ด้วยวิชาก้าวลวงิญญาและดาบใหญ่อันคมกริบของเซียวหลิงอวิ๋น ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วอึดใจ าแสีแดงสดและลึกถึงกระดูกหลายสิบแผลก็ปรากฏบนร่างใหญ่ั์ของเ้าหมี!
“วิ้ง!” ในขณะที่เซียวหลิงอวิ๋นกำลังจะฆ่าเ้าหมีั์ กลางอากาศที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็เกิดการสั่นะเือย่างรุนแรง เงาที่ใหญ่กว่าเงาครั้งก่อนๆ เริ่มก่อตัวขึ้นและปรากฏตัวด้วยความเร็วที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน!
ด้วยการบิดข้อมือของเขา ดาบใหญ่ก็แทงทะลุร่างหมีั์ “ซู่!” ในที่สุดหมีั์ที่มีาแเต็มตัวก็ทรุดลงไป!
เซียวหลิงอวิ๋นหันกลับมา มองไปยังภาพมายาขนาดใหญ่ที่ปรากฏตรงหน้าเขา ทันใดนั้นม่านตาก็หดตัวลง! ในที่สุดภาพมายาที่มีพลังของนักยุทธ์ระดับแปดก็ปรากฏตัวแล้ว!
อีกฝ่ายเป็นักยุทธ์ร่างสูงที่สวมชุดเกราะหนักสีดำ ถือทวนเหล็กยาวแปดจั้ง ขี่ม้าที่มีเกล็ดสีดำเงางาม แสดงความเป็นักยุทธ์อาชาเงาที่ดูสง่างามอย่างยิ่ง!
นักยุทธ์มายา!
ั์ตาของเซียวหลิงอวิ๋นหดเล็กลง!
ภาพมายานี้ได้กลายรูปร่างเป็นักยุทธ์อาชาเงาที่มีชื่อเสียงของแคว้นมู่อวิ๋นไปแล้ว!
เกราะหนัก หอกยาว ม้าเกล็ดดำ!
นักยุทธ์อาชาเงาของแคว้นมู่อวิ๋น จะต้องเป็นักยุทธ์ที่ถึงระดับเจ็ดเป็อย่างน้อย จึงจะสามารถเข้าร่วมหน่วยนี้ได้!
ม้าเกล็ดดำว่ากันว่าเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างัเกล็ดดำกับม้าูเา มีความสามารถคือวิ่งเร็วมาก และสามารถเดินทางได้หลายพันลี้ต่อวัน มีความทนทานเป็ยอด สามารถบรรทุกของหนักได้ จึงเป็ที่ชื่นชอบของนักยุทธ์ระดับสูงและผู้ใช้จิติญญาที่ยังไม่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้
อีกทั้งพลังการต่อสู้ของม้าเกล็ดดำทั่วๆ ไปที่ไม่สามารถใช้พลังสายเืของัเกล็ดดำได้นั้น ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหมีั์เลย แต่หากเป็ม้าเกล็ดดำที่สามารถใช้พลังสายเืของัเกล็ดดำได้แล้ว จะจัดอยู่ในประเภทของสัตว์อสูริญญา! ทั่วทั้งอาณาจักรซินโยว มีม้าเกล็ดดำไม่เกินหนึ่งพันตัวที่สามารถปลุกสายเืบรรพบุรุษของตัวเองได้ใน่หลายพันปีที่ผ่านมา!
แม้จะอยู่ห่างกันประมาณยี่สิบเมตร แต่เซียวหลิงอวิ๋นก็ยังสามารถััได้ถึงพลังอันน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวของนักยุทธ์อาชาเงานี้ โดยที่ไม่มีนักยุทธ์ระดับเจ็ดคนใดเทียบได้เลย ไม่ว่าจะในด้านของแรงกดดันหรือพลังยุทธ์!
นี่คือนักยุทธ์มายาที่มีพลังยุทธ์สูงสุดของชั้นที่แปด และมีพลังเทียบเท่ากับนักยุทธ์ระดับแปดเช่นเดียวกัน!
นักยุทธ์ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักยุทธ์ระดับแปด ผนวกกับสัตว์พาหนะรูปงามที่มีพลังการต่อสู้เทียบได้กับหมีั์ ด้วยการรวมตัวกันนี้ ต่อให้เป็ศิษย์ที่ถึงขั้นนักยุทธ์ระดับแปดของจริง ยังอดรู้สึกหวาดกลัวยามต้องเผชิญหน้าไม่ได้!
กุบกับๆ! ม้าเกล็ดดำย่างเท้าไปตามการควบคุมของนักยุทธ์อาชาเงา ทุกย่างก้าวที่เดินหน้า พื้นทางเดินก็ราวกับจะสั่นะเืเล็กน้อย จากตรงนี้เพียงอย่างเดียว ก็ทำให้พอจะรับรู้ถึงน้ำหนักของชุดเกราะหนักที่นักยุทธ์อาชาแบกรับอยู่!
หากเป็คนอื่น ภายใต้แรงกดดันและพลังคุกคามอันทรงพลังของนักยุทธ์อาชาเงานี้ คงถูกกดขี่ให้อยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล และถูกริดรอนพลังลงไปไม่มากก็น้อยเป็แน่!
ทว่าเซียวหลิงอวิ๋นเป็คนแบบไหนก็คงทราบกันอยู่ เมื่อเผชิญหน้ากับนักยุทธ์เงาที่แผ่แรงกดดันออกมาอย่างต่อเนื่องในแต่ละย่างก้าว ไม่เพียงแต่พลังของตนเองจะไม่ถูกริดรอนไปแล้ว ความหลงใหลและเปลวไฟแห่งการต่อสู้ที่ห่างหายไปนาน กลับปะทุออกมาราวกับูเาไฟที่มอดดับไปนานแล้วเกิดใหม่!
ในเมื่อนักยุทธ์มายาระดับนี้ปรากฏตัวที่ชั้นแปด เช่นนั้นสัตว์อสูรแบบไหนกัน? ที่จะปรากฏบนชั้นเก้า!
นักยุทธ์อาชาเงา อย่าได้คิดขวางทางข้าผู้นี้!
ด้วยพลังปราณอันบริสุทธิ์ที่หลั่งไหลออกมา เซียวหลิงอวิ๋นพุ่งตัวเข้าหาศัตรูที่ทรงพลังอย่างดุเดือด ราวกับเป็เสือชีตาห์ที่วิ่งเข้าตะครุบเหยื่อ!
ในระหว่างการบุกตะลุยด้วยความเร็วสูงนี้ กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ เืในหลอดเืทุกเส้นภายในร่างกายไหลเวียนด้วยความเร็วที่ไม่เคยเป็มาก่อน ราวกับได้รับคำสั่งการลงมา แม้กระทั่งลมปราณภายในก็ไหลเวียนด้วยความเร็วสูงจนน่าใด้วยเช่นกัน!
เนื่องจากการทำงานของลมปราณภายในที่ไหลเวียนด้วยความเร็วสูง มันจึงไปกระตุ้นกล้ามเนื้อ กระดูก ขา แขน และเส้นประสาทของเซียวหลิงอวิ๋นอย่างเต็มที่ ทั่วทั้งร่างกายขยายใหญ่ขึ้นจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า! แขนขวาที่ถือดาบใหญ่อยู่ก็หนาตัวขึ้นมาอย่างชัดเจน พร้อมด้วยเสียงปริแตกดังขึ้น เดิมทีเสื้อผ้าบนร่างกายก็ขาดวิ่นอยู่แล้ว ยามนี้ยิ่งขาดเป็ชิ้นๆ เพราะร่างกายที่กำยำผิดวิสัย ปลิวลอยออกไป!
เซียวหลิงอวิ๋นที่กลายร่างเป็ัดุร้ายในร่างมนุษย์ พุ่งออกไปราวกับลูกะุปืนใหญ่!
เมื่อเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่กำลังพุ่งเข้ามา นักยุทธ์อาชาเงาก็ยกสะโพกของตัวเองขึ้น ะโออกจากหลังม้าเกล็ดดำ ทะยานขึ้นไปในอากาศ และแล้วทวนเหล็กยาวแปดจั้งที่อยู่ในมือของนักยุทธ์ผู้นั้นก็กลายเป็ลำแสง พุ่งออกไปอย่างรุนแรง!
“ฆ่า!” เมื่อเผชิญหน้ากับหอกที่พุ่งเข้ามาราวกับัที่พุ่งหลาวขึ้นจากทะเล เซียวหลิงอวิ๋นะโเสียงดังและะโขึ้นไปในอากาศด้วยเช่นเดียวกัน แล้วถ่ายเทพลังปราณอันบริสุทธิ์และทรงพลังของเขาลงไปในดาบใหญ่เหล็กดำในมือด้วยความเร็วอันน่าใ ท่ามกลางเสียงคำรามของพยัคฆ์ ปราณดาบสามเล่มก็พุ่งออกไปอย่างต่อเนื่องด้วยพลังที่สามารถผ่าูเาได้!
กระบวนท่าที่สามจากในสี่กระบวนดาบพื้นฐาน... พยัคฆ์สามคำราม
“ตูมๆๆ!” เสียงคำรามของโลหะและเหล็กดังติดต่อกันสามครั้งรวด!
ปราณดาบใหญ่ทั้งสามเล่มรอบนี้ ทั้งรุนแรงและรวดเร็วยิ่งกว่ารอบก่อน วิ่งเข้าไปปะทะกับทวนเหล็กด้วยความเร็วสูงจนน่าใ!
ปราณดาบเล่มแรกฟันถูกที่ปลายหอก หยุดยั้งแรงส่วนใหญ่ของนักยุทธ์อาชาเงาในทันที จากนั้นปราณดาบเล่มที่สองซึ่งตามมาก็ฟันเข้าที่ด้านหลังของปลายทวน ส่วนปราณเล่มที่สามพุ่งเข้าที่ด้ามจับเหล็ก ด้วยพลังที่รุนแรง ทำให้มือขวาของนักยุทธ์อาชาเงาถึงกับสั่นสะท้าน กระบวนดาบนี้ไม่ใช่แค่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีพลังทำลายล้างทะลุทะลวงอีกด้วย ที่ฝ่ามือรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา ทวนก็แทบจะหลุดออกจากมือ จนทำให้รู้สึกตื่นตระหนก แต่ไม่นานเขาก็โคจรพลังลมปราณอย่างรวดเร็ว รีบถ่ายเทพลังไปที่มือซ้าย แล้วใช้มือข้างนั้นจับทวนขึ้นมากวัดแกว่งอีกรอบ!
หลังจากปล่อยปราณดาบออกไปแล้ว เซียวหลิงอวิ๋นก็พุ่งลงไปที่พาหนะของนักยุทธ์อาชาเงาอย่างม้าเกล็ดดำราวกับค้างคาวบิน!
แสงแวบออกมาจากดาบใหญ่ ตามด้วยเสียง “ฉัวะ!” แล้วเืก็สาดกระเซ็น!
ขาม้าขาดด้วยแสงจากดาบเมื่อครู่!
ทันใดนั้นร่างสูงใหญ่ของม้าเกล็ดดำซึ่งถูกตัดขาหน้าข้างซ้ายออก ก็ล้มลงไปข้างหน้าดังตึงทันที!
ตึง เสียงของเกราะหนักกระแทกพื้นดังตามมา นักยุทธ์อาชาเงาที่ล้มลงไปรีบเหยียดมือซ้ายดันพื้น แล้วร่างสูงใหญ่ของเขาก็ลุกขึ้นมา!
นักยุทธ์เกราะดำที่เพิ่งลุกขึ้นยืนได้ แทบไม่มีเวลาหันหลังกลับด้วยซ้ำ ทวนในมือของเขารีบกวัดแกว่งไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว!
“แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง” เสียงโลหะและเหล็กกระทบกันดังขึ้นหลายครั้งตรงทางเดิน ราวกับเสียงรัวประทัดั์!
ดาบใหญ่ของเซียวหลิงอวิ๋นเป็ดั่งลมกระโชกแรง ฟาดฟันใส่นักยุทธ์เกราะดำจนอีกฝ่ายต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่อง!
พร้อมด้วยเสียง “แกร๊ก” ที่ดังขึ้น ทวนที่ถูกฟันขาดเป็ท่อนๆ ก็พังเสียหายในที่สุด!
ช่องว่างด้านทักษะปรากฏออกมาให้เห็นเด่นชัด!
ความสามารถของเซียวหลิงอวิ๋นในการคว้าชัยชนะแสดงออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดในเวลานี้ ตัวของเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ดาบใหญ่เหล็กดำในมือกลายเป็ดั่งดาวตกพิฆาตพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว!
สิ้นเสียงดัง ”ฉึก!” ดาบใหญ่เหล็กดำก็เจาะทะลุเกราะหนาทันที แทงทะลุจากแผ่นหลังของนักยุทธ์อาชาเงาจนทะลุออกมาจากหน้าอก!
ร่างสูงของนักยุทธ์อาชาเงาพลันแข็งทื่อไปทันที สีหน้าประหลาดใจซ่อนเร้นอยู่ภายใต้เกราะหมวก ยังไม่ทันที่เขาจะได้ต่อสู้อย่างเต็มที่ ก็ถูกอีกฝ่ายฆ่าตายในลักษณะที่น่าอับอายเช่นนี้เสียแล้ว!
เขาพยายามออกแรงหันกลับมา มองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นซึ่งอยู่ข้างหลัง อ้าปากออกเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งเสียงดัง “ซู่” อย่างแ่เบา แล้วตัวของเขาก็สลายหายไป!
“ฉึก!” ดาบใหญ่เหล็กดำปักลงกับพื้น เซียวหลิงอวิ๋นรู้สึกว่ากล้ามเนื้อทั้งหมดในกายของเขาสั่นไปหมด เริ่มหายใจไม่ออก! ใน่เวลาสั้นๆ ประมาณสิบชั่วอึดใจ พลังปราณในกายเกือบทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมาในคราวเดียว เพื่อจัดการสังหารนักยุทธ์มายาที่มีพลังเทียบเท่ากับนักยุทธ์ระดับแปด
การต่อสู้ครั้งนี้แม้ดูเหมือนใช้เวลาไม่นานนัก แต่การสูญเสียพลังกายและพลังปราณนั้นมากยิ่งกว่าการต่อสู้ครั้งไหนๆ ก่อนหน้านี้!
ต้องรีบพักผ่อนแล้ว!
เขานั่งลงกับพื้นเพื่อปรับสภาพลมหายใจให้เข้าที่!
ครู่หนึ่งผ่านไป!
‘วิ้ง’ สัตว์อสูรมายาอีกตัวกำลังจะปรากฏตัวขึ้นในอีกไม่ช้า!
เซียวหลิงอวิ๋นไม่พูดพร่ำทำเพลง ลุกขึ้นยืนแล้วไปจัดการมันทันที!
เสร็จแล้วก็กลับมาพักผ่อนต่อ!
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ลุกขึ้นมาจัดการอีกครั้ง ครั้นผ่านเหตุการณ์ซ้ำเดิมเช่นนี้ไปสามรอบ เซียวหลิงอวิ๋นก็คาดเดาถึงรูปแบบที่เกิดขึ้นได้แล้ว หากตัวเขานั่งลงและพักเหนื่อยจนครบหนึ่งร้อยชั่วอึดใจ ก็จะมีสัตว์อสูรมายาปรากฏตัวขึ้นโดยอัตโนมัติ!
ดูเหมือนว่า...อ๊ะ จริงด้วย!
หลังจากสัตว์อสูรสามตัวที่มีพลังของนักยุทธ์ระดับห้า และสัตว์อสูรอีกหนึ่งตัวที่มีพลังของนักยุทธ์ระดับหกปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เซียวหลิงอวิ๋นก็ลุกขึ้น เดินปรี่เข้าไปหาพวกมัน แล้วจัดการสังหารตัวที่มีพลังระดับห้าทั้งสองตัวภายในสองกระบวนดาบ จากนั้นก็ใช้วิชาก้าวลวงิญญาเล่น ‘วิ่งไล่จับ’ กับสัตว์อสูรอีกสองตัวที่เหลือ
จริงด้วย ไยไม่ทดลองดูสักหน่อยเล่า?
หนึ่งนาที... สองนาที... สามนาทีผ่านไป อ๊ะ วิธีนี้ได้ผล!
ยอดเยี่ยม! ไม่เพียงแต่จะได้ฝึกฝนวิชาก้าวลวงิญญาเท่านั้น ยังช่วยให้เขามีเวลาฟื้นฟูพลังปราณภายในมากขึ้นอีกด้วย!
หลังจากเล่น ‘วิ่งไล่จับ’ กับสัตว์อสูรระดับล่างสองตัวนี้เป็เวลาสิบนาทีแล้ว เซียวหลิงอวิ๋นก็จัดการลงมือสังหารสัตว์อสูรที่กำลังหายใจหอบอย่างหนักทั้งสองตัวนี้ทันที!
หลังจากนั้น ระหว่างทางหากเขาพบกับนักยุทธ์มายาระดับเจ็ดอีก เซียวหลิงอวิ๋นก็จะใช้วิธีการที่ฉับพลันและรุนแรงที่สุดในการจัดการกับศัตรู และหากเขาพบกับสัตว์อสูรที่มีพลังเทียบเท่านักยุทธ์ระดับห้าหรือหก เขาก็จะใช้วิธี ‘วิ่งไล่จับ’ เพื่อฟื้นฟูพลังปราณบางส่วน แล้วค่อยจัดการกับพวกมัน!
สองชั่วยามต่อมาการเดินทางบนชั้นแปดก็ดำเนินไปถึงเก้าส่วนแล้ว เหลือแค่เพียงหนึ่งกิโลเมตรสุดท้ายเท่านั้น!
ในเวลานี้ทั้งพลังกายและพลังปราณของเซียวหลิงอวิ๋นฟื้นคืนกลับมาถึงแปดส่วนแล้ว
ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดี เซียวหลิงอวิ๋นฆ่าสัตว์อสูรมายาหลังจากที่ ‘เล่นวิ่งไล่จับเจ็ดถึงแปดนาที’ อย่างสบายอารมณ์ ทว่าเมื่อมองไปยังทางเดินข้างหน้าที่อยู่ห่างไกลออกไป สีหน้าเต็มตื้นยินดีบนใบหน้าแต่เดิมของเขาก็กลับกลายเป็แข็งทื่อ!
ลมแทบจับ! การทดสอบนี้มันอะไรกัน! เหตุใดถึงได้อำมหิตถึงเพียงนี้!
เหลืออีกแค่หนึ่งกิโลเมตรสุดท้ายเท่านั้น เพราะเหตุใดถึงยังมีศัตรูแบบนี้หลงเหลืออีก!
ตรงทางเดินอีกยาวไกลเบื้องหน้า มีภาพมายาปรากฏขึ้นถึงหกตัว!
หากเป็เพียงสัตว์อสูรหกตัวก็อาจจะยังรับมือง่ายอยู่ แต่ประเด็นคือ ในบรรดาสัตว์อสูรทั้งหกนี้ มีเพียงสามตัวเท่านั้นที่เป็สัตว์อสูร ทว่าอีกสามตัวล้วนเป็นักยุทธ์มายา!
ที่สำคัญคือในบรรดาภาพนักยุทธ์มายาทั้งสามคนนี้ อีกสองคนดันเป็นักยุทธ์อาชาที่ขี่ม้าเกล็ดดำเสียด้วย!
สองนักยุทธ์อาชาเงากับอีกหนึ่งนักยุทธ์มายาลำพังสามคนนี้ก็ทำให้เซียวหลิงอวิ๋นจุกเต็มกลืนแล้ว นี่ยังพาพี่น้องสัตว์อสูรพ่วงมาด้วยอีกสามตัว!
ช่างน่าละเหี่ยใจเสียจริง! เอากันจนหยดสุดท้ายเลยหรือ!
สู้ก็สู้วะ!
เซียวหลิงอวิ๋นกัดฟันแน่น!
อย่างไรก็ดี ตอนนี้ขอพักผ่อนเอาแรงก่อนดีกว่า คงจะดีหากสามารถฟื้นฟูแรงกายได้อีกสักหนึ่งส่วน! เซียวหลิงอวิ๋นจึงหยุดก้าวเดินต่อไปข้างหน้า!
แต่เพียงเพราะเขาหยุดเดิน ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะไม่เดินหน้าเข้ามาเช่นกัน!
“กุบกับๆ!” เสียงกีบม้าที่ดังกระทบโสตประสาทและหนักแน่นดังขึ้น เป็นักยุทธ์อาชาเงาที่เดินนำมาก่อน ตามด้วยสัตว์อสูรทั้งสามตัวที่เดินหน้ามาพร้อมกับนักยุทธ์อาชาเงา!
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว เซียวหลิงอวิ๋นไม่เพียงแต่จะไม่แตกตื่น ดวงตาของเขากลับสว่างวาบขึ้นด้วยซ้ำ!
ฮ่าฮ่า ตัวเรานี่ช่างโชคดีเสียจริง!
นักยุทธ์อาชาเงาเข้ามาแค่ตัวเดียวเช่นนี้! ก็หวานหมูเลยน่ะสิ จะได้จัดการเก็บทีละตัวเสียเลย ฮ่าๆๆ!
ด้วยดวงตาที่เป็ประกายและรอยยิ้มบนริมฝีปาก เซียวหลิงอวิ๋นมองไปที่นักยุทธ์อาชาเงาซึ่งควบอยู่บนหลังม้าและกำลังเดินตรงมา! แต่แทนที่จะเดินเข้าไปหา เขากลับค่อยๆ เดินถอยหลังอย่างเงียบเชียบ!
ในเมื่อคิดจะจัดการเก็บทีละตัวแล้ว ก็ไม่ควรดึงความสนใจอีกสองตัวที่เหลือให้กรูเข้ามาหา จะเป็การดีกว่าหากขยับสถานที่ต่อสู้ให้ห่างออกมาเพื่อความปลอดภัย!
เยี่ยมๆๆ! เ้าตัวร้ายกาจอีกสองตัวไม่ขยับ!
ยอดไปเลย!
ฮ่าๆๆ!
เซียวหลิงอวิ๋นที่ถอยออกมาอย่างเงียบๆ แสยะยิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงรูหูอยู่รอมร่อ!
ในขณะที่ถอยหลังออกมา เซียวหลิงอวิ๋นกวักมืออย่างมีความสุขให้กับสัตว์อสูรทั้งสามและนักยุทธ์อาชาเงา เป็เชิงให้อีกฝ่ายตามเขามาทีละก้าว รอยยิ้มอันสดใสบนใบหน้าของเขา ให้ความรู้สึกราวกับตัวเขาแค่มาที่นี่เพื่อเล่นสนุกฆ่าเวลาเท่านั้น!
