเซ่อเจิ้งอ๋องส่งองครักษ์มาด้วยเจตนาใด?
ควรเป็ตำหนักไท่จื่อมากกว่าที่ส่งองครักษ์มาให้ไท่จื่อเฟยในอนาคตอย่างนาง ยิ่งไปกว่านั้น ในครรภ์ของนางยังมีก้อนเนื้อที่สูงส่งเช่นนั้นอีก
ไป๋หว่านหนิงกลอกตา ตัดสินใจว่าจะมอบความประหลาดใจให้พี่เชินในคืนนี้ แล้วค่อยให้เขาส่งองครักษ์แปดคนมาคุ้มครองตนเอง นั่นถึงจะเรียกว่าสมเกียรติ
เนื่องจากหัวใจเกิดความริษยา ถ้อยคำจึงยิ่งรุนแรงตามไปด้วย “องครักษ์ของจวนเซ่อเจิ้งอ๋องช่างใหญ่โตนัก นึกไม่ถึงว่าจะให้เ้านายของตนเองรอเสียนาน”
เซี่ยถิงยังคงยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เพียงแต่แววตาเต็มไปด้วยประกายซับซ้อน
ดวงตาสีดำแวววาวของไป๋เซี่ยเหอเผยความเ้าเล่ห์ออกมา “พูดมาเถิด เซี่ยถิง เหตุใดเ้าถึงมาช้าเช่นนี้?”
เซี่ยถิงตอบอย่างจริงจัง “เรียนคุณหนู ข้าน้อยออกไปจัดการธุระตามคำสั่งของคุณหนู ระหว่างกลับ ข้าน้อยได้พบไท่จื่อโดยไม่คาดคิด...”
“พี่เชิน!”
คิ้วของไป๋หว่านหนิงคลายลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง “ในเมื่อเ้าได้พบไท่จื่อผู้สูงศักดิ์ บ่าวรับใช้อย่างพวกเ้าก็ทำได้เพียงโขกศีรษะเท่านั้น”
“เพียงแต่พี่เชินของข้าเล่า? เขาควรมาถึงก่อนเ้าสิถึงจะถูก”
ระหว่างที่พูด ไป๋หว่านหนิงก็เริ่มตั้งตารอ ดวงตาเป็ประกายทันที
ไป๋เซี่ยเหอมองเห็นความซับซ้อนและความสับสนในแววตาของเซี่ยถิง จึงเริ่มแน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะไม่สอดคล้องกับความคาดหวังของไป๋หว่านหนิง “เ้าพูดต่อสิ”
“หลิวเช่อเฟยของไท่จื่อเสด็จมาด้วย ข้าน้อยบังเอิญพบพวกเขากำลังช่วยเหลือผู้คนอยู่ที่หัวมุมถนน หลิวเช่อเฟยได้รับชื่อเสียงอันดีงาม และในเวลานี้ไท่จื่อก็ทรงรับน้ำใจจากราษฎรอยู่ที่หัวมุมถนนด้านหน้าขอรับ...”
ใบหน้าของฝูเอ๋อร์เต็มไปด้วยความแปลกใจ นางกล่าวด้วยเสียงไม่สูงไม่ต่ำ ทว่าชัดเจนราวกับระฆัง “ไม่หรอกกระมัง เทศกาลดอกไม้เช่นนี้ไท่จื่อทรงพาเช่อเฟยออกมาด้วยหรือ? ทรงคิดที่จะฉลองเทศกาลกันสามคนหรือเ้าคะ?”
“พอได้แล้ว!”
ใบหน้าของไป๋หว่านหนิงกลายเป็สีดำทันที ราวกับมีก้อนฝ้ายอุดอยู่ในลำคอทำให้หายใจไม่ออก
ฉลองเทศกาลสามคนหรือ? แย่กว่าไป๋เซี่ยเหอที่ฉลองเทศกาลคนเดียวเสียอีก!
------------------------
[1] ดอกปิ้งตี้ฝูหรง หมายถึง ดอกบัวสองดอกโตคู่กัน เป็คำอุปมาได้ว่าคู่รักที่รักกัน