เวินหว่านรู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆ แปะลงบนหน้า
“ฮ้า ตัวอะไรเนี่ย? กล้าพ่นน้ำลายใส่หน้าข้าเชียวหรือ?” เวินหว่านมองไปเมื่อรู้ต้นตอ จากนั้นจึงอ้าปากค้าง เขาจ้องมองลูกัเงินที่กำลังล่องลอยอย่างใที่สุด
พริบตาต่อมาสีหน้าใของเขาก็แข็งค้าง
น้ำแข็งปริศนาสีเงินหนาเท่านิ้วมือตลบอบอวล ก่อนที่เวินหว่านจะมีปฏิกิริยาอะไร ก็ถูกแสงสีเงินนั่นผนึกเอาไว้จนแข็งเป็น้ำแข็งเสียแล้ว
เ่ิูนิ่งอึ้ง
เขานึกมาตลอดว่าเวินหว่านมีพลังมากเกินจะคาดเดา แต่ตอนนี้ชักน่าสงสัยแล้ว
มองประติมากรรมน้ำแข็งตรงหน้าแล้ว จะใช่เวินหว่านผู้พลังแกร่งกล้าคนนั้นจริงๆ หรือ? ถูกน้ำลายัแช่แข็งเสียแล้ว เวินหว่านยังคงอยู่ในท่าเงื้อหมัด สีหน้าอากัปกิริยายังแข็งค้างและตื่นตระหนก เป็ประติมากรรมน้ำแข็งสดใหม่จากเตา เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความรู้สึกอันสดสวย
“อุแว้ๆ”
ัน้อยร้องอย่างเด็กๆ ปากมีแสงสีเงินกลุ่มหนึ่งกลั่นตัวและหลั่งรวมด้วยกันอย่างช้าๆ
จะพ่นคนอีกแล้วเรอะ?
เ่ิูใแทบะโ เขารีบอุดปากเ้าัเงินไว้แล้วปราม “เล่นงานผิดคนแล้ว พวกเดียวกัน”
“โฮ่งๆ? ฮ่าๆๆๆ” เสียวจิ่วเอาหางปิดท้องตัวเอง แล้วะเิหัวเราะอย่างไร้ยางอาย “โฮ่งฮะฮะฮ่า เทียบกับคนที่โชคร้ายคนนี้แล้ว โฮ่งแค่โดนหางฟาดไม่กี่หนเอง โชคดีจริงเลยน้า”
ดีจริง เ้าตะกละเชี่ยวชาญการหาจุดสมดุลด้านนี้เหลือเกิน
“อุแว้?” ลูกัเงินมองเ่ิูอย่างฉงน แน่นอนว่ามันไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมแม่ต้องปกป้องคนชั่วคนนั้นด้วยเล่า?
เ่ิูไม่สนใจจะอธิบาย เขารีบหาค้อนมาทุบรูปปั้นน้ำแข็ง อยากจะทุบชั้นน้ำแข็งที่ห่อหุ้มเวินหว่านไว้ให้แตกเสีย
แกร๊งๆๆ!
ทุบแล้วทุบเล่า น้ำแข็งปริศนาสีเงินบนตัวเวินหว่านเพียงปรากฏรอยสีขาวเล็กจิ๋วเท่านั้น ไม่แตกร้าวเลยแม้แต่น้อย
“แข็งถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”
เ่ิูตาลาย
ขืนใช้ค้อนทุบต่อไป ต่อให้เป็เหล็กแท้หลอมมาร้อยครั้งก็คงไม่วายถูกเคาะจนแตกเละ น้ำแข็งปริศนาที่ลูกัเงินพ่นออกมานั้นแข็งระดับนี้เชียวหรือ?
มิน่าเล่า พอเวินหว่านถูกน้ำแข็งผนึกแล้วถึงใช้กำลังภายในของตัวเองทำลายน้ำแข็งให้แหลกไม่ได้
แต่ว่าทำเช่นไรดีเล่า?
เวินหว่านจะหายใจไม่ออกตายอยู่ข้างในหรือเปล่า?
“อุแว้ อุแว้ๆ” ัเงินเห็นเ่ิูลงมือแล้วจึงลอยขึ้นมาช้าๆ ในที่สุด มันใช้เขาที่เหมือนดอกไม้ยังไม่บานแตะน้ำแข็งปริศนาเบาๆ
แครกๆ!
รอยร้าวสีขาวละเอียดและแน่นขนัดปรากฏขึ้นมา
จากนั้นน้ำแข็งปริศนาบนตัวเวินหว่านจึงแตกทลายลงทั้งหมดดังเกรียวกราว มันร่วงลงบนพื้น
เวินหว่านผู้ยังอยู่ในท่าเงื้อหมัดหายใจออกต่อเมื่อครู่ต่อมา เขาไอค่อกแค่กสองสามที ท่าทางมึนงงเล็กน้อย เขาชำเลืองมองเ่ิู แล้วสายตาก็ไปตกอยู่ที่ลูกัเงินเ้ากรรม ั์ตาฉายแววสงสัยยามมองตรวจตรา เขาถาม “เมื่อครู่คือฝีมือเ้านี่ที่พ่นน้ำลายใส่ข้าใช่ไหม?”
“เื่เข้าใจผิดน่ะ” เ่ิูพยายามไกล่เกลี่ย
เขากลัวเวินหว่านจะคลั่งจากใจจริง
“น่ารักเป็บ้า” เวินหว่านเปลี่ยนสีหน้า เขาลูบหมัดตัวเองแล้วหันหลังเดินไปนั่งบนเก้าอี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเอ่ยกัดฟัน “กระดูกโดนแช่แข็งหมดเลย ข้าจะบอกเ้าไว้ก่อนนะ เมื่อครู่เป็เพราะข้าไม่ทันระวังตัว ถึงได้ถูกน้ำลายมันเข้า คราวหน้าไม่ง่ายอย่างนี้แน่ แต่ว่าเห็นแก่ความน่ารัก ข้าจะไม่เอาความอะไรมันแล้วกัน”
เอ่ยถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็เหลือบมองเสียวจิ่วที่นั่งมีความสุขบนทุกข์ของคนอื่นอยู่ข้างกัน เขาถามทั้งเลิกคิ้ว “ไอ้ขยะกินล้างกินผลาญนี่ยังไม่ตายอีกหรือ? ข้านึกว่ามันโดนปีศาจกินไปแล้วเสียอีก”
เปลี่ยนเื่คุยในพริบตา
เสียวจิ่วอุตส่าห์นอนนิ่งๆ ยังถูกแทงใจดำเข้าเต็มรัก
มันโมโหอย่างหนัก สีหน้าไม่สู้ดี มันกระโจนขึ้นมา หางชี้จมูกเวินหว่าน “เ้าสิขยะ ขยะหมดทั้งบ้าน”
เวินหว่านตระหนกอีกหน เขาะโเหมือนเห็นผีหลอกก็ไม่ปาน “อะไรวะเนี่ย? เกิดอาเพศอะไร เ้าหมานี่พูดภาษาคนได้เรอะ?”
เ่ิูมองสิ่งสำคัญของชีวิตสองสิ่งนี้แล้วไม่รู้จะพูดเช่นไรดี
หลังสิบนาทีผ่านไป ความวุ่นวายถึงได้หยุดลง
“ไอ้เด็กเวรเอ๊ย เป็อย่างไรมาอย่างไรแน่? ทำข้าใเกือบตาย” เวินหว่านถามเื่ที่เกิดขึ้นในทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะ
สำหรับเวินหว่านแล้ว เ่ิูกลับแทบไม่ปิดบังอะไรเขาเลย เล่าเื่ั้แ่ที่เขาและคณะแล่นเรือเหาะกลับฐาน แต่โชคไม่ดีไปพบกับเยี่ยนปู้หุยที่กำลังรักษาอาการาเ็เข้า จากนั้นเขาก็หนีออกมาได้พอดี ร่วงลงมาในรังัหิมะ เด็กหนุ่มเล่าทุกอย่างให้เวินหว่านฟังอย่างละเอียด ทว่าเื่ที่พบกับภาพมายาคนลึกลับโดยบังเอิญหรือเื่เซียนหญิงชุดขาวในโลงผลึกน้ำแข็งนั้น เ่ิูได้ปกปิดเอาไว้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ไว้ใจเวินหว่าน แต่เป็เพราะคิดว่าเื่นี้ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไรยิ่งดี
“เ้าพูดอย่างนี้แสดงว่าเ้าตัวเล็กนี่เป็ลูกัหิมะงั้นสิ?” เวินหว่านสนใจลูกัเงินเป็อย่างมากจนเห็นได้ชัด
“เอ้อ...น่าจะใช่แหละ” ตัวเ่ิูเองยังคลำหาที่มาของเ้าตัวเล็กนี้ไม่ได้เลย
มันมาจากรังนกผลึกน้ำแข็งในโลงผลึกน้ำแข็ง เป็ัหิมะตัวจริงหรือไม่นั้นไม่แน่ไม่นอน ตามที่ตำรับตำราหลายเล่มบอกมา ตอนที่ัหิมะลืมตาดูโลกนั้น จะยังไม่สติปัญญาเฉียบแหลมถึงเพียงนี้ อีกทั้งัหิมะยังมีสายตาแย่มาก แต่ลูกัเงินตัวนี้กลับตาดีนัก การจะย้อนไปเป็เหมือนบรรพบุรุษก็เป็คำอธิบายที่ดี แต่เ่ิูกลับคิดว่า เื่มันไม่ง่ายดายถึงเพียงนั้นน่ะสิ
เวินหว่านลองแหย่เ้าลูกัเล่นดู
แต่ัเย่อหยิ่งปานไหนเล่า?
นอกจากจะติดเ่ิูที่มันรักและพึ่งพาเหมือนเป็แม่แล้ว กับคนอื่นๆ มันล้วนไม่สนใจไยดี ถูกเวินหว่านแหย่จนตาร้อน มันร้องอุแว้ๆ ขึ้นมา ปากมีแสงโชติ่สีเงินรวมตัวกัน ความหนาวเย็นเสียดลึกถึงกระดูกแผ่ขจายออกมา
“เฮ้? แหย่ไม่ได้เลยสินะ” เวินหว่านรามือทันใด เขาหันหน้าไปมองเ่ิูแล้วเอ่ย “เ้าตัวเล็กนี่ช่างเหมือนเ้าอะไรเช่นนี้ แหย่นิดแหย่หน่อยไม่ได้ อ้อ อีกเื่หนึ่ง เื่ที่เกิดขึ้นที่นี่ อย่าแพร่งพรายออกไปล่ะ ไม่งั้นข้าคงไม่เหลือหน้า...”
“โฮ่ง? หน้าคืออะไร กินได้ไหม?” เสียวจิ่วยกหางปิดปากอย่างร่าเริง
เวินหว่านถลึงตา “ไอ้หมากากจะกละ หลีกไปให้พ้นไป”
เ่ิู “...”
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าทั้งเวินหว่านทั้งเสียวจิ่วจะเหมือนเป็คู่กัดกันเข้าไปทุกทีนะ
เ้าเวิน เ้าก็เป็ถึงท่านอาจารย์ของสำนักกวางขาวนะ ทำไมยังต้องมาหาเื่ทะเลาะกับหมาอีกเล่า?
“เฮ้ย ข้าพูดจริงนะ คราวหน้าถ้าเจอเื่ส่งไปตายอย่างนั้นอีก ไม่ต้องมาทำตัวเป็พ่อพระเลย เข้าใจที่ข้าพูดไหม ทำข้ากังวลมานานนมขนาดนี้” เวินหว่านเคร่งขรึมขึ้นมา เขาว่าต่ออย่างจริงจัง “เช่นเื่ไอ้แก่ท่านชายหลิวนั่น เขาจะทิ้งเ้าไว้กับจอมมารเยี่ยนปู้หุย เ้ากลับยอมให้เขาทิ้งเ้าไปตาย จะไปยุ่งวุ่นวายทำไมกัน เ้าเลือกที่จะถูกทิ้งไปตายเอง สมองฟั่นเฟือนไปแล้วใช่ไหม ข้าล่ะเกลียดเ้าจริงๆ”
เ่ิู “...”
ใช่คำพูดของผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีเช่นทหารและจอมยุทธ์ผู้กล้า หลั่งเืพลีชีพอุทิศตนเพื่อส่วนรวมหรือเปล่า?
เ่ิูคิด หากเ้าเวินถูกจับไปเป็เชลยจริงๆ คงไม่คุกเข่ายอมศิโรราบั้แ่แวบแรกหรอกนะ?
ทั้งสองคนคุยสัพเพเหระกันอยู่พักหนึ่ง
เวินหว่านเปิดประเด็น “่นี้เื่ในด่านค่อนข้างอลหม่านอยู่ ข้าได้ข่าวมาว่าเ้าปะทะกับคนฝ่ายพลาธิการอีกแล้ว จะว่าไปแล้วเื่นี้มันซับซ้อนอยู่ เ้ายังอายุน้อยนัก ทางที่ดีอย่าเพิ่งถลำตัวไปเกลือกกลั้วกับเื่พวกนี้เลยดีกว่า การแต่งตั้งจากกองทัพสั่งลงมา โอกาสจะถอยหลังกลับได้มันก็น้อย กองทัพก่อนหน้านี้ก็เริ่มสร้างสถานการณ์กันแล้ว วาดหวังไว้ให้เ้าเป็ตัวอย่างวีรบุรุษในอุดมคติมาประกาศสรรเสริญ เท่ากับน้าวสายธนูไปแล้วจะไม่ยิงก็ไม่ได้ หากจะยกเลิกการแต่งตั้งเท่ากับว่าเสียหน้า ไหนจะกระทบต่อขวัญกำลังใจทหารอีก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฐานันดรโหวลำดับสี่ของเ้าคงมั่นคงแล้วล่ะ แต่ก่อนหน้านั้นคือเ้าต้องห้ามทำอะไรโดยพลการเด็ดขาด จะถูกพวกไม่หวังดีจับจุดอ่อนเอาได้”
เ่ิูแม้จะไม่ใส่ใจ แต่พอได้ยินเวินหว่านพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็ซาบซึ้งใจนัก
หากในด่านนี้จะมีใครสักคนที่เป็ห่วงเขาอย่างจริงใจ คนๆ นั้นต้องเป็เวินหว่านอย่างแน่นอน
เซียนภาพหลิวอวี่หลางก็ดีต่อเขาเช่นกัน แต่ดีในที่นี้ก่อร่างจากประโยชน์ของเขา
“ใช่แล้ว หลังเ้าได้รับการแต่งตั้ง ก็จะมีอำนาจปกครองทหารตัวคนเดียวแล้วนะ ไม่เหมือนกับตอนที่เป็แค่ทูตถือดาบตรวจการณ์ เ้าจะมียศรองกว่าคนอื่นอย่างมากก็สิบคน รอจนเื่นี้ประกาศอย่างเป็ทางการและเข้าที่เข้าทางก่อนเถอะ สำนักเ้าด่านต้องแต่งตั้งคำสั่งทหาร ให้เ้าเลือกระหว่างสี่ค่ายศึกของกองทัพ ทัพฝ่ายซ้าย ทัพฝ่ายขวา ทัพหลังหรือทัพหน้า นำทหารเข้าร่วมศึก ในแวดวงทหารแล้ว นอกจากพลังส่วนบุคคล อำนาจปกครองทหารก็เป็มาตรฐานสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเท่าเทียมกับอิทธิพลและตำแหน่ง เพราะงั้นเ้าต้องเตรียมใจให้พร้อม เวลานี้จงคิดให้ถี่ถ้วน ว่าเ้าอยากไปทัพใด แล้วก็ต้องเจียดเวลาไปสำรวจค่ายทัพนั้นด้วย ทำความเข้าใจรายละเอียดปลีกย่อยของคำสั่งทหาร แล้วก็แอบไปเลือกเอาแม่ทัพทหารชั้นสูงสักพวกหนึ่งมาให้ได้ด้วย” เวินหว่านเสริมต่อ
อำนาจปกครองทหาร?
หลังได้รับแต่งตั้งแล้ว ก็จะมีอำนาจปกครองทหารแล้วหรือ?
เื่นี้ ท่านชายหลิวยังไม่เคยบอกเขามาก่อน
เ่ิูคิดใคร่ครวญ จากนั้นจึงพยักหน้ารับ “ข้าเข้าใจแล้ว ขอบใจเ้าเวิน”
“ชิ ขอบคุณทำซากอะไร ไม่มีเหตุผลเอาเลย” เวินหว่านว่าอย่างดูแคลน
เ่ิู “...”
“ยังมีอีกเื่ คนที่เ้าฝากให้ข้าตามหานามเย่ฉงอวิ๋น ข้าพอหาเบาะแสได้แล้ว น่าจะเป็ทัพหน้า แต่ว่าข้ายังหาเขาไม่เจอ รอข้าแน่ใจก่อนค่อยส่งข่าวรับรองให้เ้า” เวินหว่านเอ่ยหน้าแดง หาคนๆ เดียวใช้เวลานานขนาดนี้ยังหาไม่ได้ หน้าแก่ๆ ของเขาจึงอดแดงไม่ได้
“ทัพหน้าหรือ? ดีจริง” เ่ิูยินดี
เย่ฉงอวิ๋นคือน้องชายของพลทหารนายแรก เ่ิูรับปากเขาไว้ว่าจะดูแลน้องชายของเขาให้จงดี
“ยังมีอีก ท่านผู้เฒ่าหลี่ฉือเจินยุ่งอยู่ทัพหน้าไม่หยอกนะ มีเวลาเ้าก็ไปเยี่ยมเขาบ้างเถอะ ผู้เฒ่าท่านบ่นคิดถึงเ้าหลายครั้งแล้ว” เวินหว่านลุกขึ้นยืนแล้วบิดี้เี เขาอารมณ์ดีขึ้นเยอะ ชายหนุ่มตบบ่าเ่ิู จากนั้นจึงเข้ามาใกล้พลางทำหรี่ตาและยิ้มมีเลศนัย “เ้าเย่น้อย มาเจรจากันดีกว่า ว่ากันตามจริง เ้าัตัวเล็กของเ้านี่ให้ข้ายืมเล่นสักสองสามวันได้ไหม? น้ำลายเ้าเด็กนี่เอาไปขู่คนอื่นได้นี่ ข้าจะพามันเข้าค่ายทัพหน้า เห็นใครขวางหูขวางตา ข้าจะให้มันพ่นน้ำลายใส่หน้าให้หมด ฮึๆ”
เมื่อเอ่ยถึงตอนท้าย เวินหว่านก็หัวเราะอย่างนึกครึ้ม