“สามตระกูลหลักกับเจ็ดตระกูลชนชั้นสูงล้วนมาถึงแล้ว ดูเหมือนยังมีคนจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษและสิบบุคคลระดับสูงจากหอการค้า ของล้ำค่าชิ้นนี้ พวกเราคงไม่มีปัญญาเสียแล้ว!”
“ทว่าต่อให้พวกเราไม่มีโอกาสจะได้เข้าร่วม ได้เห็นเหตุการณ์สำคัญระดับนี้ก็นับว่าไม่เลว!”
มีเสียงถกเถียงความกันมากมายทั่วห้องประมูล
“ทุกท่านโปรดเงียบเสียงลงสักครู่!” แม่นางน้อยผู้ดำเนินการประมูลยิ้มบางๆ พูดว่า “พวกเรากำลังจะเริ่มแนะนำวัตถุล้ำค่าหาใดเทียบชิ้นนี้แก่พวกท่านแล้ว!”
ทั่วทั้งห้องประมูลก็เงียบเสียงลงทันที
แม่นางน้อยผู้เลอโฉมสองนางเดินประคองถาดใบหนึ่งขึ้นมา มีของบางอย่างวางอยู่บนถาดใบนั้น ทว่าถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีม่วงผืนหนึ่ง จึงเพียงมองเห็นเค้าโครงได้เลาๆ เท่านั้น
“ที่แท้เป็ของอะไรกันแน่?”
“ยั่วน้ำลายผู้อื่นกระมัง!”
เวลานี้ แม่นางน้อยผู้ดำเนินรายการคลี่ยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ขึ้นมาคราหนึ่ง มือขวาค่อยๆ ดึงผ้าคลุมสีม่วงออก พริบตาต่อมา สมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นก็ทอแสงเจิดจ้าออกมาทุกทิศทุกทาง หม้อใบหนึ่งซึ่งมีสีดำราวหยก ไม่ทราบว่าทำด้วยวัสดุอะไร ปรากฏสู่สายตาของทุกคน หม้อใบนี้ใสกระจ่างโปร่งแสง ้าทอแสงราวกับอัญมณีตรึงใจผู้คน
พลังิญญาเข้มข้นจนน่าใสายหนึ่งกระจายตัวออกมา
ทันทีที่เห็นหม้อสีดำใสใบนี้ เนี่ยหลีอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาจนมิอาจข่มใจไว้มิได้ คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นของสิ่งนี้ที่นี่ ของสิ่งนี้นับเป็สมบัติล้ำค่าหาใดเทียบได้อย่างแท้จริง ไม่อาจประเมินมูลค่าออกมาเป็เงินได้!
“ของสิ่งนี้ที่แท้คืออะไร มีที่มาอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร พวกเราล้วนไม่ทราบแน่ชัด ทว่าสิ่งหนึ่งที่มั่นใจอย่างยิ่งก็คือ พลังิญญาบริสุทธิ์ที่ผันผวนกระจายตัวออกมา้านี้ ย่อมพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าของสิ่งนี้ไม่ธรรมดา และที่ด้านล่างของตัวหม้อยังมีอักษรคำว่า ‘ฝันร้าย’ สองตัวสลักไว้ เดาว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับจิตอสูรแห่งฝันร้าย!”
แม่นางน้อยผู้ดำเนินการประมูลบรรยายต่อไปว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ตามที่ท่านประมุขของพวกเราได้สรุปไว้ หากคนผู้หนึ่งฝึกจิตอสูรของตนอยู่ใกล้ๆ ของสิ่งนี้ จะสามารถช่วยบำรุงปราณของจิตอสูรได้อย่างใหญ่หลวง ดังนั้นจึงพอจะกำหนดได้ว่าของสิ่งนี้จะต้องเป็สมบัติล้ำค่าเกินกว่าจะหาที่ใดเทียบได้อย่างแน่นอน และพวกเราหวังว่าจะมีผู้รู้ที่สามารถปลดปล่อยความสามารถของมันออกมาได้อย่างเต็มที่!”
“ราคาเริ่มต้นของสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้คือแปดล้านเหรียญจิตอสูร!”
ประมุขของตระกูลหงเยวี่ยไม่รู้ถึงวิธีการใช้งานของหม้อหยกดำใบนี้ ดังนั้นจึงเปิดด้วยราคาที่แสนต่ำปานนี้ หากรู้วิธีใช้งานที่แท้จริงของหม้อหยกดำใบนี้แล้วล่ะก็ เกรงว่าจะขายก็ยังไม่ขาย ลำพังแค่ฝึกจิตอสูรอยู่ข้างๆ มัน ก็สามารถช่วยเพิ่มพลังปราณให้แก่จิตอสูรของตนได้ ถือว่าคุ้มไม่น้อยแล้ว อย่าว่าแต่ประโยชน์อื่นๆ อีกหลายอย่างที่ยังไม่เป็ที่เปิดเผยออกมา!
ตัวแทนของแต่ละตระกูลรับรู้ได้ถึงพลังิญญาอันเข้มข้นที่กระจายตัวออกมา พวกเขาอดที่จะรู้สึกสนใจหม้อหยกดำใบนี้มิได้
“หม้อหยกดำใบนี้คืออะไรกันแน่?”
“ไม่ทราบ แต่ข้ามั่นใจว่าของสิ่งนี้คงต้องไม่ธรรมดาเป็แน่!”
“นับว่าเป็ของหายากโดยแท้ ข้าอยากศึกษามันเสียจริง บางทีอาจจะมีวิธีใช้งานที่พิสดารสักอย่างหนึ่งก็เป็ได้!”
จ้องมองหมอหยกดำเบื้องหน้า เนี่ยหลีอดที่จะแสดงสีหน้าครุ่นคิดลึกซึ้งถึงบางสิ่งที่ผ่านมายาวนานแล้วมิได้ หม้อหยกดำใบนี้ควรจะเป็สมบัติล้ำค่าในตำนาน หม้ออสูรแห่งฝันร้าย ประวัติศาสตร์ที่มาของหม้ออสูรแห่งฝันร้ายนี้ ยังเก่าแก่ก่อนยุคอาณาจักรวายุหิมะเสียอีก กล่าวกันว่ามันถูกค้นพบอยู่ในชนเผ่าโบราณกลุ่มหนึ่ง
เนี่ยหลีไม่เพียงแต่รู้จักวิธีใช้งานหม้ออสูรแห่งฝันร้ายใบนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หนึ่งในวิธีใช้งานหม้ออสูรแห่งฝันร้ายก็คือการกลั่นหลอมจิตอสูร!
กระบวนการคร่าวๆ ก็คือการนำเอาจิตอสูรที่แตกต่างกันสิบชนิดใส่เข้าไปในหม้อหยกดำ จากนั้นจะบังเกิดโอกาสเป็ไปได้ที่จะให้กำเนิดจิตอสูรพิเศษซึ่งมีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมออกมาตนหนึ่ง หากโชคดี ก็เป็ไปได้ที่จะเกิดจิตอสูรที่หายากชนิดหนึ่งขึ้น หากโชคไม่ดี ก็อาจล้มเหลว และจิตอสูรเ่าั้ก็จะถูกทำลายจนหมดสิ้น
โอกาสล้มเหลวนั้นต่ำมาก และโอกาสที่จะกลั่นหลอมจนกำเนิดจิตอสูรหายากออกมาได้ก็ต่ำเช่นกัน หม้ออสูรแห่งฝันร้ายนี้จะสามารถกลั่นหลอมจิตอสูรที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าออกมาได้เสียเป็ส่วนใหญ่ ทว่าแค่คุณสมบัตินี้เพียงอย่างเดียว ก็เกินพอที่จะทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องคลั่งไคล้กับมันแล้ว เนื่องเพราะในบรรดาอสูรทั้งสิบตน จะสามารถสร้างเป็จิตอสูรใหม่ออกมาได้เพียงตนเดียวเท่านั้น ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาย่อมคาดหวังที่จะได้จิตอสูรตนใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้!
ใช้จิตอสูรที่อ่อนแอ กลั่นหลอมจนได้จิตอสูรที่แข็งแกร่ง นี่ก็คือหม้ออสูรแห่งฝันร้าย!
เดาว่าเวลานี้คงมีไม่กี่คนในที่นี้ ที่รู้วิธีใช้งานหม้ออสูรแห่งฝันร้าย
พอครุ่นคิดถึงประโยชน์ใหญ่หลวงของหม้ออสูรแห่งฝันร้ายแล้ว เนี่ยหลีก็ตัดสินใจแทบจะในทันที ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ต้องคว้าหม้ออสูรแห่งฝันร้ายใบนี้มาให้ได้!
ไม่นาน แต่ละตระกูลก็เริ่มการประมูล
“สิบล้านเหรียญจิตอสูร!”
“สิบสองล้านเหรียญจิตอสูร!”
“สิบห้าล้านเหรียญจิตอสูร!”
...
เพียงไม่นาน ราคาก็ไต่ขึ้นไปถึงกว่ายี่สิบล้านเหรียญจิตอสูรแล้ว ราคานี้สร้างความตื่นตะลึงสุดขีดให้แก่ผู้คนที่อยู่ในห้องประมูลแล้ว
“สามสิบล้านเหรียญจิตอสูร!” ตระกูลเสินเซิ่งเริ่มบอกราคาขึ้นมาทันที
“สามสิบห้าล้านเหรียญจิตอสูร!” สมาคมนักปรุงยาวิเศษบอกราคา
เนี่ยหลีมองขึ้นไปที่ชั้นสาม ผู้บอกราคาดูเหมือนจะเป็หยางซิน หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนี่ยหลีจึงพูดกับเนี่ยเอินว่า “ท่านผู้าุโ ผู้อำนวยการหยางดูเหมือนจะอยู่ที่ชั้นสาม ท่านช่วยไปพบผู้อำนวยการหยาง บอกนางว่าหม้อหยกดำใบนี้ ข้า้ามัน! ขอให้ผู้อำนวยการหยางช่วยประมูลให้ข้าด้วย ส่วนเงิน ข้าจะจ่ายเงินคืนแก่สมาคมนักปรุงยาวิเศษหลังจากนั้นเอง!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ไม่ทันรอให้เนี่ยเอินตอบ เนี่ยไห่ก็รีบเสนอ “ให้ข้าไปเอง!” ในแหวนมิติของเนี่ยเอินมียาวิเศษเก็บอยู่ตั้งมากมาย เขาจะกล้าปล่อยให้เนี่ยเอินเป็ฝ่ายไปได้อย่างไร? ประมุขตระกูลผู้สูงส่ง ได้กลายเป็เด็กวิ่งงานเสียแล้ว ทว่าเขาก็เต็มอกเต็มใจที่จะทำอย่างยิ่ง
เนี่ยไห่ลุกไปพบหยางซิน
ตระกูลเสินเซิ่งและสมาคมนักปรุงยาวิเศษยังคงแข่งราคากันต่อไป หลังจากที่ทางสมาคมนักปรุงยาวิเศษให้ราคาสูงถึงห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูร ตระกูลเสินเซิ่งจึงยอมแพ้ ในแง่ของฐานะทางการเงิน ต่อให้เป็หนึ่งในสามตระกูลหลัก เกรงว่าก็ไม่อาจแข่งกับสมาคมนักปรุงยาวิเศษได้
“ห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูร สมาคมนักปรุงยาวิเศษช่างร่ำรวยเสียจริงๆ!”
“นั่นย่อมแน่นอนอยู่แล้ว ยาวิเศษจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษพวกนั้นเป็ที่้าถึงเพียงนี้ รายได้ในแต่ละวัน เกรงว่าคงต้องเป็พันๆ ล้าน!”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เนี่ยไห่จึงกลับมา เขาพยักหน้าแก่เนี่ยหลีและพูดว่า “ท่านผู้อำนวยการหยางตกลงแล้ว!”
คำขอของเนี่ยหลี หยางซินย่อมต้องไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน ไม่ว่าอย่างไร หยางซินยังมีเื่ต้องขอร้องเนี่ยหลีอีกมากมาย ควักเงินเพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านี้ สำหรับสมาคมนักปรุงยาวิเศษก็แค่ขนเส้นเดียวจากวัวเก้าตัว (ขนหน้าแข้งไม่ร่วง) สิ่งที่เนี่ยหลีมอบให้แก่สมาคมนักปรุงยาวิเศษ ไม่อาจวัดได้ด้วยเงินตรา
เมื่อราคาพุ่งขึ้นมาถึงห้าสิบล้านเหรียญจิตอสูร ทุกตระกูลก็ไม่กล้าแข่งราคาต่อแล้ว หลายครอบครัวซื้อยาวิเศษจากสมาคมนักปรุงยาวิเศษ ดังนั้นพวกเขาจึงยังต้องเห็นแก่หน้าของสมาคมนักปรุงยาวิเศษบ้าง แม้ยังมีความปรารถนากับหม้อหยกดำใบนี้ ทว่าก็ไม่สามารถสู้ราคานี้ได้
ชั่วขณะนั้นเอง บุรุษในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่งในห้องประมูลพลันเริ่มบอกราคา
“ห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตอสูร!”
เขาเป็ใคร ยังมีคนแข่งราคาอีกหรือ? ทุกคนในห้องประมูลพากันหันไปมองบุรุษลึกลับผู้สวมใส่ชุดคลุมสีเทาด้วยสายตาสงสัย
ปกติแล้ว ตระกูลชั้นสูงเวลาประมูลไม่ต้องวางเงินไว้ก่อน ส่วนคนทั่วไปหากจะทำการประมูลต้องวางเงินประกันไว้ก่อน จึงจะสามารถเข้าร่วมการประมูลได้ ชายลึกลับผู้นี้บอกราคาประมูลถึงห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตอสูร พูดอีกนัยหนึ่ง เขาต้องวางเงินประกันไว้ล่วงหน้ามากกว่าห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตอสูร!
ราคาหม้อหยกดำกลับพุ่งสูงขึ้นมาจนถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว!
จำนวนเงินมากมายปานนี้ เทียบได้กับทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลชั้นสูงตระกูลหนึ่งเลยทีเดียว!
เวลานี้ หยางซินผู้กำลังนั่งอยู่บนชั้นสามสองคิ้วเลิกสูงขึ้นเล็กน้อย นางอยู่ทางภาคเหนือของเมืองกวงฮุยมาหลายวัน ได้รับเชิญจากตระกูลหงเยวี่ยให้เข้ามาร่วมงานประมูลครั้งนี้ คิดไม่ถึงว่าเนี่ยหลีก็อยู่ที่นี่ด้วย เดิมทีนางก็สนใจหม้อหยกสีดำใบนี้ คิดว่าคงต้องมีประโยชน์บางอย่างกับการปรุงยา และนางคิดที่จะซื้อมันเพื่อนำกลับไปศึกษา คิดไม่ถึงว่าเนี่ยหลีก็สนใจมันด้วยเช่นกัน ในเมื่อเป็สิ่งที่เนี่ยหลี้า สมาคมนักปรุงยาวิเศษย่อมต้องซื้อให้เนี่ยหลี
ทว่าหลังจากที่ราคาพุ่งสูงขึ้นมาถึงห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตอสูรแล้ว ราคานี้ค่อนข้างเหนือความคาดหมายของนางไปบ้าง เงินห้าสิบห้าล้านเหรียญจิตอสูรเพื่อหม้อหยกดำใบเดียวซึ่งไม่ทราบประโยชน์เช่นนี้ จะคุ้มค่าหรือ?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้