พลังชีวิตของคางคกั์แห่งความละโมบ: 0/80,000
เมื่อปลดปล่อยการโจมตีครั้งสุดท้ายออกไป หลิงเฉินก็หมดสติ เนื่องจากเขาแทบจะไม่รู้สึกถึงร่างกายของตัวเองจึงทำได้เพียงปล่อยให้มันล้มลงไปเหมือนกับฟองน้ำในสายตาที่พร่ามัวไม่ชัดเจน เขามองเห็นค่าความเสียหายสีม่วง เขาฉีกยิ้ม ก่อนจะล้มลงไปบนพื้นอย่างแรงถึงแม้หลิงเฉินจะมองเห็นได้ไม่ชัดว่าค่าความเสียหายมากแค่ไหน แต่การมองเห็นค่าความเสียหายสีม่วงนั้นก็เพียงพอแล้ว
มันสำเร็จ...
ณ ห้วงเวลาสุดท้ายนี้ภายใต้พลังของความเชื่อมั่นอันแรงกล้าเฮือกสุดท้าย ในที่สุดเขาก็เปิดใช้งานความหวังสุดท้ายซึ่งมีโอกาสแค่สามในหนึ่งพันครั้งสำเร็จสิ่งนี้ไม่ใช่ความหวัง มันต้องเรียกว่าปาฏิหาริย์เท่านั้น
หลอดพลังชีวิตของคางคกั์แห่งความละโมบหายไปจนเกลี้ยง มันยังอยู่ในท่าที่กำลังจะปลดปล่อยสกิล‘ผ่าพสุธา’ และปากขนาดใหญ่ที่อ้ากว้าง รวมทั้งดวงตาสีเขียวแกมดำทั้งสองข้างที่ค่อยๆมืดสลัวลง ท้ายที่สุดมันก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความสิ้นหวังและค่อยๆ เอนตัวไปด้านหลังก่อนร่วงลงบนพื้นพร้อมกับเท้าทั้งสี่ข้างที่ชี้ขึ้นบนฟ้าพร้อมกับเสียงอันดังกึกก้องจนทำให้ฝุ่นละอองบนพื้นปลิวว่อนไปทั่วคางคกั์ไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป รวมถึงดวงตาขนาดใหญ่ของมันก็หมดแสงลงในเวลานี้
คางคกั์แห่งความละโมบ...ตาย
“ดริ๊งคุณฆ่า ‘คางคกั์แห่งความละโมบ’ มอนสเตอร์บอสระดับนางฟ้า เลเวล 10สำเร็จ ชื่อเสียง +1,000 แต้มสกิล +1,000”
“ดริ๊งคุณเป็ผู้เล่นคนแรกในเกมเสินเยว่ที่สามารถฆ่าบอสระดับนางฟ้า รางวัล:ชื่อเสียง +1,000 ทอง +1,000 แต้มสกิล+1,000 และไอเทมพิเศษ ‘เหรียญตราแห่งความกลมกลืน’
“ดริ๊งขอแสดงความยินดี คุณเลเวลอัพ ตอนนี้ LV6 HP +10 MP +10 แต้มสกิล +5”
“ดริ๊งขอแสดงความยินดี คุณเลเวลอัพ ตอนนี้ LV7...”
“ดริ๊งขอแสดงความยินดี คุณเลเวลอัพ ตอนนี้ LV8...”
“ดริ๊งขอแสดงความยินดี คุณเลเวลอัพ ตอนนี้ LV9 HP +10 MP +10 แต้มสกิล +5”
“ดริ๊งภายใต้สถานการณ์ที่สิ้นหวัง คุณสังเวยจิตใจและจิติญญา อีกทั้งใช้ความเพียรพยายามจนพิชิตคู่ต่อสู้ที่ไม่อาจเอาชนะได้ในที่สุดก็สร้างปาฏิหาริย์ เอาชนะบอสระดับนางฟ้าเลเวล 10 ด้วยตัวคนเดียวในขณะที่มีเลเวล 5 นับเป็ผู้เล่นคนแรกที่บรรลุเงื่อนไข‘ปาฏิหาริย์’ ของเกมเสินเยว่และได้รับสกิล ‘สังเวยจิติญญา’
“ดริ๊งคุณฆ่า ‘คางคกั์แห่งความละโมบ’ สำเร็จ ประตูสู่พื้นที่ชั้น 6ของ ‘ถ้ำที่ถูกลืม’ เปิดออก”
เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นข้างหูของหลิงเฉินอยู่นาน ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับจากบอสระดับนางฟ้านั้นค่อนข้างมากท่ามกลางแสงสว่างที่ส่องประกายขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เลเวลของเขาพุ่งขึ้น 4 เลเวลติดๆ กัน และในที่สุดก็หยุดอยู่ที่ LV9กับอีก 50% ในวินาทีนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเลเวลอันน้อยนิดของเขาได้พุ่งทะยานไปสู่เลเวลสูงสุดของประเทศจีนLV9 ในตอนนี้นับเป็เลเวลที่ผู้เล่นทั่วไปไม่อาจไปถึงได้โดยง่าย
เก้าชั่วโมงแห่งการทุ่มเท การดิ้นรนและการยืนหยัดต่อสู้ที่ไม่เคยสั่นไหวจิตใจอันเหนื่อยล้าสุดขีดของเขาสิ่งนี้นับเป็ปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง มันเป็ปาฏิหาริย์ที่มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างขึ้นมาได้รางวัลเหล่านี้คือสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับซึ่งเป็ผลของความมุ่งมั่น ความทุ่มเทและความตั้งใจทั้งหมดของเขา
ด้วยพลังสูงสุดของเขารวมกับดาบแห่งจิต ยาสูตรพิเศษจากร้านขายไอเทมน้ำลายแมงมุมโลกันต์ซึ่งดรอปจากแมงมุมโลกันต์ และสกิล ‘เปลวเพลิงแห่งความพิโรธ’ ซึ่งปลดล็อคระหว่างการต่อสู้กับคางคกั์แห่งความละโมบสำหรับการโจมตีแห่งปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้ายนั้น ถ้าขาดองค์ประกอบของสิ่งต่างๆเหล่านี้ไป ปาฏิหาริย์นี้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้น ถ้าไม่มีจี้ไพลินอำนวยพรเส้นนั้นเขาก็ไม่มีทางมาอยู่ที่นี่ ปาฏิหาริย์ที่แท้จริงมักเกิดจากการรวมกันของโชคชะตาการทุ่มเทตั้งใจและการอุทิศตน
การตายของบอสระดับนางฟ้าจะมาพร้อมกับการะเิอันสุดเหลือเชื่อในตอนที่คางคกั์แห่งความละโมบล้มลงไป สายตาที่พร่ามัวของหลิงเฉินก็มองเห็นไอเทมกลุ่มใหญ่หลากหลายสีสันดรอปออกมาจากร่างของมันจิตใจของเขาซึ่งผ่อนคลายอย่างถึงที่สุดตกสู่ความเหนื่อยล้าที่ไม่อาจต้านทานได้ เขาไม่สามารถมองเห็นว่ารางวัลพวกนั้นคืออะไรยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่มีพลังที่จะลุกขึ้นไปเก็บพวกมันตาของเขาปิดลงและหลับไปในทันทีโดยก่อนที่เขาจะหมดสติหูของเขายังคงดังอื้ออึงไปด้วยเสียงแจ้งเตือนของระบบ
“ดริ๊งจิตใจของคุณตกสู่สภาพที่อันตรายอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยคุณจะถูกบังคับให้ออฟไลน์”
ตอนที่เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น หลิงเฉินก็ถูกห้อมล้อมอยู่ในแสงสีขาวและออฟไลน์ออกจากพื้นที่ชั้น5 ซึ่งในที่สุดก็เงียบสงบอสูรั์ที่หลับใหลอยู่ที่นี่ั้แ่เริ่ม ตอนนี้นอนเอาเท้าทั้งสี่ข้างชี้ขึ้นฟ้าโดยไร้ซึ่งเสียงใดๆร่างกายของมันห้อมล้อมไปด้วยไอเทมประเภทต่างๆ ซึ่งเปล่งแสงอันวิจิตรงดงามถ้าหากไอเทมเหล่านี้ดรอปจากมอนสเตอร์ธรรมดา รวมถึงพวกมอสเตอร์บอสระดับลอร์ดและไม่มีใครเก็บไปเป็เวลานานพวกมันก็จะหายไปโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเป็มอนสเตอร์บอสระดับนางฟ้าหรือสูงกว่า ถึงแม้จะไม่มีใครเก็บไปพวกมันก็จะไม่หายไปไหน รวมทั้งซากของพวกมันด้วย เพราะเหตุนี้หลิงเฉินจึงหลับได้อย่างสนิทใจเขามั่นใจว่าจะไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นที่นี่อย่างน้อยที่สุดก็ใน่เวลาสั้นๆ นี้ฉะนั้นแล้วจะไม่มีใครนำของรางวัลของเขาไปได้
การงีบหลับครั้งนี้ หลิงเฉินหลับลึกมากๆ มันเป็ความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจซึ่งอยู่ในระดับที่เกือบจะน่ากลัวกว่าการไม่ได้นอนหลับสิบวันติดกันหากเป็คนธรรมดาซึ่งเหน็ดเหนื่อยจนถึงระดับนี้ พวกเขาคงจะสูญเสียพลังชีวิตไปกว่าครึ่งและต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการฟื้นฟู...
ทว่ายังไม่ถึง่บ่าย จู่ๆ หลิงเฉินก็ตื่นขึ้นเขารีบลุกขึ้นนั่งบนเตียง หัวของเขาราวกับกำลังจะะเิหนังตาของเขาหนักมากจนเขาแทบจะเปิดไม่ขึ้น เขาพยายามทำให้การมองเห็นของเขาชัดเจนขึ้นก่อนมองไปที่นาฬิกาบนผนัง...
เวลา 6 โมงเย็น
“พี่คะ พี่ตื่นแล้ว...นี่ค่ะ พี่ดื่มอะไรก่อนนะคะ แล้วค่อยกลับไปนอนต่อโอเค?! ”
เสียงอันนุ่มนวลทำให้สติที่ยังไม่แจ่มชัดของหลิงเฉินตื่นขึ้นอย่างเต็มที่เขามองเห็นดวงตาของหลิงสุ่ยรั่ว หลังจากงงงวยอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รีบพยุงไหล่อันประณีตของเธอและกล่าวอย่างกังวล“รั่วรั่ว เธอหิวไหม เธอยังไม่ได้ทานอาหารเช้ากับอาหารกลางวัน...”
หลิงเฉินโขกหัวตัวเองอย่างแรง เหตุผลซึ่งทำให้เขาตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วก็เพราะจิตใต้สำนึกของเขาที่เป็ห่วงหลิงสุ่ยรั่วหากไม่มีเขาหลิงสุ่ยรั่วก็เดินและดูแลตัวเองไม่ได้แต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมันก็เป็่เย็นแล้วนั่นก็หมายความว่าไม่มีใครดูแลเธอตลอดทั้งวัน เขารู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ทำไปจนอยากจะเอาหัวโขกกับกำแพง
หลิงสุ่ยรั่วฉีกยิ้มและส่ายหัวเบาๆ “ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอนค่ะหนูดูแลตัวเองได้ ถ้าพี่ไม่เชื่อก็ดูนะคะ สำหรับมื้อเช้าหนูทานขนมปังชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้นกับนมอุ่นๆหนึ่งแก้ว นี่คือหลักฐานค่ะ ส่วนตอนบ่าย หนูดื่มน้ำผลไม้ขวดใหญ่หนึ่งขวด และกินผลไม้ทุกลูกที่พี่ล้างไว้ดูนี่สิคะ หลักฐานอยู่ตรงนั้น นอกจากนี้หนูยังเตรียมอาหารเย็นและแบ่งไว้ให้พี่ด้วยนะคะพี่คะดูนี่สิ ฮ่าๆ แต่ยังไงหนูก็ต้องให้พี่ล้างจานทั้งหมดอยู่นะคะ
โต๊ะข้างเตียงเต็มไปด้วยถุงขนมปัง แก้วที่เปรอะคราบนมขวดน้ำผลไม้เปล่า เมล็ดกับเปลือกผลไม้ในจานใบเล็กๆ และนมอุ่นๆ สองแก้วหลิงเฉินยิ้มบางๆ แต่จมูกของเขากระตุกเล็กน้อย ตาของเขารู้สึกยังกับว่ามีบางอย่างเอ่อล้นออกมาเงียบๆเขาดูเหมือนจะมองเห็นเด็กสาวที่บอบบางเบื้องหน้าสวมใส่เสื้อผ้าด้วยความยากลำบาก ควบคุมวีลแชร์เพื่อหาอาหารเช้าและอาหารเที่ยงจากนั้นก็วางหลักฐานของอาหารเช้าและอาหารเที่ยงที่เธอทานไปแล้วตรงหน้าของเขาอย่างตั้งใจเพื่อให้เขาไม่ต้องเป็ห่วงเธอ และไม่ต้องรู้สึกผิด
“มันเห็นได้ชัดเลยว่าพี่ยังไม่ได้ทานอะไรตลอดทั้งวัน พี่คะรีบดื่มนมแก้วนี้ให้หมด ไม่งั้นหนูจะไม่ให้พี่นอนนะคะ” หลิงสุ่ยรั่วยกแก้วนมมาวางไว้ด้านหน้าหลิงเฉินเขารีบคว้ามือเธออย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าน้ำหนักของแก้วเล็กๆ ใบนี้มีความสำคัญต่อเด็กสาวคนนี้
“วันนี้ พี่...”
“พี่ค่อยพูดกับหนูอีกทีหลังจากพักผ่อนเสร็จนะคะ ตอนนี้พี่ต้องดื่มนมให้หมดตามที่หนูสั่งเพราะหนูอุ่นนมเตรียมไว้ให้พี่นานมากแล้ว” หลิงสุ่ยรั่วจ้องมองหลิงเฉิน และกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล
หลิงเฉินไม่พูดต่อ เขายิ้มอย่างอบอุ่นก่อนจะยกแก้วนมขึ้นดื่มอย่างมูมมามเขาต่อสู้อย่างหนักตลอดทั้งคืน และไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวันจึงทำให้เขาหิวมากๆ
หลิงสุ่ยรั่วจ้องมองหลิงเฉินด้วยความเป็ห่วงตลอดเวลา สายตาของเธออ่อนโยนราวกับสายน้ำทันใดนั้นคิ้วของเธอก็โก่งขึ้น เธอเริ่มหัวเราะ มันเป็การหัวเราะที่มีความสุขมากๆ“พี่คะ พี่รู้ไหมว่าในตอนบ่าย หนูไม่ได้ใช้วีลแชร์เลยสำหรับการเดินจากปลายด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่นไปอีกปลายด้านหนึ่งและเดินกลับมาในระหว่างนั้นหนูล้มลงไปแค่หนเดียวเอง แล้วหนูก็ไม่ได้เกาะอะไรเลยนะคะ!”
หลิงเฉิน: “...”
ก่อนหน้านี้ ด้วยการพยุงของหลิงเฉินหลิงสุ่ยรั่วสามารถเดินได้แค่ 7-8 ก้าว และหากไม่มีใครช่วยพยุงเธอก็แทบจะยืนไม่ได้ สุ่ยรั่วไม่เคยหลอกลวงเขา เธอเดินไปทั่วห้องนั่งเล่นได้ด้วยตัวเองจริงๆ!?
ยา 23113 แสดงผลแล้ว?
หัวใจของหลิงเฉินเริ่มเต้นเร็วขึ้น ความรู้สึกดีใจที่เขารู้สึกนั้นมากยิ่งกว่าการที่เขาฆ่าคางคกั์แห่งความละโมบสำเร็จถึง 100 เท่า เขาวางแก้วนมที่ว่างเปล่าลง ก่อนระงับความตื่นเต้นในใจและบนใบหน้าเขาใช้น้ำเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อยกล่าวออกไป “สุ่ยรั่ว พรุ่งนี้ พวกเราจะพวกเราจะไปโรงพยาบาลอีกครั้ง!”
“ตกลงค่ะ!! ”
แต่ก่อนโรงพยาบาลเป็สถานที่ที่สุ่ยรั่วกลัวมากที่สุด ทุกครั้งที่เธอไปที่นี่ใบหน้าอันสดใสของเธอก็จะซีดเผือด แต่เวลานี้เธอเห็นด้วยอย่างง่ายดายและยังตื่นเต้นด้วยเพราะเธอรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเธอ ยิ่งกว่านั้นเธอยังมองเห็นอนาคตที่ชัดเจนของตัวเธอและหลิงเฉิน
“รั่วรั่ว พักผ่อนก่อนนะ อาหารเย็นจะเสร็จในอีกไม่ช้า!” หลิงเฉินอุ้มสุ่ยรั่วกลับไปที่เตียงจากนั้นเขาก็ะโลุกจากเตียง และถลาเข้าใส่รองเท้าของเขาอย่างแม่นยำ ข่าวดีที่น่าประหลาดใจเื่นี้ได้กวาดเอาความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจของเขาออกไปจนหมดสิ้น
“แต่พี่ดูเหนื่อยมากๆ เลย พี่ควรพักผ่อนอีกหน่อยนะคะ”
“ฮ่าๆ พี่หลับมาทั้งวันแล้ว ถ้าพี่นอนมากกว่านี้พี่คงกลายเป็หมู” หลิงเฉินเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเสียงหัวเราะและตรงไปที่ห้องครัว
อาหารเย็นของวันนี้อร่อยเป็พิเศษ หลิงเฉินและสุ่ยรั่วทานเยอะมากในเวลากลางคืน หลิงเฉินนอนหลับอย่างสนิท พร้อมกับกอดร่างอันอ่อนโยนของสุ่ยรั่วไว้เขาไม่ได้เข้าสู่โลกเสินเยว่เพราะเขายังเหนื่อยล้ามากเกินไปถึงแม้เขาจะมีร่างกายที่ไม่ธรรมดาแต่มันก็เป็เวลาที่เขาควรจะพักผ่อน
ในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ข้างๆ ซากศพของคางคกั์ ไอเทมกองใหญ่ซึ่งวางอยู่บนพื้นอย่างเงียบสงบกำลังกระพริบแสงหลากสีและกำลังรอใครสักคนมาเก็บพวกมันไป