การเคลื่อนไหวของเสวียนเทียนในมุมอับสายตาไม่มีใครมองเห็นถึงแม้จะเป็คนตระกูลหวงในที่ซ่อนในหอก็ยังมองไม่เห็นช่องโหว่ หากไม่รู้อยู่แล้วว่าร่างกายของเสวียนเทียนแข็งแกร่งผิดมนุษย์ต่อให้โดนหนึ่งฝ่ามือของหนิวเจิ้นเยว่ก็ไม่มีทางเจ็บถึงขั้นกระอักเืตอนนี้เป็แค่การแสดงเท่านั้น ไม่เช่นนั้น เกรงว่าพวกเขาคงพุ่งออกไปแล้ว
ตื่นตะลึง!
ดวงตาของผู้ฝึกยุทธ์ในลานทุกคนล้วนตะลึงงัน
วินาทีก่อนหน้านี้หนิวเจิ้นเยว่ยังเป็ฝ่ายเหนือกว่า บีบเสวียนเทียนให้ถอยต่อเนื่องอยู่เลยไม่คาดคิดว่า เื่ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพียงพริบตา ศีรษะของหนิวเจิ้นเยว่ก็ปลิวขึ้นมาแล้วตายในชั่วพริบตา!
“เจิ้นเยว่!”
เหตุการณ์พลิกผันฉับพลันทำให้สีหน้าของหนิวเจิ้นซานตะลึง พี่น้องที่เป็ดุจแขนขาตายไปในพริบตาขนาดเขาที่เป็ยอดฝีมือชั้นเบิกนภาขั้นสี่ยังไม่อาจตอบสนองได้ทัน เข้าไปช่วยไม่ทัน!
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เมื่อตกอยู่ในสายตาของบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ ไม่ว่าใครก็มองว่าหนิวเจิ้นซานดูถูกศัตรูไม่ใช่เสวียนเทียนมีพลังแข็งแกร่งเกินไป
แต่จางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่สีหน้ากลับเปลี่ยนไปเล็กน้อยสองคนสบตากันทีหนึ่ง ในใจคาดเดาเกี่ยวกับกระบี่ในมือของเสวียนเทียน
หนิวเจิ้นเยว่เป็ผู้มีพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสามในร่างกายมีปราณแท้เบิกนภาคุ้มครองร่าง อาวุธธรรมดายากจะทำให้เขาาเ็รุนแรงได้ต่อให้เป็อาวุธมีชื่อ ก็ยากจะบั่นคอของผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามได้
แต่กระบี่ของเสวียนเทียนเมื่อครู่ไม่ได้มีรัศมีกระบี่ออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใช้ปราณแท้เบิกนภาสักเท่าใดแต่หนึ่งกระบี่ฟันศีรษะของหนิวเจิ้นเยว่ขาด เป็เพราะว่ากระบี่ในมือคมกริบเกินไป!
“กระบี่ในมือเขา? เป็อาวุธมีชื่อชั้นสุดยอด? หรือว่าศาสตราวิเศษกัน”จางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ในใจล้วนขบคิดศาสตราวิเศษสำหรับตระกูลขั้นเก้า นับว่าเป็อาวุธในตำนานอย่างแท้จริง ตระกูลขั้นเก้าทั้งสิบตระกูลยากจะมีสักตระกูลที่มีศาสตราวิเศษในถึงจะเป็ศาสตราวิเศษระดับล่างก็ตาม
หากมีศาสตราวิเศษเล่มหนึ่ง พลังก็จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่มีพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสามไม่แน่ว่าอาจทัดเทียมกับหนิวเจิ้งซานที่พลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสี่ได้
ชั่วขณะนั้น จางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ต่างก็มีความคิดจะลงมือสังหารเสวียนเทียนแย่งชิงกระบี่ในมือของเขา
สายตาของหนิวเจิ้นซานไม่เป็รองจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่แต่เพราะหนิวเจิ้นเยว่ถูกสังหาร ใจเดือดดาลชั่วเวลาหนึ่งจึงมองข้ามกระบี่ในมือของเสวียนเทียนไป ไม่ทันได้คิดมาก
“เ้าเด็กเดรัจฉานตายเป็เพื่อนน้องชายของข้าเสียเถอะ!”
หนิวเจิ้นซานะโขึ้นมาด้วยความโกรธเขาลงมือเป็คนแรก ก้าวเท้าก้าวใหญ่ไปข้างหน้า หนึ่งฝ่ามือฟาดไปทางเสวียนเทียน
รัศมีฝ่ามือจากกลางฝ่ามือพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วอัดแน่นกลายเป็ฝ่ามือจริงฝ่ามือหนึ่งกลางอากาศว่างเปล่ากลางฝ่ามือมีภาพลวงตาของขุนเขาใหญ่นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมา
‘ฝ่ามือเบิกภูผา’ เหมือนกัน แต่พลังปราณของหนิวเจิ้นซานแข็งแกร่งกว่าหนิวเจิ้นเยว่มากกว่าหกเจ็ดเท่า
ฝ่ามือกลางอากาศไม่มีทีท่าจะสลายไปแม้แต่น้อยจากระยะห่างหกสิบกว่าก้าว ฟาดเข้ามาหาเสวียนเทียน ฝ่ามือยังมาไม่ถึงพลังอันรุนแรงดุจภูผาเคลื่อนประชิดก็กดทับมาแล้ว
“พลังแข็งแกร่งมากความลึกล้ำของปราณแท้เบิกนภาของคนผู้นี้ ชนะข้าไปไกลแม้ว่าในร่างของข้าจะมีพลังมหาศาล แต่พูดถึงพลังฝ่ามือก็ยากเอาชนะเขาคงจะสูสีคู่คี่”
เมื่อเผชิญกับการโจมตีของหนิวเจิ้นซานในใจของเสวียนเทียนก็ประเมินในพริบตา พลังของหนิวเจิ้นซานไม่ด้อยไปกว่าเขาเสวียนเทียนตบฝ่ามือลงพื้น ร่างพุ่งคล้ายลูกศร ชั่วพริบตาก็ลื่นไถลไปสิบกว่าเมตร หลบพ้น ‘ฝ่ามือเบิกภูผา’ ของหนิวเจิ้นซานมาได้ เสียงกัมปนาทดังขึ้นพื้นตรงที่เสวียนเทียนนอนอยู่เมื่อครู่ถูกพลังฝ่ามืออันลึกล้ำะเิจนเป็หลุมใหญ่
หนิวเจิ้นซานคิดจะลงมืออีกจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่สองคนก็พุ่งออกมา พุ่งเข้าไปหาเสวียนเทียนพูดขึ้นพร้อมกันว่า “พี่หนิวเ้าเด็กเดรัจฉานนี่ยกให้พวกเรา พวกเราจะล้างแค้นให้กับพี่เจิ้นเยว่!”
หนิวเจิ้นเยว่ตายไป หนิวเจิ้นซานย่อมโกรธเกรี้ยวหลังทำลายตระกูลหวง หากความโกรธยังไม่ลด อาจลงดาบกับตระกูลจางและตระกูลเฉิงทั้งสองตระกูลก็เป็ได้
หากอาวุธในมือของเสวียนเทียนเป็ศาสตราวิเศษจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ ไม่ว่าเป็ใครได้ไปสองคนร่วมมือกันก็ยังมีพลังพอทัดทานหนิวเจิ้นซาน หลังตระกูลหวงถูกกำจัด ตระกูลหนิวก็ไม่อาจกลืนตระกูลเฉิงและตระกูลจางสองตระกูลได้
ถ้าอาวุธในมือของเสวียนเทียนไม่ใช่ศาสตราวิเศษ เช่นนั้นจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่โจมตีสังหารเสวียนเทียนล้างแค้นให้หนิวเจิ้นเยว่ก็ยังนับว่าเป็การกระชับความสัมพันธ์กับตระกูลหนิวให้ใกล้ขึ้นอีกนิดมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษ
ดังนั้นจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่จึงชิงลงมือก่อน
หนิวเจิ้นซานเห็นสถานการณ์ก็หยุดโจมตีเสวียนเทียนสีหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าโกรธแค้น วิ่งทะยานไปทางศพของหนิวเจิ้นเยว่
หนิวเจิ้นซานลงมือแล้ว เสวียนเทียนแอบเสียดายคิดว่าเร็วขนาดนี้ก็ต้องต่อสู้กับหนิวเจิ้นซาน ถ้าเป็แบบนั้นก็ยังเหลือจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามอีกสองคนอยู่ตอนที่สู้ชุลมุนคงไม่ดีกับตระกูลหวง
แต่ว่า คาดไม่ถึงเลยหลังจากหนิวเจิ้นซานลงมือไปครั้งหนึ่งจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่กลับชิงโจมตีเข้ามาหาเสวียนเทียน ส่วนหนิวเจิ้นซานวิ่งไปหาศพของหนิวเจิ้นเยว่สถานการณ์เป็อย่างที่เสวียนเทียนหวังไว้พอดี อดดีใจไม่ได้
ขอเพียงสังหารจางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่อีกฝ่ายก็ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามแล้ว รออีกครู่หนึ่งเมื่อต่อสู้ชุลมุนเสวียนเทียนรั้งหนิวเจิ้นซานไว้ ผู้ฝึกยุทธ์ที่เหลือสำหรับตระกูลหวงแล้วก็เป็แค่หุ่นเชิดไร้ประโยชน์หวงิซานกับหวงฉีซานต่างมีพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นสามไม่จำเป็ต้องเปิดผนึกพลังที่แท้จริงก็เพียงพอจะกวาดล้างอีกฝ่ายได้แล้ว
“เจิ้นเยว่!” หนิวเจิ้นซานมาถึงหน้าศพไร้ศีรษะของหนิวเจิ้นเยว่โศกเศร้าโกรธเกรี้ยวไม่คลาย สายตากวาดทีหนึ่งมองเห็นศีรษะของหนิวเจิ้นเยว่ห่างออกไปเขาเดินไปเก็บขึ้นมา
เมื่อมองศีรษะของหนิวเจิ้นเยว่ใบหน้าของหนิวเจิ้นซานก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร พูดขึ้นมาทีละคำว่า “เจิ้นเยว่! ข้าจะล้างแค้นให้เ้า ตัดหัวเ้าเด็กเดรัจฉาน ไม่ข้าจะตัดหัวคนตระกูลหวงทุกคน มาฝังเป็เพื่อนเ้า!”
ตอนที่หนิวเจิ้นซานเดินไปถึงข้างร่างของหนิวเจิ้นเยว่จางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ก็กระโจนมาถึงระยะห่างสิบเมตรจากเสวียนเทียน
เห็นมุมปากของเสวียนเทียนมีเืสดติดอยู่เหมือนกับาเ็หนักเอาการ จางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่ก็สบตาสื่อสารกัน หัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาทั้งสองคนมองว่าเสวียนเทียนเป็หนูในกรง สายตาเต็มไปด้วยแววล้อเลียน
“ระวังกระบี่ในมือของเขา!”
ทั้งสองเตือนกันและกันหนึ่งประโยคและพากันลงมือ
ในมือของเฉิงหยวนอู่มีสนับมือทองคำคู่หนึ่งเป็อาวุธมีชื่อ ร่างกายของเขาโค้งลง รูปร่างดุจเสือร้าย โจมตีออกมาหนึ่งหมัดรัศมีหมัดพุ่งทะยานออกมา เจิดจ้าเหนือสิ่งใดร่างทั้งร่างราวกับเสือร้ายวิ่งลงูเา โจมเข้ามาหาเสวียนเทียน
หมัดเดชพยัคฆ์ วิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นต้นวิชาลับประจำตระกูลของตระกูลเฉิงแห่งอำเภอเป่ยโม่
ส่วนจางกู่เฟิงชักกระบี่อ่อนเล่มหนึ่งมาจากเอวกระบี่เล่มนี้กว้างราวสองจื่อ ยาวราวครึ่งเมตร เทียบกับกระบี่ทั่วไปแล้วสั้นกว่าอยู่บ้าง แต่ดูแล้วกลับยาวเรียวเป็อย่างยิ่ง ตัวกระบี่สีเงินขาว ราวกับแสงจันทร์เส้นหนึ่ง
จางกู่เฟิงแทงออกมาหนึ่งกระบี่กระบี่อ่อนส่งรัศมีกระบี่พุ่งทะยานอออกมา ตัวกระบี่สั่นครั้งหนึ่ง เงากระบี่ก็เปลี่ยนเป็ดวงดาวนับไม่ถ้วนห้อมล้อมอยู่ทั่วร่างของเสวียนเทียน
เพลงกระบี่จันทราเหมันต์วิทยายุทธ์ชั้นนิลขั้นต้น วิชาลับประจำตระกูลของตระกูลจางแห่งอำเภอเป่ยโม่
เฉิงหยวนอู่กับจางกู่เฟิงเริ่มลงมือก็ใช้วิชาลับของตระกูลออกมาเผยความสามารถแท้จริงออกมา ราวกับเหยี่ยวถลาจับกระต่าย โจมตีสุดกำลัง
เพียงแต่ว่าการโจมตีของทั้งคู่เฉียบคมรุนแรงแต่ไม่มีการป้องกันแต่อย่างใด ดูไปแล้วร่างกายของเสวียนเทียนาเ็หนักอีกทั้งที่สังหารหนิวเจิ้นเยว่ไปนั้นก็เป็ความประมาทของหนิวเจิ้นเยว่เสวียนเทียนไม่ได้แสดงความสามารถกล้าแข็งออกมาสักนิด
ดังนั้น ถึงแม้ทั้งสองจะทุ่มกำลังโจมตีแต่ในจิตใต้สำนึกกลับดูถูกเสวียนเทียนอย่างที่สุดมองว่าการโจมตีครั้งหนึ่งก็เพียงพอเอาชีวิตของเขาแล้ว ไม่คิดแม้แต่น้อยว่าเสวียนเทียนจะมีความสามารถโจมตีกลับได้
รัศมีหมัดรุนแรงดุดัน ประกายกระบี่ว่องไว
ถึงแม้ทั้งสองคนจะประสานท่ากันแต่ใจไม่ประสานกัน ต่างก็คิดจะแย่งชิงกระบี่ที่อยู่ในมือของเสวียนเทียน ดังนั้นทั้งสองคนจึงเก็บพลังไว้ส่วนหนึ่ง ไม่ใช้พลังทั้งหมดออกมา
ระหว่างทั้งสองคนระแวงอีกฝ่ายอยู่เมื่อตกอยู่ในสายตาของเสวียนเทียน นี่กลับเป็ช่องโหว่ใหญ่เท่าฟ้า
เห็นรัศมีหมัดกับประกายกระบี่โจมตีมาจะถึงร่างของเสวียนเทียนสายตาของเสวียนเทียนฉับพลันก็เข้มขึ้นมา สีหน้าแน่วแน่ มีท่าทางาเ็แม้สักนิดเสียที่ไหน?
สองมือของเสวียนเทียนจับด้ามกระบี่ของกระบี่ขุนเขาหนักฉับพลันก็ฟันกระบี่ย้อนขึ้น รับรัศมีหมัดกับประกายกระบี่
ฟึบ!
รัศมีกระบี่เจิดจ้าที่สุดสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้น
นาทีนี้เสวียนเทียนไม่ปิดบังแม้แต่น้อย พลังสิบส่วนใช้ออกมาเต็มที่ใช้การโจมตีอันะเืฟ้าะเืดินออกมา ้าสังหารจางกู่เฟิงและเฉิงหยวนอู่ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามทั้งสองในกระบี่เดียว
เสวียนเทียนเป็ดั่งพยัคฆ์ร้ายที่ซุ่มซ่อนอยู่ตัวหนึ่งฉับพลันก็เผยเขี้ยวคมกริบดุร้าย โจมตีรุนแรงรวดเร็วทำให้จางกู่เฟิงกับเฉิงหยวนอู่มีสีหน้าผวา ตื่นใ
แต่ระยะห่างระหว่างกัน ใกล้เกินไปแล้วกระบี่ของเสวียนเทียนก็รวดเร็วเกินไปด้วย
ทั้งสองคนหลบไม่ทัน
เคร้ง!
เสียงสูงกังวานดังขึ้น แสงสีเงินสายหนึ่งดีดกลับดวงดาวรัศมีกระบี่ทั้งหมดแตกกระจายสิ้น จางกู่เฟิงหน้าถอดสี ‘กระบี่โฉมจันทรา’ ในมือแทบหลุดจากมือไป พลังโจมตีมหาศาลกระแทกผ่านเข้ามาทำให้ครึ่งร่างของเขาชาไปในทันที
จางกู่เฟิงยังนับว่าดีเสวียนเทียนเพียงแค่ปัดกระบี่เขาผ่านๆ เท่านั้นแต่เป้าหมายของการโจมตีคือเฉิงหยวนอู่ที่ใช้หมัดโจมตีมา
ฉึบ!
รัศมีหมัดราวกับเต้าหู้ถูกกระบี่ขุนเขาหนักผ่าแยกอย่างง่ายดาย
พริบตานั้น กระบี่ขุนเขาหนักก็ฟันเข้าที่หมัดของเฉิงหยวนอู่ที่สวมสนับมือซึ่งเป็อาวุธมีชื่ออยู่
เสียงกัมปนาทที่ไม่คาดคิด ตามมาด้วยเสียง ‘ฉึบ’ อีกหนึ่งเสียงสนับมือซึ่งเป็อาวุธมีชื่อพร้อมกับแขนของเฉิงหยวนอู่ก็ขาดกระเด็นในพริบตา
สองมือเสวียนเทียนกุมกระบี่โจมตีเต็มกำลังสิบส่วนน่ากลัวเพียงไรเล่า?
พละกำลังหนึ่งหมื่นแปดพันชั่งต่อให้เป็ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสี่ก็ล้วนต้องหลบรัศมีคมกริบไปชั่วคราวยิ่งประกอบกับความคมของกระบี่ขุนเขาหนัก จะบั่นอาวุธมีชื่อพร้อมกับแขนของเฉิงหยวนอู่นั้นง่ายราวพลิกฝ่ามือ
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นแขนทั้งข้างของเฉิงหยวนอู่ขาดด้วนในพริบตา
เืสดสาดกระจาย พุ่งทะลักออกมาร่างกายของเฉิงหยวนอู่กระเด็นถอยไปสิบเมตร หัวกระแทกเข้ากับพื้น หนึ่งชีวิตดับลง
ไม่เพียงแขนข้างหนึ่งถูกฟันขาดเท่านั้นขนาดร่างครึ่งหนึ่งก็ยังถูกกระบี่ขุนเขาหนักฟันจนเป็แผลขนาดใหญ่มหึมา กระดูกก็หักอวัยวะภายในไหลออกมาจากปากแผล ตายสนิทไม่มีฟื้น
การโจมตีโต้กลับของเสวียนเทียนน่ากลัวอย่างที่สุด หนึ่งการโจมตีปลิดชีวิต ถึงแม้จะเป็ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสามก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ความสามารถที่แสดงออกมาอย่างฉับพลันทำให้ผู้ฝึกยุทธ์บนลานทั้งหมดตื่นตะลึงอีกครั้ง สองตาเบิกโตลูกตาแทบจะทะลักออกมาด้วยความใ เสียงอุทานใทยอยดังขึ้นในพริบตา
เฉิงหยวนอู่ตายในชั่วพริบตาการโจมตีโต้กลับของเสวียนเทียน เร็วเกินไป เด็ดขาดเกินไป ร่างกายของจางกูเฟิงสั่นเย็นวาบจากปลายเท้าขึ้นไปจรดศีรษะ ร่างกายทั้งร่างของเขาหนาวะเืราวกับเข้าไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
ในใจของจางกู่เฟิงตื่นตะลึง รุนแรงยิ่งกว่าคนอื่นเป็สิบเท่าร้อยเท่า
หนิวเจิ้นซานที่อยู่ห่างออกไปยังคงจมจ่ออยู่กับความโศกเศร้าจากการตายของหนิวเจิ้นเยว่เสียงกรีดร้องของเฉิงหยวนอู่ที่ดังขึ้นมากะทันหัน ทำให้เขาหันไปมองทันทีตะลึงงันอยู่ตรงนั้นเช่นเดียวกัน
คนผู้เดียวที่ไม่ตกตะลึง มีเพียงเสวียนเทียน
เวลาเล่าช้า เวลาจริงเร็วเสวียนเทียนหนึ่งกระบี่สังหารเฉิงหยวนอู่ในชั่วพริบตาเท่านั้น ต่อจากนั้นเสวียนเทียนก็ไม่มีท่าทีหยุดชะงักสองขางอลง ดีดตัวอย่างรุนแรง ร่างกายลอยขึ้นมา
มือของเสวียนเทียนถือกระบี่ขุนเขาหนักหนึ่งกระบี่ฟันลงไปที่จางกู่เฟิงที่ทั้งร่างยังคงนิ่งงันราวกับถูกแช่ในถ้ำน้ำแข็ง
เพลงกระบี่ดับเงา...สะบั้นร่าง!
เป็อีกกระบี่ที่เร็วจนถึงขีดสุดกระบี่ขุนเขาหนักในมือของเสวียนเทียน เร็วจนไร้เงา เลือนหายไปไม่เห็นชั่วเวลาไม่ถึงครึ่งพริบตา รัศมีกระบี่เจิดจ้าสายหนึ่งพลันปรากฏอยู่เหนือศีรษะของจางกู่เฟิงปราณกระบี่อันเฉียบคมรุนแรง ครอบคลุมบริเวณสิบเมตรจางกู่เฟิงมีความรู้สึกเหมือนถูกกระบี่พันเล่มผ่านทะลุร่าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้