เครื่องบินบินไปตามปกติ ไม่ได้ชักช้าความรู้สึกหนักอึ้งตอนเครื่องบินขึ้นทำให้กัวไฮว่รู้สึกไม่สบาย ทว่าไม่นานก็ดีขึ้น
“พี่คะ อีกหนึ่งชั่วโมงกว่าก็จะกลับบ้านแล้ว สามีพี่นี่ก็จริงๆ เลยนะดันกลับไปก่อน เฮ้อ กลับไปฉันจะให้คุณอาจัดการเขา” เด็กสาวพูดอย่างยิ้มแย้ม
“เม่ยเอ๋อร์ อย่าไปบอกแม่นะเถิงเฟยอาจจะมีเื่ด่วนไม่งั้นคงไม่รีบกลับไปก่อนั้แ่เช้าหรอก” หญิงตั้งครรภ์พูดยิ้มๆ “ลูกไม่เป็อะไรก็ดีแล้วล่ะบางทีลูกคลอดมาแล้วเถิงเฟยคงจะไม่เป็คนใจร้อนแบบนี้แล้วก็ได้”
“พี่คะ พี่ทนคนอย่างเซวียนหยวนเถิงเฟยแบบนั้นไปได้ยังไง เฮ้อไม่พูดแล้วดีกว่า” หูเม่ยเอ๋อร์พูดแล้วถอนหายใจ “พี่คะ พี่ดูคนที่เปลี่ยนที่นั่งให้คนนั้นสิ หล่อมากเลยหล่อกว่าพี่เขยตั้งเยอะ”
“ยายเด็กบ้านี่” หญิงตั้งครรภ์ยิ้มแล้วไม่พูดอะไรต่ออีก
“สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท่าน ยินดีต้อนรับท่านโดยสารสายการบินหัวซย่าเที่ยวบินที่ 1661 เดินทางจากเมืองอู่เฉิงไปยังเมืองหลวงระยะทางบินในครั้งนี้คือ 2033 กิโลเมตรใช้เวลาในการบินประมาณ 1 ชั่วโมง 48 นาที เพื่อให้ระบบการสื่อสารของเครื่องบินเป็ไปโดยปกติในขณะที่เครื่องขึ้นและลงกรุณางดใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก งดใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องเล่มเกม เครื่องรับวิดีโอและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดตลอดทั้งเที่ยวบินกรุณานั่งกับที่และรัดเข็มขัดให้แน่น เก็บโต๊ะหน้าที่นั่งให้เรียบร้อยกรุณาตรวจสอบให้เรียบร้อยว่าท่านได้เก็บของที่นำมาไว้บนตู้เก็บเหนือศีรษะหรือใต้ที่นั่งของท่านเรียบร้อยดีแล้วหรือไม่ฉันคือหวังเสวี่ย หัวหน้าในเที่ยวบินครั้งนี้ หากท่าน้าความช่วยเหลือประการใดกรุณาบอกพนักงานของเรา พวกเราจะให้บริการท่านอย่างเต็มที่ค่ะ” สตรีสูงยาวเข่าดีผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าสุดของเครื่องบินพูดขึ้นด้วยความยิ้มแย้ม
“อวี้เอ๋อร์จองตั๋วได้ไม่เลวเลย อย่างน้อยแอร์ในเครื่องก็สวยๆ กันทั้งนั้น” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ แม้เขาจะพูดเบาๆทว่าชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านข้างก็ดันได้ยินเข้า
“น้องชายก็ไปเมืองหลวงเหรอ ไม่เห็นนายเอากระเป่าเดินทางมาเลย ไปเที่ยวเหรอ” ชายฉกรรจ์พูดยิ้มๆ ทว่าในขณะที่กัวไฮว่ใช้วิชาอ่านจิตกับชายฉกรรจ์ผู้นั้นกัวไฮว่ก็อดจะส่ายหัวเบาๆ ไม่ได้ แม่มันเถอะทั้งชีวิตนี้ตัวเขาเองก็นั่งเครื่องบินมาไม่กี่ครั้งไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญพบเื่แบบนี้เข้าได้
“พี่คะเมื่อก่อนฉันเคยเห็นข่าวบอกว่าคนท้องมีอัตราคลอดลูกชายบนเครื่องบินมากกว่าลูกสาวถึงสามเท่าแต่อัตราคนท้องที่คลอดบนเครื่องบินมีแค่หนึ่งในสามล้านเท่านั้น” หูเม่ยเอ๋อร์พูดยิ้มๆ
“ยังมีอีกนะ อัตราที่ทั้งชีวิตคนคนนึงจะเจอการจี้เครื่องบินพอๆกับที่จะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งเลย ฮิๆ” คำพูดของหูเม่ยเอ๋อร์ทำเอาชายฉกรรจ์ที่อยู่ข้างๆหัวเราะลั่นขึ้นมา
“นี่คนสวย งั้นอัตราที่จะเจอการจี้เครื่องบินไปพร้อมๆกับคนท้องคลอดลูกก็น่าจะประมาณหนึ่งในหลายร้อยล้านน่ะสิ” เด็กหนุ่มรูปร่างบึกบึนพูดยิ้มๆ
กัวไฮว่หันศีรษะไปมองเด็กหนุ่มคนนั้น ในใจลอบพูดขึ้นว่าแย่แล้วหูเม่ยเอ๋อร์นี่พูดอะไรแย่ๆ ไป พูดเื่คลอดเด็กบนเครื่องบินไปทำไมกันแถมยังบังเอิญเจอคนโรคจิตแบบนี้อีก
“คุณหวังเสวี่ย เอาไมค์มาให้ผมหน่อยสิ” เด็กหนุ่มผู้นั้นลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดอย่างยิ้มแย้ม
“ท่านผู้โดยสารกรุณานั่งอยู่กับที่ ไม่ทราบว่าคุณจะเอาไมค์ไปทำไมเหรอคะ” หวังเสวี่ยพูดด้วยความยิ้มแย้ม
“ปังปังปัง! ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ชอบอธิบายใครเอาไมค์มาให้ฉันได้หรือยัง” ชายหนุ่มยังคงหัวเราะไม่หยุด “ไม่ต้องติดต่อกับภาคพื้นดินแล้ว ฉันขอประกาศไว้ตอนนี้เลยว่าทุกท่านถูกแจ็คพอตแล้วล่ะ เพราะว่าพวกเราจี้เครื่องบินอยู่!” ชายหนุ่มพูดพลางเหลือบมองไปยังหูเม่ยเอ๋อร์
“พี่หยาง พวกเราควบคุมเส้นทางการบินกับพนักงานรักษาความปลอดภัยไว้หมดแล้ว” ชายใส่ชุดสูทที่อยู่ท้ายเครื่องบินพูดยิ้มๆ
“ตอนแรกคิดจะจี้เครื่องบินเล่นๆ แต่เมื่อกี้ดันได้ยินไอเดียดีๆตอนแรกคิดว่าจี้เครื่องบินไม่เห็นจะสนุกอะไร ฉันนี่เชยจริงๆ” สายตาของชายหนุ่มตกไปอยู่บนร่างของหญิงตั้งครรภ์กัวไฮว่จึงส่ายศีรษะขึ้นด้วยความจนใจ หมอนี่เป็คนที่โรคจิตที่สุดนับั้แ่ที่ตนมายังแดนมนุษย์
“ฉันถูกรางวัลใหญ่ลอตเตอรี่มาตั้งหลายครั้งตอนนี้ฉันอยากจะพนันกับทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้สักตาทุกคนว่าผู้หญิงคนนี้จะคลอดเด็กผู้ชายหรือว่าผู้หญิงกัน ถ้าตอบถูกพวกคุณให้ผมมาแค่คนละสิบล้าน ผมรับประกันว่าทุกคนจะไม่ตาย แต่ถ้าทายผิดล่ะก็ขอโทษด้วยนะ ผมไม่เอาเงินพวกคุณแล้วแหละ” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ
“พี่หยาง พนันใช้ได้เลย ผมก็เอาด้วย ผมพนันว่าเป็ผู้ชาย ร้อยล้าน” ชายหนุ่มที่ดูยังเด็กคนหนึ่งพูดด้วยเสียงดัง
“หมอ บนเครื่องบินมีหมอหรือเปล่า ถ้าไม่มีไม่เป็ไร เดี๋ยวฉันคิดวิธีดูว่าในท้องคนสวยเป็เด็กผู้ชายหรือผู้หญิงเอง” ในขณะที่พูด ชายหนุ่มก็ถือมีดด้ามเล็กส่องประกายอยู่ในมือ
“พ่อหนุ่ม พวกเราให้เงินเธอเอง ปล่อยพวกเราไปเถอะเธอทำแบบนี้จะเวรกรรมตามสนองเอานะ” ผู้าุโที่นั่งอยู่แถวหน้ารายหนึ่งอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“ปัง!” ชายชราโดนะุยิงเข้ากลางหน้าผาก “โทษทีนะ ลั่นไกไปแล้ว คนอื่นยังมีอะไรจะพูดอีกไหม ลืมบอกทุกคนไปเลยฉันชื่อลู่เสียหยาง เหมือนว่าทางตำรวจหัวซย่าจะตามหาผมมานานแล้วนะชีวิตฉันมีค่ามหาศาลเลยล่ะ ค่าหมายหัวตั้งร้อยร้อยล้าน พวกคุณจะพนันดูสักตาก็ได้ร้อยร้อยล้านนี่ก็ดึงดูดใจพอตัวเลย” ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ “ถ้าไม่มีหมอเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
หูเม่ยเอ่อร์ใจนขาดสติไปเธอไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดของตนเองจะทำให้พี่สาวของตนตกอยู่ในอันตรายได้
“นี่เพื่อน ฉันมีความรู้แพทย์อยู่บ้างฉันว่าฉันคลอดเด็กให้อย่างราบรื่นได้นะ ให้ฉันลองดูหน่อยได้ไหม” กัวไฮว่ลุกขึ้นมาพร้อมกับพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
“ฮ่าๆ เด็กนี่ ฉันชอบ ฉันชอบคนที่กล้าท้าท้าย ไปสิ หวังว่าเธอจะจัดการได้นะฮ่าๆ” ลู่เสียหยางพูดยิ้มๆ
“ปล้นมาทั้งหมดสิบสามครั้ง ลู่เสียหยางนี่เป็เซียนเทียนระยะหลังคนอื่นทั้งหมดเป็เซียนเทียนระยะกลาง ทำไมไม่รู้ั้แ่แรกนะ แม่มันเถอะจัดการสิบสามคนในครั้งเดียวไม่ได้แน่ ถ้าพวกมันเหนี่ยวไกขึ้นมาโดนลูกหลงหน่อยไม่เป็ไร แต่ถ้ายิงเครื่องบินพังล่ะก็ ฉันได้ตายจริงๆ แน่” กัวไฮว่ลอบวิเคราะห์ในใจ
“นี่นาย ดูไม่ออกเลย ใส่อามานีทั้งตัวแต่ดันเป็หมอ ฮ่าๆ” ชายหนุ่มบึกบึนที่นั่งข้างกัวไฮว่เมื่อสักครู่พูดอย่างยิ้มแย้ม
“ตื่นเต้นเหรอแม่หนู” กัวไฮว่มองหูเม่ยเอ๋อร์น้ำตาไหลเป็สายพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ “ฉันอยากให้พวกเธอเชื่อใจฉัน เด็กนี่อยู่ในท้องนานพอแล้วล่ะวิธีที่ฉันจะทำให้เด็กคลอดออกมาค่อนข้างพิเศษ หวังว่าพวกเธอจะให้ความร่วมมือ” กัวไฮว่มองหญิงตั้งครรภ์กับหูเม่ยเอ๋อร์พร้อมกับพูดขึ้น
“ลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อกัวไฮว่ เป็ผอ. คลินิกไม่ เรามีวาสนาเหมือนกันนะพวกเธอไปหาฉันแต่ไม่พบ แต่ดันมาบังเอิญพบกันบนเครื่องบิน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ สงบจิตสงบใจหญิงตั้งครรภ์จนสุดความสามารถ
“เธอชื่อหูเม่ยเอ๋อร์ แล้วพี่ชื่ออะไรครับ” กัวไฮว่ถามอย่างยิ้มแย้ม
“เซวียนตั่ว” หญิงตั้งครรภ์พูดเบาๆในขณะที่เธอได้ยินว่ากัวไฮว่เป็ผอ. คลินิกไม่ ก็มองพินิจกัวไฮว่อย่างไม่เชื่อสายตาอยู่หลายรอบถ้าเป็อย่างนั้นจริงๆ ต่อให้ตนเองตายไปก็ไม่เป็ไร หวังแค่ให้ลูกของตนรอดก็พอ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้