บทที่ 19
“คุณเดือนอ้าย! เกิดอะไรขึ้นครับ!”ร่างเล็กเปิดประตูออกมาก็ทำเอาโจตาเหลือกเพราะเศษกระจกในห้องน้ำ รวมถึงกล้องวีดิโอตัวหนึ่งที่กำลังบันทึกอยู่ด้วย
“เราไม่ควรอยู่ที่นี่”เขามองไปที่โจด้วยสีหน้าจริงจัง อีกคนจึงหยิบของทั้งหมดเก็บทันที เราทั้งคู่ต่างเดินออกมาจากห้องนั้นโดยที่ไม่ได้แจ้งพยาบาล ขนาดบอกห้องวีไอพีก็ยังให้ความร่วมมือกับพวกธิวาลัยอีกงั้นหรอ เขาไม่อยู่ให้โง่แน่
โจพาเขามาส่งที่เซฟเฮ้าส์ก่อนจะโทรไปบอกอาทิตย์ว่าที่โรงพยาบาลนั้นไม่บริสุทธิ์ เมื่อร่างสูงรู้เื่ราวทั้งหมดก็โมโหมาก เพราะว่าผู้อำนวยการของโรงพยาบาลที่เดือนอ้ายเข้ารักษาเป็พันธมิตรกับศิวาลัยมาโดยตลอด พวกธิวาลัยมันคงใช้ข้อตกลงอะไรแน่ๆ
“นี่มันเป็บ้าอะไรไปหมดนะ”
“คุณเดือนอ้ายครับ ่นี้มันคือ่ที่อันตรายจริงๆ ผมไม่อยากให้ออกบ้านอีก”เขาพยักหน้ารับ เดือนอ้ายเข้าใจแล้วว่าการที่ตัวเองออกจากบ้านมันเป็แบบนี้ มันคือการที่ทำให้คนอื่นลำบากไปด้วย
“เราจะไม่ไปไหนแล้ว โจไปพักก่อนก็ได้”
“ผมจะกลับไปบริษัทครับ”
“แต่นี่มันเลิกแล้วนะ หกโมงแล้วนี่?”
“พอดีมีเื่ที่ต้องเคลียร์ พรุ่งนี้ผมจะพาเด็กคนนั้นมานะครับ”
“เราไปเองไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้ครับ“
“เข้าใจแล้ว”ร่างเล็กหมุนตัวกลับไปห้องนอน เขารอเวลาที่พี่อาทิตย์กลับมาแต่หนังตามันหนักอึ้งจนอยากหลับตาลง ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทราโดยฉับพลัน
ร่างสูงเดินทางกลับมาถึงบ้านใน่เวลาสองทุ่มพอดีเพราะว่าอาทิตย์ได้ไปทำการเตือนบางอย่างที่บริษัทธิวาลัยมาก่อน และนั่นมันคือคำเตือนสุดท้ายของอาทิตย์แล้ว ต่อไปนี้คือการเปิดศึกของจริง อีกไม่นานพรุ่งนี้เช้าไม่ก็คืนนี้ก็คงออกข่าวไปทั่วว่าทายาทของธิวาลัยเป็พวกสิบแปดมงกุฎ หลอกคนอื่นว่าตัวเองมีแฝดแต่ว่าในความเป็จริงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ใช้นามหนึ่งเพื่อหลอกคนไปสัญญาขายบริการ ไม่แปลกที่มันจะใช้วิธีสกปรกกับคนอื่นแบบนี้ ขายาวก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนเบาๆไม่ให้อีกคนตื่น แต่พอเข้าไปใกล้อีกคนก็ส่งเสียงทักทันที
“กลับมาแล้วหรอ?”
“กลับมาแล้ว กูทำให้มึงตื่นรึเปล่า?”
“เปล่านี่”มือเล็กเอื้อมไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง “พี่กินอะไรมารึยัง?”
“กินมาแล้ว มึงไม่ต้องห่วงหรอก แผลเป็ยังไงบ้าง?”
“ก็มีเจ็บๆแหละ อ้ายมีเื่ขอด้วย”อาทิตย์ฟังอีกคนอย่างตั้งใจ
“ขอว่าอะไรล่ะ”
“อ้ายรับเด็กคนนั้นที่เป็ลูกขอคนขับแท็กซี่เป็ลูกบุญธรรมได้ไหมครับ?”ใบหน้าสวยมองตาอีกคนอย่างแน่วแน่ อาทิตย์ที่เห็นแบบนั้นก็ชะงักไปชั่วครู่ เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจจะรับลูกบุญธรรมแต่ก็ได้รับการดูแลที่ดีเทียบเท่าเด็กคนหนึ่งที่สมควรจะได้อยู่แล้ว
“…”
“อ้ายรู้ครับว่ามันเป็เื่ยากที่จะตัดสินใจ แต่อ้ายอยากรับน้องเอาไว้จริงๆ”
“การดูแลเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่ายรูัไหม”
“รู้ครับ แต่อ้ายจะดูแลน้องให้ดีที่สุดจริงๆ”
“ฟังกูนะ ถึงเราจะไม่ได้รับเป็ลูกบุญธรรมแต่เด็กคนนั้นก็ได้รับสิ่งที่ควรได้อยู่แล้วอ้าย”
“แล้วความรักล่ะครับ…น้องได้รับความรักรึเปล่า”เดือนอ้ายพูดออกมาแบบนั้นเพราะรู้ตัวเองดี เด็กที่โตมามีพ่อแม่แต่ไม่ได้รับความรักมันทรมานแค่ไหน และนี่เป็เด็กที่ได้รับความรักจากพ่อมาโดยตลอดแต่ตอนนี้กลับไม่อยู่แล้ว มันคงจะทรมานมากกว่า
อาทิตย์ไม่ได้ตอบคำถามร่างเล็กต่อเพราะกำลังคิด อาทิตย์ไม่ได้มีปัญหาเื่เงิน เื่การดูแล แต่ว่าถ้าเด็กคนนี้เข้ามาส่วนหนึ่งในครอบครัวก็อาจจะยิ่งทำให้คนที่ตกอยู่ใน่อันตรายมีเพิ่มเป็สองคน ยิ่งไปกว่านั้นร่างสูงไม่้าจะสูญเสียใครให้กับตระกูลนั้นอีกแล้ว
แต่ถ้าหากตอบปฏิเสธไปยังไงร่างเล็กก็ต้องหาทุกวิถีทางทำให้เขายอมอยู่ดี การเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งสำหรับอาทิตย์มันไม่ได้ยากอะไร เพราะก็เลี้ยงน้องชายตัวเองมาั้แ่เด็ก แต่ว่าตอนนี้มันอยู่ใน่ที่ไม่ปลอดภัยจริงๆสำหรับเด็ก อาทิตย์ต้องรีบตัดหางธิวาลัยให้จบสักที
“นะครับพี่อาทิตย์”
“ก็ได้”
“จริงนะ!!”ใบหน้าสวยตาโตขึ้นทันทีด้วยความดีใจก่อนจะกอดไปที่อาทิตย์แน่น
“แต่มึงต้องสัญญากูก่อน”เขาเงยหน้าขึ้นไปมองอีกคนทันที “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้กดปุ่มนี้ทันที”
“มันคืออะไรหรอครับ?”เขารับเครื่องบางอย่างมาไว้ในมือ
“เครื่องส่งสัญญาณเตือนภัย ถ้ามึงกดมันจะส่งสัญญาณมาที่กู แล้วกูจะรีบไปหามึงทันที”
“…อ่า แบบนี้นี่เอง”
“เื่นี้มันเป็เื่ใหญ่ กูไม่อยากให้มึงเสี่ยง”
“อื้อ อ้ายเข้าใจพี่อาทิตย์ครับ”เขาเก็บเครื่องนั้นไว้อย่างดีก่อนที่เราทั้งจะล้มตัวลงนอนคุยกันหลายเื่ รวมถึงเื่การเลี้ยงดูเด็ก เดือนอ้ายอยากเตรียมพร้อมในเื่นี้ให้ดีที่สุด
เดือนอ้ายรีบลุกมาแต่เช้าเพราะเตรียมที่จะมารอรับเด็กน้อยที่เซฟเฮ้าส์ นานมาแล้วด้วยที่ไม่ได้เจอป้าแมว เขามองรถที่วนเข้ามาจอดหน้าบ้านด้วยความตื่นเต้น สองมือกุมไว้ที่อกแน่น ความกังวลยังไม่คลาย ส่วนร่างสูงที่ยืนข้างกายใช้สายตาเรียบนิ่งมองไปที่เด็กน้อยที่กำลังเดินลงจากรถ ร่างป้อมในชุดกางเกงเอี๊ยมยีนกับเสื้อยืดสีเหลืองด้านในนั้นดูเข้ากับเด็กน้อยที่สุด
ใบหน้าขาวนวลที่เหมือนน้ำนมกำลังเดินเข้ามาในตัวบ้าน ทันทีที่เปิดประตูออกเดือนอ้ายก็ต้อนรับทันที ร่างเล็กย่อเข่าลงกับพื้นพร้อมกับจับมือน้อยสองข้างเอาไว้แน่น แม้ว่าจะดูมึนงงเล็กน้อยจากการตื่นนอนแต่ว่าเด็กน้อยเข้าใจแล้วว่าคนที่จับมือตัวเองกำลังจะมาเป็แม่ให้เขานั่นเอง ไม่ทันทีที่เดือนอ้ายจะพูดอะไรเด็กน้อยก็กอดคอของร่างเล็กแน่น “หม่ามี๊!”
เดือนอ้ายชะงักไปเล็กน้อยเพราะใที่ได้ยินที่อีกคนเรียกเขาว่าหม่ามี๊ แมวรีบคว้าแขนอีกคนว่าอย่าเพิ่งกอดแน่นเกินเพราะร่างเล็กยังมีาแอยู่ “อย่ากอดแน่นนักสิคะ”
“ขอโทดคับ ผมชื่อตะวันคับ”
“สวัสดีครับ พี่ชื่อเดือนอ้ายนะ เรียกพี่อ้ายก็ได้นะครับ”เขามองเด็กน้อยที่ยิ้มออกมาด้วยสายตาเอ็นดูแต่ว่าในใจก็ยังรู้สึกไม่ดีนักที่ไปพรากพ่อของเด็กน้อยคนนี้ แถมชื่อก็ยังเหมือนลูกเขาที่ราชบุรีเหมือนกันด้วย
“เรียกหม่ามี๊ไม่ได้หรอ..”เด็กน้อยมีสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ทำยังไงดีล่ะ เขาหันไปมองพี่อาทิตย์พบว่าอีกคนกำลังพยักหน้าให้
“เรียกได้สิครับ แล้วแต่ใจหนูตะวันเลย”
“ตาวานดีใจที่สุดเลยที่มีหม่ามี๊แล้ว!”รอยยิ้มหวานถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของตะวัน เดือนอ้ายยิ้มรับพร้อมกับลูบหัวอีกคนช้าๆ เด็กน้อยหันไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าสงสัยก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็อีกแบบจนเดือนอ้ายต้องแนะนำให้เด็กน้อยฟัง “คนนี้คือ-“
“คุณลุงเป็แฟนหม่ามี๊หรอคับ”คำว่าคุณลุงทำเอาป้าแมวกับเขาต้องกลั้นขำออกมา แต่ว่าอาทิตย์นั้นได้แต่ทำหน้าบึ้งเป็ั์ เกิดมาเพิ่งเคยมีเด็กมาเรียกลุง ได้แต่คิดว่าตัวเองหน้าแก่มากเลยหรอ
“คนนี้แฟนหม่ามี๊เองครับ”แต่พอได้ยินว่าร่างเล็กเรียกตัวเองว่าแฟนก็คลายหน้าออกทันที
“ไปกินข้าวกันได้แล้ว”อาทิตย์เดินนำลิ่วไปก่อนที่เขาจะตามไป
“ไปกันเถอะ”
“คับ”ร่างเล็กจูงมือเด็กน้อยไปที่ห้องกินข้าวทันที หลังจากนั้นเขาก็ได้นั่งคุยกับเด็กน้อยจนยาว พอถึง่กลางวัน เขาก็พาเข้านอน ป้าแมวเข้ามาคุยลับหลังมาจริงๆแล้วตะวันรู้ว่าเขาคือคนที่อยู่กับพ่อตัวเองก่อนเสียชีวิตแต่เลือกที่จะไม่พูดถึงประเด็นนั้นกับเขาเลย
ั้แ่เห็นหน้าเด็กคนนี้เขาก็รู้สึกว่าถูกชะตากับอีกคนมากจริงๆ ตะวันเป็เด็กที่ฉลาดชอบเื่วิทยาศาสตร์เป็พิเศษ รวมถึงพวกสัตว์ด้วย พอมาคุยกันก็พบว่าเราชอบอะไรที่เหมือนกันมาก ถึงแม้ว่าเด็กน้อยจะแค่แปดขวบแต่ก็ฉลาดจริงๆ
“เป็เด็กที่เติบโตมาอย่างดีเลยนะ”มือเล็กลูบผมเด็กน้อยอย่างช้าๆ ก่อนจะหันไปเห็นร่างสูงที่ยืนพิงที่ประตูอยู่ อาทิตย์ทำท่าให้ออกไปคุยข้างนอกดีกว่าจะได้ไม่กวนเวลานอนเด็ก ร่างเล็กจึงเดินออกไปตามอีกคน
“กูจะต้องไปทำงานแล้วนะ”
“ห้ามพูดกู”เขาตกลงกับอีกคนแล้วว่าต่อจากนี้ห้ามพูดกูมึงใส่เพราะว่าตะวันยังเด็กอยู่
“ก็มันติดนี่”
“ติดแล้วเลิกพูดไม่ได้รึไง? ตะวันยังเด็กนะ”
“มันยาก”
“ลองพูดออกมาก่อน พูดสิ”ร่างเล็กกอดอกมองอีกคนไม่วางตา
“พูดว่าอะไร”
“พี่รักอ้าย”
“พี่รักอ้ายมากๆ”เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาตกม้าตายตอนนี้เพราะคำพูดอีกคนนั้นแหละ
“ดีมาก หลังจากนี้ต้องพยายามนะ เดี๋ยวอ้ายเดินไปส่ง”ร่างเล็กเดินคล้องแขนไปส่งร่างสูงที่ชั้นล่างจวบจนรถวิ่งออกบ้านไป เขาจึงเดินกลับขึ้นมา้า เขาคงต้องจัดห้องให้เด็กน้อยบ้างแล้ว
่เวลาล่วงเลยมาถึงเวลากลางคืนพอดี เขาพาตะวันไปนอนมาแล้วจนตอนนี้ต้องมานั่งทำแผลต่อเพราะเป็ลมไปไม่รู้ตัว เหมือนว่าแผลจะเริ่มดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่นัก ป้าแมวบ่นเขาจนหูชาหมดแล้ว เขาดื้อที่ไม่ยอมพักผ่อนเองเลยทำให้แผลหายช้า ไหนจะเป็ลมล้มพับไปอีก ป้าแมวเลยแจ้งพยาบาลประจำตระกูลมาดูให้ สุดท้ายก็มานอนให้น้ำเกลืออยู่ในห้อง
“เดี๋ยวนอนพักสักครู่นะคะ อีกสักพักจะมีฉีดยานะคะ”
“ครับ”เขานอนมองเพดานไปสักพักก็มีพยาบาลเข้ามาในห้อง ร่างเล็กเหลือบตามองเข็มฉีดยาที่ดูแหลมแล้วเจ็บรอไว้ก่อนเลย แค่เข็มที่แช่อยู่ที่มือก็จะแย่อยู่แล้ว
“เจ็บนิดนึงนะคะ”เขามองไปที่หน้าพยาบาลแล้วก็นึกได้ว่าคนนี้ไม่ใช่คนเดิมกับคนเมื่อกี้นี่ ป้าแมวบอกว่าเรียกมาคนเดียวไม่ใช่หรอ มือขวารีบปัดเข็มที่กำลังจะฉีดพอดี
“คุณไม่ใช่คนเดียวกับคนเมื่อกี้นี่ครับ”ร่างเล็กลุกขึ้นยืมเต็มความสูงก่อนจะถอดสายน้ำเกลือออกช้าๆ
“อะไรกันคะ คุณเดือนอ้ายน่าจะจำไม่ได้รึเปล่าคะ?”เขามองอีกคนที่มีท่าทีดูลุกลนมากเกินไป มันผิดจนสังเกตได้
“ป้าแมว!!!”ร่างเล็กรีบคว้าแจกันมาไว้เป็อาวุธทันที ป้าแมวรีบวิ่งเข้ามาด้วยความใ “เกิดอะไรขึ้นคะ!?”
“คนนี้ไม่ใช่พยาบาลของเราครับ!”
“อะไรกัน! คุณเรียกฉันมาเองนะคะ!”ป้าแมวหันไปมองใบหน้าของพยาบาลคนนั้นแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปล็อคตัวทันที “แกไม่ใช่คนของศิวาลัย!”
“ปล่อยกู! ปล่อย!”ร่างเล็กรีบเดินไปหาเชือกในห้องทันทีรีบมามัดตัวเอาไว้แน่น ร่างเล็กกับแมวช่วยกันจับไม่ให้หนีไปไหนได้ กว่าจะทำได้ก็เป็ชั่วโมง
เดือนอ้ายโทรหาอาทิตย์ทันทีว่าเกิดเื่อะไรขึ้นที่บ้าน จากนั้นรถก็รีบบึ่งมาที่บ้านโดยตรง ผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นเอาตัวออกไปไปโดยคนของพี่อาทิตย์ เขาที่ยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความมึนงง จนป้าแมวเดินตรวจทั่วบ้านก็เจอพยาบาลนอนสลบอยู่ห้องเก็บของ
อาทิตย์เห็นว่าเซฟเฮ้าส์เริ่มไม่ปลอดภัยก็ยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม ร่างสูงไม่อยากให้ไปที่บ้านศิวาลัย เพราะใครๆก็รู้ว่าบ้านศิวาลัยอยู่ที่ไหน อาทิตย์นั่งคิดวิตกอยู่ที่โซฟาจนร่างเล็กเดินเข้าไปวางมือบนไหล่กว้างเอาไว้
“อ้ายจะไปอยู่กับเพื่อนเอง”
“ว่าไงนะ?”
“ที่นั่นมันปลอดภัยจริงๆ บ้านของนาวินกับเควินไง”ร่างสูงที่ได้ยินชื่อของสองคนนั้นก็รู้อยู่แล้วว่าเป็ลูกของใคร ตามที่แม่ของตนเองเคยทักมาคุยว่าตระกูลมาเฟียนั่นตกลงที่จะคุ้มครอง ขึ้นอยู่กับว่าจะให้เริ่ม่ไหน ซึ่งอาทิตย์สะเพร่าเองที่ยังไม่ได้บอกไปสักที มันก็คงต้องใช้วิธีนี้แล้วจริงๆ
“อยู่ได้รึเปล่า”
“อ้ายอยู่ได้ พี่ไม่ต้องห่วงนะครับ”อ้อมกอดเล็กกอดแน่นจากด้านหลังก่อนที่แขนแกร่งจะคว้าเอวอีกคนมานั่งทับลงบนตัก
“พี่ไม่เจออ้ายจะอยู่ได้ไง”
“่นี้เราต้องอดทนไปก่อนนะ”เขารู้ดีว่าการที่ไม่เจออีกคนทุกวันมันคิดถึงแค่ไหน “เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่พี่ ไม่ใช่แค่อ้าย แต่เป็เราสองคน”
“พี่รักอ้ายมากนะ..”
“อ้ายก็รักพี่ครั-“ร่างเล็กถูกบดริมฝีปากด้วยริมฝีปากหนา ความร้อนของลิ้นอุ่นถูกส่งเข้ามาในโพรงปากเล็ก จูบอันแสนหวานและอบอุ่นของพี่อาทิตย์ทำเอาเดือนอ้ายขาอ่อนจนต้องโอบคออีกคนแน่น มือหนาช้อนท้ายทอยของร่างเล็กเอาไว้ เราทั้งคู่ต่างจูบกันด้วยความโหยหา
“สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะครับ” ร่างเล็กผละออกเพื่อขออากาศหายใจ รอยยิ้มหวานถูกส่งมาให้อาทิตย์ ใบหน้าสวยจับใบหน้าคมอีกเอาไว้ก่อนจะใช้จมูกถูไปมากับจมูกคมอีกคนด้วยความเอ็นดู
“พี่ลืมไปเลยจริงๆ”
“อ้ายขอโทษที่ไม่มีของขวัญ”
“อ้ายคือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพี่แล้ว”
“พี่อาทิตย์น่ารักที่สุดเลย…เฮ้อ ถ้าอ้ายไม่เจอพี่นานขนาดนี้แล้วจะจูบใครอ่ะ”ดวงตาเล็กหม่นลงเมื่อนึกว่าจะไม่ได้เจออีกคน
“งั้นก็จูบเผื่อไว้เลยสิ”
“แล้วถ้ามากกว่าจูบล่ะ?”เอวเล็กถูกรัดโดนแขนแกร่งขยับเข้ามาใกล้กัน
“ท้าแบบนี้เป็ั้แ่เมื่อไหร่”
“อ้ายพูดจริงต่างหาก”ใบหน้าคมโน้มลงตัวมาที่จะจูบ “เราลองมา-“ แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างขึ้น
“หม่ามี๊!!! หม่ามี๊ไปหนาย!!”เสียงเล็กร้องเจื้อยแจ้วมาจาก้า เด็กน้อยเดินลงบันไดมาพร้อมกับยกมือขยี้ตา ร่างเล็กที่เห็นก็รีบลุกขึ้นจากตักอีกคนวิ่งเข้าไปหาตะวันทันที
“โอ๋ๆ หม่ามี๊อยู่นี่น้า ไปๆนอนกัน”ร่างเล็กหันหลังมาบอกใบ้ว่า’ไว้คราวหลังแล้วกันนะ’ จนอาทิตย์เองได้แต่เจ็บใจ จากตอนแรกเป็ที่หนึ่ง ตอนนี้กลายเป็ที่สองสะแล้ว หลังจากที่เห็นทั้งคู่ขึ้นไปร่างสูงก็กลับมามองข่าวที่ออกมา ดูเหมือนว่าธิวาลัยเริ่มโดนกระแสโจมตีแล้ว อีกไม่นานก็คงจะเริ่มมีคนขุดคุ้ยมากขึ้นเกี่ยวกับเื่การอุ้มคนของมัน
อาทิตย์จับหนังสือพิมพ์ฉีกทิ้งทั้งหมดก่อนจะเดินขึ้นบันได แต่ทว่าเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นจนต้องหยิบขึ้นมาเปิดออกดู คนที่ทักมาก็คนไม่พ้นใครหน้าไหน นอกเสียจากทายาทของธิวาลัยนั่นเอง
“ไอ้เหี้ยนี่”สิ่งที่ธาส่งมาคือภาพของเดือนอ้ายที่ถูกแอบถ่ายโดนกล้องที่เคยตั้งไว้ในห้องน้ำโรงพยาบาลพร้อมกับข้อความ ‘เมียมึงใจเด็ดกว่าคนเก่าอีกว่ะ กูขอนะ’
ดูเหมือนว่าการที่มันทำแบบนี้มันคือการจุดไฟให้อาทิตย์มากกว่าเดิม
ถ้ามันไม่ตายคาตีนของอาทิตย์ก็คงต้องตายด้วยลูกปืนสักวัน อาทิตย์กดปลายสายโทรหาบางคนทันที “ฮัลโหล”
(มีอะไรน่ะ)
“มึงอยู่ไหน”
(ไอกำลังจะไปงานเลี้ยง)
“สามแสน”
(สามแสนอะไรของยูวะ)
“ไปป่วนธิวาลัยให้กู”
(ถ้าเป็แบบนั้นกูทำให้ฟรีเลย มึงพร้อมแล้วใช่ไหมที่จะเปิดศึก)
“อืม”
(ให้ตายเถอะ ถึงเวลานี้สักทีสินะ)
จริงๆแล้วครอบครัวของณอนเป็ทูตกันทั้งหมด ไม่แปลกที่จะรู้จักคนมากหน้าหลายตา แต่ว่าธิวาลัยไปทำเื่บางอย่างให้ฝั่งณอนเกือบจะมีปัญหาระหว่างประเทศ แล้วยังออกหน้าออกตาว่าตัวเองไม่ผิดเลยทำให้ทางนั้นไม่ชอบหน้า ณอนเองยุยงอาทิตย์มาตลอดว่าทำลายธิวาลัยให้จบไปสักที จะได้ต้องมีอะไรมากังวล ความแค้นของธิวาลัยในสมัยก่อนไม่ควรทำให้คนของศิวาลัยต้องเสียชีวิตไปมากกว่านี้อีกแล้ว มันจะต้องมีคนล้มตายไปอีกกี่คนถึงจะพอใจนั่นคือสิ่งที่อาทิตย์คิดมาโดยตลอด