ณ แดนลับ กฎแห่งแดนมรดกมีการเปลี่ยนแปลง พลังเก้าประเภทล่องลอยในอากาศ แสงสาดส่องทั่วฟ้าดิน โดยมีดวงแสงที่เกิดจากแสงเก้าดวงเป็จุดศูนย์กลาง ซึ่งเก้าพลังที่โคจรรอบดวงแสงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนต่างต้องตกตะลึงและเกิดความผันผวนขึ้นในใจ
“ดวงแสงมีพลังงานเช่นนี้ หรือว่าพลังเก้าประเภทที่ผสานอยู่ในดวงแสงก็คือมรดก?” มีคนเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“พี่เซี่ย เ้ารู้จักดวงแสงนี่หรือไม่?” เย่เฟิงส่งเสียงผ่านจิตไปถามเซี่ยจวิ้นหลงที่อยู่ใกล้ ๆ
“ไม่ค่อยรู้เท่าไร เท่าที่ข้ารู้มานวมรดกมีความสำคัญกับวังเทพโอสถมาก ลือกันว่านวมรดกเป็ของประมุขวังเทพโอสถเก้าท่านจากแต่ละยุคสมัย โดยใช้พลังชีวิตสร้างขึ้นมา อัดแน่นไปด้วยพลังมรดกสูงสุด แล้วรวบรวมพลังชีวิตของพวกเขา ซึ่งเป็โอกาสพิเศษที่ต่อให้อ้อนวอนก็คว้ามาไม่ได้ พี่เย่มีชะตามากมาย เ้าต้องคว้ามันมาให้ได้ล่ะ” เซี่ยจวิ้นหลงส่งเสียงผ่านจิตตอบกลับเย่เฟิง นี่ทำให้ในใจของเย่เฟิงเกิดความผันผวน ประมุขวังเทพโอสถเก้าท่านจากแต่ละยุคสมัยใช้พลังชีวิตสร้างของพวกนั้นขึ้นมา เช่นนั้นเขาจึงไม่กล้าคิดถึงมันว่านวมรดกนี้จะทรงพลังเพียงใด
“ข้าจะลองดู!”
“นวมรดกปรากฏทั้งทีจะขาดข้าไปได้อย่างไร?” มีหลายเสียงดังขึ้น ผู้คนไม่น้อยต่างต้องใกับพลังที่อัดแน่นอยู่ในนวมรดก
กฎแห่งแดนลับเปลี่ยนแปลง แดนมรดกเปิดออก ทุกคนเหมือนกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่ นี่ทำให้หลาย ๆ คนต่างปรารถนาที่จะอยากได้นวมรดก พวกเขาจึงทะยานร่างขึ้นฟ้าไปหาดวงแสงมรดกนั่น
“สวะ ไว้ข้าได้มรดกแล้วจะมาฆ่าเ้า!” นี่จ้านเทียนกล่าวพลางเหลือบมองเย่เฟิงแวบหนึ่ง จากนั้นเขาะโขึ้นฟ้าไปหาดวงแสงมรดก
ขณะนั้นมีผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งมาเยือนชายขอบบางแห่งของแดนมรดก คนผู้นี้คาดดาบอ่อนที่เอว เขาผู้นี้ก็คือผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 6 ในรายนามแห่งแท่นศิลาเทียนเสวียน จงเทา เมื่อเขาเห็นนวมรดกปรากฏจึงรู้สึกแปลกใจ จากนั้นเขาก็ทะยานมาที่แดนมรดก
“พี่เย่ เ้าไปเถอะ ข้าเชื่อว่าเ้าจะทำได้” เซี่ยจวิ้นหลงส่งเสียงผ่านจิตมาหาเย่เฟิงพลางยิ้มให้ เหมือนกับว่าเชื่อมั่นในตัวเย่เฟิงเป็อย่างมาก
“อืม” เย่เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นทะยานร่างไปยังดวงแสงมรดกเหมือนคนอื่น ๆ
“ไสหัวไปซะ!” นี่จ้านเทียนที่อยู่หน้าสุดแผดเสียงะโอย่างเกรี้ยวกราด เขาปล่อยรังสีหมัดโจมตีสองสามคนที่ขวางทางเขา ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนของคนเ่าั้ พร้อมร่างกระเด็นปลิวออกไปและกระอักเื
“เฮ้อ!” คนอื่น ๆ เห็นฉากนี้ถึงกับถอนใจ นี่จ้านเทียนผู้นี้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง แต่ยังลงมืออย่างโเี้ ไม่มีใครขวางทางการแย่งชิงมรดกของเขาได้!
พลังต่อสู้พวยพุ่งออกจากร่างนี่จ้านเทียน ทุกที่ที่ผ่านมักจะมีคนหลบทางให้เสมอ แค่การโจมตีที่น่าหวาดกลัวของเขาก็สามารถจัดการได้อย่างราบคาบ จนสุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา ทุกคนต่างมองนี่จ้านเทียนด้วยสายตาหวาดผวา
ดวงแสงมรดกที่รายล้อมไปด้วยแสงเก้าประเภทล้วนสว่างไสว ส่วนนี่จ้านเทียนเข้าใกล้ดวงแสงมรดกด้วยความเร็วสูง เขาพยายามคว้าพลังที่อยู่ในดวงแสงนั่น ทำให้เขาอาบอยู่ท่ามกลางแสงเ่าั้ แต่ขณะนั้นมีเงาร่างหนึ่งที่มีแสงดาวล้อมกายแซงหน้าเขาไป เมื่อนี่จ้านเทียนเห็นคนที่แซงหน้าเขาไปก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย
“สวะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” นี่จ้านเทียนแผดเสียงะโพร้อมแทงทวนจันทร์เสี้ยวออกไป หมายสังหารเย่เฟิงในคราเดียว
เย่เฟิงเผยรอยยิ้มเย็นเยือก ราวกับว่าเตรียมตัวไว้แล้ว เขาหลบการโจมตีของนี่จ้านเทียนได้ในพริบตา จากนั้นปล่อยฝ่ามือที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟโจมตีนี่จ้านเทียน เขายังคงมุ่งหน้าไปหาดวงแสงมรดกนั่นต่อไป
“หยุดนะ!” ขณะนั้นมีเสียงเย็นเยือกดังขึ้นที่ด้านข้างเย่เฟิง ตามมาด้วยรังสีดาบ
“หอกดุจั!”
เย่เฟิงแผดเสียงคำรามพร้อมแทงหอกัเงินประกายออกไป รังสีหอกดุจเทพัที่เขมือบกินทุกสิ่ง ก่อนจะเข้าปะทะกับรังสีดาบที่จู่โจมมา
เสียงะเิดังกึกก้อง รังสีดาบถูกทำลาย แต่รังสีหอกนั่นยังคงพุ่งไปหาเ้าของรังสีดาบนี้ คนนั้นก็คือจงเทา หลายวันก่อนหน้านี้จงเทาและผู้ฝึกยุทธ์สำนักศึกษาเสินเจียงกลุ่มหนึ่งไล่ล่าเย่เฟิง สุดท้ายก็ปล่อยให้เย่เฟิงหนีรอดไปได้ แต่ไม่นึกว่าจะมาเจอกันที่นี่อีกครั้ง เช่นนั้นเขาจงเทาย่อม้าสะสางปัญหาระหว่างเขากับเย่เฟิงให้จงได้
“ฟิ้ว!” รังสีหอกทะลวงอากาศด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ และมันสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้
จงเทาเผยสีหน้าตื่นตระหนกก่อนจะเบี่ยงตัวหลบ แต่ว่าเขาหลบช้าไป จึงถูกรังสีหอกแทงเข้าิัจนเืไหลซึมออกมา ทั้งยังซัดจงเทากระเด็นออกไปพร้อมสีหน้าบูดเบี้ยว
“เมื่อหลายวันก่อนถ้าไม่ได้คนของสำนักศึกษาเสินเจียงช่วยไว้ ป่านนี้เ้าจงเทาคงตายด้วยหอกของข้าไปนานแล้ว แต่บัดนี้กล้าดียังไงมายั่วยุข้า ข้าล่ะนับถือในความใจกล้าของเ้ามากจริง ๆ !” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น ทำให้สีหน้าของจงเทาบูดเบี้ยวกว่าเดิมและรู้สึกอับอายขายหน้าเป็อย่างมาก
“วูบ!” ขณะเดียวกันการโจมตีของนี่จ้านเทียนก็มาถึงแล้ว รังสีทวนทะลวงอากาศพุ่งไปหาเย่เฟิง ระหว่างนั้นพลอยทำให้กระแสอากาศแปรปรวนไปด้วย
“หอกมรณะ!”
เย่เฟิงแผดเสียงคำรามพร้อมแทงหอกออกไป ทันใดนั้นพลังมรณะห้อมล้อมรังสีหอกที่แฝงด้วยอำนาจหอก ทำให้พลังของรังสีหอกถูกยกระดับไปอีกขั้น
“ปัง!” อาวุธสองชิ้นเข้าปะทะกันกลางอากาศ ทำให้เกิดประกายไฟ ทั้งยังมีคลื่นทำลายล้างแพร่กระจายไปทั่วอากาศ
จากการปะทะนี้ นี่จ้านเทียนถึงกับทรงตัวไม่อยู่ ทำให้ผู้คนชะงักนิ่ง แม้ในเวลานี้เย่เฟิงผู้นี้ก็ยังสำแดงพลังได้แกร่งกล้าเป็อย่างมาก
แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า ทักษะหอกปลิดชีวีที่เย่เฟิงฝึกฝนน่าสะพรึงกลัวเพียงใด ในนั้นอัดแน่นไปด้วยอำนาจหอกขั้นผันแปร ดังนั้นนี่จ้านเทียนย่อมเป็ฝ่ายเสียเปรียบ
“หึ!”
เย่เฟิงแค่นเสียงเ็า พลังดาราที่โคจรบนร่างแข็งแกร่งขึ้น จากการใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้ออย่างต่อเนื่อง จึงเริ่มเข้าไปใกล้ดวงแสงมรดกนั่น
“หยุดนะ!”
แต่เมื่อเย่เฟิงเดินไปอีกก้าว พลันมีเสียงเย็นดังขึ้นพร้อมกับมีพลังฝ่ามือมาเยือนเย่เฟิง ซึ่งเ้าของฝ่ามือนี้ก็คือผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 3 ในรายนามเสินเจียงแห่งสำนักศึกษาเสินเจียง อี้ชิง
ก่อนหน้านี้ที่สู้กับเย่เฟิง อี้ชิงไม่ได้รับาเ็มากนัก ตอนนี้กฎของแดนมรดกเปลี่ยนไป นวมรดกปรากฏขึ้น เขาอี้ชิงจะพลาดได้อย่างไรเล่า?
นอกจากนี้ความเกลียดชังที่เขามีต่อเย่เฟิงยังคงไม่จางหาย เมื่อเห็นนี่จ้านเทียนกับจงเทาปิดล้อมเย่เฟิง เขาจึงเข้าร่วมด้วย ตราบใดที่ทำให้เย่เฟิงตายได้ เขาอี้ชิงก็ไม่สนใจวิธีการใด ๆ
เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย การปรากฏตัวกะทันหันของอี้ชิง ทำให้เขารับมือไม่ทัน
“เ้ายังมีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกหรือ ไปให้พ้น!”
แม้จะถูกฝ่ามือของอี้ชิงโจมตี แต่เย่เฟิงไม่ถอยร่นเด็ดขาด ตอนนั้นเองเขาปล่อยหมัดออกมา
อี้ชิงชะงักงัน เขาอยากหลบหนี แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง รังสีหมัดของเย่เฟิงพาดผ่านท้องฟ้า ก่อนจะซัดร่างเขาเต็มแรงจนส่งเสียงโอดครวญออกมาอย่างเ็ป จากนั้นร่างกระเด็นปลิวออกไปพร้อมกระอักเื อี้ชิงเพิ่งปรากฏตัวได้ไม่นานก็โดนซัดจนเละเสียแล้ว ช่างน่าอับอายยิ่งนัก
“นี่...”
ผู้คนเห็นฉากนี้ต่างตะลึงค้าง สามผู้ฝึกยุทธ์ปิดล้อมเย่เฟิงเพียงคนเดียว แต่เวลาไม่กี่ลมหายใจ นี่จ้านเทียนถูกซัดกระเด็น จงเทาถูกรังสีหอกโจมตีจนได้รับาเ็จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ส่วนอี้ชิงก็ถูกโจมตีจนร่างกระเด็นปลิว พลังของเย่เฟิงผู้นี้ดูเหมือนจะแกร่งขึ้นอีกแล้ว
“หรือว่าการต่อสู้ที่ผ่านมา เย่เฟิงผู้นี้จะออมมือ?”
ความคิดหลากหลายผุดขึ้นในหัวของเหล่าผู้คน และสายตาที่มองเย่เฟิงก็ดูเลื่อมใสศรัทธามากขึ้นกว่าเดิม