เมื่อเว่ยฉีได้ยินก็พยักหน้า หากจะบอกว่าป่ายเจี้ยนตงได้สร้างผลงานอีกแล้ว ด้วยเื่นี้ถือว่าไม่ผิดจริงๆ “พระชายาทรงคิดว่าคนที่พาตัวท่านอ๋องไปในครั้งนี้จะเป็ชาวหูหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ”
อวิ๋นซีหันมองไปยังเว่ยฉีแทบจะในทันทีที่เขาเอื้อนเอ่ย “สงสัยเพียงนี้เชียว ถ้าอย่างไรเว่ยฉีก็ลงไปดูให้ข้าหน่อยเถิด เผื่อจะได้เป็การช่วยเปิดทางให้พวกเรา”
เว่ยฉีประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็ก้มศีรษะลง “หากว่าพระชายา้าให้ข้าน้อยกระทำเช่นนั้นจริงๆ แน่นอนว่าผู้น้อยจะไปสำรวจทางให้พระองค์โดยไม่หวั่นกลัวสิ่งใด” เขาเป็ถึงองครักษ์ัโลหิต ไม่ว่าเื่ใดเ้านายล้วนต้องมาก่อน เพราะการที่พวกเขายังคงอยู่ได้ล้วนเป็นายท่านทั้งสิ้น
“ไม่ต้องหรอก เปิ่นเฟยไปเอง” หากให้คนเหล่านี้ไป ไม่แน่ว่าอาจเป็การแหวกหญ้าให้งูตื่นก็เป็ได้ นางมองไปยังเว่ยหลง “เ้าเป็พี่ใหญ่ของพวกเขาก็ดูเอาไว้ให้ข้าหน่อย”
เมื่อเว่ยหลงได้ยินก็คิดอยากจะเข้าขวาง ทว่าความแน่วแน่ในดวงตาของอวิ๋นซีดูราวกับกำลังบอกเขาว่า ไม่ว่าอย่างไรนางก็จักต้องไปให้ได้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ทำได้แค่ส่งะุสัญญาณให้อวิ๋นซี หากนางค้นพบอะไรเข้าก็ให้รีบแจ้งพวกเขาโดยทันที และอย่าได้ไปเสี่ยงอันตรายคนเดียวเป็อันขาด
อวิ๋นซีมองเขา ก่อนจะหยิบะุสัญญาณไปแล้วจึงหายตัวไปอย่างรวดเร็ว แม้กลวิธีการต่อสู้ของนางอาจไม่ได้เก่งกาจไปกว่าองครักษ์ัโลหิต แต่วิชาตัวเบาที่มีก็ไม่ได้แย่ไปกว่าเว่ยหลง นางใช้ความสามารถนี้จนได้เข้าไปถึงหมู่บ้านนั้นภายในระยะเวลาอันสั้น ถึงกระนั้นนางก็ไม่ได้คิดจะเข้าไปใกล้เคหาสน์ในทันที แต่กลับเลือกที่จะเข้าไปในบ้านของครอบครัวหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากเคหาสน์หลังนั้นพอสมควร เมื่อนางเข้าไปแล้วก็พบว่า ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่สักคน แต่ว่าประตูใหญ่กลับเปิดทิ้งไว้เสียอย่างนั้น นางพิจารณาอาภรณ์ที่ตากอยู่นอกประตู มุมปากขยับเล็กน้อย จากนั้นจึงหยิบอาภรณ์ทั้งนอกและในเดินเข้าบ้านไป
เพียงไม่นานนางก็ออกมา ร่างทั้งร่างแปรเปลี่ยนเป็สาวบ้านนา ในมือถือตะกร้าไว้ใบหนึ่ง ด้านในนั้นเป็เห็ดที่เ้าของบ้านเพิ่งเก็บมาได้เมื่อเช้านี้
ก่อนจะจากไป นางได้วางปิ่นเงินอันหนึ่งไว้แทนที่ที่วางเห็ดเมื่อสักครู่ ด้วยของมีค่าชิ้นนี้ถือเป็ค่าเสื้อผ้าและเห็ดที่นางถือวิสาสะเอาไป หลังจากนั้นนางก็เดินถือตะกร้าเห็ดมุ่งหน้าไปยังเคหาสน์ ทันทีที่ไปถึงก็ได้แต่ยืนมองประตูใหญ่ที่ปิดสนิท มุมปากนางปรากฏเป็รอยยิ้มอันขมขื่น สีหน้ากระวนกระวายใจ “มีผู้ใดอยู่หรือไม่? ”
“มีผู้ใดอยู่หรือไม่? ”
ไม่นานนักชายอายุสิบแปดสิบเก้าผู้หนึ่งก็เดินออกมา เมื่อพิศแล้วคนย่อมไม่ใช่ชาวหู ในใจนางขบคิด หากไม่ใช่ชาวหู เช่นนั้นความเป็ไปได้เดียวก็คือ คนของโอวหยางเทียนหัว?
พรรคพวกของจวินเหยียนสังหารสายลับของอีกฝ่ายไปมากมาย หากว่าอีกฝ่ายคิดอยากจะเอาคืน ลงมือกับจวินเหยียน นี่ก็ถือเป็เื่ที่ปกติธรรมดายิ่ง
“พี่ชาย นี่เป็เห็ดที่ข้าเพิ่งไปเก็บมาเมื่อครู่ ข้าเห็นบ้านท่านใหญ่โตเพียงนี้ก็คิดไปว่าน่าจะต้องมีคนอาศัยอยู่มากเป็แน่ ดังนั้น ให้ข้าขายเห็ดเหล่านี้ให้พวกท่านจะได้หรือไม่ เห็ดของข้าสดมากจริงๆ นะ” เมื่อพูดจบ นางก็หยิบเห็ดขึ้นมาจากในตะกร้า ยื่นไปตรงหน้าบุรุษคนนั้น “ท่านดูสิ สดมากจริงๆ ”
เมื่อพูดจบ ท่าทีของอวิ๋นซีก็ดูชัดว่าประหม่า ทั้งยังมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มมือ นอกจากนี้ ยามที่เงยหน้ามองบุรุษตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของนางก็ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ดวงหน้าน้อยๆ ปรากฏเป็สีแดงระเรื่อ
บุรุษผู้นั้นจดจ้องใบหน้านาง เดิมทีคิดว่าไม่้า แต่คำพูดที่มาถึงปากแล้วกลับเป็ต้องชะงักไปยามที่เห็นสาวบ้านนาเบื้องหน้า นางช่างเป็หญิงสาวบ้านนาที่งดงามมากจริงๆ แต่เหตุใดเขาถึงไม่เคยเห็นสตรีที่งามเพียงนี้ในหมู่บ้านนี้มาก่อนเลยเล่า
อีกทั้ง ดวงตาน้อยๆ คู่นั้นจ้องมองมายังเขาทำเอาหัวใจของชายหนุ่มเป็ต้องเต้นตึกตัก อวิ๋นซีกะพริบตาใส “พี่ชาย เห็ดเหล่านี้ ท่าน้าหรือไม่ ถ้าไม่้า ข้าจะได้ไปถามผู้อื่นต่อ”
“้า ้าอยู่แล้ว” คนที่งามเพียงนี้ เมื่อพิจารณาดูแล้วก็ดูเหมือนว่าคนจะเป็สาวน้อยที่กำลังใกล้จะผลิบาน สาวน้อยที่ยังไม่เคยถูกคนเด็ดดม พอดีพวกเขาต้องอยู่ที่นี่มานานหลายวัน หากได้ลองลิ้มชิมรสของสดใหม่ได้ ก็คงจะเป็เื่ดีอย่างที่สุด
“จริงหรือ? ” อวิ๋นซีดวงตาเป็ประกายขณะมองอีกฝ่าย
บุรุษผู้นั้นพยักหน้า “จริงแน่นอน แต่พวกเราต้มเห็ดนี่ไม่เป็หรอกนะ ดังนั้น ข้าจะซื้อไว้ แต่คงต้องรบกวนให้เ้าเข้ามาช่วยพวกเราต้ม”
เมื่อนางได้ยินแล้ว ในใจก็ยินดียิ่ง เดิมคิดว่าจะมาสืบดูเสียสักหน่อยว่า คนในเคหาสน์นี้เป็ชาวหูหรือหนานเย่า มิคาดจะได้รับการเชื้อเชิญให้เข้าไปด้วย นี่ถือเป็เื่ที่ดียิ่ง เพราะหากไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือได้อย่างไร ตัวนางเองก็อยากจะดูเสียหน่อยว่าคนเหล่านี้เบื่อชีวิตแล้วหรือไร ถึงได้มาแตะต้องบุรุษของนาง
ดวงตาโตแวววาวจ้องมองบุรุษผู้นั้น จากนั้นก็ยิ้มถาม “ให้ข้าเข้าไปได้จริงหรือ? ”
บุรุษผู้นี้คิดว่านางเป็สาวน้อยไร้เดียงสาผู้แสนหลอกง่าย จึงไม่ได้คิดอะไรให้มากมายก็พยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว ขอแค่เ้าทำได้ดี ข้ายังจะมีรางวัลตอบแทนให้ด้วย ซึ่งข้าขอรับประกันว่ารางวัลที่จะให้เ้านี้ดียิ่งกว่าการขึ้นเขาไปเก็บผักป่าอยู่มากโข”
อวิ๋นซีเดินตามเขาเข้าไปแต่โดยดี แม้ด้านนอกเคหาสน์หลังนี้จะดูแล้วหรูหรา แต่เมื่อเข้ามาด้านในกลับพบว่า การตกแต่งต่างๆ ล้วนธรรมดายิ่ง ถึงกระนั้นนางก็ยังคงเสแสร้งทำเป็คุณยายหลิวเข้าชมสวนใหญ่ [1] มองเห็นสิ่งใดก็ตื่นเต้นราวกับได้เห็นของหายาก การกระทำเหล่านี้ของนางล้วนตกอยู่ในสายตาของชายที่เดินนำเข้ามาทั้งสิ้น เขาอดยิ้มเ็าไม่ได้ ช่างเป็สาวบ้านนาที่ไม่รู้จักอันใดเลยจริงๆ
อย่างไรเสียพวกเขาก็เคยลิ้มลองสตรีในหมู่บ้าน หรือสตรีโคมเขียวมามากแล้ว แต่ยังไม่เคยลิ้มลองสาวน้อยบ้านนาที่งดงามเพียงนี้มาก่อน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของบุรุษผู้นี้ก็ชวนให้คันยุบยิบ เขาพาอวิ๋นซีมุ่งหน้าไปยังโรงครัว ทว่าตอนที่ไปถึงโรงครัวนั้น เหตุเพราะยามนี้ไม่ใช่เวลาอาหาร ที่นี่จึงไม่มีแม้สักคน ชายหนุ่มบอกให้อวิ๋นซีวางตะกร้าไว้ด้านหนึ่ง จากนั้นก็คิดจะเดินเข้าไปกอดตัวแม่นางน้อยไว้
ในตอนที่เขากำลังเข้ามาใกล้นั่นเอง จู่ๆ มีดสั้นเล่มหนึ่งก็พาดไปบนหว่างขาของเขาแล้ว สีหน้าบุรุษผู้นั้นเปลี่ยนแปลงไปในทันใด เขามองไปยังอวิ๋นซีพลางคิดจะตอบโต้ ทว่าเสียงเย็นะเืของนางกลับดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน “หากไม่อยากให้เบื้องล่างเ้าแหลกละเอียด ก็หุบปากเสีย”
เมื่อบุรุษได้ยินคำขู่นั้นก็พูดขึ้นอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เ้ากล้า”
อวิ๋นซีเริงร่า “ก็ลองดูเถิดว่าตัวข้าจะกล้าหรือไม่” เมื่อพูดจบ มีดสั้นของนางก็กรีดเข้าไปยังอาภรณ์ตัวยาวของเขา สายตาของบุรุษที่บังเอิญเหลือบไปเห็นก็ใเสียจนหน้าถอดสี “เ้าคิดจะทำอันใด”
ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่า สตรีตรงหน้านี้ไม่มีทางเป็สาวน้อยบ้านนาธรรมดานั่นเด็ดขาด
“โอวหยางจวินเหยียนอยู่ที่ใด” นางยิ้มเย็นขณะมองไปยังชายหนุ่ม “อย่าได้คิดจะหลอกข้า มิเช่นนั้น เ้าก็น่าจะรู้ผลลัพธ์นะ”
เมื่อบุรุษได้ยินชื่อโอวหยางจวินเหยียน สีหน้าก็เปลี่ยนไปน้อยๆ ดวงตามืดดำมองไม่ชัด “เ้าเป็ผู้ใดกันแน่”
“พวกเ้าบังอาจแตะต้องบุรุษของข้า แต่กลับไม่รู้ว่าตัวข้าเป็ผู้ใดหรือ? ” นางพูดประโยคด้วยทั้งเสียงและสีหน้าอันอย่างเรียบเฉยแต่ทำเอาบุรุษผู้นั้นใจนตาแทบถลน
สตรีผู้นี้บอกว่า หานอ๋องเป็บุรุษของนาง และเท่าที่เขารู้มา ตอนนี้หานอ๋องมีชายาเพียงพระองค์เดียว เรือนหลังแห่งนั้นไม่มีสตรีอื่น หรือว่า... “เ้าคือชายาหานอ๋อง? ”
อวิ๋นซียิ้มบาง “ก็นับว่าไม่ได้โง่เง่าเกินไปนัก” ตอนนี้นางไม่คิดจะเสียเวลาอยู่ที่นี่กับคนผู้นี้มากเกินไปแล้ว มือขวาที่ถือมีดสั้นวางพาดบริเวณหว่างขาของเขา ส่วนมือซ้ายหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมาแล้วแทงลงไปบนลำคอของบุรุษผู้นั้น “หากไม่พูด ข้าจะสังหารเ้าเดี๋ยวนี้”
จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบบริเวณลำคอ สีหน้าซีดขาว รีบพูด “ต่อให้เ้าจะสังหารข้า เ้าก็ไม่มีทางช่วยหานอ๋องออกไปได้” ลำพังแค่สตรีตัวคนเดียวกลับคิดอยากจะไปช่วยหานอ๋องให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเขา นี่ไม่ต่างอะไรกับการเพ้อฝันชัดๆ
เข็มเงินในมือนางแทงเข้าไปยังจุดจุดหนึ่งของบุรุษผู้นั้นโดยพลัน เพียงไม่นานเขาก็มึนงงไปทั้งร่าง
————————————————————————————————
เชิงอรรถ
[1] คุณยายหลิวเข้าชมสวนใหญ่(刘姥姥进大观园)เปรียบเปรยคล้ายสำนวนไทยที่ว่า บ้านนอกเข้ากรุง หมายถึง คนที่สายตาไม่กว้างไกล ไม่ค่อยได้เห็นอะไรแปลกใหม่ ไม่ค่อยรู้เื่อะไร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้