หยางชุนเก็บความแค้นในใจไว้อย่างเงียบงัน แม้ใจของเขาจะ้าแก้แค้นและทำให้ทุกคนที่ทำร้ายเขาต้องรับผล แต่เขาก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในการดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา เขาจึงไม่สามารถกระทำการใด ๆ เพื่อระบายความโกรธออกมาได้มากนัก เขาเก็บความแค้นนั้นไว้ลึกในใจ
แต่ในปีถัดมาหมู่บ้านของเขากลับเกิดโรคระบาดรุนแรงขึ้น โรคระบาดทำให้ชาวบ้านจำนวนมากเจ็บป่วยและล้มตายไปทีละคน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุและร่างกายอ่อนแอ พ่อแม่ของหยางชุนก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากโรคนี้ได้ พวกท่านทั้งสองเริ่มป่วยหนักและสุดท้ายก็จากไปในที่สุด
ผู้คนในหมู่บ้านล้วนประสบปัญหาจากโรคระบาดและความอดอยากที่รุมเร้า แต่โชคยังดีที่หยางชุนแม้จะสูญเสียพ่อแม่ไปใน่เวลาที่ไม่คาดคิด แต่ก็ไม่ได้ขัดสนในเื่ทรัพย์สินหรือเงินทอง แม้ว่าชีวิตของเขาจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้ยากจนจนถึงขั้นขัดสน เขายังคงมีชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
หลังจากการสูญเสียครั้งใหญ่และความเ็ปจากอดีตที่ไม่อาจลืมได้ หยางชุนตัดสินใจใช้ความเจ็บแค้นที่เขามีเป็แรงผลักดันในการทำงานหนัก ทุกวันเขาใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น เขารู้ดีว่าแม้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่การทำงานหนักและการเก็บออมเงินสามารถช่วยให้เขาไปถึงจุดที่้าได้ในอนาคต
ท้องฟ้ายามค่ำคืนปกคลุมไปด้วยความมืดมิดและเงียบสงบ มันเป็่เวลาที่หยางชุนสามารถปล่อยให้ตัวเองไหลไปกับความคิดและความรู้สึกที่เขาไม่เคยสามารถหลีกเลี่ยงได้ ในขณะที่บรรยากาศรอบตัวเย็นลง ความคิดของเขากลับหวนกลับไปยังหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขาหัวใจเต้นแรงจนแทบจะหยุด ร่างของซูหรูเสียน ลอยมาในจินตนาการของเขาอย่างช้าๆ
แม้ว่าความรักที่เขามีให้กับนางจะเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่เรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนและเสียงร้องครวญครางที่สุดแสนจะเร่าร้อนของนางเขาย่อมไม่มีทางลืม
ซูหรูเสียนในความคิดของเขายังคงดูงดงามและน่าหลงใหลเหมือนเดิม เรือนร่างของนางนั้นเต็มไปด้วยความเย้ายวนและเสน่ห์ที่หยางชุนไม่อาจละสายตาได้ แม้เขาจะพยายามผลักดันความคิดเ่าั้ออกไป แต่บางครั้งเขาก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ นางมีรูปร่างที่สมส่วนทุกสัดส่วน ผิวเนียนนุ่มดุจหิมะที่สะท้อนแสงจากไฟสลัวในยามค่ำคืน ขาเรียวยาวที่ดูเหมือนจะยิ่งงามขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวไปตามสายลมอ่อนๆ ทรวงอกของนางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ท่าทางอ่อนโยนแต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและมีเสน่ห์ในการดึงดูดให้ทุกคนมองตาม
เรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของนางนั้นสามารถปลุกเร้าความเป็ชายได้อย่างง่ายดายสีหน้าของหยางชุนใน่เวลานี้นั้นเต็มไปด้วยความเคลิบเคลิ้มหลงใหลท่อนเนื้อของเขามันกำลังเกิดการแข็งตัวอย่างเต็มที่
“อ๊า..อ๊า...ซูหรูเสียน ทำไมตัวเ้าถึงทิ้งข้าไป” ชายหนุ่มลูบท่อนเนื้อของตัวเองไปมาด้วยความรู้สึกที่หื่นกระหายยิ่งมันเกิดการแข็งตัวอย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้นเท่าไหร่เขาก็ยิ่งสามารถที่จะััถึงความรู้สึกที่สุดแสนจะเร่าร้อนมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ชายผู้ที่มีเรือนร่างกำยำแข็งแรงบัดนี้ตัวเขากับรู้สึกว่าตัวเองนั้นมันอ่อนแอว่าตัวเขากำลังที่จะถูกความเสียวเข้าเล่นงาน หยางชุนควักท่อนเนื้อของตัวเองออกมาสูดอากาศภายนอกด้วยความรู้สึกที่สุดแสนจะเร่าร้อนในยามที่มือของเขาลูบผ่านไปตามลำของท่อนเนื้อมันทำให้ตัวของเขานั้นเกิดความเสียวกระสันไปหมดเพียงแค่ใช้ภาพจินตนาการและใช้อุ้งมือของตนเองนิดหน่อยมันก็จะสามารถที่จะทำให้ตัวของเขานั้นน้ำแตกได้อย่างง่ายดาย
“ไม่ตัวข้านั้นมันต้องเสียวให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้” ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความ้าเมื่อตัวของเขานั้น้าที่จะเพลิดเพลินไปกับความเสียว
อู๊ยยย อ๊า...เสียงร้องครวญครางของชายหนุ่มที่กำลังเล่นสนุกกับท่อนเนื้อของตัวเองช่างเป็น้ำเสียงที่สุดแสนจะเร่าร้อนเขาเสียวเสียจนสติของตัวเองแทบที่จะหลุดลอยตัวของเขาใน่เวลานี้นั้นทั้งเจ็บแค้นและยิ่งหื่นกระหายหากมีโอกาสได้พบหน้าของนางอีกสักครั้งเขาจะกระแทรกเรือนร่างของนางเสียให้หนัก
ตุบ ตุบ ตุบ หยางชุนเริ่มที่จะเพิ่มความเร่าร้อนในการเล่นงานท่อนเนื้อของตนให้หนักหน่วงยิ่งขึ้นบรรยากาศภายในห้องแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความปรารถนามีเพียงแต่ตัวเขาที่จะต้องปลดปล่อยน้ำออกมาเผื่อความหื่นกระหายที่เผาไหม้อยู่ภายในใจนั้นมันจะเบาบางลงบ้าง
อ๊า...อ๊า...ยิ่งใน่เวลาที่อารมณ์ของเขานั้นกำลังพุ่งขึ้นอย่างถึงขีดสุดเขาก็ยิ่งััถึงอารมณ์ที่เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นเท่านั้นน้ำเสียงร้องครวญครางของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความหื่นกระหายเขาใช้ใบหน้าของอดีตหญิงสาวคนรักเป็ภาพหญิงสาวในจินตนาการอยู่แทบทุกวันเพื่อที่จะปลดปล่อยความเร่าร้อนออกมา เขาเคยนึกถึงภาพหญิงสาวนางอื่นแล้วแต่มันก็ไม่สามารถที่จะปลุกท่อนเนื้อของเขาให้แข็งผงาดตั้งชูชันได้เท่าเช่นนี้เลย
"หยางชุน! เ้าอยู่ไหม! หยางชุน!"
เสียงะโที่ดังขึ้นกลางค่ำคืนทำให้หยางชุนสะดุ้งจากความคิดและอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน ภาพของหญิงสาวในจินตนาการที่เขากำลังหลงใหลอยู่ถูกขัดจังหวะโดยเสียงที่ดังขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
"หยางชุน! หยางชุน!"
เสียงนั้นดังออกมาอีกครั้ง คราวนี้มันชัดเจนและเต็มไปด้วยความเร่งร้อน ชายหนุ่มหายใจหนักและรู้สึกโมโหอย่างยิ่ง เขาหันไปมองรอบๆ ตัวในความมืด และตั้งคำถามกับตัวเองว่า ใครกันที่กล้ามารบกวนเขาในยามค่ำคืนอันเงียบสงบเช่นนี้
"ใครกัน...?" หยางชุนพึมพำออกมาอย่างหงุดหงิด เขายืนอยู่ในท่าทางที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่พอใจ
เขาเดินออกไปจากที่ที่เขายืนอยู่ โดยที่จิตใจยังคงเต็มไปด้วยความโกรธและความประหลาดใจว่าใครกันที่กล้ามาก่อกวนเขาใน่เวลาที่เขากำลังหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกในใจ การรบกวนใน่เวลาเช่นนี้มันทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งนัก และเขาจำเป็ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าใครคนนั้นเป็ใคร
เมื่อหยางชุนเปิดประตูออกไป เขาก็ต้องสะดุ้งใและตื่นตะลึงกับสิ่งที่เห็น บุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาคุ้นเคยดีแม่ของซูหรูเสียน อดีตหญิงสาวคนรักของเขา ผู้ที่เคยเป็คนสำคัญในชีวิตของเขาก่อนที่จะทิ้งเขาไปเพื่อเลือกเส้นทางใหม่ในชีวิต ด้วยการเป็สาวอุ่นเตียงให้กับท่านแม่ทัพ ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเ็ปที่กลับมาอีกครั้งเมื่อเห็นเธอยืนอยู่ตรงหน้าในค่ำคืนที่เงียบสงัดเช่นนี้
เธออายุ 46 ปีแล้ว แต่ความงดงามของเธอยังคงไม่ลดลงเลยแม้จะผ่านเวลาไปหลายปี ร่างกายที่ยังคงเปล่งปลั่งและสง่างามเหมือนเดิม ดวงตาแวววาวที่เต็มไปด้วยความลึกลับและความมั่นใจ หยางชุนสามารถมองเห็นความคล้ายคลึงระหว่างแม่ของซูหรูเสียนกับบุตรสาวของเธอ ความงามที่ยากจะลบเลือนไปจากจิตใจของเขา ทั้งใบหน้าที่คมคายและท่าทางที่ดูเย้ายวน แม้เวลาจะผ่านไป เธอก็ยังคงเป็หญิงสาวที่มีเสน่ห์ราวกับหยุดเวลาไว้
หยางชุนยืนนิ่งอยู่ตรงประตู รู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นในใจเขา เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองและรวบรวมความคิดเพื่อถามคำถามที่เขากังวลที่สุดว่า ทำไมเธอถึงมาหาเขาในเวลานี้ ขณะที่ความเ็ปจากอดีตยังคงเป็แผลลึกในหัวใจของเขา
"ท่าน...ท่านมาที่นี่ทำไม?" หยางชุนถามด้วยเสียงที่ไม่ค่อยมั่นคง น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความสงสัยและความหวั่นใจ แม้เขาจะพยายามแสดงออกว่าเขาไม่สนใจ แต่ภายในใจเขากลับเต็มไปด้วยความสับสนและความคิดถึงที่ยังคงวนเวียนไม่หาย