เมื่อทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว จ้าวเหม่ยหลินก็ลุกขึ้นขอตัวกลับจวนทันที
ทว่ากงเจวี๋ยกลับมีท่าทีคล้าย้ารั้งนางไว้ ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ “แถวนี้มีตลาดเล็กๆ อยู่ไม่ไกล…เ้าอยากแวะไปดูหรือไม่”
จ้าวเหม่ยหลินหรี่ตาลงจับสังเกต แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย “ท่านกำลังคิดจะเกี้ยวข้าหรือ?” นางไม่ใช่คนโง่ มีหรือจะดูไม่ออก
“เปล่า เ้าวางใจเถอะ ข้ามิได้ชมชอบของแปลกตาเพียงนั้น” กงเจวี๋ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ ก่อนจะขยิบตาให้นางหนึ่งทีอย่างหยอกเย้า “แค่คิดจะหาของหวานกินเท่านั้นเอง”
จ้าวเหม่ยหลินถึงกับอ้าปากค้าง บุรุษผู้นี้ช่างไร้มารยาทแถมยังปากจัดเสียจนเกินทน หากนางเป็มารดาของเขาคงต้องเรียกมานั่งอบรมเื่กิริยาให้ใหม่เสียแล้ว
“เ้าจะไปกับข้าหรือไม่” ร่างสูงเอ่ยก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตาจ้องมองมายังใบหน้าของร่างเล็กไม่ละสายตา คล้าย้ากดดันให้นางตอบรับคำชวนอย่างไม่มีทางปฏิเสธได้
“ก็ได้ๆ” เดิมทีจ้าวเหม่ยหลินตั้งใจจะปฏิเสธ แต่พอได้สบตากับชายหนุ่มตรงหน้า ความตั้งใจนั้นก็เริ่มสั่นคลอน
อีกอย่างหากกลับจวนไปตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรให้ทำ นั่งเขียนนิยายทั้งที่จิตใจยังว้าวุ่นคงไม่เกิดผลงานที่ดีนัก ออกไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย บางทีอาจได้แรงบันดาลใจกลับมา
“เช่นนั้น รอสักครู่” กงเจวี๋ยเอ่ย ก่อนเร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องโถง
ไม่นานนัก ชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมอาภรณ์ชุดใหม่ สีขาวดูเรียบง่าย แต่ก็สมฐานะองค์ชายน้อยโดยไม่ต้องป่าวประกาศ
กงเจวี๋ย จ้าวเหม่ยหลินเดินออกจากห้องโถงแล้ว หลีเฉินที่ยืนอยู่หน้าประตูก็รีบประสานมือคารวะทันที แต่เมื่อเห็นว่าเ้านายไม่ได้เอ่ยอะไร และยังคงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ไม่หันมามองตนเอง
หลีเฉินจึงคิดจะติดตามไปด้วย
ทว่าเพียงก้าวแรก เสียงเย็นนิ่งของกงเจวี๋ยก็ดังขึ้น “อยู่เฝ้าตำหนักเถิด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านไม่มีองครักษ์ตามไปด้วย จะไม่โดนลอบสังหารหรือ” จ้าวเหม่ยหลินเอียงคออย่างสงสัย
“ข้าเป็องค์ชาย แต่ข้าไม่ได้มีอำนาจในราชสำนักจะโดนลอบสังหารได้อย่างไร”
ทั้งสองเดินมาได้สักพักแล้ว ก็รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างแต่พอเริ่มได้กลิ่นหอมของขนมโชยตามลมมา จ้าวเหม่ยหลินก็หายเหนื่อยเป็ผลิทิ้ง
“ที่นี่หรือ” คนตัวเล็กเอ่ยถาม ขณะที่สายตามองบรรยากาศโดยรอบคึกคักเกินกว่าจะเรียกว่าเป็ตลาดเล็กๆ อย่างที่ชายหนุ่มกล่าวไว้
“ใช่” กงเจวี๋ยพยักหน้า ก่อนกล่าวต่อ “ช่วยมองหาร้านขนมน้ำตาลปั้นให้ข้าที”
“ได้”
สิ้นเสียงตอบรับของจ้าวเหม่ยหลิน กงเจวี๋ยก็เอื้อมมือมาจับท่อนแขนขาวของหญิงสาว แล้วพานางเดินฝ่าฝูงชนไปข้างหน้า
จ้าวเหม่ยหลินชะงักไปเล็กน้อยกับการกระทำของคนข้างตัว ก่อนจะตีมือนั้นอย่างไม่พอใจ “ท่านจับข้าทำไม”
กงเจวี๋ยรีบปล่อยมือทันที เขายักไหล่เล็กน้อยพลางตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน “ข้าก็แค่กลัวเ้าหลงทางเท่านั้น”
ทว่าขณะนั้นเอง รถม้าคันหนึ่งก็เคลื่อนมาจอดเทียบข้างร่างเล็กของจ้าวเหม่ยหลิน ม่านผืนงามถูกเลิกขึ้นเผยให้เห็นร่างชายหนุ่มผู้คุ้นตา
ประตูรถม้าเปิดออก จ้าวซ่งจื่อก้าวลงมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาฉายแววไม่พึงใจอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าองค์ชายน้อยกงเจวี๋ย…จะรู้จักกับน้องสาวของกระหม่อมด้วย” น้ำเสียงของเขาสุภาพ แต่แฝงไปด้วยความเ็าเจือความไม่พอใจ
กงเจวี๋ยยกยิ้มบางอย่างไม่ใส่ใจนัก “ไม่รู้หรือ? ข้ากับเหม่ยหลินน้อยเป็สหายสนิทกัน”
จ้าวเหม่ยหลินได้ยินแล้วก็แทบสำลัก นางไปสนิทกับเขาตอนไหนกัน
จ้าวซ่งจื่อขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเข้ม “แต่ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเกินงาม” แล้วเอื้อมมือไปดึงแขนน้องสาวเข้าหาตนเองอย่างถือสิทธิ์ฐานะพี่ชาย
กงเจวี๋ยเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ “เ้าก็ไม่ได้เป็พี่ชายร่วมสายเืกับนางเสียหน่อย”
จ้าวเหม่ยหลินหันมองจ้าวซ่งจื่อกับกงเจวี๋ยสลับไปมา สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความฉงน ไม่เข้าใจเลยสักนิดระหว่างสองคนนี้เกิดอะไรขึ้น
สายตาของชายหนุ่มทั้งสองยังคงปะทะกันอยู่นาน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมถอย จ้าวเหม่ยหลินเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเอ่ยปากขอตัวกลับจวนเสียก่อน
ร่างเล็กหันไปพยักหน้ากับกงเจวี๋ย ก่อนจะยอมเดินตามจ้าวซ่งจื่อขึ้นรถม้ากลับจวนอย่างว่าง่าย ถึงอย่างไรก็เป็พี่ชาย อีกทั้งนางไม่อยากให้เื่บานปลายจนกระทบชื่อเสียงของทั้งคู่
ทันทีที่กลับถึงจวน จ้าวซ่งจื่อก็ยังไม่วายย้ำเตือนให้นางเลิกยุ่งเกี่ยวกับบุรุษผู้นั้น เสียงตำหนิไม่ขาดสายจนจ้าวเหม่ยหลินเริ่มรู้สึกรำคาญ
ชายหนุ่มยังไม่ยอมละความพยายาม เดินตามร่างเล็กมาตลอดทางจนถึงเรือนพักหลังจวน
“ท่านพี่ ได้โปรดกลับไปเถิดเ้าค่ะ” จ้าวเหม่ยหลินย่อตัวให้เล็กน้อย พลางถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“เหม่ยหลิน เ้าฟังข้าอยู่หรือไม่” จ้าวซ่งจื่อไม่ยอมถอย เขาคว้าข้อมือนางไว้แน่น ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้เกินงาม ใบหน้าโน้มลงอย่างมีเจตนา
จ้าวเหม่ยหลินใ ผลักชายหนุ่มออกเต็มแรงก่อนจะตบเข้าที่ใบหน้าของจ้าวซ่งจื่ออย่างไม่ลังเล “ท่านจะทำอะไร”
สีหน้าของจ้าวซ่งจื่อแปรเปลี่ยนจากโกรธเป็หม่นหมองทันที “เ้าจำตอนเด็กๆ ไม่ได้เลยหรือ” นางมีใจให้เขา คนตรงหน้ากลับมาก็เพราะคำสัญญาในครั้งนั้นไม่ใช่หรือ
จ้าวเหม่ยหลินจ้องมองเขาด้วยสายตาเ็า
“ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านกับจ้าวเหม่ยหลินคนก่อนมีความสัมพันธ์แบบใด แต่ตอนนี้…ผู้หญิงที่ท่านรัก นางไม่อยู่ในร่างนี้อีกต่อไปแล้ว”
เสียงของนางสั่น แต่ชัดเจนทุกถ้อยคำ
“อย่าทำแบบนี้กับข้าอีก”
แม้จะเห็นน้ำตาคลอในตาของชายหนุ่มตรงหน้า แต่จ้าวเหม่ยหลินก็ไม่ลังเลที่จะหันหลังเดินเข้าตัวเรือนไป
ทว่านางกลับไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่เงียบๆ จ้าวิจูยืนหลบมุมอยู่ใต้เงาไม้ สีหน้าซับซ้อนเกินจะอ่านออก
ไม่นานซูจินก็รีบเดินเข้ามาประคองจ้าวเหม่ยหลิน “คุณหนูรองมาหาเ้าค่ะ แต่บ่าวเรียนไปแล้วว่าคุณหนูต้องกักตัวให้ครบสามวันจึงจะออกมาพบได้”
จ้าวเหม่ยหลินพยักหน้ารับเบา ๆ “อือ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้