แต่ทว่ามันไม่มีทางเป็ไปได้อยู่แล้วตอนนี้อีกฝ่ายเป็ลูกศิษย์ของศัตรูของเขา ดังนั้นอีกฝ่ายก็ต้องเป็ศัตรูของเขาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาจะต้องกดอีกฝ่ายให้ไม่มีโอกาสได้เกิดในเส้นทางสายนี้และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายรอดไปอย่างง่ายดายแน่นอน!
“เป็เพราะพวกเขาไม่ต้องเผชิญคำถามแบบผม หรือว่าพวกเขาเผชิญคำถามแบบนี้แต่ไม่ได้สอบถาม?”
หลินเยว่ยังคงถามต่อไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผู้เข้าแข่งขันก่อนหน้าเขามีเพียง 3 คนและคนที่มีโอกาสไม่ได้รับความเป็ธรรมมีเพียงคนเดียวก็คือหลี่เฉียนโจวและในขณะเดียวกันผู้ที่ทำให้อีกฝ่ายไม่ได้รับความเป็ธรรมก็คงมีเพียงท่านเฮ่อฉางเหออาจารย์ของเขาเท่านั้นตอนที่เห็นสีหน้าของหลี่เฉียนโจวตอนเดินออกไปเขาก็รู้อยู่แล้วว่าน่าจะเป็เช่นนี้และหลินเยว่ก็มั่นใจว่าหลี่เฉียนโจวจะไม่ได้ถามออกมา เพราะอีกฝ่ายดูเป็พวกขี้ขลาดไม่มีทางกล้าเผชิญหน้าสอบถามกับคนอื่นโดยตรงเพราะอีกฝ่ายทำเป็แค่ลอบกัดลับหลังเท่านั้นเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตั้งคำถามว่า... มีคนถามแล้วไม่มีการตอบใช่หรือเปล่า?
“เผชิญคำถามแบบนี้แต่ไม่ได้สอบถามในเมื่อคนอื่นไม่ได้ถาม ถ้าอย่างนั้นคุณจะถามทำไมล่ะ รีบตอบได้แล้วพวกเราไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือพอที่จะมาเสียให้กับคุณ คนอื่นๆ ยังต้องร่วมทดสอบอีก!”
“เอ่อ ผมต้องขอโทษด้วยที่จะต้องบอกกับท่านเช่นนี้ผมเป็คนสุดท้ายที่ทำการทดสอบในเช้าวันนี้ นั่นก็หมายความว่าเช้าวันนี้จะไม่มีใครรอต่อจากผมอีกแล้ว ดังนั้น ทุกคนจึงมีเวลาเหลือเฟือในเมื่อคนอื่นไม่ได้ถามก็ถือว่าเป็ความสูญเสียของพวกเขาเองไม่มีคนถามไม่ได้หมายความว่าจะตอบไม่ได้นี่ครับ หากคำถาม 1 คำถามแม้กระทั่งเกณฑ์ในการให้คะแนนยังไม่ชัดเจนถ้าเช่นนั้นคำถามนั้นยังถือว่าได้มาตรฐานหรือเปล่า? ดังนั้นเพื่อเป็การแสดงถึงความสามารถในการตั้งคำถามของท่านเฉินผมจึงขอทราบว่ามาตรฐานการให้คะแนนเป็อย่างไรครับ”
หลินเยว่ยิ้มและพูดขึ้นสายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ดวงตาของเฉินเฟยอยู่ตลอด ไม่ได้เบี่ยงหนีเลยสักนิด และก็ไม่มีการยอมให้เลยเช่นกัน
“ในเมื่อข้อสอบถูกออกมาแล้วผู้ที่ทำการทดสอบจะต้องตัดสินใจเอง หากพูดเพิ่มเติมออกมาก็ถือว่าเป็การโกงคุณคงไม่อยากให้ผมตัดสินว่าคุณทุจริตหรอกนะ? หากคุณยังคิดจะทำตัวไร้เหตุผลอีกล่ะก็ผมจะให้คุณ 0 คะแนน!”
คำพูดของหลินเยว่ทำให้เฉินเฟยเกิดอาการอึ้งไปทันทีเด็กหนุ่มตรงหน้าเซ้าซี้ประเด็นนี้ไม่เลิกจริงๆ ดังนั้นเขาจึงจำเป็ต้องใช้ไม้เด็ด หากอีกฝ่ายยังคงเซ้าซี้ต่อไปเขาก็จะตัดสินว่าอีกฝ่ายทำตัวไร้เหตุผลและให้ 0 คะแนน
“ใครกันที่ทำตัวไร้เหตุผลใครที่กำลังกลั่นแกล้งคนอื่น เหตุการณ์ในครั้งนี้ทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจ คำถามที่ไม่มีทางตอบได้ภายใน3 นาทีคำถามที่ไม่รู้เกณฑ์การให้คะแนนที่แน่นอนแล้วคำถามเช่นนี้จะให้ผู้น้อยตอบได้อย่างไรหรือว่านี่จะเป็การกระทำที่ท่านาุโใช้เพื่อรังแกผู้น้อยอย่างพวกผมหากเจตนาที่จะทำเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นผมก็จะตอบ แต่หากไม่ได้มีเจตนาเช่นนี้ ผมก็ไม่เข้าใจจริงๆ!หากท่านคิดว่าการที่ผม้ารู้ความจริงจะถือว่าเป็การทำตัวไร้เหตุผลถ้าเช่นนั้นผมยอมแล้วก็ได้ เพราะท่านเฉินเป็กรรมการคำพูดของผู้น้อยอย่างผมคงไม่มีทางส่งผลอะไรผมคิดว่ากรรมการที่ได้มาตรฐานควรจะต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับผู้ทำการทดสอบ ท่านเฉินผมอยากได้ยินคำอธิบายของท่าน ทำไมท่านถึงตั้งคำถามนี้กับผมครับ?”
หลินเยว่ยังคงสบตาตรงๆ กับเฉินเฟยน้ำเสียงของเขาดูเรียบเฉยและเด็ดขาดมากยิ่งขึ้นแต่ละประโยคมีความแหลมคมราวกับมีดสั้นที่แทงลงบนทรวงอกของเฉินเฟยเป็การจ้วงอย่างแรง ทำให้อีกฝ่ายไร้คำพูดตอบโต้
“นี่ก็คือการทำตัวไร้เหตุผลของคุณไงล่ะ ผมไม่จำเป็จะต้องมีคำอธิบายให้กับคนไร้เหตุผลอย่างคุณผมคิดว่าคุณกำลังจงใจยื้อเวลาออกไปมากกว่า หากคุณพูดออกมาอีกเพียงประโยคเดียว ผมจะให้คุณ0 คะแนน!”
เฉินเฟยเริ่มไม่ได้มั่นใจเหมือนในตอนแรกเขาเริ่มขยาดกับอีกฝ่าย และในตอนนี้ทุกคนต่างรู้ดีว่าเฉินเฟยกำลังพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้ายคำพูดของเขาไม่มีเหตุมีผลเลยสักนิด แต่ทว่าเขาเป็กรรมการท่านหนึ่งจึงมีสิทธิ์ที่จะให้ 0 คะแนนพูดกันถึงขนาดนี้แล้ว ทุกคนจึงต่างเชื่อว่าจากนิสัยของเฉินเฟย หากหลินเยว่พูดออกมาอีกเพียงประโยคเดียวอีกฝ่ายจะต้องให้ 0 คะแนนอย่างแน่นอน
หลินเยว่ได้แต่หัวเราะเหอๆเขาส่ายศีรษะพร้อมพูดอย่างเสียดาย“ท่านเฉินกำลังบังคับให้ผมถอนตัวออกจากการแข่งขัน หากท่านไม่ให้คำอธิบายแก่ผมผมคงต้องถอนตัวจากการแข่งขันครั้งนี้แล้วจริงๆ!”
เขากำลังพนัน... พนันว่าเฉินเฟยไม่มีทางยอมให้เขาถอนตัวจากการแข่งขัน!
เพราะการแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะอีกฝ่ายเสนอขึ้นมาและเป็กลอุบายที่้าทำลายชื่อเสียงอาจารย์ของเขาโดยเฉพาะ ดังนั้นเขาจึงกำลังพนัน... พนันว่าเฉินเฟยไม่มีทางยอมทิ้งการแข่งขันครั้งนี้ไปอย่างง่ายดาย!
และประโยคนี้ของหลินเยว่ก็ทำให้ทุกๆคนต่างอึ้งไปตามๆ กัน
ถอนตัวจากการแข่งขัน?
มีคนกล้าพูดว่าจะถอนตัวออกจากการแข่งขันด้วยหรือ?
นี่เป็ผลลัพธ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนพวกเขาคิดว่าการโต้เถียงระหว่างผู้าุโและผู้น้อยคู่นี้อย่างมากก็น่าจะจบด้วยการมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมประนีประนอมแต่ทว่าเหตุการณ์กลับไม่ได้ดำเนินไปตามที่พวกเขาคาดการณ์ไว้คาดไม่ถึงว่าทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร จนถึงขั้นต้องถอนตัวออกจากการแข่งขัน
ทุกคนต่างมองไปที่เฉินเฟยพวกเขากำลังรอคอยคำตอบจากอีกฝ่าย
การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะเฉินเฟยเป็คนจัดการเขาจะยอมให้แผนการของตัวเองถูกทำลายกลางคันด้วยหรือ?
เขาจะทำเพื่อสนองความโกรธของตัวเองหรือว่าเขาจะทำเพื่อสถานการณ์ภาพรวมทั้งหมด?
ทุกคนต่างรอคอยคำตอบจากเฉินเฟย
จวงตงเฟิงมองหลินเยว่ด้วยสายตาครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งลูกศิษย์ของเฮ่อฉางเหอคนนี้มีความโดดเด่นมากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้เสียอีกหรือจะเรียกได้ว่าเป็ความยอดเยี่ยมที่ไม่สามารถหาพบได้ทั่วไป เด็กหนุ่มกล้าที่จะใช้การถอนตัวออกจากการแข่งขันมาขู่อีกฝ่ายให้ยอมอ่อนข้อให้กับตนเองความใจเด็ดเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้อีกทั้งนี่ไม่ได้เป็การทำด้วยอารมณ์โกรธหรือวู่วามของเด็กหนุ่มแต่นี่เป็การกระทำที่เกิดจากการวางแผนมาเป็อย่างดี มันเป็แผนการที่ค่อยๆดำเนินมาทีละขั้น
การกระทำเช่นนี้เป็สิ่งที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งคิดขึ้นมาเองอย่างนั้นหรือ?หรือว่าเป็สิ่งที่อีกฝ่ายได้ปรึกษากับเฮ่อฉางเหอไว้ล่วงหน้าแล้ว?
ไม่สิ ดูจากบทสนทนาของพวกเขาในตอนเช้าหลินเยว่ไม่รู้เลยว่าใครเป็คณะกรรมการในการทดสอบครั้งนี้ จึงไม่มีทางเป็แผนการที่มีการปรึกษากันมาก่อนอย่างแน่นอน
เพื่อเป็การยืนยันความคิดของตนเองจวงตงเฟิงจึงเหลือบตามองเฮ่อฉางเหอ เขาพบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายมีแต่ความประหลาดใจและความพึงพอใจเช่นกัน
ความจริงที่จวงตงเฟิงพบในตอนนี้ทำให้เขาถึงกับเกร็งไปทั้งร่าง
นี่เป็แผนการและกลอุบายที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งคิดขึ้นมาเอง!
เขาจะต้องฉลาดและมีไหวพริบมากเพียงใดถึงจะสามารถคิดแผนการอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆได้เช่นนี้ และยังเป็แผนการที่รัดกุมมากอีกด้วย
เป็เด็กหนุ่มที่มีความโดดเด่นมากจริงๆ!
ณ เวลานี้ความรู้สึกของจวงตงเฟิงเต็มไปด้วยความซับซ้อนเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจที่ในวงการการพิสูจน์เครื่องเคลือบจะมีคนรุ่นหลังที่มีความสามารถโดดเด่นเช่นนี้หรือว่าเขาควรจะอิจฉาเฮ่อฉางเหอที่สามารถหาลูกศิษย์ที่ดีแบบนี้ได้กันแน่
บางทีอย่างหลังอาจจะมีมากกว่าสักเล็กน้อย
ส่วนเจี่ยเหวยเกิ่งมองหลินเยว่พร้อมรอยยิ้มสายตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม การกระทำที่ดูมั่นใจเด็ดขาดของหลินเยว่อีกทั้งการไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึกในการตัดสินใจ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอยู่เช่นกันแต่ทว่าในใจของเขาก็ได้เตรียมใจรับทุกสถานการณ์อยู่แล้วเพราะเขารู้ดีว่าหลินเยว่มีความสามารถยอดเยี่ยมมากแค่ไหน
เฮ่อฉางเหอมองลูกศิษย์ของตนเองด้วยความยินดีแต่ก่อนเขาจะรู้สึกกังวลเพราะหลินเยว่มีจิตใจดีจนเกินไป ความใจดีทำให้เขาดูอ่อนแอแต่ทว่าวันนี้การกระทำของหลินเยว่ทำให้เขาพอใจมากเพราะหลินเยว่ในเวลานี้ไม่ได้ดูอ่อนแอ แต่กลับมีแต่ความมั่นใจเด็ดขาด ดูแข็งแกร่งจนเทียบได้กับตนเองตอนสมัยยังหนุ่มหากบอกว่าแต่ก่อนเฮ่อฉางเหอรู้สึกไม่พอใจหลินเยว่อยู่บ้างถ้าเช่นนั้นตอนนี้เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเขารู้สึกพอใจหลินเยว่ 100%
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับการที่หลินเยว่้าถอนตัวออกจากการแข่งขันเพราะการเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่นั้นต้องให้ลูกศิษย์ของเขาตัดสินใจด้วยตัวเองเขาไม่ได้คิดจะเข้าไปยุ่งด้วยเลย อีกอย่างการถอนตัวก็ไม่ได้เป็เื่ใหญ่อะไรเพราะไม่ได้เป็ความผิดของลูกศิษย์ของตน แต่เป็เพราะตาแก่เฉินเฟยตัดโอกาสมากกว่า
หึหึ!เฉินเฟย คุณเลียนแบบคำถามจากผมได้ไม่เลวเลยนะ แต่คุณไม่ได้โชคดีเหมือนผม ไม่ได้มีลูกศิษย์ดีๆเหมือนผมไงล่ะ! ฮ่าๆ......
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้