หนิงเสวี่ยไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เธอคิดมาโดยตลอดว่าจี้หย่าเป็คนที่สมบูรณ์แบบ ความคิดเปิดกว้างเป็กันเอง ใช้ชีวิตอยู่อเมริกาได้เป็อย่างดี ช่างมีความสามารถยิ่งนัก
แต่พอกับเื่บางเื่ จี้หย่ากลับกลายเป็คนที่ยากจะเข้าใจ... หนิงเสวี่ยไม่เข้าใจเธอเลย
จี้เจียงหยวนไม่ได้มามหาวิทยาลัยสองวันแล้ว
จี้หย่ายังจะมาดักรอเซี่ยเสี่ยวหลานที่หน้ามหาวิทยาลัยอีก วิธีการเช่นนี้เธอไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งเคยทำเป็ครั้งแรก หนิงเสวี่ยไม่อาจช่วยแก้ตัวแทนจี้หย่าได้จริงๆ เื่นี้มันเลวร้ายเกินไป! จะส่งเซี่ยเสี่ยวหลานไปต่างประเทศพร้อมกับจี้เจียงหยวน? ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ยินยอม เื่นี้ทำให้เหล่านักศึกษาของหัวชิงพากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่ว แน่นอนว่าย่อมรู้ถึงทางมหาวิทยาลัย
สิ่งที่คุณน้าจี้กำลังทำ คือการทำให้จี้เจียงหยวนไม่อาจกลับมาเรียนที่มหาวิทยาลัยต่อได้ใช่หรือเปล่า?
แม่ลูกคู่นี้มีอะไรทำไมไม่คุยกันดีๆ เหตุใดต้องปล่อยให้เื่ราวบานปลายถึงขั้นนี้!
หลังหนิงเสวี่ยขึ้นมาที่ชั้นบน จอร์จเองก็เพิ่งประคองตัวจี้หย่าออกจากสำนักงาน หัวหน้าภาควิชาพยายามเกลี้ยกล่อมบางอย่าง ทว่าจี้หย่าเอาแต่เงียบไม่พูดจา หนิงเสวี่ยจึงเดินตรงไปหาพวกเขา
“คุณน้าจี้ คุณอาจอร์จ หัวหน้าภาค สวัสดีค่ะ”
หัวหน้าภาควิชาเดินเอามือไพล่หลังพลางถอนหายใจก่อนเดินจากไป แม้แต่นักศึกษาคนดังเขาก็ไม่แม้แต่จะให้สนใจ หลังเดินไปสองก้าวเขาก็ทนไม่ไหว “นักศึกษาหนิงเสวี่ย ช่วยพูดกับคุณน้าจี้ของเธอทีนะ”
ถึงอย่างไรตระกูลหนิงกับตระกูลจี้ก็สนิทกันมากกว่า หวังว่าจี้หย่าจะฟังคำพูดของหนิงเสวี่ยบ้าง เพราะตอนนี้หัวหน้าภาควิชายอมแพ้แล้ว
เขาต้องกลับไปที่ห้องทำงาน ปิดประตูและโทรหารุ่นพี่จี้
หนิงเสวี่ยไม่รู้เช่นกันว่าควรพูดอย่างไร
“คุณอาจอร์จ ตกลงทำไปเพื่ออะไรคะ”
หนิงเสวี่ยเคยเจอกับจอร์จเมื่อครั้งที่เธอไปอเมริกา ตอนคุณตาจี้เพิ่งเสีย จอร์จก็เดินทางมาร่วมพิธีไว้อาลัยในฐานะแฟนหนุ่มของจี้หย่า รวมถึงพิธีฝังศพด้วย หนิงเสวี่ยรู้จักกับจอร์จ อีกทั้งเธอรู้สึกว่าตอนนี้จี้หย่ากำลังอารมณ์อ่อนไหว การถามจอร์จคงเป็ทางเลือกที่ดีกว่า
ทว่าอารมณ์ของจอร์จเองก็เหมือนไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่เขาพอจำได้ว่าจี้หย่าชอบหนิงเสวี่ย ถึงได้สะกดอารมณ์แล้วอธิบายให้เธอฟัง
“เธอปฏิเสธข้อเสนอของพวกเรา ทำไมถึงมีคนปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ? หนิงเสวี่ย เธออยากไปเรียนต่างประเทศไหม ไปเรียนกับเจียงหยวนที่อเมริกาด้วยกันน่ะ!”
หัวใจของหนิงเสวี่ยสั่นไหวเล็กน้อยจากคำเชื้อเชิญนี้ แต่ไม่ทันไรเธอก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า จอร์จแค่้าเปรียบเทียบเท่านั้น
หนิงเสวี่ยค่อนข้างเกิดความรู้สึกต่อต้าน
แม้แต่เซี่ยเสี่ยวหลานยังปฏิเสธ แล้วเธอจะตอบตกลงได้อย่างไร
หนิงเสวี่ยมีศักดิ์ศรีของตัวเอง เธอรู้สึกว่าการที่เซี่ยเสี่ยวหลานปฏิเสธเป็สิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถ้ามีคนพูดแบบเดียวกันกับที่พูดกับเซี่ยเสี่ยหลานให้เธอฟัง ท่าทีของเธอคงแย่กว่านี้แน่นอน เรียนต่างประเทศแล้วดีเด่มากนักหรือ ต่อให้ขอทุนเรียนต่อต่างประเทศไม่ได้ ตระกูลหนิงก็มีปัญญาส่งเธอไปต่างประเทศ!
หนิงเสวี่ยไม่้า ‘ความใจกว้าง’ ที่มีลักษณะเหมือนการให้ทานเช่นนี้
“คุณอาจอร์จ เป็ฉันก็ไม่ตกลงเหมือนกันค่ะ”
เธอพูดประโยคนี้แล้วก็เงียบไปเหมือนจี้หย่า ทั้งสามคนยืนอยู่ชั้นบน มองเห็นชั้นล่างได้อย่างชัดเจน เซี่ยเสี่ยวหลานถูกเพื่อนร่วมหอรุมล้อม และพากันเดินไปยังประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยพร้อมกับหญิงวัยกลางคนคนนั้น
เล็บของจี้หย่าขูดฝ่ามือของตนเองจนถลอก นี่คือวิธีการควบคุมตัวเองอย่างสุดพลังของเธอ
ถ้าอาละวาดนอกบ้าน จี้หย่าคงทนตัวเองไม่ได้เช่นกัน
ความเป็ห่วงของหนิงเสวี่ยคือสิ่งที่จี้หย่า้า หนิงเสวี่ยเหมาะสมกับเจียงหยวนที่สุด หากไม่ใช่เพราะ้าออกนอกประเทศ จี้หย่าคงไม่มีวันชายตาแลเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างแน่นอน
เธออยากใช้ประโยชน์จากเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ยอมถูกใช้งานแต่โดยดี จี้หย่ารู้สึกทุรนทุรายเหลือเกิน!
“อาเสวี่ย น้าคิดว่าเื่บางเื่ไม่จำเป็ต้องพูดเน้นย้ำซ้ำๆ หลานเองก็รู้ดีแก่ใจว่าหลานกับเจียงหยวนเหมาะสมกันที่สุด... เพราะฉะนั้นน้าจะต้องพาเจียงหยวนผ่านวิกฤตคราวนี้ไปให้ได้”
เหมาะสมที่สุดรึ?
จี้เจียงหยวนไม่ยอมพูดคุยกับเธอด้วยซ้ำ
ตอนนี้จี้หย่ากำลังอารมณ์แปรปรวน คนฉลาดอย่างหนิงเสวี่ยจึงไม่เถียงกลับ
“คุณน้าจี้ คุณน้าอาจจะไม่ทราบ เซี่ยเสี่ยวหลานมีแฟนแล้วจริงๆ ค่ะ ตอนพวกเราไปฝึกทหารที่มณฑลจี้เป่ย แฟนของเขาคือหัวหน้าครูฝึกของพวกเรา อายุน่าจะมากกว่าพวกเราแค่สองปีเท่านั้น ทว่าเขามีตำแหน่งใหญ่แล้วค่ะ”
ตอนแรกจี้เจียงหยวนยังคิดท้าทาย ทว่าตอนหลังเขาก็ไม่ได้ปะทะกับครูฝึกโจวโดยตรง หนิงเสวี่ยเดาว่า คงเพราะจี้เจียงหยวนกับสยฺงไป่เหยียนแอบเข้าป่าแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น จากนั้นก็ได้โจวเฉิงช่วยจัดการปัญหาให้พวกเขา อีกทั้งโจวเฉิงยังไม่คิดแก้แค้นเด็กสองคนนี้ ไม่มีรายงานเื่จี้เจียงหยวนกับสยฺงไป่เหยียนออกจากกองฝึกไปโดยพลการแจ้งกับทางมหาวิทยาลัย เขาแค่ลงโทษสามคนนั้นให้วิ่งรอบสนาม 20 รอบเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าครูฝึกโจว ไม่ว่าจะเป็ความสามารถหรือความใจกว้างก็ทำให้จี้เจียงหยวนสามารถยอมจำนนได้
ครูฝึกโจวคงเป็ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมมาก หรือไม่ก็มีประวัติครอบครัวที่ดีงาม หนิงเสวี่ยเตือนจี้หย่าว่า อย่าเห็นว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็เพียงนักศึกษาจากบ้านนอกคนหนึ่งแล้วจะทำอะไรเธอก็ได้ เื่อื่นยังไม่เท่าไร แต่เมื่อครั้งที่เซี่ยเสี่ยวหลานมารายงานตัวที่มหาวิทยาลัย มีคนเห็นกับตาว่า เธอนั่งรถที่มีตราของรัฐมาที่มหาวิทยาลัย
หนิงเสวี่ยเตือนจี้หย่าด้วยความหวังดี จี้หย่าจึงพยายามย้อนคิดว่าเมื่อครู่กวนฮุ่ยเอ๋อพูดว่าอย่างไร
เธอจับตัวหนิงเสวี่ย “น้าอยากเจอคุณปู่ของหลาน คุณปู่ท่านสะดวกไหม”
—----------------------------------------------------
กวนฮุ่ยเอ๋อตอนเลี้ยงอาหารเด็กๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่เมื่อเดินเลี้ยวตรงหัวมุมถนนมาแล้วขึ้นรถ สีหน้าของเธอก็เคร่งขรึมขึ้น
ตระกูลจี้จะเหิมเกริมเกินไปแล้ว
วันนี้เธอเห็นเองกับตา จี้หย่าเป็คนรังแกเซี่ยเสี่ยวหลาน ทว่ายังทำท่าเหมือนตัวเองเป็ฝ่ายถูกกลั่นแกล้ง ทำเช่นนั้นให้ใครดูกัน?
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่ใช่ผู้ชาย ดังนั้นเธอไม่จำเป็ต้องทะนุถนอมสาวงามที่ไหน
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่หลงกลจี้หย่าแน่นอน!
เมื่อกลับมาถึงบ้านกวนฮุ่ยเอ๋อยังคงอยู่ในอารมณ์กรุ่นโกรธ วันนี้โจวกั๋วปินทำงานล่วงเวลา เธอรอจนถึงสี่ทุ่มกว่าจะได้เจอเขา
“เหล่าโจว วันนี้ฉันไปที่หัวชิงมาแล้ว”
โจวกั๋วปินยื่นเสื้อตัวนอกให้พี่เจิงนำไปแขวน “หือ ไปถามเสี่ยวหลานมาแล้วหรือว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่จำเป็ต้องถามด้วยซ้ำ ตอนฉันไปถึงฉันก็เห็นกับตาพอดี ผู้หญิงตระกูลจี้คนนั้นพาชาวต่างชาติมาด้วยคนหนึ่ง พวกเขาสองคนดักรอเสี่ยวหลานอยู่หน้ามหาวิทยาลัย และบอกต่อหน้าผู้คนว่าจะส่งเธอกับลูกชายตระกูลจี้ไปเรียนต่างประเทศด้วยกัน... นี่ตระกูลจี้เห็นลูกชายฉันเป็อะไร?”
กวนฮุ่ยเอ๋อพูดแล้วยังรู้สึกโกรธไม่หาย
บนโลกนี้ทำไมถึงมีคนคิดเองเออเองเก่งขนาดนี้กันนะ!
ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินกับหูตัวเองว่าเซี่ยเสี่ยวหลานปฏิเสธอย่างเด็ดขาด และไม่ได้เห็นเหตุการณ์วันนี้กับตาตนเอง เธอคงสงสัยว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกับลูกชายตระกูลจี้คนนั้นมีพฤติกรรมเกินเลยกันจริงๆ มิเช่นนั้นตระกูลจี้คงไม่บอกว่าจะส่งเซี่ยเสี่ยวหลานไปเรียนต่างประเทศเช่นนี้หรอก!
แต่ความจริงช่างน่าขบขันยิ่งนัก จี้หย่าพูดเองเออเอง ทั้งยังไม่ยอมขอโทษอีกด้วย
กวนฮุ่ยเอ๋อเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่สำนักงานของมหาวิทยาลัยให้สามีเธอฟัง พร้อมกับตบทรวงอกตัวเองและกล่าวออกไปว่า
“ฉันทนแล้วทนอีกถึงไม่ตบหน้าเธอสักฉาด เราจะถือสาคนป่วยไม่ได้จริงไหมเล่า แต่เื่นี้ไม่ควรปล่อยให้จบลงแบบนี้ หากไม่ตักเตือนตระกูลจี้เสียบ้าง จี้หย่าคงไม่มีทางรามือแน่นอน”
ตระกูลจี้ไม่น่ากลัวสักนิด
โจวกั๋วปินยิ้ม “สองวันนี้ฉันได้ยินข่าวมาพอดี เดิมทีการพูดลับหลังผู้อื่นเป็เื่ที่ไม่งามนัก แต่มันเป็เื่เกี่ยวกับจี้หย่า เธอรู้จักทังหงเอินสินะ คนที่ได้รับตำแหน่งที่เขตเศรษฐกิจพิเศษคนนั้น ความจริงแล้วเขาคืออดีตลูกเขยตระกูลจี้”
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่เข้าใจ เธอเคยได้ยินชื่อทังหงเอินแน่นอน ทั้งยังได้ยินจากปากของผู้เฒ่าโจวอีกด้วย ผู้เฒ่าโจวบอกว่าเขานั้นเป็คนเก่ง
“หมายความว่าอย่างไร อดีตลูกเขยตระกูลจี้จะปกป้องจี้หย่ารึ? พวกเขาหย่ากันแล้วมิใช่หรือ?”
โจวกั๋วปินส่ายศีรษะไปมา “ไม่ใช่ ทังหงเอินไม่ได้ปกป้องตระกูลจี้ ทว่าเขากำลังมีเื่กับตระกูลจี้ต่างหาก ตอนได้ยินข่าวฉันก็ไม่เข้าใจสักเท่าไร ผู้เฒ่าจี้เพิ่งจากไป ทังหงเอินทำแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นจะนินทาเอาหรือ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าที่แท้สองเื่นี้คือเื่เดียวกัน นั่นเป็เพราะทังหงเอินทะเลาะกับตระกูลจี้ เสี่ยวหลานถึงได้โดนลูกหลงไปด้วย!”
