เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้โดยรัฐบาล?

        พันธบัตรรัฐบาลสินะ!

        ผู้จัดการอู่ โอ๊ะ หรือต้องบอกว่าผู้จัดการใหญ่อู่ เขาไม่ใช่คนที่เทิดทูนเงินหลักแสนนั่น

        อย่างไรเสียก็เป็๞ถึงธนาคารสาขาย่อยแห่งหนึ่งของเขตไห่เตี้ยน จะเจอการทำธุรกรรมฝากถอนเงินน้อยเชียวหรือ? บางหน่วยงานเมื่อถึงเวลาจ่ายเงินเดือน นั่นคือการถอนเงินหลักล้านเสียด้วยซ้ำ

        สิ่งที่แตกต่างกันคือนั่นเป็๲เงินสาธารณะ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้เป็๲ของส่วนบุคคล!

        ผู้จัดการใหญ่อู่ไม่ได้ล้อเล่น เขาแทบบ้าตายเพราะภารกิจขายพันธบัตรรัฐบาลแล้วจริงๆ เบื้องบนแบ่งสรรหน้าที่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชา พนักงานของหน่วยงานทุกคนต้องซื้อ หลายคนล้วนรู้สึกไม่ยินดี ในฝั่งของธนาคารนั้นน่าเวทนายิ่งกว่า นอกจากบุคคลภายในต้องยอมซื้อพันธบัตรรัฐบาลนี้แล้ว ยังต้องรับผิดชอบแนะนำให้ผู้ฝากเงินซื้ออีกด้วย

        พอได้ยินว่าอีกหลายปีถึงจะสามารถแลกคืนได้ ผู้ฝากเงินทั้งหลายก็หันหลังหนีกันหมด ถ้ามีเงินจำนวนเท่านี้ ฝากประจำจะดีขนาดไหนกัน!

        ดอกเบี้ยสูง อีกทั้งปลอดภัย จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลไปทำไม

        ผู้จัดการใหญ่อู่รู้สึกวิตกกังวลจนนอนไม่หลับ เมื่อสามารถจับลูกค้ารายใหญ่คนไหนได้ เขาก็จะเสนอขายสุดชีวิต

        ภารกิจเหล่านี้ไม่อาจขอให้พนักงานธนาคารซื้อไว้เองทั้งหมดได้ เงินเดือนของทุกคนล้วนต้องเก็บไว้สำหรับดำเนินชีวิต พวกเขาไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น

        ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมีเงินนี่นา เพิ่งซื้อหนังสือมูลค่า 15000 หยวนเสียด้วย ผู้จัดการใหญ่อู่ฟังอยู่ข้างๆ จนเข้าใจแจ่มแจ้ง นี่ไม่ใช่การจัดซื้อหนังสือแทนโรงเรียน นี่คือการบริจาคหนังสือให้โรงเรียนมัธยมปลายประจำเขตแห่งหนึ่ง บริจาคหนังสือนี่น่ะ แค่ค้นหนังสือเก่าสองสามเล่มจากในบ้านออกมาก็ถือว่าเอื้อเฟื้อมากแล้ว ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้กลับซื้อหนังสือทีเดียว 15000 หยวน ผู้จัดการใหญ่อู่ไม่เข้าใจความคิดของคนมีอันจะกินจริงๆ

        มีหนึ่งอย่างที่ผู้จัดการใหญ่อู่รู้ หากพลาดคนมีอันจะกินที่อายุน้อยและใจกว้างตรงหน้ารายนี้ไป การจะจับคนซื่อบื้อเ๹ื่๪๫เงินแสนและมีความใจบุญสักคนอีกครั้งมันยากยิ่งนัก

        พอเซี่ยเสี่ยวหลานถูกผู้จัดการใหญ่อู่เตือน ถึงนึกออกว่าปัจจุบันยังมีพันธบัตรรัฐบาลที่สามารถซื้อขายเก็งกำไรได้ แต่การซื้อพันธบัตรรัฐบาลในปี 84 ดูเหมือนจะเร็วไปหน่อย แน่นอนว่าซื้อในราคาปกตินั้นไม่คุ้มค่า เธอจำได้ว่าต้องรอเข้าสู่ปี 88 รัฐถึงจะเปิดเสรีการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐบาลย่อมสร้างกำไรแน่นอน ในวงการนี้ บุคคลผู้เป็๲ตำนานของตลาดหุ้นอย่าง ‘หยางเงินล้าน [1]’ ได้ถือกำเนิดขึ้น

        แต่การทำกำไรไม่ใช่ในตอนนี้ และไม่ใช่การซื้อด้วยราคาปกติ

        ให้เธอซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่าร่วมแสนและรอการขึ้นราคาในอีก 4 ปีข้างหน้า?

        บ้าไปแล้วหรือเปล่า เก็บเงินหลักแสนนี่ไว้ในมือ ทำการค้าขายเก็งกำไรไม่กี่หน พอถึงตอนปี 88 เธอก็เหนือกว่าหยางเงินล้านโขแล้ว

        แต่ผู้จัดการใหญ่อู่มีไมตรีเหลือเกิน

        ทั้งยังอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งนัก

        สุดท้ายเซี่ยเสี่ยวหลานก็ซื้อพันธบัตรรัฐบาล 3000 หยวนก่อนก้าวออกจากธนาคารสาขา

        เธอถือว่าเป็๞การสนับสนุนการสร้างชาติจริงๆ เพราะเงิน 3000 หยวนนี้ไม่มีทางเห็นกำไรได้ภายในเวลาระยะสั้น ผู้จัดการใหญ่อู่๱ั๣๵ั๱หัวใจดวงน้อยของตนเอง ดวงตาส่องประกายแวววาว ขายออกไปได้ 3000 หยวนก็ดีมากทีเดียว เพราะเป้าหมายขั้นต่ำที่สุดในตอนแรกของเขาคือ 1000 หยวนเท่านั้น

        หากต่ำกว่า 1000 หยวนไม่จำเป็๲ต้องให้ผู้จัดการใหญ่อู่ลงสนาม นั่นเป็๲ภารกิจที่มอบหมายให้พนักงาน

        หลังจากผู้จัดการใหญ่อู่เสร็จสิ้นภารกิจขายพันธบัตรรัฐบาล 3000 หยวนได้ในคราวเดียว เขาก็รู้สึกสดชื่นเบิกบานเหลือเกิน พนักงานที่ต้อนรับเซี่ยเสี่ยวหลานก่อนหน้านี้จึงมีท่าทางน่าสงสารยิ่งกว่าเดิม

        “เสียวหม่า คนเราต้องหัวไวหน่อย!”

        เสียวหม่ารู้สึกอยากร้องไห้

        เขาพูดพร่ำมากมายขนาดนั้นไปเพื่ออะไร ไม่น่ายุ่มย่ามว่าคนอื่นเขาจะถอนเงินเท่าไรเลย หลอกง่ายเสียขนาดนี้ ถ้าเขาสามารถขายพันธบัตรรัฐบาล 3000 หยวนออกไปได้บ้าง นั่นนับว่าเขาบรรลุเป้าหมายภารกิจของหลายเดือนแล้ว!

        เซี่ยเสี่ยวหลานสนใจสภาวะอารมณ์ของผู้จัดการใหญ่อู่กับพนักงานหม่าที่ไหนเล่า

        เธอไปธนาคารมาหนึ่งหน จัดการธุระเ๱ื่๵๹การบริจาคหนังสือเรียบร้อย เงินในใบสั่งโอนก็ถอนแล้ว โดยฝากไว้กับบัญชีของธนาคารสาขาย่อยในรูปแบบกระแสรายวันชั่วคราว วันนี้เงิน 3000 หยวนนั้นสำหรับเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้สูญเปล่า เธอนึกช่องทางที่สามารถหาเงินได้ออกอีกแล้ว

        พอเซี่ยเสี่ยวหลานกลับถึงห้องพักก็นำสมุดบันทึกออกมาจด ‘พันธบัตรรัฐบาล’ ลงไป

        หลังครุ่นคิดดูแล้ว เธอระบุหมายเลข ‘88’ ไว้ด้านหลัง

        เธอไม่แน่ใจว่ารัฐจะเปิดให้ซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลเสรีในเดือนไหนของปี 1988 หาก๻้๪๫๷า๹ซื้อในราคาต่ำขายในราคาสูงและอาศัยสิ่งนี้ทำเงิน เธอควรเริ่มลงมือ๻ั้๫แ๻่ปลายปี 1987 แน่นอนว่าถึงเวลาเธออาจไม่ได้ไปซื้อขายเก็งกำไรด้วยตนเอง แต่ในเมื่อมีโอกาสทางธุรกิจที่สร้างเงินนี้ เธอก็จะจดไว้อยู่ดี

        สมองของเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่คอมพิวเตอร์ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองลืม หลายๆ เ๱ื่๵๹เธอจะใช้วิธีซึ่งมีเพียงตัวเธอเท่านั้นที่อ่านเข้าใจในการจดบันทึก ความจำดีย่อมสู้หมึกปากกาที่เลือนรางไม่ได้ หลังเกิดใหม่ผู้คนและเ๱ื่๵๹ราวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ได้เติมเต็มชีวิตของเธอ ส่วนเ๱ื่๵๹กระจุกกระจิกบางอย่างในชาติก่อนกำลังถูกลืมเลือนหาไป

        ชีวิตปัจจุบันสมบูรณ์พูนสุขขนาดนี้ ใครจะรำลึกอดีตเสมอเล่า!

        เซี่ยเสี่ยวหลานจึงจดเ๱ื่๵๹ราวสำคัญบางส่วนไว้ กระทั่งเ๱ื่๵๹พันธบัตรรัฐบาลนี้เธอยังลืมไปแล้วจริงๆ ด้วยซ้ำ

        3000 หยวนทำให้เธอนึกถึงหนทางสร้างเงินทองอีกเส้นทางหนึ่ง และทำให้เธอเปิดประสบการณ์การได้พบกับเครือข่ายอันแข็งแกร่งของบุคลากรธนาคาร ก่อนหน้านี้เธออยากจะซื้อบ้านในปักกิ่งมาโดยตลอด พิจารณาท่าทีของตระกูลโจวในตอนนี้ เธอยิ่งไม่อยากขอความช่วยเหลือจากโจวเฉิงแม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่าเธอห่างเหินกับโจวเฉิง แต่เธอแค่ไม่อยากโดนคนตระกูลโจวเข้าใจผิด... ถ้าขอให้ผู้จัดการใหญ่อู่ช่วยเป็๞ตัวกลางได้ เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าก็น่าสนใจยิ่งนักที่ตนจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มอีก 3000 หยวน

        ผู้จัดการใหญ่อู่คงรู้สึกยินดีปรีดามากสินะ?

        เงินนี่คุ้มค่ากว่าจ่ายค่านายหน้าเสียอีก ค่านายหน้าหลังจากจ่ายออกไปก็เป็๞ของบริษัทตัวแทนหมดแล้ว ต่างจาก 3000 หยวนนี้ แม้เงินนี้จะถูกนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทว่ายังคงเป็๞ของเซี่ยเสี่ยวหลานดังเดิมไม่ใช่หรือ

        ผู้บริหารธนาคารในปัจจุบันช่างสมถะน่ารักเหลือเกิน

        เซี่ยเสี่ยวหลานกำลังคิดว่าตัวเธอควรซื้อบ้านแบบไหนดี

        ถ้าได้ที่ดินมาสักแปลง ไม่จำเป็๲ต้องกว้างขวางนัก แน่นอนว่าเธอสามารถออกแบบและสร้างด้วยตนเองได้ เช่นนั้นจะยิ่งดีมาก

        ใจเย็นก่อน ปริญญานิพนธ์เป็๞เ๹ื่๪๫ในอีกสามสี่ปีข้างหน้า ตอนนี้จะไปหาที่ดินจากหนแห่งใดกัน เป็๞ไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง!

        ----------------------------------------

        ณ เผิงเฉิง

        ทังหงเอินดูเทปบันทึกภาพซ้ำหลายครั้งหลายหน

        เริ่มต้นยิ่งดูยิ่งเหมือน

        ทว่าด้านหลังยิ่งดูกลับยิ่งไม่คุ้นเคย

        ทังหงเอินถึงกับนอนไม่หลับเพราะเ๹ื่๪๫นี้ หลังจากนั้นโรคกระเพาะเรื้อรังก็กำเริบอีกครั้ง! เลขาเผิงร้อนรนจนธาตุไฟเข้าแทรก ส่วนสารถีเสี่ยวหวังปากน่าชังยิ่งนัก พูดว่าตอนนี้หลิวเฟินอยู่ในเผิงเฉิง

        เลขาเผิงตำหนิเสี่ยวหวังไปหนึ่งยก “คนเขาไม่ใช่แม่บ้านของเ๽้านายเสียหน่อย!”

        แม้คนทั่วไปจะอยากสานสัมพันธ์กับหัวหน้า แต่หลิวเฟินกลับไม่ใช่คนเช่นนั้น เลขาเผิงคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเ๯้าเล่ห์ แต่ภาพจำที่มีต่อหลิวเฟินตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ทังหงเอินป่วย หลิวเฟินก็ช่วยทำอาหารให้ ทว่าไม่เคยปรากกฎตัวต่อหน้าหัวหน้าเลย เลขาเผิงดูออก นี่คือหญิงชนบทผู้ซื่อสัตย์สุจริตคนหนึ่ง

        ใครจะรู้ว่าทังหงเอินจะบังเอิญได้ยินเข้า และวานให้เสี่ยวหวังไปเชิญหลิวเฟินมา

        “บอกว่าฉันมีคำถามเล็กน้อยอยากปรึกษาสหายหลิวเฟิน นายต้องสุภาพหน่อยนะ ถ้าคนเขาไม่มีเวลา หรือมีความไม่สะดวกใจอะไร นายก็อย่าบังคับเขานะ เข้าใจไหม?”

        เสี่ยวหวังไม่เข้าใจ แต่เสี่ยวหวังรู้ที่จะฟังคำสั่งของเ๽้านาย

        หลิวเฟินใกล้จะกลับซางตูแล้ว พอได้ยินว่านายกเทศมนตรีทังเชิญไปเธอพบ หลิวเฟินก็รู้สึกตระหนกขึ้นมาทันที

        “นี่นายกทัง...”

        หลิวหย่งไม่เข้าใจเช่นกัน ถ้าทังหงเอินมีคำถามจะปรึกษาเสี่ยวหลานหลานสาวของเขา หลิวหย่งย่อมสามารถเข้าใจได้ ก็เสี่ยวหลานฉลาดหลักแหลมนี่นา

        แต่ปรึกษาอาเฟินน้องสาวของเขา?

        จะถามอาเฟินว่าทำไร่ทำนาอย่างไรก็ไม่ได้หรือเปล่า!

        คนทางเผิงเฉิงนี้ไม่ค่อยทำเกษตรกรรมสักเท่าไรด้วย อีกทั้งทุกวันนี้จิตใจของใครก็ไม่อยู่กับการพัฒนาเกษตรกรรมหรอก

        อย่างไรก็ตามหลิวเฟินไม่สามารถปฏิเสธคำขอพบของผู้บริหารบ้านเมืองระดับสูงได้อยู่ดี เหตุผลหลักคือไม่มีความกล้านั่น ขนาดหัวหน้าหมู่บ้านเรียกเธอกลับไปประชุม เธอกล้าไม่ไปรึ? และตอนนี้ไม่ใช่หัวหน้าหมู่บ้านที่เรียกเธอ แต่เป็๞นายกเทศมนตรีน่ะสิ!

        ทังหงเอินกลับอัธยาศัยดีมาก ขอบคุณหลิวเฟินอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือระหว่างที่เขาเจ็บป่วยคราวก่อน ทว่าคำถามที่ถามหลังจากนั้นทำให้หลิวเฟินรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ไม่น้อย

        “ผมทราบว่าคุณหย่ากับคุณพ่อของเสี่ยวหลานแล้ว ถ้าเสี่ยวหลานยินยอม คุณจะห้ามเธอจากการติดต่อกับพ่อของเธอหรือไม่?”

         

        

         

        เชิงอรรถ

        [1]杨百万 หยางเงินล้าน คือ หยางหวายติ้ง ได้รับสมญานามว่า ‘นักลงทุนคนแรกของจีน’ เดิมเป็๲พนักงานโรงงานโลหะเหล็กผสม มีชื่อเสียงจากการซื้อขายและเก็งกำไรตั๋วเงินคลังซึ่งไม่เป็๲ที่สนใจของตลาดจนร่ำรวยในปี 1988 หลังจากนั้นจึงกลายเป็๲นักลงทุนหลักทรัพย์รายใหญ่กลุ่มแรกของเซี่ยงไฮ้ และเป็๲บุคคลทรงอิทธิพลของตลาดหลักทรัพย์

         

         


        


นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้