แม้ว่าจางเปียวจะเป็คนบ้าแต่เขาก็ยังรู้ว่าฉินเฟิงเรียกเขามาเพื่อทดสอบความตั้งใจของเขา
หากเขาทำตามคำสั่งของฉินเฟิงได้เขาจะถูกเชื่อใจและสามารถติดตามฉินเฟิงได้อย่างแท้จริง เขาจะต้องรับใช้ฉินเฟิงสุดชีวิตจากนี้เป็ต้นไป
แต่เมื่อเขาเห็นเฝิงเทียนหัวกำลังคุกเข่าขอร้องอย่างน่าสงสารบนพื้นกล้ามเนื้อบนใบหน้าก็กระตุกทันที
การที่เขาอยู่ในวงการใต้ดินมานานเขาจึงมักจะรู้จักพวกข้าราชการของเมืองเว่ยเฉิงมากมายและต่อหน้าเขาก็คือลูกชายเพียงคนเดียวของอธิบดีกรมสันติบาลสาธารณะ เฝิงต้าเวยถ้าฉินเฟิง้าจะฆ่าคนคนนี้ จางเปียวก็ไม่มั่นใจว่าจะทำได้
“นายน้อยฉิน โปรดสั่งมาได้เลยครับ!” จางเปียวพูดแบบลังเล
“นายน่าจะรู้จักเฝิงเทียนหัว ดังนั้นฉันจะไม่เสียเวลาแนะนำตัวไอ้เวรนี่มันอยากจะเล่นแง่กับนายน้อยผู้นี้ โชคดีที่ฉันจับไต๋มันได้ก่อนฉันอยากจะให้นายจัดการมัน และตั้งใจติดตามฉันจากนี้เป็ต้นไปฉันรับปากว่านายจะได้รับการดูแลอย่างดีแน่นอน!”
สิ่งที่เขาหวาดหวั่นอยู่ได้กลายเป็จริงแล้วจางเปียวรู้สึกว่านี่เป็ทางเลือกที่ยากที่สุดในชีวิตและเขาไม่สามารถตัดสินใจได้ง่ายๆ
อีกด้านหนึ่งก็เป็นายน้อยฉินอีกด้านหนึ่งก็ลูกชายของอธิบดีกรมสันติบาล
จางเปียวคิดจนหัวแทบะเิ
หลังจากครุ่นคิดอย่างหนักแต่ก็ไม่สามารถเลี่ยงได้เขาจึงเปรียบเทียบอำนาจเื้ัระหว่างของฉินเฟิงกับเฝิงเทียนหัวจางเปียวกัดฟันและเดินมาข้างหน้าเฝิงเทียนหัว
“ไอ้เด็กเปรต นี่แกตาบอดเหรอ? กล้ามาหาเื่นายน้อยฉินแกคงอยากตายมากสินะ!” มือใหญ่ของจางเปียวคว้าเข้าที่คอของเฝิงเทียนหัวสีหน้าของเขาเผยความโเี้ออกมา เขาแสดงผลการตัดสินใจด้วยการกระทำของเขา
เขาทั้งกล้ามปูและตัวใหญ่ตรงข้ามกับเฝิงเทียนหัวที่เหมือนกับลิงผอม ภายใต้เงื้อมมือของจางเปียวเขาดูเหมือนกับลูกไก่ที่กำลังดิ้นรนไปมา
“ไอ้จางเปียว ไอ้บัดซบ แกมันบ้าไปแล้ว ฉันคือลูกชายคนเดียวของลูกพี่แกเฝิงต้าเวยนะโว้ย ถ้าแกกล้าทำอะไรฉันละก็ ฉันจะให้พ่อทำลายแก๊งแกให้ราบคาบไปเลย”
เฝิงเทียนหัวกลัวอย่างสิ้นเชิงปกติแล้วเฝิงเทียนหัวคงวิ่งหนีให้ไวที่สุดหากเจอนักเลงอย่างจางเปียวเหมือนกับหนูที่เห็นแมว
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าเมื่อคนประเภทนี้ตัดสินใจแล้วพวกมันจะทำทุกอย่างสุดความสามารถเพื่อบรรลุเป้าหมายของมัน
ทันใดนั้นเฝิงเทียนหัวก็เห็นตัวเองโดนบีบคอตายโดยจางเปียว
“เดี๋ยว!” เมื่อเห็นเฝิงเทียนหัวตาเหลือกและพูดไม่ออกฉินเฟิงก็พูดแบบใจเย็น
จางเปียวจึงรีบปล่อยและเขาก็ร่วงลงพื้นอย่างแรง หายใจตะกุกตะกักและชุ่มไปด้วยเหงื่อ
นี่คือสิ่งที่คนจากตระกูลชั้นสูงมีกันเพียงแค่คำเดียวก็สามารถชี้เป็ชี้ตายชีวิตคนได้แล้ว!
“เสี่ยวเฝิงจื่อ มันดูไม่เหมือนว่าคนอย่างนายจะกล้าวางแผนกับฉันได้นะมีใครสั่งหรือเปล่า? ตราบใดที่นายบอกฉัน ฉันจะพิจารณาที่จะยกโทษให้นาย”ฉินเฟิงกล่าวในขณะยิ้มและเดินมาหาเฝิงเทียนหัว
เฝิงเทียนหัวรู้ว่าเมื่อครู่เขาเกือบจะตายและภูมิคุ้มกันทางจิตใจก็แตกเป็เสี่ยงๆ เขาแค่ทำตามคำสั่งคนคนหนึ่งและเขาไม่อยากที่จะตายด้วยเื่แบบนี้แน่นอน
โดยไม่มีความลังเลเฝิงเทียนหัวก็เริ่มพูดออกมา “นายน้อยฉินได้โปรดเมตตาและปล่อยข้าน้อยผู้นี้ด้วยเถิด ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่เชื่อคำคนอื่นอย่างโง่งม ผมไม่มีความกล้าที่จะวางอุบายต่อคุณหรอกทั้งหมดนี้เป็เพราะหม่าเต๋อหู่ ไอ้บ้านั่นเป็คนที่บอกผมให้ทำเื่นี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้คำสั่งของมัน นายน้อยฉิน ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย...”
ฮ่าๆ!เป็มันนั่นเอง!
เมื่อได้ยินชื่อของหม่าเต๋อหู่ฉินเฟิงก็ยิ้มอย่างเืเย็น
ครั้งล่าสุดเพื่อทำภารกิจช่วยหยุนเซียวให้สำเร็จเขาได้กลายเป็ศัตรูกับหม่าเต๋อหู่ ฉินเฟิงไม่สนใจเขาหลังจากนั้นแต่ดูเหมือนว่าเ้าหมอนั่นจะหาเื่แก้แค้นเขาแล้ว
“ดีมาก งั้นบอกฉันมาว่าใครเป็หนอนบ่อนไส้ที่ติดตั้งกล้องในโรงแรมหวงเจียแล้วนายจึงจะออกไปได้!”
หลังจากได้ยินระบบประกาศความสำเร็จที่เขาได้สำเร็จภารกิจแล้วฉินเฟิงจึงรู้ว่าเฝิงเทียนหัวไม่ได้โกหก เมื่อเป็เช่นนั้นเขาจึงอยากจะเห็นว่าจะสามารถทำภารกิจที่สองให้สำเร็จด้วยเช่นกันหรือเปล่า
“นายน้อยฉิน นั่น...ผมไม่รู้จริงๆ หม่าเต๋อหู่จัดการเื่หนอนบ่อนไส้เองผมมีหน้าที่แค่นำคุณมาที่นี่ โรงแรมหวงเจียนี้เป็ของพ่อคุณผมไม่มีความสามารถที่จะติดสินบนพนักงานระดับสูงแบบนั้นหรอก”
เฝิงเทียนหัวกลัวมากจนก้มกราบต่อเรื่อยๆจากที่ดูว่าเขากลัวมากขนาดไหน เลยดูเหมือนว่าจะไม่ได้โกหก
แม้จะไม่สามารถเปิดเผยหนอนบ่อนไส้ได้ฉินเฟิงก็ไม่ได้กังวล ในเมื่อคนถูกจัดหาโดยหม่าเต๋อหู่เขาก็ทำได้แค่หาคำตอบจากปากของมันเอง
เนื่องจากเขาได้รับข้อมูลที่้ามาแล้วเขาเหล่ไปที่จางเปียว จางเปียวเข้าใจในทันทีและทุบไปที่หัวของเฝิงเทียนหัวเพื่อทำให้มันสลบ
แน่นอนว่าฉินเฟิงคงจะไม่ปล่อยเฝิงเทียนหัวไปง่ายๆเขาจะขุดรากถอนโคนพวกมันทั้งหมด
โดยส่วนตัวของฉินเฟิงแล้วถ้าใครทำดีกับเขา เขาก็ดีกลับ แต่ถ้าใครร่วมมือเล่นงานเขาเขาก็จะขุดรากถอนโคนมันทั้งตระกูลเป็การตอบแทน
ฉินเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาลุงฝูบอกให้เขาจัดการเื่ของเฝิงเทียนหัวหลังจากนั้นเขาก็ให้จางเปียวทำบางอย่างและออกจากโรงแรม
ได้เวลาที่ต้องไปดื่มชากับหม่าเต๋อหู่หน่อยแล้ว!
เอาเป็ชาอะไรดี? ชาดอกเก๊กฮวย1แล้วกัน ฉินเฟิงคิดพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา
“ลุงฝู แกะรอยเบอร์โทรศัพท์ที่ผมส่งไปได้หรือเปล่า?” ฉินเฟิงถามในระหว่างที่ขับแบทโมบิลสีดำราวกับพายุเขาส่งเบอร์ของหม่าเต๋อหู่ให้กับลุงฝูเพื่อให้เขาสามารถติดตามมันได้
ลุงฝูรู้สึกสับสนเล็กน้อยเขาคอยปกป้องฉินเฟิงจากเงามืดมาโดยตลอด และรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในโรงแรมหวงเจียเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่ฉินเฟิงจะได้ทำอะไรเขาได้แอบส่งข้อความไปหาฉินหวงและเริ่มเก็บสะสมหลักฐานดำมืดของเฝิงต้าเวยทีนี้เขาก็จะสามารถรายงานและให้มันโดนเด้งออกไป
อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดว่าฉินเฟิงจะมีแผนแล้ว และใช้เหตุการณ์นี้ทำให้จางเปียวติดตามเขาอย่างเต็มใจ
แม้แต่ลุงฝูเองยังแปลกใจที่เห็นการใช้ปัญญาแบบนี้ฉินเฟิงทั้งใจเย็นและเด็ดขาดนี่ยังเป็นายน้อยที่ไม่มีอะไรดีนอกจากหลับนอนกับผู้หญิงอยู่อีกเหรอ?
“นายน้อยครับ ประมาณสิบนาทีก็จะสามารถระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจนแล้วครับ”ลุงฝูตอบ
“ไม่เป็ไร บอกผมทันทีที่พบก็แล้วกัน” เมื่อฉินเฟิงวางสายลุงฝูเสร็จโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขามองไปที่เบอร์โทรและรู้สึกค่อนข้างแปลกใจ
มันคือหม่าเต๋อหู่
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็รับสาย “ฮัลโหล?”
พอเขารู้สึกรำคาญที่ไม่สามารถหาตัวหม่าเต๋อหู่ได้ไอ้เ้านั่นก็เอาตัวเองมาส่งถึงที่ มันนี่กล้าหาญชาญชัยเสียจริง
“ฮ่าๆ นายน้อยฉิน ตอนนี้กำลังมองหาพ่ออยู่หรือเปล่า?” เสียงหัวเราะเ็าของหม่าเต๋อหู่ดังออกมาจากโทรศัพท์ “เฝิงเทียนหัวไอ้บ้านั่นมันก็แค่หมากตัวหนึ่ง ถ้าแกจับแผนมันได้แล้วไง? พ่ออยู่ที่โรงงานตรงถนนซินเฉิง83 รวมทั้งครูสุดเซ็กซี่ของแกหยุนเซียวด้วยถ้าแกมาไม่ถึงที่นี่ภายในยี่สิบนาที พ่อคงจะอดใจไม่ไหวล่ะนะ ว่ะ ฮ่าๆ!”
*********************
1 ชาดอกเก๊กฮวย ธรรมเนียมชาวจีนนิยมใช้ดอกเก็กฮวยสำหรับคนตายหรือในงานศพ