เจิ้งหยวนใจสั่นระริก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวเสียงเข้ม “ให้บริษัทแกแล้ว แกก็ยกเลิกฟ้องหวาเล่อซะ” ไม่รู้หลินเผิงเฟยไปได้หลักฐานว่าหวาเล่อโยกย้ายทรัพย์สินบริษัทและใช้มันฟ้องหวาเล่อจากที่ไหน เธอรู้จักหวาเล่อ หล่อนไม่ใช่คนเช่นนั้น หลินเผิงเฟยน่าจะใช้วิธีบางอย่างใส่ร้ายหวาเล่อ หวาเล่อกับเธอเป็เพื่อนสนิทกันมากว่ายี่สิบปี ย่อมมิอาจปล่อยเพื่อนสนิทตนเองเข้าคุกเพราะความขัดแย้งระหว่างตัวเธอเองกับหลินเผิงเฟยได้
หลินเผิงเฟยเอ่ยเยาะหยัน “ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าคุณนายเจิ้งที่ไร้น้ำใจ ไร้คุณธรรมจะรักใคร่เอาใจใส่เพื่อนถึงขนาดที่ว่าบริษัทยังแลกได้”
เจิ้งหยวนไม่เอ่ยคำใด เพียงจ้องมองรอให้เขาพูดต่อ
หลินเผิงเฟยสบตากับเธอไม่กี่วินาที พลันหัวเราะออกมาดังลั่นฉัน เขาค่อยๆ ดึงสัญญาออกจากมือเจิ้งหยวนและเอ่ย “วางใจได้ ผมจะถอนฟ้องไม่ให้เพื่อนสนิทของคุณเข้าคุกเข้าตารางหรอก” เขาหยิบสัญญาไป ก่อนหยุดชะงักครู่หนึ่ง ั์ตาเต็มไปด้วยความประสงค์ร้ายและเหยียดหยาม เขากระตุกมุมปาก “ทำไมผมต้องให้หวาเล่อติดคุกด้วยเล่า ในเมื่อเธอเป็คนของผม”
รูม่านตาเจิ้งหยวนหดเล็กลง สีหน้าเปลี่ยนทันที
หลินเผิงเฟยเห็นแล้วลำพองใจยิ่งกว่าเดิม เขาเอ่ย “คุณนายเจิ้ง คุณคงคิดไม่ถึงกระมังว่าเพื่อนผู้แสนดีจะทรยศคุณ”
“ไม่มีทาง!”
“หากไม่เชื่อคุณก็รอดูการเปลี่ยนแปลงของหุ้นบริษัทต่อได้เลย ผมตกลงกับเธอไว้ว่าจะยกหุ้นให้เธอหนึ่งเปอร์เซ็นต์หลังงานสำเร็จ เหอะ หนึ่งเปอร์เซ็น” หลินเผิงเฟยเลิกคิ้วอย่างหยามเหยียด สายตามีแต่แววดูถูก “คุณนายเจิ้ง มิตรภาพของคุณมีค่าเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง”
หน้าอกเจิ้งหยวนกระเพื่อมขึ้นลง จิตใจสับสนวุ่นวาย คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าทำไมหวาเล่อถึงต้องหักหลังเธอด้วย ยิ่งไปกว่านั้นทำไมถึงต้องเป็หวาเล่อ ทั้งที่เธอเป็คนมอบทุนการศึกษาให้เ้าตัวจนเรียนจบมหาวิทยาลัยเอง! เธอสามารถเข้าใจการทรยศของใครก็ได้ ยกเว้นหวาเล่อ! ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ในที่สุดเธอก็ดึงสติกลับมามองบุตรชายตรงหน้าอีกครั้ง ความเกลียดชังในแววตาเขาสมจริง เจิ้งหยวนพลันตระหนักขึ้นมาว่าหลินเผิงเฟยตั้งใจ… เขาตั้งใจเลือกหวาเล่อ ยุแยงตะแคงรั่วให้คนตีตัวออกห่างเธอ
แต่… ทำไมล่ะ? บุตรชายแท้ๆ ของเธอ ทำไมถึงเกลียดเธอได้ขนาดนี้?
“ทำไม? คุณถามว่าทำไมผมเกลียดคุณเหรอ? เหอะ! คุณนายเจิ้ง คุณไม่รู้จริงๆ หรือว่าเพราะอะไร?”
เจิ้งหยวนลมหายใจสะดุด ที่แท้เธอเผลอถามความสงสัยในใจออกมา
ดวงตาหลินเผิงเฟยแดงฉาน เส้นเืตรงคอปูดโปน เขาคำรามออกมาสุดเสียง “คุณนายเจิ้ง คุณจำย่าของผมได้ไหม? สิบแปดปีก่อน ผมคุกเข่าอ้อนวอนขอให้คุณช่วยคุณย่า ทำไมคุณไม่ช่วยเธอ! ทั้งที่คุณร่ำรวยขนาดนั้น! ทั้งที่แค่ผ่าตัดคุณย่าก็รอดแล้วแท้ๆ”
เขาแทบจะะโอัดหน้าเธอ เจิ้งหยวนกระจ่างแจ้งเมื่อได้ยิน แต่ดูไม่สำนึกเสียใจเลยสักนิดเดียว เธอะเิเสียงหัวเราะ “ทำไมฉันต้องช่วยด้วยเล่า?” เธอเชิดคอขึ้น จ้องมองในดวงตาเขาด้วยความโกรธ พลางเอ่ยย้อนถาม “หากมิใช่เพราะเธอ ฉันกับพ่อแกคงไม่หย่ากัน และแกก็คงไม่ถูกเลี้ยงจนไม่รู้จักแม่คนนี้! ทั้งที่ก่อนฉันจากไปตอนนั้น แกยังกอดขาเรียกฉันว่าแม่เสียงอ้อนเสียงอ่อนอยู่เลย แต่แค่ไม่กี่ปีแกก็ไม่ยอมรับฉันแล้ว แกจำได้ไหม สมัยแกขึ้นมัธยมต้น ฉันไปหาแกที่โรงเรียน แต่แกกลับถุยน้ำลายใส่หน้าฉัน ด่าว่าเป็ขยะทิ้งผัวทิ้งลูก!”
คำพูดนี้ไม่น่าฟังเป็อย่างยิ่ง เธอจำสายตาที่บุตรชายมองตนตอนนั้นได้ขึ้นใจ นั่นเป็เวลาเดียวกับที่เธอรู้ว่าลูกคนนี้ไม่ใช่ลูกของเธออีกต่อไป!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้