แต่หลังจากนั้นไม่นาน อิ้งเฟิงก็ไม่เอ่ยอะไรอีก
ถึงเขาจะไม่ใช่นักเวท แต่ความแตกต่างระหว่างสองอย่างนี้ แม้เป็คนธรรมดาต่างก็ดูออก
พลังเวท "หลอมรวมปราณเย็นเยือก" ที่ฉีเล่อร่ายออกมานั้นเร็วกว่าอิ้งเสวี่ยอย่างน้อยหนึ่งเท่าและพลังงานธาตุน้ำแข็งที่แฝงอยู่ในนั้น มันก็แตกต่างราวกับ์และโลกมนุษย์
“เป็ไปได้ยัง!”
ดูจากสถานการณ์แล้ว คทาเวทในร้านต้องสูงกว่าคทาเวทในมือของอิ้งเสวี่ยอย่างน้อยหนึ่งระดับ
ปรมาจารย์ที่สร้างคทาเวทนี้ขึ้นมาจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน
เมื่อมองเช่นนี้แล้ว เื้ัของร้านค้าเล็กๆ แห่งนี้ จะต้องเป็ความแข็งแกร่งอันน่าหวาดกลัวแน่นอน
“ข้าแพ้แล้ว”
ในที่สุดอิ้งเสวี่ยก็ถอนหายใจเบาๆ และสลายพลังเวทที่หลอมรวมอยู่ในคทา
ไม่ว่าจะเป็การช่วยหลอมรวมพลังเวท หรือเสริมพลังเวทให้น่าเกรงขาม คทาของตนนั้นก็ไม่มีทางสู้ได้เลย
ยาในร้านนี้ดีไม่ว่า แต่ทำไมอาวุธถึงยังแข็งแกร่งด้วย
มันไม่สมเหตุสมผลเลย
ระบบ "ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ในการทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ พิสูจน์แล้วว่าสินค้าของตนนั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน"
ระบบ "ได้รับรางวัลในการสุ่มไอเทม คุณ้าสุ่มรางวัลตอนนี้หรือไม่"
“ยังก่อน”
ตอนที่ฉีเล่อเปิดร้าน ปกติแล้วก็ไม่้าเจอกับปัญหาความยุ่งยากเหล่านี้
ไม่ว่าจะรางวัลอะไร ก็ค่อยมาสุ่มหลังปิดร้านแล้วกัน
“เถ้าแก่ พวกเราอยากซื้ออาวุธสองชิ้นนี้มากจริงๆ แต่ว่าผลึกิญญาที่พวกเราพกมาไม่ได้มีมากมายขนาดนั้น” อิ้งเสวี่ยยกมือลูบเส้นผมของตน พลางกล่าวอย่างเขินอาย
นาง้าอาวุธในร้านของฉีเล่อจริงๆ
เพราะมันแข็งแกร่งเกินคาด
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือเงินในกระเป๋าของนางไม่พอ
“ไม่เป็ไร ข้าไม่เคยบังคับให้ใครซื้อ” ฉีเล่อกล่าวด้วยสีหน้าเฉยชา
“ที่เรามาในวันนี้ จริงๆ แล้วพวกเรา้ามาบอกลา” อิ้งเสวี่ยเอ่ยช้าๆ
“การทดสอบนักเรียนใหม่เสร็จแล้วหรือ?” ฉีเล่อนำคทาเวทน้ำแข็งกลับไปที่ชั้นวางสินค้า
“ใช่ เสร็จแล้ว แต่ในอนาคตพวกเราจะมาหาท่านอีก จะต้องกลับมาซื้ออาวุธจากร้านของท่านแน่นอน” อิ้งเสวี่ยพยักหน้ากล่าว
ฉีเล่อเงียบงันไปพักหนึ่ง ก่อนจะหยิบดาบอัศวินออกมาจากใต้เคาน์เตอร์
“ถ้าอย่างนั้น ดาบอัศวินเล่มนี้ ข้าขอมอบให้พวกเ้าแล้วกัน”
ถึงยังไง สินค้าที่มีตำหนิ ฉีเล่อก็ไม่นำออกมาขายอยู่แล้ว ดังนั้นจะดีกว่าหากมอบให้พี่น้องตระกูลอิ้งเป็ของขวัญอำลา
อีกอย่างพี่น้องตระกูลอิ้งคู่นี้ ก็นับว่าช่วยเหลือเขามามาก ถือว่าเป็ลูกค้ารายแรกของเขา รวมถึงเป็ลูกค้าประจำที่กลับมาซื้อซ้ำอีก
“จริงหรือ เถ้าแก่ ท่านใจดีเกินไปแล้ว ข้ารู้ ถึงภายนอกท่านอาจจะดูเ็าแต่ภายในนั้นท่านเป็คนอ่อนโยน” อิ้งเฟิงรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย
“ขอบคุณนะ” อิ้งเสวี่ยเพียงกล่าวขอบคุณอย่างเรียบง่าย
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก” ฉีเล่อส่ายหน้า เพื่อแสดงว่ามันไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร
การทดสอบนักเรียนใหม่ไม่ถือว่ายากนัก ฉีเล่อก็คิดแล้วว่าไม่นานคงจบลง
ถึงยังไงพี่น้องตระกูลอิ้งก็ไม่ใช่คนของเมืองอวิ๋นอู้ ไม่ช้าก็เร็วต้องจากเมืองอวิ๋นอู้ไป
หลังจากทั้งสองฝ่ายบอกลากัน อิ้งเฟิงก็ถือดาบอัศวินที่ฉีเล่อมอบให้อย่างมีความสุข และออกไปจากเมืองอวิ๋นอู้พร้อมกับอิ้งเสวี่ย
ดูเหมือนว่าวิทยาลัยฮุยหวง จะไม่ไกลจากเมืองอวิ๋นอู้เท่าไรนัก
ฉีเล่อคิดในใจ
เวลาค่อยๆ ผ่านไปทีละนิด
“เอ๋ ร้านใหม่นี่เปิดั้แ่เมื่อไหร่กัน”
นอกร้านขายของชำว่านเซี่ยง มีชายร่างกำยำสวมเสื้อกล้าม ทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยสัก กำลังเดินเข้ามาด้านใน
เขาแบกดาบยาวสองเล่มไว้บนหลัง ท่าทางดูดุร้ายไม่น้อย
“มีใครอยู่ไหม?”
“มี ไม่ทราบว่าเ้า้าอะไร?” ฉีเล่อนั่งอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ และตอบอย่างใจเย็น
“เ้าเปิดร้านในเมืองอวิ๋นอู้ แม้แต่ข้า เ้าก็ไม่รู้จักงั้นรึ” ใบหน้าของชายคนนั้นมืดทะมึนลง แล้วตวาดอย่างเ็า