อาลู่เมื่อเห็นวิธีการหาอาหารเลี้ยงตัวเองของทารกน้อยพลันตื่นตะลึงจนแทบไม่อยากเชื่อสายตา
เด็กหนุ่มยืนมองสตรีตรงหน้าค่อยๆ ปลดชุดที่สวมออก เผยให้เห็นทรวงอกขาวดุจหิมะคู่หนึ่ง
ทว่าเพียงครู่เดียวศีรษะน้อยของเฉินโย่วก็เคลื่อนมาบดบังภาพตรงหน้าไว้จนมิดทันที
ซ้ำยังได้ยินเสียงขมุบขมิบปากดูดนมอย่างมีความสุขของนางลอยมา คล้ายว่ากำลังตั้งใจดูดอย่างเอาเป็เอาตายสลับกับหายใจเฮือกใหญ่
ใบหน้างามของหญิงชุดแดงบัดนี้เหลือเพียงร่องรอยของความอ่อนโยน กระทั่งทารกน้อยทำเสียงขมุบขมิบปาก นางก็ทำเพียงยกมือตบหลังทารกน้อยเบาๆ เท่านั้น
น้ำนมของสตรีชุดแดงมีมากพอให้ทารกน้อยดื่มจนเต็มอิ่ม
ทว่าความอยากอาหารของเฉินโย่วน้อยก็มีเยอะราวกับไม่สิ้นสุด ต้องปล่อยให้นางดื่มไปนานพักใหญ่จึงจะยอมหยุดลง
แม้กลางแจ้งตะวันลอยเด่นแผ่แสงจ้า ทว่าลมก็กลับแรงไม่แพ้กัน
ปลายจมูกงามจึงแดงระเรื่อขึ้นมา ทว่าเ้าของจมูกงามนั้นกลับยังคงอดทนต่อไป
ยามนางมองทารกน้อยในอ้อมอกกำลังดื่มนม ความเศร้าและความรู้ว่าสึกว่าตนกำลังทำเื่เหลวไหลก็เอ่อท้นขึ้นในใจ
แท้จริงแล้วนางไม่ใช่ลูกคหบดีที่ไหน ท่านปู่เป็เพียงนายอำเภอเมืองจิน ส่วนท่านพ่อเป็หัวหน้าขุนนาง ท่านแม่สิ้นไปั้แ่นางยังเล็ก ไม่นานท่านพ่อก็แต่งงานใหม่กับท่านป้าของนาง
เดิมทีนางกับครอบครัวติดตามท่านพ่อมาทำงาน แต่ระหว่างทางลูกสาวของท่านป้า ญาติสาวซึ่งเป็น้องสาวของนางอยู่ดีๆ ก็ป่วยกะทันหัน ท่านพ่อกับท่านป้าจึงต้องพานางไปหาหมอ จากนั้นจึงไหว้วานฝากนางไว้กับพ่อค้าร่วมขบวน
เมื่อนั้นจากธิดาของขุนนางแห่งเมืองหลวง ‘หลัวชิงเฉิง’ จึงกลายมาเป็ภรรยาคนที่หกของนายท่านใหญ่ หัวหน้าโจรแห่งหุบเขากระดูก
นางเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็ ‘หลัวอู๋เลี่ยง’
นางเลิกนับวันรอให้ท่านพ่อและท่านปู่มาช่วยนาง
นางตั้งครรภ์ลูกแท้ๆ ของตน
ทว่าลูกของนางกลับจากไป
ลูกที่เป็ความหวังของนาง
นางยังแทบรับความโศกเศร้าไม่ได้
หลัวอู๋เลี่ยงมองทารกน้อยในอ้อมแขน ทารกน้อยเหมือนว่าจะอิ่มแล้ว ปากน้อยๆ ฉีกยิ้มให้ตน แต่นางยิ้มไปแค่ทีเดียวก็เปลี่ยนมาทำหัวซุกไซ้อ้อมอกหญิงสาวแทน
ศีรษะของทารกน้อยอ่อนนุ่ม ซ้ำยังแรงไม่เยอะ ทว่าท่าทางซุกไซ้ของนางราวกับกระทบไปถึงหัวใจของหญิงสาว
ทันใดนางก็คลายอ้อมกอดลง ปล่อยให้ทารกน้อยตกลงสู่เบื้องล่าง
อาลู่นั้นไม่อาจขยับได้ กลับเป็เหล่าปาชายหลังค่อมที่ไม่รู้โผล่มาจากที่ใด ยื่นมือมารับทารกน้อยเอาไว้ทัน
หลัวอู๋เลี่ยงหมุนกายจากไปทันที หญิงรับใช้ของนางก็เร่งตามไปติดๆ เช่นกัน
เหล่าปาเห็นดังนั้นก็ะโไล่หลัง “น้อมส่งนายหญิง”
รอจนผู้มาเยือนจากไปไกล เหล่าปาจึงพบว่าในอ้อมแขนของตนนั้นมีทารกน้อยเพิ่มมา
แม้จะหลังค่อมและตัวไม่สูงนัก ทว่าแขนเขากลับทั้งยาวและแข็งแรงกว่าใคร เมื่อเทียบกับคนทั่วไปแล้ว แขนของเขานับได้ว่ากำยำเสียยิ่งกว่าขาคนพวกนั้นเสียอีก
ชายหนุ่มอุ้มทารกน้อยด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ เพียงแค่ทำแขนตรงๆ รองไว้เท่านั้นจนดูราวกับว่าทารกน้อยนั้นกำลังนอนอยู่บนระเบียงแข็งๆ
ทารกน้อยที่เกือบจะถูกทิ้งเมื่อครู่ บัดนี้นอนคว่ำอยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่ม นางออกแรงน้อยๆ แหงนหน้ามองชายที่อุ้มตนอยู่ เมื่อเห็นว่าเป็เหล่าปา นางก็ยื่นมืออ้วนๆ มาลูบหน้าชายหนุ่ม แบบเดียวกันกับเมื่อวานตอนที่นางลูบศีรษะเ้าม้าสีนิลไม่มีผิด เริ่มลูบั้แ่คางจนถึงริมฝีปาก ต่อด้วยจมูกจรดดวงตา มือเล็กๆ ลูบไปทั่วใบหน้าของชายหนุ่ม
จากนั้นจึงส่งเสียง “ ฮ่าๆๆ” เริ่มหัวเราะอย่างมีความสุข
ร่างกายของเหล่าปาพลันเปลี่ยนเป็ตึงเครียด
มือทั้งสองก็รู้สึกล้าเสียยิ่งกว่าเดิม
เมื่อทารกน้อยเล่นไปครู่หนึ่ง ก็เปลี่ยนมาลูบหน้าอกของชายหนุ่ม จากนั้นจึงซุกหัวเข้ามาแล้วทำท่าราวกับจะกัด
เหล่าปาใแทบหงายหลัง เขามีน้ำนมเสียที่ไหนกันเล่า
อารามใมือพลันพันกันยุ่งเหยิงจึงหันไปตีอาลู่ทีหนึ่ง แล้วโยนทารกน้อยคืนให้เด็กหนุ่ม
อาลู่รู้สึกว่าร่างกายตนกลับมาขยับได้ดังเดิมแล้ว
แต่เขาก็ยังอดใจหายไม่ได้ เขาเกลียดความรู้สึกที่ไม่อาจควบคุมร่างกายตัวเองได้เหลือเกิน
เมื่อได้กอดทารกน้อยจึงไม่ออมแรงกอดนาง กระชับเข้าสู่อ้อมอกตน
ในใจรู้สึกราวกับของหายแล้วได้คืน ทั้งทรมานทั้งหวงแหนสุดประมาณ
ตอนบ่ายอาลู่จึงลงมือขุดหลุมปักเสาไม้ต่อ
เหล่าปาโยนหมั่นโถวมาให้เขาสองลูก ลูกหนึ่งแข็ง ส่วนอีกลูกหนึ่งนิ่ม
อาลู่ลงมือกินหมั่นโถวลูกนิ่มด้วยความระมัดระวังก่อนครึ่งหนึ่ง จากนั้นจึงแบ่งอีกครึ่งให้ทารกน้อย ทว่าทารกน้อยกลับไม่กิน ซ้ำยังสะบัดหน้าหลบ
อาลู่ก็จนปัญญา บางทีอาจเป็เพราะนางดื่มนมจนอิ่มแล้วก็เป็ได้
ไม่นานต่อจากนั้นอาลู่ก็มีเื่น่ายินดีเกิดขึ้น เมื่อก่อนยามทารกเงยหน้ามองตน เพียงครู่เดียวนางก็มักจะเหนื่อยจนต้องฟุบคว่ำกลับตามเดิม ทว่าวันนี้อยู่ดีๆ นางก็พลิกตัวเองได้ ทำให้อาลู่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าน้องสาวตนจะนอนคว่ำหน้าจนอาจขาดอากาศ
เวลาช่างผ่านไปไวราวกับโบยบิน
อาลู่ยังคงทำงานต่อ ส่วนเฉินโย่วน้อยก็ราวกับพอใจการละเล่นพลิกตัวของตนมาก นางนอนพลิกตัวอยู่บนพื้นหญ้า เมื่อพลิกได้ด้านหนึ่งก็พลิกกลับอีกด้านหนึ่งด้วยความพออกพอใจ
เด็กหนุ่มมองทารกน้อยนอนกลิ้งอยู่บนพื้นหญ้า ก็พลันรู้สึกมีแรงทำงานต่อ
นางดื่มนมไปเพียงมื้อเดียวก็พลิกตัวได้เสียแล้ว น้ำนมแท้จริงแล้วช่างเป็ของวิเศษโดยแท้
อาลู่คิดในใจว่าเขาจะสามารถหาน้ำนมให้นางเองได้ไหม
เพียงแต่เหล่าปาก็เพิ่งจะเตือนเขามาว่า สตรีนางนั้นคือคนรักของนายท่านใหญ่ ‘ชานไซ่’ เป็บุคคลที่เขาไม่อาจไปยุ่งวุ่นวายด้วยได้
นายหญิงไม่อาจไปยุ่งวุ่นวายด้วยได้ ทว่ากับสัตว์คงไม่นับ
อาลู่มือก็ทำงานต่อ สายตาสอดส่องมองดูฝูงม้าไกลว่ามีม้าตัวใดที่เป็แม่ม้าบ้าง
และจะให้ดีที่สุดจะต้องเป็แม่ม้าระยะให้นมลูกด้วย
ทันใดอาลู่ก็เห็นว่าด้านหน้าฝูงมานั้นมีลูกม้าวิ่งอยู่ มีตัวลูกก็ต้องมีตัวแม่
ส่วนเฉินโย่วน้อยเมื่อค้นพบความสามารถด้านการพลิกตัวของตัวเองก็มีความสุขเป็พิเศษ ร่างน้อยค่อยๆ กลิ้งไปตลอดทาง ทว่ายิ่งกลิ้งไปก็ยิ่งไกล ไม่ทันระวังตัวเองก็กลิ้งจนตกลงไปในหลุมเสียแล้ว
ตอนคิดจะกลิ้งกลับออกมา ก็พบว่ามันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน
เฉินโย่วน้อยเปลืองแรงไปไม่น้อย ใบหน้าเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ มือคู่เล็กก็พยายามควานหาอะไรสักอย่างที่จะพาตนออกจากหลุมนี้ได้
แต่แรงของนางกลับมีน้อยเกินไป ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ได้แต่จนปัญญาใช้มือทั้งสองข้างจับสะเปะสะปะไปทั่ว ในที่สุดก็คว้าวัตถุกลมๆ เล็กๆ เอาไว้ได้
อาลู่เมื่อหันกลับมาก็พบว่าน้องสาวของตนที่เมื่อครู่ยังกลิ้งไปกลิ้งมาได้หายตัวไปก็พลันใ แต่เมื่อเร่งเดินไปดูก็พบว่านางเพียงเกลือกกลิ้งจนตกลงไปในหลุมและพาตัวเองขึ้นมาไม่ได้
“ซนเหลือเกินนะเ้า”
เด็กหนุ่มโค้งตัวก้มลงไปอุ้มทารกน้อยขึ้น จึงเห็นว่าในมือทารกน้อยที่กำลังยิ้มหวานอยู่ได้ถือวัตถุทรงกลมสนิมเขรอะไว้ ไม่ทันไรนางก็เอาวัตถุทรงกลมนั้นเข้าปาก ทำเอาเด็กหนุ่มใจนหัวใจแทบหลุดจากอก