เนื่องจากในอดีตมู่เฟิงเคยทะลวงผ่านวรยุทธ์ระดับจื่อฝู่มาแล้ว ดังนั้นถึงแม้ในเวลาต่อมามันจะถูกทำลายไปพร้อมกับเส้นลมปราณ แต่เขาก็ไม่จำเป็จะต้องเปิดเส้นลมปราณระดับจื่อฝู่ขึ้นมาใหม่อีก เพียงแค่ฟื้นฟูมันให้กลับคืนมาก็พอแล้ว
มนุษย์นั้นจะมีจุดตันเถียนอยู่ทั้งหมดสามตำแหน่งคือส่วนบน ส่วนกลางและส่วนล่าง สำหรับจุดตันเถียนตรงส่วนบนนั้นเรียกว่าจื้อไห่ ตำแหน่งของมันอยู่ตรงกลางหว่างคิ้ว เปรียบเสมือนห้วงสมุทรแห่งสติ
สำหรับจุดตันเถียนที่อยู่ส่วนกลางเรียกว่าจื่อฝู่ ตำแหน่งของมันอยู่บริเวณช่องท้องส่วนล่าง เหนือสะดือขึ้นไปหนึ่งนิ้ว เป็แหล่งที่ใช้กักเก็บพลัง ส่วนจุดตันเถียนที่อยู่ส่วนล่างเรียกว่าหนีหวานกง ตำแหน่งของมันจะอยู่ในที่ลับ เป็แหล่งฟื้นฟูจิติญญา
จุดตันเถียนตรงส่วนล่างเป็สิ่งที่ทุกคนมีมาแต่กำเนิด ทว่าสำหรับจุดตันเถียนตรงส่วนกลางและส่วนบนนั้นเป็สิ่งที่แต่ละคนต้องเปิดมันด้วยตัวเอง
“มู่เฟิง หากเ้า้าเป็ผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง จะเป็การดีที่สุดถ้าเ้าสามารถเปิดเส้นลมปราณในจุดที่สิบ จุดที่สิบเอ็ดและจุดที่สิบสองทั้งหมดได้”
ฉับพลันนั้นเสียงของซีเยว่ได้ดังขึ้นในห้วงความคิดของมู่เฟิงอีกครั้ง และเสียงที่ส่งออกมาอย่างกะทันหันของนางนี้ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับผงะ
“ซีเยว่ ครั้งหน้าเ้าช่วยทักทายกันก่อนได้หรือไม่ การที่เ้าโพล่งออกมาแบบนี้ข้าเองก็ในะ”
มู่เฟิงกล่าวอย่างจนใจ
“เอ๊ะ พี่เฟิง ท่านว่าอย่างไรนะ ซีเยว่อะไร?”
มู่ขวงที่อยู่กับเขาผงะอย่างใ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ข้าไม่ได้พูดกับเ้า เ้าคอยระวังรอบข้างเอาไว้ให้ดี”
มู่เฟิงที่กำลังอารมณ์ไม่ดีค้อนใส่มู่ขวงทันที
“อ๊า... ถ้าไม่ได้พูดกับข้าแล้วยังจะมีใครได้อีก”
มู่ขวงพึมพำกับตัวเอง
“หากเ้า้าสื่อสารกับข้า แค่เ้าครุ่นคิดก็เพียงพอแล้ว ทุกความคิดและความรู้สึกของเ้าจะถูกส่งต่อมายังหยกเทพชูร่าชิ้นนี้ ข้าล้วนสามารถรับรู้ได้ทั้งหมด”
ซีเยว่กล่าวขึ้นอีกครั้ง
“อ้อ จริงสิ เมื่อครู่ที่เ้าบอกให้ข้าพยายามเปิดเส้นลมปราณทั้งสามจุด ไม่ใช่ว่าเส้นลมปราณทั้งสามจุดนั้นเป็สิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรแตะต้องหรอกหรือ?”
มู่เฟิงเพียงขบคิดกับตัวเองเพื่อให้คำพูดไปถึงหยกเทพชูร่า
“ทฤษฎีเส้มลมปราณต้องห้ามมันสำหรับพวกที่ฝึกเคล็ดวิชาที่มีระดับต่ำกว่าระดับโลกาเท่านั้น ส่วนคนที่ฝึกเคล็ดวิชาั้แ่ระดับโลกาขึ้นไปจะสามารถเปิดเส้นลมปราณทั้งสามจุดนั้นได้ และเมื่อใดที่เ้าสามารถทำได้สำเร็จ การบ่มเพาะพลังปราณของเ้าก็จะรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เ้าเข้าใจหรือไม่?”
ซีเยว่อธิบาย
“เคล็ดวิชาั้แ่ระดับโลกาขึ้นไป เ้า เ้าจะบอกว่าเคล็ดวิชาชูร่าเป็เคล็ดวิชาระดับโลกาหรืออาจจะสูงกว่านั้นงั้นหรือ?”
มู่เฟิงเอ่ยถามด้วยความใ เดิมทีเขาคิดว่ามันเป็เคล็ดวิชาระดับธาตุทองเสียอีก
“เ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ เ้านึกหรือว่าหากเป็เคล็ดวิชาทั่วไปจะสามารถช่วยรักษาอาการาเ็ของเ้าได้ สามารถใช้ฝึกกายา รวมทั้งสามารถแปลงพลังเืให้กลายเป็พลังปราณได้เช่นนี้?”
ซีเยว่กล่าวอย่างขุ่นเคือง
“เอ่อ เื่นี้เป็เพราะข้าโง่เขลาเบาปัญญาเอง”
มู่ฟิงยิ้มเจื่อน
“อ๊าก…!”
ทันใดนั้นได้ปรากฏเสียงร้องโหยหวนเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหน้า มู่เฟิงและมู่ขวงรีบหมอบตัวลงเพื่อหลบซ่อนตัวในทันที
“เป็เสียงของมนุษย์ เราลอบเข้าไปดูกันเถอะ”
มู่เฟิงกระซิบเสียงเบา
“อืม!”
มู่ขวงพยักหน้า จากนั้นคนทั้งสองได้ทำการแฝงตัวและค่อยๆ ขยับไปข้างหน้าตามทิศทางที่มาของเสียงในทันที
ในเวลานี้พวกเขาไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังก้าวล้ำเข้าไปยังพื้นที่ส่วนลึกของเทือกเขาอันหนาน เด็กหนุ่มทั้งสองยังคงมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปอีกหลายร้อยเมตร จนกระทั่งพวกเขามาถึงหุบเขาลึกขนาดเล็กแห่งหนึ่ง
หุบเขาแห่งนี้มีความลึกหลายสิบเมตร และมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังมีลำธารไหลออกมาจากภายใน หน้าผาทั้งสองฝั่งล้วนถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มไม้และโขดหิน อีกทั้งหุบเขาแห่งนี้ยังเชื่อมต่อเข้าไปในป่าลึก
ภายในหุบเขานั้นมีชายฉกรรจ์อยู่สามคน โดยหนึ่งในสามคนนั้นกำลังนอนสลบอยู่บนพื้นและไม่อาจทราบได้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่จากใบหน้าที่กลายเป็สีดำคล้ำแล้ว เกรงว่าเขาคงกำลังถูกพิษเล่นงาน
บริเวณรอบข้างของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยงูพิษหลากสีจำนวนนับไม่ถ้วน โดยงูพิษเ่าั้มีความยาวสองถึงสามเมตรและกำลังแลบลิ้นเข้าออกตลอดเวลา นอกจากนี้ในหมู่พวกมันยังมีงูพิษที่มีลวดลายอีกหลายตัวกำลังเลื้อยอยู่บนเอวและต้นขาของเขา แต่ละตัวล้วนมีความยาวกว่าสิบเมตรดูน่าสะพรึงอย่างยิ่ง ม่านตาของพวกมันกำลังจ้องมองไปยังชายฉกรรจ์ที่เหลืออีกสองคนด้วยแววตาเย็นะเื
หนึ่งในสองคนนั้นเป็ชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำ เขากำลังถือดาบเล่มใหญ่เอาไว้ในมือ ส่วนชายอีกคนมีรูปร่างค่อนข้างผอมบางกว่า เวลานี้เขากำลังถือมีดเล่มยาวเอาไว้ในมือเช่นกัน คนทั้งสองต่างก็สวมใส่ชุดเกราะสีน้ำตาล
“ให้ตายสิ ไอ้งูบ้าพวกนี้ แค่ขโมยไข่ของพวกมันมาไม่กี่ฟอง ก็คิดจะสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยรึ”
ใบหน้าของชายวัยกลางคนผู้นั้นพลันเปลี่ยนเป็น่าเกลียด ด้านหลังของเขามีถุงหนังสีดำขนาดใหญ่ที่บรรจุของเอาไว้จนเต็มถุง
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินมากพอที่จะซื้อแหวนเฉียนคุน กระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนิงกังส่วนใหญ่ยังไม่มีกำลังมากพอที่จะสามารถซื้อมันได้ ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาพอจะใช้ในการบรรจุสิ่งของได้จึงเป็เพียงถุงหนังสัตว์เท่านั้น
แหวนเฉียนคุนของมู่เฟิงนั้นเป็สิ่งที่เขาได้รับตอบแทนมาหลังจากสังหารศัตรูในกองทัพ เวลานั้นบิดาของเขาได้มอบเงินรางวัลให้เขาเป็จำนวนมาก นอกจากนี้เด็กหนุ่มยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับช่างหลอมมากฝีมือ ดังนั้นเขาจึงขอให้อีกฝ่ายช่วยหลอมแหวนเฉียนคุนขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
“พี่ใหญ่ เราจะทำอย่างไรกันดี? เหล่าหลิวถูกพิษของพวกมันเข้าแล้ว เห็นทีคงไม่รอดแน่”
ชายร่างผอมเอ่ยถาม
“ฮึ่ม จะทำอย่างไร แน่นอนว่าข้าจะฝ่าออกไป เ้าไปนำร่างเหล่าหลิวมาแล้วโยนออกไปเสีย ข้าจะใช้ปราณกระบี่สังหารเพื่อดึงดูดความสนใจจากงูพวกนั้น จากนั้นเราจะฉวยโอกาสนี้หลบหนี!”
ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยใบหน้าเ็า ขณะกำลังใช้กระบี่ตวัดร่างงูไปให้พ้นทาง
“ตกลง”
ชายร่างผอมอีกคนทำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างว่าง่าย เวลานี้ไม่ว่าสหายของเขาที่นอนอยู่บนพื้นจะเป็หรือตายเขาก็ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ชายร่างผอมคว้าร่างของอีกฝ่ายขึ้นมาก่อนจะโยนออกไปอีกฝั่งตามคำสั่ง
“สังหาร!”
ฉับพลันนั้นชายวัยกลางคนร่างกำยำก็ะโออกมาเสียงดัง พร้อมแสงสะท้อนจากคมกระบี่ที่ตวัดออกมา ปราณกระบี่สีทองพุ่งออกจากกระบี่ของเขาและทะยานไปไกลหลายเมตร มันกวาดไปเบื้องหน้าก่อนจะตัดผ่าน่ตัวของเหล่าหลิวขาดเป็สองท่อน
เหล่าหลิวที่หมดสติไปในคราวแรกพลันกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างเ็ป ร่างกายของเขาถูกฟันขาดเป็สองท่อน เืสีแดงฉานพุ่งกระฉูดเปรอะไปทั่วบริเวณ
กระทั่งร่างทั้งสองส่วนตกลงมาบนพื้นเบื้องล่าง เหล่าหลิวก็ยังไม่ได้สิ้นใจในทันที ส่วนบนของเขายังคงพยายามคลานอยู่บนพื้นอย่างน่าเวทนา กระทั่งลำไส้และอวัยวะภายในส่วนอื่นๆ ในช่องท้องยังไหลทะลักออกมาด้วย ดูแล้วน่าสังเวชยิ่งนัก
ฟ่อ ฟ่อ...!
กลิ่นคาวเืสามารถกระตุ้นเหล่างูพิษได้เป็อย่างดี ฉับพลันนั้นฝูงงูทั้งหมดก็พุ่งเข้าหาร่างเปื้อนเือย่างรวดเร็ว กลายเป็ว่าร่างของเหล่าหลิวได้กลายเป็อาหารอันโอชะของงูนับร้อยที่เข้าไปรุมกัดกินเสียแล้ว
“ตอนนี้แหละ หนีเร็ว!”
ชายวัยกลางคนร่างกำยำะโออกมาเสียงดัง ในขณะเดียวกัน เขาได้แกว่งกระบี่ไปยังทิศทางหนึ่ง ปรากฏเป็ปราณกระบี่กวาดออกไปเบื้องหน้า ส่งผลให้บรรดางูที่ขวางทางอยู่ถูกปราณกระบี่นี้ตัดผ่านร่างในทันที
ความสนใจของฝูงงูถูกดึงกลับมาฝั่งนี้ทันใด เป็เวลาเดียวกันกับที่ชายทั้งสองได้ฝ่าวงล้อมของงูออกมาอย่างรวดเร็ว และกำลังพยายามหลบหนีออกจากหุบเขา
เหนือหุบเขา มู่เฟิงและมู่ขวงได้ปีนขึ้นมาบนหน้าผาขณะเฝ้าชมฉากนี้
“ชายสองคนนั้นต่างก็เป็ผู้ฝึกยุทธ์ระดับจื่อฝู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็กลุ่มทหารรับจ้าง”
มู่เฟิงกล่าวขึ้นเสียงเบา
“ชายผู้นั้นช่างโเี้ยิ่งนัก เขาถึงกับใช้สหายของตนสังเวยพวกงูเพื่อหาทางรอดให้ตัวเอง”
มู่ขวงรู้สึกรังเกียจรูปแบบการทำงานของชายผู้นี้
“เพื่อความอยู่รอดแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดล้วนสามารถทำออกมาได้ทั้งนั้น ในตอนที่ข้าอยู่ในสนามรบ บางครั้งยังต้องดื่มเืของศัตรูเพราะถูกตัดขาดจากแหล่งน้ำ แต่ชายผู้นั้นก็ไม่นับว่าเป็คนดีอะไร”
มู่เฟิงหรี่ตาลงขณะกล่าว
ชายฉกรรจ์ทั้งสองพยายามวิ่งหนีออกจากหุบเขาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหน้าผาสูงชันนั้นค่อนข้างลื่นและยังเต็มไปด้วยงูพิษ พวกเขาจึงไม่สามารถปีนผาออกมาได้ ทำได้เพียงวิ่งหนีออกมานอกหุบเขาเท่านั้น
โฮก...!
ทว่าฉับพลันนั้นได้ปรากฏเสียงร้องคำรามด้วยความเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากส่วนลึกของหุบเขา ในเสี้ยววินาทีถัดมาเงาร่างสีครามขนาดมหึมาก็เผยตัวออกมาอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแลบ จากนั้นมันก็โผทะยานเข้าหาชายฉกรรจ์ทั้งสองในทันที
มู่เฟิงและมู่ขวงจ้องมองไปยังสัตว์ประหลาดร่างั์ตัวนั้นด้วยความตื่นตะลึงจนแทบจะลืมหายใจ
มันคืองูเหลือมสีครามขนาดใหญ่ที่มีความยาวเกือบสามสิบเมตร ตัวของมันมีขนาดที่หนามาก เกล็ดสีครามเท่าฝ่ามืุ์บนตัวมันกำลังทอประกายยามโดนแสงตกกระทบ ปากที่ยังคงเปื้อนเืของมันสามารถกลืนกินมนุษย์เข้าไปได้ในคำเดียว
นอกจากนี้บนหัวของมันยังมีหงอนเขาอยู่หนึ่งหงอน คาดไม่ถึงว่ามันจะเป็พญางูเหลือม!
เวลานี้มันกำลังเลื้อยเข้ามาด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว กระทั่งพุ่มไม้ที่ขวางทางยังถูกร่างของมันเลื้อยทับจนพินาศ
“อสูรร้ายระดับหนิงกัง! พญางูเหลือม!”
มู่เฟิงคิดกับตัวเองด้วยความใ
พญางูเหลือมนั้นเป็อสูรร้ายที่ทรงพลังและดุร้ายเป็อย่างมาก กล่าวกันว่าภายในตัวของมันมีสายเืของัเจียวหลง*ไหลเวียนอยู่ โดยัเจียวหลงนั้นเป็อสูรร้ายที่เล่าขานกันมาในตำนาน เป็หนึ่งในเื่เล่าตามตำนานของเทพั ไม่รู้ว่าภายในดินแดนของอาณาจักรหนานหลิงนั้นจะมีัเจียวหลงดำรงอยู่หรือไม่
(*ัที่มีเกล็ดอยู่รอบกาย กล่าวกันว่าเป็สัตว์ที่อาศัยอยู่น้ำ)
เพียงไม่นานพญางูเหลือมก็สามารถไล่ตามชายฉกรรจ์ทั้งสองได้ทัน เมื่อคนทั้งคู่หันกลับไปเห็นมัน สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็หวาดหลัวในทันที แต่ทั้งสองยังคงพยายามหลบหนีแม้จะสิ้นหวังแล้วก็ตาม
“พี่ใหญ่ ทะ ทำอย่างไรดี เหตุใดเราไม่คืนไข่งูให้มันเล่า”
ชายร่างผอมหวาดกลัวจนเหงื่อกาฬไหลอาบกาย
“มันคือไข่งูเหลือม เพียงฟองเดียวก็มากพอให้เรามีกินมีใช้ไปอีกหลายปี เสี่ยวจาง พี่ใหญ่จะระลึกถึงเ้า จะจุดธูปให้เ้าทุกปีอย่างแน่นอน”