“อวี้เสวียนจี...” ซูเฟยซื่อเรียกเบาๆ
“อืม?” อวี้เสวียนจีเลิกคิ้วตอบ
“ถ้ามีวันหนึ่งที่เ้าเผชิญอันตราย ข้าจะสละชีวิตไปช่วยเ้า” ซูเฟยซื่อกล่าวพลางยิ้มเบาๆ น้ำเสียงจริงจังหาใดเสมอเหมือน
อวี้เสวียนจีสั่นเทิ้มเบาๆ อย่างมิทันให้ได้สังเกตเห็น ในที่สุดก็หยักมุมปากยิ้มอย่างดูแคลน “เกรงว่าข้าอุปราชคงไม่มี่เวลาแบบนั้น หากมี ก็ไม่ถึงคราให้เ้ามาช่วย”
ช่างเป็ขันทีที่ทะนงตนคนหนึ่งจริงๆ ซูเฟยซื่อยิ้มน้อยๆ
หันไปดูองครักษ์ของอวี้เสวียนจีพากู้เซ่าชิงออกจากสนามประลอง ในที่สุดนางก็วางใจลงได้สักที
“เ้า้าพาคนไปตอนนี้ หรือรออีกสักพักให้ข้าอุปราชส่งไปให้เ้า?” ขณะที่กำลังเจรจา อวี้เสวียนจีก็กลับไปนั่งที่ตำแหน่งประธาน
“ให้ข้าพาเขากลับไปเองเถิด ไม่รบกวนท่านอ๋องเก้าพันปีต้องมาส่งหรอกเ้าค่ะ” ของขวัญที่อวี้เสวียนจีมอบให้นางก็แทบจะเขย่าฟ้าะเื์ได้แล้ว
ทั้งของขวัญนี้ยังเป็ผู้ชายคนหนึ่ง เกรงว่ายามนี้หากเกิดคลื่นั์ซัดเมืองหลวงสักลูกก็ไม่น่าแปลก
องครักษ์พากู้เซ่าชิงเข้ามา ซูเฟยซื่อมองเขา ขอบตาก็แดงก่ำโดยไม่รู้ตัว
ยังคิดว่าชั่วชีวิตนี้นางจะไม่ได้เห็นเขาอีก คาดไม่ถึงว่าจะมาพบกันในรูปแบบนี้ แบบที่ทั้งคู่ต่างก็มีใบหน้าไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิง
นางยืมซากศพคืนิญญา ไม่ใช่กู้ชิงที่องอาจผึ่งผายสง่างามคนนั้นอีก แต่ใบหน้าของเขาถูกทำลายจนหมดเค้าเดิม ไม่ใช่หนุ่มหล่อร่าเริงกู้เซ่าชิงคนนั้นอีกแล้วด้วย
กู้เซ่าชิงรู้สึกถึงแววตาของซูเฟยซื่อ ก็อดตะลึงลานไม่ได้คราหนึ่ง ในดวงตาพลันเผยแววไม่อยากจะเชื่อ
ทำไมความรู้สึกนี้มันช่างคุ้นเคยนัก?
เป็ไปไม่ได้ นางได้ตายไปแล้วชัดๆ !
“เ้า… หญิงสาวคนนี้ เป็เ้าที่ช่วยข้าน้อยเมื่อครู่นี้หรือไม่?” กู้เซ่าชิงเอ่ยปากถามด้วยความลังเล
ซูเฟยซื่อได้สติกลับมาโดยพลัน ในใจเ็ปโศกเศร้า เมื่อได้ยินเขาเรียกนางว่าหญิงสาวคนนี้
ก็ใช่ รูปร่างลักษณะแบบนี้อย่าว่าแต่กู้เซ่าชิง เพราะแม้แต่บางครั้งขณะที่นางนั่งอยู่หน้ากระจก ก็ยังสงสัยงุนงงว่าที่แท้ตนเป็ใคร
นางสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามให้ตนเองใจเย็นลง แล้วชี้ไปที่อวี้เสวียนจี “ไม่ใช่ข้า เป็เขา”
กู้เซ่าชิงเห็นอวี้เสวียนจี ความเคียดแค้นในดวงตาพลันะเิออก กระทั่งในแววตาที่มองซูเฟยซื่อก็อดไม่ได้รู้สึกเสียดายแกมดูถูกมากขึ้นบางส่วน
เขาคำนับอวี้เสวียนจีคราหนึ่ง ในน้ำเสียงทั้งสุภาพทั้งห่างเหิน “ข้าน้อยเป็เพียงคนหยาบคาย ไม่ควรให้ท่านอ๋องเก้าพันปีสิ้นเปลืองเวลา ยังขอให้ท่านนำสิ่งที่มอบแก่ข้า กลับคืนไปเถิดขอรับ”
ซูเฟยซื่อใมาก เพราะกลัวว่ากู้เซ่าชิงอาจล่วงเกินอวี้เสวียนจี นางพยายามช่วยเขาออกมาจากปากเสือ หรือว่าต้องส่งกลับไปอีกงั้นหรือ?
โชคดีที่อวี้เสวียนจีไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีของเขา เพียงเหลือบมองซูเฟยซื่ออย่างอ้อยอิ่งแวบหนึ่ง “ที่ช่วยเ้าไม่ใช่ข้าอุปราช ทว่าเป็นาง ส่วนของขวัญที่ข้าส่งออกไปล้วนไม่เคยเก็บกลับคืน ถ้าเ้าไม่เต็มใจละก็ ะโลงไปจากที่นี่เองก็แล้วกัน”
ที่นี่สูงถึงสามจั้ง ะโลงไปหากไม่ตายก็พิการ
ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วฉับ ในที่สุดเอ่ยปากพูดช้าๆ “กู้เซ่าชิง ตามข้ามา ข้ามีแผนการใหญ่จะมอบหมายให้แก่เ้า”
น้ำเสียงใสลอยล้อมาตามลม ทว่าแฝงด้วยอำนาจบางอย่างที่มิอาจต้านทาน
เหมือนกับครั้งแรกที่นางพากู้เซ่าชิงเข้าสู่สนามรบเมื่อหลายปีก่อนไม่ผิดเพี้ยน
“ตามมาเถิด ข้ามีแผนการใหญ่จะมอบหมายให้แก่เ้า” กู้เซ่าชิงย้ำประโยคนี้อีกรอบ ในที่สุดทั้งร่างเริ่มสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจระงับไว้ได้ “เ้า...”
ไม่รอให้กู้เซ่าชิงพูดจนจบ ซูเฟยซื่อได้ขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว “ข้าคือซูเฟยซื่อ คุณหนูสามของจวนอัครมหาเสนาบดี”
วาจาประโยคนั้นเมื่อครู่ มีเพียงนางกับกู้เซ่าชิงเท่านั้นที่รู้ นางเชื่อเด็ดขาดว่ากู้เซ่าชิงย่อมไม่มีวันลืม
เพียงแต่ตอนนี้อวี้เสวียนจียังอยู่ในเหตุการณ์ ไม่ใช่เวลาที่จะทำความรู้จักกัน
กู้เซ่าชิงนับว่าเป็คนมีไหวพริบ ได้ยินซูเฟยซื่อพูดอย่างนั้นก็ใจเย็นสงบลงมาทันที ทำความเคารพนางคราหนึ่งอย่างยำเกรง “ขอบคุณคุณหนูซูที่ช่วยชีวิตไว้ ถ้าคุณหนูซูไม่รังเกียจ กู้เซ่าชิงต้องกล้าหาญ ซื่อสัตย์ ภักดี รักษาหน้าที่ บุกน้ำลุยไฟเพื่อท่านไม่ระย่อท้อถอยขอรับ”
“เสน่ห์ของคุณหนูสามนี่เหลือร้ายตามคาด ประโยคเดียวก็ทำให้ขุนพลน้อยกู้ยอมศิโรราบ” เสียงหยอกล้อของอวี้เสวียนจีดังมา ในดวงตากู้เซ่าชิงพลันเปลี่ยนเป็แข็งกร้าวขึ้นหลายส่วน พร้อมออกหน้าปกป้องซูเฟยซื่อได้ทุกเมื่อ
ต่อให้ได้อวี้เสวียนจีช่วยชีวิตไว้ แต่สำหรับเขา ั้แ่ต้นจนจบล้วนไม่เคยคิดว่าอวี้เสวียนจีเป็คนดีคนหนึ่ง
ซูเฟยซื่อตบไหล่ของเขา เป็สัญญาณให้ผ่อนคลาย นางก้าวไปข้างหน้ากล่าวกับอวี้เสวียนจี “เวลาไม่เช้าแล้ว ข้าก็ขอตัวก่อนเ้าค่ะ”
เห็นอวี้เสวียนจีพยักหน้า นางรีบพากู้เซ่าชิงจากไป รอจนพ้นสนามประลองแล้ว จึงเอ่ยปาก “ซางจื่อ ไปเตรียมรถม้ามา ข้ากับเซ่าชิงจะเดินไปตามทาง อีกสักพักเ้าค่อยตามมาก็ได้”
แม้ว่านางจะชอบซางจื่อมาก แต่ทั้งนี้ซางจื่อก็เป็คนที่อวี้เสวียนจีส่งมา ถึงอย่างไร เื่นี้นางก็ต้องปิดบังไว้อยู่ดี
“เ้าค่ะ” ซางจื่อเข้าใจ ไม่ถามมากก็ถอยออกไป
ซูเฟยซื่อกับกู้เซ่าชิงเดินไปตามทางอีกสักพัก เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครสะกดรอยตาม ซูเฟยซื่อจึงเอ่ยปาก “เซ่าชิง เ้ายังสบายดีไหม?”
ร่างของกู้เซ่าชิงสั่นเทิ้มน้อยๆ เป็ชายอกสามศอก ทว่าขอบตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีแดงเรื่อ “เป็เ้าใช่ไหม?”
ั้แ่ต้นจนจบเขาไม่กล้าพูดชื่อนั้น ชื่อที่ฝังรากลึกในใจของเขา เพราะกลัวว่าคำตอบคือไม่ใช่
“เป็ข้า” ซูเฟยซื่อพยักหน้า นางเล่าเื่ยืมซากศพคืนิญญากลายเป็คุณหนูสามของจวนอัครมหาเสนาบดีรวมทั้งเื่ราวที่เกิดขึ้นใน่เวลานี้ให้กู้เซ่าชิงฟัง แน่นอนว่ารวมถึงเื่ที่อวี้เสวียนจีดีต่อนางด้วย
กู้เซ่าชิงเป็ทั้งเพื่อนและคนรักที่เติบโตมาด้วยกัน ทั้งยังเป็คนที่ได้วิ่งตะบึงกรำศึกในสนามรบด้วยกัน
ไยอวี้เสวียนจีจะมิใช่เล่า?
เพียงแต่เปลี่ยนสนามรบแห่งหนึ่ง ก็เปลี่ยนศัตรูไปชุดหนึ่งแล้วเท่านั้น
ดังนั้นนางจึงไม่อยากให้กู้เซ่าชิงมีอคติต่ออวี้เสวียนจี ขอเพียงยังคงติดต่อสัมพันธ์กันไป นางเชื่อว่ากู้เซ่าชิงต้องพบส่วนดีของอวี้เสวียนจีเหมือนนางแน่นอน
หลังจากฟังคำพูดของซูเฟยซื่อ ดวงตาทั้งคู่ของกู้เซ่าชิงก็ยิ่งแดงก่ำราวกับเืคั่ง มือทั้งสองบีบแน่นกำหมัด แทบพุ่งทะยานไปสังหารซ่งหลิงซิวในพระราชวังตอนนี้ “ไม่คิดว่าเื้ัความจริงที่ตระกูลกู้ถูกสังหารถึงกับเป็เช่นนี้ น่าสงสารหลายร้อยชีวิตตระกูลกู้ จนตัวตายยังคิดไม่ออกว่าที่แท้ได้ทำผิดอะไรจึงนำมาซึ่งเภทภัยถูกสังหารจนตัวตายขั้นนี้”
ซูเฟยซื่อสูดจมูก กล่าวน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “เซ่าชิง เ้าวางใจ ความแค้นตระกูลกู้ ข้าต้องชำระแน่นอน ในเมื่อจับพลัดจับผลูข้าได้กลายเป็บุตรสาวของศัตรูไปแล้ว ก็ต้องฉวยโอกาสดีๆ โจมตีทำลายจวนอัครมหาเสนาบดี รอจนจวนอัครมหาเสนาบดีล้มล้างสิ้น ซูจิ้งโหยวไร้ที่พึ่งพิง ก็ถึงเวลาตายของนางแล้ว”
“ชิงเอ๋อร์ ไม่... เฟยซื่อ ลำบากเ้าแล้ว” กู้เซ่าชิงรู้ว่าชีวิตในจวนอัครมหาเสนาบดีย่อมผ่านไปไม่ได้ง่าย ในใจอดที่จะรู้สึกเศร้าไม่ได้
คิดถึงปีนั้นซูเฟยซื่ออยู่ในตระกูลกู้ เป็องค์หญิงน้อยที่ผู้คนเอาใจดุจดาวเดือน ไหนเลยได้รับความทุกข์แบบนี้
ซูเฟยซื่อส่ายหน้ายิ้มๆ “ตอนนี้ข้ามีอำนาจปกครองครอบครัวแล้ว นับว่าประสบความสำเร็จในก้าวน้อยๆ ขอเพียงสามารถแก้แค้นให้กับตระกูลกู้ ความยากลำบากอะไรข้าล้วนรับได้”
“แต่อวี้เสวียนจี… เชื่อได้จริงๆ หรือ?” กู้เซ่าชิงลังเลเล็กน้อย
ภาพลักษณ์ขุนนางโฉดของอวี้เสวียนจีได้ฝังรากลึกในจิตใจของเขา แต่ตอนนี้ซูเฟยซื่อกลับบอกว่าอวี้เสวียนจีเป็คนของตน นี่ไม่สามารถยอมรับได้ทันทีจริงๆ
“เซ่าชิง เ้าเชื่อใจจะมอบชีวิตให้ข้าหรือไม่?” ซูเฟยซื่อเงยหน้าถามอย่างจริงจัง
กู้เซ่าชิงตะลึงลาน พยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ชีวิตข้าเดิมเป็ของตระกูลกู้ เ้าสามารถเอาไปได้ทุกเมื่อ”
“ข้าก็สามารถมอบชีวิตให้เขาได้เหมือนกัน” ซูเฟยซื่อพูดเน้นทีละคำน้ำเสียงเด็ดขาด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้