ฉินเฟิงมองไปทางด้านขวาไม่ไกลจากนั้นมีเกาะเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยป่าอยู่ มันเรียกว่า ‘ูเาสัตว์อสูร’และฉินเฟิงเป็คนตั้งชื่อให้มันเอง เมื่อถึงยามค่ำคืนเสียงสัตว์ป่าที่น่าขนลุกจะดังออกจากป่าบนเกาะนั้นและไม่มีใครกล้าเข้าไปเล่น
ฉินเฟิงหรี่ตาเพื่อมองูเาสัตว์อสูรและความอยากจะไปดูก็ไหลซึมอยู่ในใจอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นเรือลาดตระเวนผิวน้ำกำลังมาทางเขาเขาจึงหยุดความอยากนั้นชั่วคราว เขาตัดสินใจจะหาเวลาไปดูทีหลัง
เรือหยุดอยู่ด้านข้างฉินเฟิงชายสามคนที่ใส่ชุดกู้ภัยมองฉินเฟิงที่เหม่อลอยและถาม “น้องชาย เป็อะไรหรือเปล่า?”
“น้องชาย ตื่นสิ เป็อะไรไหม?” หน่วยกู้ภัยเข้ามาเขย่าฉินเฟิง
ร่างของฉินเฟิงสั่นและก็กลับสู่ปกติเขามองไปที่คนสามคนข้างหน้าด้วยความใ เขากัดฟันขณะที่พูด “ฉ..ฉันยังไม่ตายเหรอ? ฉ..ฉันเจอสึนามิ”
“น้องชาย ไม่เป็อะไรแล้ว นายปลอดภัยแล้ว”หน่วยกู้ภัยมองฉินเฟิงด้วยสีหน้าอ่อนโยนและตบหลังของเขาเบาๆเขาพาฉินเฟิงเข้าอ้อมกอด “นายยังมีชีวิตอยู่ อย่ากลัวไปเลยเรามาแล้วจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่า..”
หน่วยกู้ภัยคิดว่าฉินเฟิงเสียขวัญจากสึนามิเขาจึงอยากจะดูแลและปลอบเขา อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงผลักเขาไป
“เฮ้ อย่ากอดได้ไหม? ฉันเป็ผู้ชายและก็ยังมีรสนิยมปกติดี ฉันไม่สนใจนายหรอก”ฉินเฟิงมองไปที่หัวหน้ากลุ่มของหน่วยกู้ภัยโดยไม่มีเศษเสี้ยวความกลัวบนใบหน้าเขาโบกมือและสั่งการ “ไปกันเถอะ เราจะกลับกันแล้ว!”
หน่วยกู้ภัยมึนงงสักพักก่อนที่จะคืนสติพวกเขาพาคนมาช่วยฉินเฟิงที่อยู่บนเรือเพื่อพาเขากลับขณะที่ยังมีเรือที่กำลังค้นหาที่อยู่ของชายสวมหมวกฟางทั้งสอง
ตอนที่พวกเขากำลังตรวจสอบจากฝั่งด้วยกล้องส่องทางไกลพวกเขารู้ว่ามีสามคนอยู่บนเรือของฉินเฟิง พวกเขาไม่เห็นเต่าดำเพราะถูกคลื่นสึนามิบัง
…
เมื่อฉินเฟิงกลับมาที่ชายหาดเหล่าแฟนๆ ก็แห่กันมาล้อมรอบเขาหลังจากที่เห็นการเต้นรำที่สง่างามของเขากับไป๋ชิงและการเคลื่อนไหวเท่ๆ กลางอากาศพวกเขาจึงรอฉินเฟิงกลับฝั่ง
แต่ต่อมาก็ได้มีสึนามิและฉินเฟิงก็หายไปสักพักหนึ่งตอนนี้เขากลับมาปลอดภัยดีดังนั้นผู้คนจึงจดจำเขาในหัวใจมากยิ่งขึ้น
เขาเป็ผู้ชายที่เจอกับสึนามิเขาเป็ซูเปอร์แมนที่เดินบนสึนามิ...ไม่สิ เขาคือเทพ!
ฉินเฟิงไม่ได้สนใจเหล่าแฟนๆที่กำลังตามเขาอย่างกระตือรือร้นเขามองหาไป๋ชิงที่หาดก่อนที่จะรู้จากเพื่อนสมัยเรียนของเธอว่าเธอขึ้นฝั่งไปนานแล้วตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าเธออยู่ไหน
ฉินเฟิงมั่นใจว่าไป๋ชิงกลับไปที่ห้องพิเศษแล้วหลังจากสลัดพวกแฟนคลับมีปัญหาเขาก็รีบกลับโรงแรม
เขาใช้ลิฟต์เฉพาะเพื่อขึ้นไปยังห้องที่อยู่ชั้นบนสุดเมื่อเขาเข้ามาในห้องก็เห็นไป๋ชิงกำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงใต้ร่มกันแดดและมองไปที่วิวด้านนอกเธอมีท่าทางเหม่อลอยและไม่แม้แต่จะรู้ตัวว่าเขาเข้ามาแล้ว
“ชิงชิง ในเมื่อคุณกลับมาแล้วทำไมคุณไม่เรียกให้คนไปช่วยผมล่ะ? ไม่ดีเลยนะ” ฉินเฟิงนั่งตรงข้ามกับไป๋ชิงอย่างไม่ใส่ใจ
ไป๋ชิงรู้สึกตัวสายตาของเธอเ็าเหมือนโรงงานน้ำแข็งเธอเหลือบมองฉินเฟิงเล็กน้อยก่อนจะกลับไปดูวิวทิวทัศน์ต่อ“ทำไมฉันต้องส่งคนไปช่วยคุณด้วยล่ะ?”
“ตอนที่คุณรู้ว่าฉันโดนชายแปลกๆ ลักพาตัวไปคุณหนีไปหลังจากไล่ตามมาครึ่งทาง คุณตั้งใจทิ้งฉันไว้กับชายแปลกๆสองคนพวกนั้นและไม่สนใจฉันเลยสักนิด คุณทิ้งฉันไปอย่างไร้ความรู้สึก...ฉินเฟิงคุณพูดถูก เราเป็แค่คู่ขากันเท่านั้น”
“ฉันเป็แค่คู่ขา แล้วทำไมฉันต้องพาคนไปช่วยคุณด้วย?”
ฉินเฟิงไม่รู้ว่าไป๋ชิงช็อกแบบไหนแต่หลังจากที่เขาล้อเล่นว่าเป็คู่ขากันเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมากและเ็ายิ่งกว่าูเาน้ำแข็งฉินเฟิงรู้สึกผิดมากเพราะเขาบอกเองว่าพวกเขาเป็คู่ขากันแต่ความจริงไม่มีอะไรระหว่างพวกเขาเลย
ฉินเฟิงโกรธมากเขามองไป๋ชิงอย่างเอาเป็เอาตายและพูดด้วยความไม่พอใจ “ไป๋ชิงคุณจะเป็อย่างนี้ได้อย่างไร? คุณเป็อย่างนี้ไม่ได้นะเข้าใจไหม?”
ฉินเฟิงยิ่งพูดก็ยิ่งขึ้นเขายืนขึ้นอย่างโมโหและะโใส่อย่างรุนแรง“เธอกล้าทำกับฉันบนโซฟาในห้องนั่งเล่นตอนนี้เลยไหม? หลังทำเสร็จถ้าเธอยังโกรธที่ฉันพูดว่าเราเป็คู่ขากันงั้นฉันจะยอมรับความโกรธนี้ไว้เอง”
ไป๋ชิงเงยหน้าเล็กน้อยและมองหน้าฉินเฟิงสายตาของเธอเย็นเหมือนน้ำแข็งขณะที่มองฉินเฟิงอย่างเงียบงันหลังจากนั้นสักพักเธอก็ะเิเสียงหัวเราะออกมากะทันหัน “ฮ่าๆๆ ฉินเฟิงฝันไปเถอะ!”
เมื่อเขารู้ว่าไป๋ชิงเห็นแผนจิตวิทยาของเขาเขาก็เกาหัวอย่างอึดอัด “ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว”
ฉินเฟิงไปอาบน้ำที่สปาขณะที่ไป๋ชิงยังคงนั่งบนระเบียงต่อและจ้องมองไปยังทะเลใครจะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
เสียงโทรศัพท์ดังสักพักก่อนที่ไป๋ชิงจะรู้สึกตัวเธอหยิบโทรศัพท์และเห็นว่าฟางจื้อิโทรหาเธอ
“มีอะไรเหรอคะ?” ไป๋ชิงรับโทรศัพท์และถามอย่างสงบนิ่ง
“ไป๋ชิงตอนนี้คุณอยู่ไหนน่ะ? ผมไม่เห็นคุณที่ชายหาดเลย”ฟางจื้อิถามด้วยเสียงอ่อนโยน
เขากลับมาและอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็เสื้อเชิ้ตสีขาวดูหล่อสะอาดสะอ้านตอนนี้เขานั่งอยู่ในร้านกาแฟขณะที่เพลิดเพลินกับเวลาน้ำชายามบ่าย
“อ้อ ฉันรู้สึกไม่ดีเลยกลับมาก่อนน่ะ”
“ตัวคุณรู้สึกไม่ดีเหรอ?” ฟางจื้อิมีท่าทีกังวลและถามอย่างกระตือรือร้น“คุณรู้สึกไม่ดีตรงไหนเหรอ? คุณคงไม่ได้เป็หวัดเพราะโดนลมใช่ไหม?เอางี้เป็ไง? ผมกำลังดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟบนชั้นสามของโรงแรมมาดื่มชาขิงร้อนเพื่ออุ่นร่างกายเถอะ มันน่าจะช่วยได้นิดหน่อย”
เมื่อไป๋ชิงได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและน่าดึงดูดของฟางจื้อิเธอก็ตื้นตันเล็กน้อย เธอนึกถึงฉินเฟิงและเอามาเทียบกันโดยไม่รู้ตัวอารมณ์ภายในของเธอเข้มข้นมากขึ้น หลังจากเงียบไปนาน เธอก็ตอบกลับอย่างสงบ“รอแป๊บนะ เดี๋ยวฉันลงไป!”
ไป๋ชิงวางสายเธอเหลือบไปมองห้องสปาก่อนที่จะกลับห้องของตัวเองและเปลี่ยนเป็เดรสชีฟองแล้วก็ออกจากห้องพิเศษไป
…
จูต้านิวติดไฟแดงตลอดทางเธอจึงเพิ่งมาถึงบ้านพักตากอากาศ เธอจ่ายค่ารถและเดินแบกกระเป๋าออกมาอย่างหงุดหงิดแม้ว่าเธอจะเห็นท้องฟ้าสีครามและหาดทรายสวยงามที่ไม่สิ้นสุดก็เถอะมันก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้น
เธอมองไปรอบๆและเห็นจักรยาน 28 นิ้ว ของฉินเฟิงเธอตะลึงไปสักพักก่อนจะรีบสงบใจลง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาฉินเฟิงทันที
“ใครน่ะ?” ฉินเฟิงถามอย่างหงุดหงิด
“นายน้อยฉิน จูต้านิวเองค่ะ คุณอยู่ไหนเหรอ? ฉันจะไปหาคุณ”จูต้านิวพูดเสียงหวาน
“ฉันไม่รู้จักจูต้านิว เคยได้ยินแต่ Angel ฉันไม่มีเวลาไปเที่ยวกับเธอหรอกแค่นี้นะ”
ก่อนที่ฉินเฟิงจะวางสายจูต้านิวก็พูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย “นายน้อยฉิน ฉันมาหาคุณเพื่อคุยเื่ไป๋ชิงค่ะ”