ห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง ถูกตกแต่งไว้อย่างพร้อมเพียง เตียงกว้างขนาดใหญ่ตั้งติดหน้าต่าง ชั้นหนังสือที่ถูกจัดวางหนังสือไว้จนเต็มชั้น โต๊ะนั่งเล่นขนาดสองคนติดหน้าต่างอีกบาน กลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์อบอวน นาเซียกระพริบตาไล่มองทั่วห้อง
“นี่อะไรกันคะ” นาเซียรีบเอ่ยถามเมื่อเธอลืมตาขึ้นจากที่มิกาเอลพาเธอมาโดยใช้หินเวทเคลื่อนย้าย
“ห้องนอนเ้ายังไงล่ะ”
“ห้องนอน นี่ที่ไหนทำไมฉันถึงไม่เห็นรู้สึกคุ้นตาเลย”
“ห้องนี้จะมีเพียงข้า และอีวอนเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้” มิกาเอลบอก ก่อนที่เขาจะออกไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เขาได้สั่งให้อีวอนจัดเตรียมห้องไว้สำหรับนาเซีย เขาไม่้าให้เธอเป็ที่สังเกตเห็นของเซลีน เพราะหากนางรู้ว่านาเซียอยู่ที่ปราสาทนี้ เป็ไปได้ว่าเซลีนต้องรายงานเื่นี้แก่ลาฟาซแน่นอน พอคิดว่าหากพบนาเซียแล้วลาฟาซจะมาพานางไป จิตใจของเขาก็ไม่สามารถสงบลงได้
“เพราะอะไรกันละคะ ในเมื่อท่านดยุกเองก็มีเลดี้อีเนสอยู่แล้ว” นาเซียนึกถึงสตรีอีกคนที่ดูเหมือนว่านางน่าจะวนเวียนอยู่ใกล้ตัวมิกาเอลในตอนนี้ เพราะอีเนสลูซี่เองนางไม่ได้มีพันธะผูกพันธ์ใด ๆ แล้ว เช่นนั้นหากมิกาเอลจะพานางมาอยู่ที่ปราสาทนี้ก็ไม่แปลก หากเขา้าดูแลคนรักของเขา
“ทำไมข้าต้องใส่ใจนางด้วย” มิกาเอลทำสีหน้างุนงง เขาส่งอีเนสลูซี่ไปภายหลังที่มีปัญหากับเซลีน มิกาเอลเดินวนอ้อมมายืนอยู่ด้านหลังนาเซียก่อนเอ่ยขึ้น
“เ้าคงไม่ลืมหรอกนะว่า เ้าทำอะไรไว้เซีย” มิกาเอลเอ่ยเสียงรอดไรฟัน จนนาเซียสีหน้าถอดสี หรือเขากำลังคิดจะลงโทษเื่ที่เธอขโมยสัญญาเวทมนตร์นั่นไปใช้
“ท่านดยุก สงบจิตสงบใจก่อนสิคะ เื่นี้ดิฉันอธิบายได้”
“ไม่ใช่ว่าเ้ายังอาลัยอาวรณ์เ้ารัชทายาทนั่นอยู่รึ” มิกาเอลโน้มใบหน้ามาเอ่ยข้างใบหูของนาง ร่างบางสะดุ้งไหวเอียงตัวหลบ แต่ก็ถูกเขาคว้าไหล่จนหันมาเผชิญหน้า แววตาที่กำลังจับจ้องมาที่เธอมันดูเหมือนเขากำลังโกรธเคือง
“มะ..ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้้าเป็หุ่นเชิดของคนเห็นแก่ตัวนั่นซะหน่อย ไม่เช่นนั้นแล้วฉันจะต้องหนีไปทำไมกัน” นาเซียรีบหาเหตุผลมาอ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็เป็แบบนั้นแหละ เธอไม่ได้้า
“แล้วที่เ้าขโมยสัญญาแห่งเวทมนตร์ไป หมายความว่ายังไง ไม่ใช่้ากำจัดเซลีนที่อยู่ข้าง ๆ ลาฟาซอย่างงั้นรึ” มิกาเอลเอ่ยถึงสิ่งที่คั่งค้างในใจออกมา
“สัญญาแห่งเวทมนตร์จริงอยู่มีเพียงที่กาบริเอล ดิฉันก็เพิ่งได้พบมันตอนที่ฉันพยายามจะหาวิธีรักษาอาการาเ็ให้กับท่านดยุก ไม่คิดว่าการจะได้พบสัญญาแห่งเวทมนตร์โดยบังเอิญ และที่ดิฉันนำไปก็เพราะว่าหากใช้ทำสัญญาตกลงกับเลดี้เซลีนแล้วละก็ นางต้องรักษาท่านหายได้อย่างแน่นอน” แม้จะเป็การโกหกไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้หลุดจากความตั้งใจจริงของเธอนัก นาเซียขบเม้มริมฝีปากตนเองอย่างเคยตัวเวลาที่ใช้ความคิด
“ทำไมต้องคิดอยากจะรักษาอาการของข้าด้วย แล้วทำไมต้องเป็เลดี้เซลีน เ้าเอาแต่ผลักไสข้าให้เลดี้เซลีนมาตลอดเลยนะเซีย” น้ำเสียงแ่เบาราวออดอ้อนดังข้างใบหูจนใบหูของเธอแดงดั่งผลเชอรี่
“นั่นก็เพราะเลดี้เซลีนมีพลังเยียวยาที่สามารถช่วยเหลือท่านได้นี่คะ” นาเซียตอบอย่างไม่คิดอะไร เธอบอกตามเนื้อเื่ที่เคยอ่านมีเพียงเซลีนเท่านั้นที่สามารถช่วยเหลืออาการของมิกาเอลได้
มิกาเอลคว้าไหล่บางก่อนหมุนตัวนาเซียให้หันมาประสานตาเขา มิกาเอลจ้องแววตากลมตรงหน้าแล้วยกมือตนจับปลายคางมนของนางก่อนจะยกใบหน้าของเธอขึ้นเล็กน้อย เขาควรจะคิดว่าสิ่งที่นางทำนั้นเป็สิ่งที่ทำเพื่อเขาได้ไหมนะ มิกาเอลผ่อนลมหายใจลงเบา และแตะริมฝีปากเขาไปที่ริมฝีปากอิ่มของนาง อ้อมแขนแกร่งรวบรัดเอวบางเข้าแนบกับตัว นาเซียรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดข้างแก้ม ริมฝีปากของเขากำลังบดคลึงไปมาอย่างละมุนละไม จนเธอเผลอเผยอริมฝีปากออกทำให้ปลายลิ้นที่ดุนด้านเพียงด้านนอกพลันเกี่ยวเข้ามาในปากเธอได้อย่างง่ายดาย รสหวานแตะปลายลิ้นทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา มิกาเอลยกหน้ามองใบหน้าที่แดงก่ำของเธอก่อนจะเอ่ยถามขึ้นเบา ๆ
“เ้ารักข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่.....เซีย” มิกาเอลโน้มใบหน้าจนหน้าผากจดกันกับเธอ นาเซียรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่ค่อย ๆ ละลาย เธอไม่ควรรู้สึกหวั่นไหวกับความใจดีของมิกาเอล าแที่มิกาเอลได้รับมันมากกว่าที่เธอจะเยียวยาเขาได้
“ทะ..ทำไมท่านดยุกคิดอย่างนั้นหรือคะ” นาเซียแปลกใจ ก่อนไปเธอก็เห็นแล้วว่ามิกาเอลดูแลปกป้องอีเนสลูซี่แค่ไหน
“ก็เ้ายังเป็ห่วงข้า และที่สำคัญเ้ามีบุตรของข้าอยู่ในครรภ์ยังไงล่ะ” มิกาเอลกระซิบบอก นาเซียแทบอยากจะหลุดหัวเราะออกมา เธอลืมไปว่าที่แห่งนี้สตรีที่มีบุตรกับชายใด นางจะต้องรัก และผูกพันธ์กับบุรุษนั้นไปตลอดชีวิต ซึ่งหากเป็โลกที่เธอจากมาก การที่มีบุตรด้วยกันใช่ว่าจะหมดรักกันไม่ได้ เธอเห็นแบบนั้นมานักต่อนัก รวมถึงพ่อแม่ของเธอในโลกนั้นเช่นกัน
“แล้วท่านดยุกละคะ” นาเซียตอบกลับอย่างตั้งใจ แม้ครั้งหนึ่งเธอจะเคยได้ยินถอยคำรักออกจากปากเขา แต่เธอไม่สามารถที่จะอยู่กับเขาได้ หากเลือกที่จะกลับมาหามิกาเอล เท่ากับที่เธอทำไปก็สูญเปล่า ราชินีมาเรน่าไม่ยินดีแน่ นางพยายามที่จะรวบอำนาจของจักรพรรดิพุชคาเรน โดยการชักใยอยู่เื้ัทั้งหมด ราชินีมาเรน่า้าให้ลาฟาซขึ้นเป็จักรพรรดิต่อจากเขา แต่เพราะขุนนางที่สนับสนุนมิกาเอลมีไม่น้อยจักรพรรดิพุชคาเรนจึงลังเลที่จะทำให้ถูกต้อง ราชินีมาเรน่าที่ได้กุมอำนาจแล้วย่อมไม่้าเช่นนั้น
นางพยายามผลักดันทุกอย่างเพื่อให้ลาฟาซคือผู้เหมาะสม เช่นนั้นแล้วนางจะยอมได้เช่นไรในเมื่อเธอได้แต่งงานกับมิกาเอลไปแล้ว แต่ยังทำเป็มองไปเห็นเื่เหล่านี้ ทั้งยังให้เธอหย่าขาดกับมิกาเอล เพื่อมาแต่งงานกับลาฟาซ นั่นก็เพราะอำนาจของตระกูลดาร์เรลที่มีมาก เช่นนั้นสิ่งเดียวที่เธอจะทำได้คือการหลีกเลี่ยงที่จะทำให้เกิดาแห่งสายเืขึ้น
“ต่อให้ข้าต้องอยู่ปราบสัตว์ปีศาจมากแค่ไหน ข้าก็จะปกป้องเ้าและลูก” แม้จะรู้สึกดีกับคำตอบนั้นแค่ไหน แต่ทำไมหัวใจของเธอเหมือนกำลังถูกตะปูตอกลงอย่างช้า ๆ มันรู้สึกเ็ปเสียมากกว่าท่าทางเ็าของเขาเสียอีก
“แล้วถ้าฉันบอกว่าบุตรของท่านไม่อยู่แล้ว ท่านดยุกคิดว่ายังไงคะ” เธออยากรู้นักว่าหากไม่มีบุตรของเขาในครรภ์นี้แล้วเขายังคิดจะปกป้องเธออยู่หรือไม่กัน
มิกาเอลล่นถอยหลัง ถอยคำรักที่นางเคยกล่าว มันคือคำล่อลวงให้เขาตายใจอย่างงั้นหรือไงกัน มิกาเอลรู้สึกเหมือนขาทั้งสองของเขาว่างเปล่า นี่เขาคาดหวังสิ่งใดกัน มิกาเอลเซตัวลงนั่งที่ขอบเตียง ‘บุตรข้า...ไม่มีงั้นแล้วรึ’ ความหวังเดียวที่เขาคิดว่ามันจะช่วยเหนี่ยวรังเธอไว้ได้ มันกลับถูกทำลายลงเพียงชั่วพริบตา
“เ้ากำลังจะบอกว่าเ้าได้ทำลายบุตรในครรภ์ไปแล้วอย่างงั้นรึ” มิกาเอลเค้นเสียงถาม ใจของเขาเต้นรัวจนต้องกำมือแน่นเพื่อสงบสติอารมณ์ เส้นเืสองขมับข้างกำลังปูดตึงขึ้น ใบหน้าของเขารู้สึกชาหนึบจนแทบไม่รู้สึก นี่นางต้องรังเกียจเขาแค่ไหนกันถึงได้ทำลายความหวังเดียวของเขาได้