“แม่คะ เห็นยางรัดผมของหนูไหมคะ มันหายไปไหนแล้ว!”
เมื่อซ่งวั่งซูกลับมาถึงห้องก็รีบไปหายางรัดผมของตนเองทันที ก่อนหน้านี้ ซย่านีให้เธอเลือกหยิบยางรัดผมได้ตามใจชอบ แต่เธอเป็เด็กดีมากรู้ว่าซย่านีต้องเอาของพวกนี้ไปขายแลกเงิน ดังนั้นเธอจึงหยิบมาเพียงสองชิ้นรวมกับชิ้นที่ซ่งหานเจียงให้เธอมาอีกอัน ตอนนี้เธอก็มียางรัดผมทั้งหมดสามชิ้นพอดี
วันนี้ตอนไปโรงเรียนเธอวางแผนไว้ว่าจะนำยางรัดผมไปมอบให้เพื่อนสนิทชิ้นหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงเอาใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียนนอกจากอันที่ใส่อยู่บนศีรษะอีกหนึ่งชิ้นแล้ว ก็ยังมีที่เธอเก็บไว้ที่บ้านอีกหนึ่งชิ้น
ทว่าตอนนี้ยางรัดผมที่เธอซ่อนไว้ มันกลับหายไป!
ซ่งวั่งซูเดินมาหาซย่านีที่กำลังตรวจดูกระติกน้ำร้อนอยู่ด้วยน้ำตาไหลนองหน้า “แม่คะ ยางรัดผมของหนูหายไปแล้ว”
ซย่านีถามลูกทันที “ลูกวางไว้ตรงไหน? แน่ใจใช่ไหมว่าลูกไม่ได้เอาไปลืมไว้ที่ไหนน่ะ? ลูกลองไปหาที่อื่นดูอีกรอบดีไหมจ๊ะ?”
ซ่งวั่งซูดึงผ้าห่มขึ้นอีกครั้งแล้วพูดทั้งน้ำตาว่า “หนูไม่ได้จำผิดนะคะ หนูซ่อนมันไว้ใต้ผ้าห่มจริงๆ”
ซย่านีทดสอบอุณหภูมิของน้ำในกาน้ำร้อนก็พบว่ามันค่อนข้างเย็นไปหน่อย ก่อนเธอจะหันไปพูดกับลูกสาว “ลูกลองหาดูที่อื่นก่อนดีไหมจ้ะ หากมันตกไปอยู่ที่อื่นเล่า? ถ้าหาไม่เจอก็ไม่เป็ไรหรอก! ยังไงแม่ก็สามารถทำยางรัดผมให้ลูกอีกกี่ชิ้นก็ได้ ตอนนี้ลุงเฝิงหย่งเอาผ้าสวยๆ มาเยอะแยะเลยเดี๋ยวแม่ค่อยทำอันที่สวยกว่านี้ให้ลูกนะ”
“แต่ว่า...” ซ่งวั่งซูยังคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นี่เป็ครั้งแรกที่เธอได้ของขวัญจากมารดา ยางรัดผมสองชิ้นนี้เธอให้เพื่อนสนิทไปหนึ่งชิ้น ส่วนอีกชิ้นเธอกลับทำมันหายในใจเธอรู้สึกอัดอั้นเป็อย่างยิ่ง ตอนนี้เธอรู้สึกผิดต่อแม่ของเธอมากๆ
ซย่านีไม่รู้ว่าซ่งวั่งซูกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเธอจึงพูดเร่งเตือนเด็กน้อยตรงหน้า “เร็วเข้า ลูกรีบไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วมานอนได้แล้ว พรุ่งนี้ลูกยังต้องตื่นไปโรงเรียนแต่เช้าอีกนะ”
ซ่งวั่งซูได้แต่ข่มเื่ในใจไว้ชั่วคราว
ขณะที่เด็กทั้งสองกำลังล้างหน้าแปรงฟันกันอยู่นั้น ซย่านีก็กำลังจะเดินไปหาหม้อต้มน้ำที่เรือนหลัก เมื่อเธอเดินผ่านห้องครัวก็เห็นว่าประตูไม่ได้ลงกลอน เธอเลิกคิ้วขึ้น เดาว่า่สองวันมานี้เธอไม่ค่อยได้อยู่บ้าน หวังซิ่วอิงก็เลยคลายความระมัดระวังลง จนทำให้ลืมลงกลอนประตูห้องครัว
ซย่านีก้าวเท้าเข้าไปในห้องครัว
บังเอิญมีกาต้มน้ำร้อนวางอยู่ข้างเตา ซย่านีลองเขย่าดูก็พบว่าด้านในมีน้ำเต็มอยู่ จากนั้นก็ค่อยเปิดฝากาน้ำแล้วทดสอบอุณหภูมิดูพบว่าไอร้อนลอยขึ้นมาจนร้อนมือ
ซย่านียิ้ม จากนั้นก็เทน้ำในกาน้ำลงในกระติกน้ำร้อนของเธอ
ครั้นได้น้ำร้อนแล้ว เธอก็รีบนำน้ำร้อนในกาไปเติมลงในขวดน้ำร้อนเพื่ออุ่นเตียงให้เด็กๆ แล้วเธอก็เก็บส่วนที่เหลือไว้สำหรับชงนมให้ซิงซิงในตอนกลางดึก
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จหมดแล้วซย่านีก็พาเด็กๆ ขึ้นเตียง เป็เพราะมีขวดน้ำร้อนช่วยอุ่นเตียงจนทำให้เตียงอบอุ่นขึ้น ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่เตียงมันเย็นจนพวกเธอสะท้าน“แม่คะ แม่ไม่นอนหรือ?” ซ่งวั่งซูเห็นว่าซย่านีไม่ยอมนอน แต่กลับหยิบหนังสือแบบเรียนภาษาจีนของชั้นป.1 ขึ้นมาแทน
ซย่านีเอ่ยตอบ “ลูกๆ นอนกันไปก่อนเลย แม่ว่าจะอ่านหนังสือคนเดียวสักพัก” เธอเรียนและจำพินอินได้แล้ว นั่นทำให้เธอสามารถอ่านบทความทั้งหมดในหนังสือเรียนภาษาจีนชั้นป.1 ได้ สำหรับเธอแล้วมันเป็ประโยชน์ต่อการอ่านหนังสือของเธอมากๆ
ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกว่าอยากสอบติดมหาวิทยาลัย เื่นี้เธอไม่ได้พูดไปพล่อยๆ หรอกนะ แม้ว่าเธอจะเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่นแต่ก็เหมือนกับที่ซ่งหานเจียงบอกไว้ ขอแค่พยายามและยืนหยัดต่อไปจะต้องมีสักวันที่เรียนได้ทันคนอื่นอย่างแน่นอน
ซย่านีกำลังอ่านหนังสือเรียนด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็ขีดๆ เขียนๆ ไปมาบนผ้าห่มพยายามสลักทุกตัวอักษรไว้ในสมอง
เช้าวันรุ่งขึ้น อาจเป็เพราะเื่เมื่อคืนหวังซิ่วอิงถูกอู๋ซูเจวียนทำให้ใกลัวหรืออาจเป็เพราะกลัวว่าซย่านีจะไปพูดจาซี้ซั้วข้างนอก เมื่อหวังซิ่วอิงเห็นซย่านีกำลังจะพาลูกๆ ออกจากบ้านเธอก็เรียกให้ซย่านีหยุดลงเสียก่อน
“เช้าตรู่ขนาดนี้จะออกไปไหนกัน? พวกแกอยากให้คนอื่นด่าฉันเื่ที่ทำร้ายพวกแกและก็เื่ที่ไม่ยอมให้พวกแกกินข้าวด้วยใช่ไหม? รีบมานี่เลย มากินข้าวได้แล้ว!”
ซ่งวั่งซูและซ่งตงซวี่ต่างเงยหน้ามองซย่านี ซย่านีคิดในใจหากไม่กินก็น่าเสียดายแล้ว ได้กินข้าวที่บ้านตระกูลซ่งเพิ่มอีกหนึ่งมื้อก็ถือว่าเป็กำไรแล้ว ไม่แน่ว่ายิ่งได้เห็นสีหน้าเสียดายอาหารของหวังซิ่วอิงแล้วอาจจะยิ่งกินลงมากกว่าเดิมก็ได้นะ?
“ไปล้างมือแล้วมากินข้าวเถอะ” ซย่านีกวักมือเรียกเด็กทั้งสอง
บนโต๊ะอาหารมีซาลาเปานึ่ง ผักดองและโจ๊ก ส่วนไข่ไก่ก็ถูกหวังซิ่วอิงเอาไปซ่อนไว้หมดแล้ว จวบจนบัดนี้ซย่านีกับลูกๆ ก็ยังไม่เคยเห็นแม้แต่ไข่ขาวด้วยซ้ำ
แต่ซย่านีก็ไม่ได้สนใจนัก เธอหยิบซาลาเปาให้เด็กๆ คนละลูก “รีบกินเร็ว กินเสร็จจะได้ไปโรงเรียนกันนะ”
หวังซิ่วอิงเริ่มบ่นด่าพลางสาปส่งขึ้นมาอีกรอบ “หญิงี้เี วันๆ ไม่ทำงานทำการสักอย่าง ก็ยังรู้จักเลือกกินอีกเอาแต่กินๆๆ ทำไมไม่สำลักตายไปเลยนะ!”
ซย่านีแกล้งทำเป็ไม่ได้ยิน ส่วนในหัวก็ทบทวนคำศัพท์ที่เรียนเมื่อคืนซ้ำไปซ้ำมา เธอพบว่าความจำของตัวเองดีใช้ได้เลย หลังจากนอนหลับไปหนึ่งคืน เธอก็ยังจำคำศัพท์ได้กว่าครึ่ง
“แม่คะ นั่นยางรัดผมของหนูนี่!” จู่ๆ ซ่งวั่งซูร้องอุทานขึ้นมา
ซย่านีถามทันควัน “อะไรนะ อยู่ไหนกัน?”
ซ่งวั่งซูชี้ไปที่ยางรัดผมผ้าลูกไม้สีเหลืองนวลบนศีรษะของซ่งเสี่ยวสยา พร้อมกับพูดอย่างเดือดดาล “มันอยู่บนหัวของซ่งเสี่ยวสยา!”
ซย่านีมองปราดเดียวก็รู้ว่าใช่จริงๆ
ซ่งเสี่ยวสยาใช้มือป้องผมตัวเองไว้โดยไม่รู้ตัว ชั่วขณะหนึ่งเธอก็เบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิด ทว่าวินาทีต่อมาหนังหน้าของเธอกลับดูหนาขึ้นเหมือนกับกำแพงเมืองจีน เด็กสาวพูดอย่างมั่นใจว่า “ยางรัดผมของเธอที่ไหนกัน นี่มันยางรัดผมของฉันต่างหาก!”
ซ่งวั่งซูโต้กลับ “เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็ของของฉัน เมื่อวานฉันทำยางรัดผมหายไปหนึ่งอันแล้วมันก็เป็แบบเดียวกับที่เธอใส่อยู่บนหัวนั่นแหละ!”
แน่นอนว่ายางรัดผมนี้ต้องเหมือนกันทุกประการอยู่แล้ว เพราะซ่งเสี่ยวสยาขโมยมันมาจากที่ซ่อนของซ่งวั่งซู! เมื่อวันก่อนเธอเห็นซ่งหานเจียงมอบยางรัดผมนี้ให้ซ่งวั่งซูเธอทำได้แค่อิจฉาตาร้อนเท่านั้น ครั้นวันรุ่งขึ้นไปโรงเรียนก็ยิ่งมีเพื่อนนักเรียนหลายคนพากันชื่นชมว่ายางรัดผมบนศีรษะของซ่งวั่งซูช่างสวยงามมาก อันที่จริงแล้วเธออยากได้มันมากๆ แต่พ่อแม่ของเธอไม่ยอมซื้อให้ ดังนั้นเธอจึงหันไปเพ่งเล็งของของซ่งวั่งซูแทน
หลังจากกลับจากโรงเรียน่บ่าย ซ่งเสี่ยวสยาจึงแอบไขกลอนประตูห้องของซย่านี เธอไม่เชื่อว่าซ่งหานเจียงจะซื้อยางรัดผมให้ซ่งวั่งซูแค่ชิ้นเดียวแต่ก่อนตอนที่ซ่งหานเจียงซื้อของขวัญให้ลูกสาว เขาก็มักจะซื้อเผื่อเธออีกหนึ่งชิ้นเสมอ จะต้องเป็เพราะตอนนั้นเธอทะเลาะกับซ่งตงซวี่แน่ๆ อารองถึงได้ไม่ยอมเอายางรัดผมที่ซื้อมาอีกชิ้นมามอบให้เธอ!
หลังจากค้นหาอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เจอยางรัดผมชิ้นหนึ่งอยู่ใต้ผ้าห่มจริงดังคาด อีกทั้งยางรัดผมชิ้นนี้ยังสวยยิ่งกว่าของซ่งวั่งซูเสียอีก!
ซ่งเสี่ยวสยามีความสุขเป็อย่างยิ่ง เธอชอบยางรัดผมชิ้นนี้มากจนวางไม่ลงเลยทีเดียว ดังนั้นวันรุ่งขึ้นเธอจึงอดทนไม่ไหวที่จะเอายางรัดผมนั้นมาประดับบนศีรษะของเธอ
“เธอบอกว่าเป็ของเธองั้นหรือ? เธอเรียกชื่อมันแล้วมันตอบเธอไหมล่ะ?” ซ่งเสี่ยวสยาส่งเสียงเหอะ จากนั้นก็กล่าวต่อ “เห็นอยู่ชัดๆ ว่าอารองให้ยางรัดผมเธอแค่ชิ้นเดียวแล้วก็เป็ชิ้นสีชมพูด้วย มันก็อยู่บนหัวเธอไม่ใช่หรือไง! ส่วนของฉันเป็สีเหลืองต่างหาก เธอถือสิทธิ์อะไรมาบอกว่าเป็ของเธอกันฮะ?” เห็นอยู่ชัดๆ ว่ายางรัดผมนี้เป็ของที่อารองตั้งใจเตรียมไว้มอบให้เธอโดยเฉพาะ! เดิมทีมันก็ควรเป็ของเธออยู่แล้ว!
“เพราะชิ้นนั้นแม่ของฉันเป็คนมอบให้ฉันต่างหาก!” ซ่งวั่งซูวิ่งไปคว้าคอเสื้อของซ่งเสี่ยวสยาแล้วเอื้อมมือไปดึงผมของอีกฝ่าย “คืนของฉันมาเลยนะ!”
ซ่งเสี่ยวสยาชูคอขึ้นพร้อมกับเอนตัวไปข้างหลัง เธอพยายามหลบพร้อมกับผลักซ่งวั่งซูออกจากตัว “แม่เธอให้ที่ไหนกัน แม่ของเธอจะไปเอาเงินจากที่ไหนมาซื้อยางรัดผมนี่กันฮะ ช่างโกหกหน้าด้านๆ! แล้วถ้าฉันบอกว่าแม่ของฉันซื้อมาให้บ้างล่ะ!”
ซ่งวั่งซูโกรธมาก “แม่ฉันมีเงิน! แม่ฉันน่ะ...แม่คะ?”
