จวินจิ่วเฉินหยิบลิ่วตันซางลู่ขึ้นมาดูอย่างตั้งใจ ภายในใจเกิดความคิดว่าวิธีการสับเปลี่ยนยานั้นดูเหมือนว่าจะสะเพร่า ทว่ายาที่สับเปลี่ยนมา กลับกลายเป็วิธีที่ฉลาดเฉียบแหลม อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็เช่นนี้จวินจิ่วเฉินก็ยังคงไม่เลิกเป็กังวลกับความสงสัยภายในจิตใจสามส่วน
เมื่อพบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงไม่เอ่ยอะไรออกมาสักพักหนึ่ง กูเฟยเยี่ยนจึงมีความรู้สึกลังเลเล็กน้อย นางอยากจะเตือนสติ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำให้ชัดเจนเกินไป
นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “เตี้ยนเซี่ย ลิ่วตันซางลู่ไม่ใช่ของที่แยกแยะได้ง่าย การใช้ยานี้สามารถหลบซ่อนการตรวจสอบแต่ละขั้นตอนของห้องยาสำนักหมอหลวงได้ ในวันนี้หากไม่ใช่เพราะนู๋ปี้มีความระมัดระวังเกรงว่าคงจะถูกปกปิดไปนานแล้ว นอกจากนี้คือลิ่วตันซางลู่สามต้นมีราคาสูงมาก ไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนธรรมดาสามารถซื้อได้ กล้าที่จะวางแผนประทุษร้ายเตี้ยนเซี่ย ยิ่งต้องไม่ใช่คนธรรมดา ตามที่นู๋ปี้คิดไว้คือ คนร้ายตัวจริงไม่ใช่คนในห้องยาสำนักหมอหลวงแน่นอน ภายในห้องยาสำนักหมอหลวงนั้นน่าจะเป็เพียงสายสืบ”
จวินจิ่วเฉินไม่ลังเลอีก เขารีบกำชับเซี่ยเสี่ยวหม่านทันที “ถ่ายทอดคำสั่งเรียกตัวศาสตราจารย์แพทย์หนานกงชิงอวิ๋นและเสนาบดีศาลต้าหลี่เจียงลี่อันเข้ามา จำเอาไว้ ห้ามเอะอะเสียงดัง! ”
ใบสั่งยาปลอมแผ่นนั้นยังอยู่ในมือของเฉิงอี้เฟยและพยานคือกูเฟยเยี่ยน เขาไม่สามารถเปิดเผยหลักฐานให้กับศาลต้าหลี่และห้องยาสำนักหมอหลวงในการให้ความร่วมมือและตรวจสอบอย่างลับๆ ได้ ในตอนนี้มีหลักฐานตัวนี้แล้ว แน่นอนว่าเขาจะต้องดึงศาลต้าหลี่และห้องยาสำนักหมอหลวงเข้ามา เพื่อประการแรกคือง่ายต่อการตรวจสอบ ประการที่สองคือคดีนี้มอบให้ศาลต้าหลี่เป็ผู้จัดการ เขาจะได้ไม่จำเป็ต้องเปิดเผยอะไรมากมาย
ไม่ถึงครึ่งชั่วยามเสนาบดีศาลต้าหลี่เจียงลี่อันและศาสตราจารย์แพทย์ห้องยาสำนักหมอหลวงใต้เท้าหนานกงก็ล้วนเดินทางมาถึงแล้ว
นี่เป็ครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้มายังจิ้งหวางฝู่และคาดเดาไม่ออกว่าเหตุใดจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจึงได้เรียกพวกเขามาอย่างลับๆ ทั้งสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ตื่นตระหนกใเป็อย่างยิ่ง
จวินจิ่วเฉินไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขาทำเพียงแค่ให้กูเฟยเยี่ยนนำห่อย่าวซ่านเปิดออกมาต่อหน้าพวกเขา
ใต้เท้าหนานกงชายตามองปราดเดียวก็มองออกในทันทีว่านี่คือห่อย่าวซ่านที่ไท่โฮ่วทรงพระราชทานให้ การวิจัยใบสั่งยานี้เขาก็ได้เข้าร่วมเป็หนึ่งในนั้น เขายิ่งตระหนกใขึ้นอีก “เตี้ยนเซี่ย นี่คือ…โปรดอภัยที่ข้าน้อยโง่เขลา! ”
จวินจิ่วเฉินไม่อธิบายรายละเอียดอะไรออกมา เขาเอ่ยแต่ว่า “ตรวจสอบยา! ”
ตรวจสอบยา?
หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ไม่เพียงแต่ใต้เท้าหนานกงเท่านั้น แม้กระทั่งใต้เท้าเจียงก็ใเช่นกัน จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยสามารถเรียกพวกเขามาตรวจสอบยาที่จวนไดั มันก็มีความหมายว่าใบสั่งยาแผ่นนี้จะต้องมีสิ่งผิดปกติอย่างแน่นอน!
ใต้เท้าหนานกงตรวจสอบสมุนไพรทุกชนิดในทันที เขาตรวจสอบอย่างจริงจังไปหนึ่งรอบ ทว่าก็ยังมองไม่ออกถึงปัญหา เขาจึงได้ตรวจสอบอีกเป็ครั้งที่สอง แต่กลับตรวจสอบไม่พบสาเหตุใดๆ
ใต้เท้าหนานกงร้อนใจแล้ว “เตี้ยนเซี่ย ใบสั่งยานี้มีสมุนไพรทั้งหมดเก้าชนิด เป็สมุนไพรที่ดีต่อการบำรุงเื ใบสั่งยาได้รับการกำหนดจากไท่อีหลายท่านและข้าน้อย ดังนั้นจึงไม่มีปัญหา สำหรับสมุนไพรก็ไม่พบปัญหาเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”
“ปัง! ”
ใบหน้าของจวินจิ่วเฉินเกิดความเ็า จากนั้นตบลงไปบนโต๊ะอย่างรุนแรง “ตรวจใหม่! ”
ใต้เท้าหนานกงใจนเม็ดเหงื่อไหลซึมทั่วแผ่นหลัง แล้วตรวจสอบต่อไป ทว่าครั้งที่สามครั้งที่สี่ผ่านไปก็ยังไม่พบสาเหตุใดๆ
จวินจิ่วเฉินชำเลืองตามองกูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนจึงได้ก้าวขึ้นมาด้านหน้าแล้วเอ่ยขึ้นมา “ใต้เท้าหนานกง นี่คือลิ่วตันซางลู่”
ลิ่วตันซางลู่
ใต้เท้าหนานกงตกตะลึงเป็อย่างแรก จากนั้นสิ่งที่ตามมาคืออกสั่นขวัญแขวน เขารีบร้อนนำโสมเล็กขึ้นมากัดหนึ่งคำ เพียงคำเดียวเท่านั้นใต้เท้าหนานกงก็วิเคราะห์ได้ในทันทีว่าสิ่งที่อยู่บนฝ่ามือเขาไม่ใช่โสมเล็ก แต่เป็ลิ่วตันซางลู่! เขาตื่นตระหนกใจนพูดอะไรไม่ออก “ตุบ” จากนั้นจึงมีเสียงกระแทกจากการคุกเข่าดังขึ้นมา ในชั่วพริบตานั้นเขาไม่ได้สนใจที่จะซักถามกูเฟยเยี่ยนว่าแพทย์หญิงตัวน้อยมองออกถึงสิ่งนี้ได้อย่างไร
แม้ว่าลิ่วตันซางลู่และโสมเล็กนั้นจะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่แทบจะเหมือนกันทุกประการ แต่ว่ารสัันั้นไม่เหมือนกันเลยสักนิด โสมเล็กสามารถทานแบบดิบได้ รสััหวานชุ่มชื่น ส่วนลิ่วตันซางลู่นั้นให้รสััที่ฝาดปนชา หากทานมากๆ ทั่วทั้งลิ้นก็จะชาทั้งหมด! สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลิ่วตันซางลู่ที่ผ่านการต้มแล้วมันไม่ได้ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกอัมพาตแต่จะคร่าชีวิตในทันที!
“เตี้ยนเซี่ย โปรดไว้ชีวิต! โปรดไว้ชีวิต! ”
“นี่คือลิ่วตันซางลู่จริงๆ ยานี้หากว่าใช้ไม่ถูกวิธีมันจะเป็พิษอย่างรุนแรง! ข้าน้อยตรวจตราไม่เพียงพอ ข้าน้อยบกพร่องต่อหน้าที่! เตี้ยนเซี่ยได้โปรดให้เวลาข้าน้อยสองสามวัน ข้าน้อยจะให้ความร่วมมือกับศาลต้าหลี่ในการสืบสาวเื่ราวอย่างแน่นอน และจะให้คำอธิบายแก่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ! ”
……
ใต้เท้าหนานกงโคกศีรษะกับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า เขาใจนพูดจาสะเปะสะปะเล็กน้อย
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลิ่วตันซางลู่ที่หายากเช่นนี้ ไม่จำเป็ต้องให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงกล่าวอะไรมาก เขาก็คาดเดาได้ว่าห้องยาสำนักหมอหลวงจะต้องมีสายสืบแน่นอน มีคน้าใช้ห้องยาสำนักหมอหลวงในการวางแผนประทุษร้ายจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย!
แม้ว่าใต้เท้าเจียงจะไม่เข้าใจในสถานการณ์ แต่ก็ได้กลิ่นถึงการวางแผนร้ายในทันที เขารีบก้าวขึ้นมาเอ่ยอย่างจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย ตามที่ข้าน้อยคาดคิดคือคนร้ายตัวจริงน่าจะไม่ใช่คนในห้องยาสำนักหมอหลวง คนในห้องยาสำนักหมอหลวงจะต้องถูกติดสินบนไว้อย่างแน่นอน! เตี้ยนเซี่ยโปรดกรุณาให้ใต้เท้าหนานกงช่วยเหลือในการสืบสวนเพื่อสร้างคุณูปการลบล้างความผิดพลาด! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้เจตนากลั่นแกล้งศาสตราจารย์แพทย์ เขาเพียงแค่ระมัดระวังเท่านั้น
จากปฏิกิริยาของศาสตราจารย์แพทย์ลิ่วตันซางลู่ไม่ใช่สิ่งที่แพร่หลายจริงๆ กล่าวได้อีกนัยหนึ่งคือการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของคนร้ายตัวจริงไม่นับว่าเป็การสะเพร่า หากไม่ใช่กูเฟยเยี่ยนมองออกถึงเบาะแส ยาตัวนี้ต่อให้ศาสตราจารย์แพทย์มาตรวจสอบด้วยตนเองก็จะตรวจไม่พบถึงปัญหาใดๆ !
จวินจิ่วเฉินเกิดความลังเลขึ้นอีกครั้ง แล้วในที่สุดก็ล้มเลิกความสงสัยสามส่วนภายในจิตใจออกไป
เขากำลังจะแจ้งเจตนารมณ์ให้ศาลต้าหลี่สืบสวนอย่างลับๆ ทว่าในขณะนี้ก็ได้มีหมางจ้งพุ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “เตี้ยนเซี่ย เกล้ากระหม่อมมีเื่ด่วนต้องรายงาน! ”
จวินจิ่วเฉินพยักหน้าหมางจ้งจึงได้ก้าวขึ้นไปด้านหน้ากระซิบข้างใบหูของเขาในทันที ไม่รู้ว่าหมางจ้งพูดเื่อะไรไป ทว่าสีหน้าของจวินจิ่วเฉินเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เขาจึงได้เปลี่ยนความคิด “ใต้เท้าเจียง ปิดล้อมห้องยาสำนักหมอหลวงในทันที ถ้าเป็ผู้ต้องสงสัยให้จับไว้ทั้งหมด จำไว้ เปิ่นหวาง้าจับเป็! ”
เดิมทีใต้เท้าเจียง้าจะซักถามถึงรายละเอียดสถานการณ์เล็กน้อย แต่ว่าเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเขาก็ไม่กล้ารอช้า เมื่อได้รับคำสั่งก็รีบไปห้องยาสำนักหมอหลวง เื่ราวสามารถค่อยๆ ถามได้ แต่คนร้ายหากหนีไปแล้วก็จะเกิดปัญหายุ่งยากเลย
ใต้เท้าหนานกงยังคงคุกเข่าอยู่ด้วยความใ “เตี้ยนเซี่ย ข้าน้อย…ข้าน้อย…”
“เื่นี้มอบอำนาจทั้งหมดให้ศาลต้าหลี่ตรวจสอบ ส่วนเ้าควรที่จะทำอะไรก็ทำไป! ”
จวินจิ่วเฉินรีบร้อนจริงๆ ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาก็ได้รีบจากไปพร้อมหมางจ้ง
อย่าว่าแต่ใต้เท้าหนานกง แม้แต่กูเฟยเยี่ยนและเซี่ยเสี่ยวหม่านก็ล้วนสับสนมึนงง! ใต้เท้าหนานกงหันไปทางด้านของเซี่ยเสี่ยวหม่าน แล้วส่งสายตาซักถามออกไป เซี่ยเสี่ยวหม่านจึงประณามด้วยความโกรธ “ยังไม่รีบกลับไปอีก ให้ความร่วมมือกับใต้เท้าเจียงในการตรวจสอบ หากเ้าสามารถสร้างคุณูปการลบล้างความผิดได้ เปิ่นกงกงจึงจะสามารถช่วยเ้าได้! ”
ใต้เท้าหนานกงได้ออกไปแล้ว กูเฟยเยี่ยนก็ได้หันไปส่งสายตาซักถามเซี่ยเสี่ยวหม่านเช่นกัน เซี่ยเสี่ยวหม่านทำเป็มองไม่เห็นแล้วหันหลังออกไป กูเฟยเยี่ยนจึงได้รีบตามไป
กูเฟยเยี่ยนยังไม่ทันได้เอ่ยขึ้นมา เซี่ยเสี่ยวหม่านก็กล่าวอย่างจริงจัง “ไม่สามารถบอกได้! แพทย์หญิงกู ดูแลงานของเ้าให้ดีก็พอ เื่อื่นเ้าไม่จำเป็ต้องกังวล! ”
เขาเอ่ยจบก็เดินออกไป อันที่จริงแล้วเขาก็ไม่ทราบว่าหมางจ้งพูดอะไรกับเตี้ยนเซี่ย เขาดูแลเพียงแค่งานภายในจิ้งหวางฝู่ งานด้านนอกหมางจ้งจึงจะรับรู้
กูเฟยเยี่ยนคิดภายในใจว่าคดีนี้แม้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะไม่ได้ตรวจสอบด้วยตนเอง แต่ถึงอย่างไรก็ได้มอบอำนาจทั้งหมดให้แก่ใต้เท้าเจียง คดีใหญ่ขนาดนี้ศาลต้าหลี่จะไม่รอช้าแน่ นางก็ทำเพียงรอข่าวเถอะ
ในเวลานี้จวินจิ่วเฉินกำลังรีบออกนอกเมืองไปตามจับอู๋กงกงด้วยตนเอง สิ่งที่หมางจ้งมารายงานคือข่าวคราวของอู๋กงกงที่กำลังหลบหนี ดูเหมือนว่าอู๋กงกงจะพบอะไรบางอย่างจึงได้ทำลายใบสั่งยาที่ซุกซ่อนเอาไว้ทั้งหมด จากนั้นพาตัวขันทีน้อยหลบหนีออกไป สถานการณ์คับขันหมางจ้งได้ส่งคนไปติดตาม แต่ว่ากลับถูกอู๋กงกงค้นพบเข้า
“เตี้ยนเซี่ย อู๋กงกงผู้นี้ชำนาญในการต่อสู้เป็อย่างยิ่ง ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน เกรงว่าจะไม่ได้ถูกซื้อตัวไป แต่เจตนาเข้ามาในพระราชวัง! ”
จวินจิ่วเฉินตอบเพียงแค่ “อืม” คำเดียว แล้วไม่ได้เอ่ยออกมาอีก ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม ในเมื่อได้แหวกหญ้าให้งูตื่นแล้ว คดีนี้ก็ลอบตรวจสอบไม่ได้แล้ว หากยังไม่ลงมืออีกอย่าว่าแต่อู๋กงกงที่เป็สายสืบใหญ่เลย แม้แต่สายสืบเล็กในห้องยาสำนักหมอหลวงก็อาจจะจับไม่ได้!
ขณะนี้ม้าเร็วปานลมกรดได้ผ่านประตูเมืองแล้ว จวินจิ่วเฉินและหมางจ้งได้ออกไปจากเมืองแล้ว…