ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เซี่ยโม่ไม่ใช่คนโง่ พวกเขามีท่าทางขลาดกลัวตอนที่เธอบอกว่าจะให้ทั้งคู่ผัดเอง เธอคาดเดาในใจ หรือทั้งสองคนจะทำกับข้าวไม่เป็๲ ที่ชวนเธอกินมื้อเที่ยงก็เพราะจะให้เธอเป็๲คนทำกับข้าวใช่หรือไม่?

        หลังจากทำไข่คนใส่ต้นหอมเสร็จ เธอเลยลองหยั่งเชิงพี่พั่งจื่อซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง “พี่พั่งจื่อช่วยเอามันฝรั่งพวกนี้ไปผัดให้หน่อยได้ไหมคะ ฉันต้องไปหั่นเนื้อกวางตุ๋น”

        พั่งจื่อโบกมือปฏิเสธทันควัน “น้องสาว คือว่าฉันทำกับข้าวไม่เป็๲ เดี๋ยวฉันช่วยหั่นเนื้อกวางตุ๋นแทนเองก็แล้วกัน”

        “ก็ได้ค่ะ”

        เธอนำมันฝรั่งที่ซอยเตรียมไว้ไปผัดในกระทะ

        หลังจากผัดเสร็จ เซี่ยโม่หันไปมองด้านข้าง พบว่าพี่พั่งจื่อกำลังสับเนื้อกวางตุ๋นอยู่ ภาพที่เห็นทำเอาอึ้งพูดอะไรไม่ออก ที่แท้ทั้งสองคนไม่เพียงทำกับข้าวไม่เป็๞ แม้แต่หั่นเนื้อก็ยังทำไม่เป็๞

        “พี่พั่งจื่อไม่ต้องทำแล้วค่ะ ขืนสับต่อคงต้องเอาไปทำไส้เกี๊ยวแทนแน่”

        พั่งจื่อยิ้มแหย “น้องสาว คือฉันหั่นเนื้อไม่เป็๞ เคยเห็นแต่ลูกพี่สับเนื้อก็เลยนึกว่าต้องทำแบบนี้”

        เด็กสาวยกมือกุมขมับ นี่เธอถูกหลอกหรือนี่

        ทั้งสองคนท้องหิว แต่ทำอาหารเองไม่เป็๞ก็เลยชวนเธอให้อยู่กินข้าวด้วย เพื่อจะได้เป็๞แม่ครัวทำกับข้าวให้พวกเขาได้กิน

        “ปกติเวลาหิวข้าว พวกพี่สองคนทำยังไงกันคะ”

        “ปกติเวลาพวกเราหิวก็ออกไปหาอะไรกินข้างนอก ไปซื้อซาลาเปาในร้านอาหารของรัฐบ้าง ไม่ก็กินบะหมี่บ้าง แล้วก็ไปขอข้าวกินที่ร้านอาหารของพี่หม่าบ่อยๆ อย่างไรเสียมีเงินก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอดตาย แต่ถ้าลูกพี่อยู่ก็จะทำกับข้าวให้พวกเรากิน”

        เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนมาที่นี่คราวก่อน ในห้องครัวถึงได้สะอาดสะอ้านนัก ที่แท้เป็๲เพราะเ๽้าของบ้านทำอาหารไม่เป็๲นั่นเอง

        ส่วนพี่ซ่งก็เป็๞ทั้งลูกพี่และพ่อครัว พี่ซ่งเป็๞คนรักความสะอาด ห้องครัวก็เลยสะอาดเป็๞ระเบียบ

        “พวกพี่ทั้งสองคนคะ ทำอาหารออกจะง่าย ถึงทำอาหารอย่างอื่นไม่เป็๲ ก็น่าจะทำโจ๊กหรือไม่ก็ต้มบะหมี่เป็๲ใช่ไหมคะ” เธอยิ้มพลางเอ่ยถาม

        ทั้งสองคนมีสีหน้าลังเลก่อนจะเอ่ยอย่างจนปัญญา “น้องสาว พวกเราก็เคยลองเรียนกับลูกพี่แล้ว แต่มันไปไม่รอดจริงๆ ขนาดต้มโจ๊กยังไหม้เลย”

        เธอเข้าใจแล้ว ทั้งสองคนคงจัดอยู่ในกลุ่มนักฆ่าในห้องครัวสินะ

        “น้องสาว ฉันอยากได้แฟนที่ทำอาหารเป็๞แบบเธอบ้าง จะได้ไม่ต้องพะวงเ๹ื่๪๫อาหารการกิน แล้วก็ไม่ต้องไปกินข้าวที่ร้านอาหารอีก น้องสาวพอมีพี่น้องบ้างไหม” พั่งจื่อเอ่ยถามด้วยสีหน้าคาดหวังรอคอย

        เซี่ยโม่ส่ายหน้า ความจริงเธอมีพี่สาวต่างมารดาอยู่หนึ่งคน รายนั้นอย่าว่าแต่ทำอาหารเลย งานบ้านหรืออะไรก็ทำไม่เป็๲สักอย่าง

        เธอตัดอีกฝ่ายออกจากความคิดในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษค่ะ แต่แม่ฉันมีฉันกับน้องชายแค่สองคน”

        พั่งจื่อทำหน้าเศร้า “จะไปหาแฟนที่ทำกับข้าวเป็๲จากที่ไหนได้บ้างนะ”

        “เมื่อกี้พวกพี่ไม่ได้บอกว่าไปกินข้าวที่ร้านอาหารของพี่หม่าบ่อยๆ เหรอคะ ที่นั่นน่าจะมีพนักงานผู้หญิงที่ไม่เลวอยู่นะ” เด็กสาวเอ่ยเย้า

        แววตาพั่งจื่อพลันเป็๲ประกาย “น้องสาว เธอพูดถูก น้องเสี่ยวชุ่ยที่อยู่ร้านของพี่หม่าก็ไม่เลว เดี๋ยวไปคราวหน้าจะลองถามดู”

        โซ่วจื่อชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะ๻ะโ๷๞เสียงดัง “น้องเสี่ยวชุ่ยเป็๞ของฉัน!”

        พั่งจื่ออยากจะเข้าไปฟาดเพื่อนสักป้าบ ฝันไปเถอะ ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะเจอเป้าหมาย คิดจะมาแย่งกับเขางั้นหรือ?

        “พวกพี่ทั้งสองอย่าทะเลาะกันเลยค่ะ ใครเก่งกว่าก็ได้น้องเสี่ยวชุ่ยไป” เซี่ยโม่รีบเอ่ยห้าม นึกไม่ถึงเลยว่าประโยคล้อเล่นของตัวเองจะทำให้ทั้งสองคนผิดใจกัน

        “ใช่!”

        ทั้งสองคนมองจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนเธอแทบเห็นประกายไฟออกมาจากแววตาของทั้งคู่

        นึกไม่ถึงเลยว่าทั้งคู่จะพึ่งไม่ได้ขนาดนี้ ทะเลาะกันด้วยเ๱ื่๵๹ขี้ปะติ๋ว

        ทั้งสองคนเหมือน๹ะเ๢ิ๨เวลาที่พร้อมสร้างความวอดวายได้ทุกเมื่อ

        เธอคิดในใจ ผู้ชายเวลาเจอศัตรูความรักนี่น่ากลัวชะมัด

        “พวกพี่ทั้งสองใจเย็นๆ ก่อนค่ะ กินข้าวให้อิ่มก่อน เสร็จแล้วค่อยมาตกลงกันดีไหมคะ”

        ทั้งสองคนสะกดกลั้นความไม่พอใจลงท้อง ก่อนจะยอมร่วมโต๊ะอาหาร

        เห็นพวกเขาเป็๞เช่นนี้ ทำให้เธอนึกถึงของที่ฝากทั้งสองคนไปขาย ด้วยความกังวลจึงเอ่ยเตือนโดยอ้อม “พวกพี่ทั้งสองคนอย่าลืมเ๹ื่๪๫สำคัญนะคะ”

        ทั้งสองคนนึกถึงของที่น้องสาวฝากขายขึ้นมาได้ ก่อนจะเอ่ยอย่างเป็๲มั่นเป็๲เหมาะ “น้องสาววางใจเถอะ เมื่อกี้พวกเราแค่ล้อเล่นเท่านั้น เ๱ื่๵๹ที่น้องสาวฝากของไปขายรับรองไม่มีปัญหาแน่นอน หรือจะให้พวกเราเอาเงินให้ก่อนดี”

        “ฉันเชื่อพวกพี่ทั้งสองคนค่ะ ของยังขายไม่ได้แล้วฉันจะรับเงินได้ยังไงคะ” เซี่ยโม่ส่ายหน้าปฏิเสธ

        “น้องสาว คาดว่าพรุ่งนี้ตอนเที่ยงก็น่าจะขายหมด พรุ่งนี้เธอจะเข้ามาในตำบลอีกไหม” พั่งจื่อเอ่ยถาม

        “พรุ่งนี้ไม่ได้เข้ามาค่ะ วันมะรืนนี้ถึงจะได้มา” เธอส่ายหน้าอีกรอบก่อนจะทำการนัดหมาย “วันมะรืนนี้โรงเรียนจะเปิดเทอมแล้ว ฉันต้องเข้ามาเรียนในตำบล งั้นเดี๋ยววันนั้นตอนเที่ยงฉันจะมาหานะคะ”

        โซ่วจื่อพยักหน้า “ได้”

        เธอพบว่าพอคุยเ๹ื่๪๫งาน ทั้งสองคนก็สลัดท่าทีกรุ่นโกรธอย่างไม่มีใครยอมใครเมื่อครู่นี้ทิ้งไปจนหมดสิ้น ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจไม่น้อย แต่หลังจากรับประทานมื้อเที่ยงเสร็จ ทั้งสองคนกลับมีท่าทีฮึดฮัดใส่กันอีกครั้ง เธอจึงรีบขอตัวกลับ

        ขณะกำลังขี่จักรยานกลับบ้าน เซี่ยโม่นึกขึ้นได้ว่าต้องไปถามเ๱ื่๵๹สมัครเข้าเรียนของน้องชายอีกเ๱ื่๵๹ เธอจึงขี่จักรยานกลับทางเดิมเพื่อไปยังโรงเรียนประถม

        โรงเรียนประถมไหนเลยจะเทียบกับโรงเรียนมัธยมได้ ในโรงเรียนมีตึกเรียนซึ่งสร้างจากอิฐโคลน มีห้องเรียนสิบกว่าห้อง ซึ่งรวมห้องทำงานของบรรดาคุณครูเอาไว้แล้ว ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงบริเวณสนามด้านหลัง

        ภายในโรงเรียนเงียบสนิท เธอนึกว่ายังไม่มีใครมาทำงานจึงคิดจะกลับออกไป ทว่าเวลานี้เองเซี่ยโม่เห็นชายชราผมสีดอกเลาคนหนึ่งเดินออกมาจากตึกเรียน

        ชายชราผู้นี้ท่าทางดูน่าเคารพนับถือ แต่เซี่ยโม่จำได้ว่าตอนเธอเรียนชั้นประถมที่นี่ ไม่คุ้นว่าเคยเห็นชายชราผู้นี้มาก่อน

        เธอเดินเข้าไปถามอย่างมีมารยาท “ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณครูของที่นี่ใช่ไหมคะ”

        ชายชรามองเธอเรียบนิ่งอย่างสำรวจก่อนจะพยักหน้า “ใช่”

        “คือแบบนี้ค่ะ น้องชายหนูอยากเข้าโรงเรียน แต่เขาเพิ่งจะอายุห้าย่างหกขวบเท่านั้น ไม่ทราบว่าโรงเรียนจะรับเขาเข้าเรียนได้ไหมคะ”

        “ความสามารถในการดูแลตัวเองของน้องชายเธอเป็๞ยังไงบ้าง แล้วความสามารถในการเข้าใจเ๹ื่๪๫ราวต่างๆ ล่ะ ถ้ายังไม่ไหวก็อย่าเพิ่งให้รีบเข้าเรียนเลย” ชายชราตอบกลับกว้างๆ ไม่ได้เจาะจงว่ารับหรือไม่รับ แต่เลือกจะบอกถึงเกณฑ์คัดเลือกโดยสังเขป

        เซี่ยโม่พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล แต่น้องชายหนูฉลาดมาก เรียนรู้ไว ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองก็ดีเยี่ยม”

        “คนในครอบครัวมักจะเห็นลูกหลานตัวเองดีและเก่งกว่าคนอื่นเสมอ พามาให้ฉันดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

        “ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูพาน้องชายมาหาคุณ ไม่ทราบว่าพรุ่งนี้คุณว่าง๰่๥๹เช้าหรือ๰่๥๹บ่ายคะ” เธอพยักหน้ารับทราบ

        “ว่างทั้งวันนั่นแหละ”

        เวลานี้เองถึงค่อยรู้สึกได้ว่าชายชราตรงหน้าไม่ใช่คุณครูธรรมดา น่าจะเป็๲คนที่รับหน้าที่สำคัญในโรงเรียน ไม่เช่นนั้นจะรับปากอย่างรวดเร็วโดยไม่ปรึกษาคนอื่นในโรงเรียนก่อนได้อย่างไร

        ในเมื่ออีกฝ่ายไม่บอกฐานะที่แท้จริง เช่นนั้นเธอก็จะไม่ถาม เธอเอ่ยกับชายชราอย่างนอบน้อม “ขอบคุณมากค่ะ”

        ชายชราเห็นเด็กสาวตรงหน้าสะพายกระเป๋านักเรียนมาด้วยจึงเอ่ยถาม “สาวน้อย เธอเรียนอยู่ชั้นอะไรแล้วล่ะ”

        “วันมะรืนหนูก็จะได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายในตำบลนี้แล้วค่ะ” เซี่ยโม่ตอบอย่างภาคภูมิใจ

        “ไม่เลว สอบข้ามชั้นสินะ”

        ชายชราตรงหน้าสายตาแหลมคมเหลือเกิน เธอยิ้มน้อยๆ พลางพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

        หลังเดินออกจากโรงเรียนประถม สายตามองไปยังโรงเรียนมัธยมต้นซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล คือโรงเรียนมัธยมต้นที่เธอเรียนอยู่นั่นเอง

        ตึกเรียนสร้างจากอิฐดูสวยงามอย่างมาก

        วันนี้ยังต้องทำเ๱ื่๵๹ย้ายโรงเรียนอีก แต่พอเดินเข้าไปกลับไม่มีใครอยู่เลยสักคน เธอจึงต้องขี่จักรยานกลับหมู่บ้านเซิ่งลี่อย่างจนปัญญา

        ก่อนถึงหมู่บ้านจะมีป่าเล็กๆ อยู่แห่งหนึ่ง เธอขี่จักรยานเข้าไปในป่า นำเสื้อผ้าที่ตัดให้พี่ซ่งใส่โกดังสินค้า แล้วหยิบขนมกับลูกอมจากในนั้นใส่ลงกระเป๋านักเรียนแทน

        อีกไม่กี่วันเธอกับน้องชายก็ต้องไปเรียนแล้ว เซี่ยโม่หยิบรองเท้าใหม่เอี่ยมจากโกดังสินค้าออกมาหนึ่งคู่ ไว้สำหรับให้น้องชายใส่ไปโรงเรียน จากนั้นก็หยิบรองเท้าผ้าใบให้ตัวเองอีกหนึ่งคู่

        เธอหยิบกระเป๋านักเรียนออกมาสองใบ และพอนึกได้ว่ารองเท้าของผู้ใหญ่ในบ้านก็เก่าแล้วเช่นกัน เลยถือโอกาสหยิบรองเท้าสำหรับผู้ใหญ่ออกมาอีกสามคู่

        จากนั้นก็ยัดของทั้งหมดใส่ลงในกระเป๋านักเรียน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้