“ซย่าจิ่นเซวียน เ้ากล้าสั่งสอนข้าหรือ เ้ามีคุณสมบัติใดมาสั่งสอนข้า ข้าจะสอนเป่าจูอย่างไรมันเื่ของข้า” เฉียวซื่ออยู่มิสุข นางโต้แย้งทันทีที่จิ่นเซวียนพูดจบ
“ข้ามิมีคุณสมบัติจะสั่งสอนท่านหรอกเ้าค่ะ ข้าแค่มิชอบวิธีการของท่านก็เพียงเท่านั้น ท่านรู้หรือไม่ เหตุใดพี่ใหญ่กับพี่รองถึงกระทบกระทั่งกันเช่นนี้?มิใช่เพราะความลำเอียงของท่านหรอกหรือ ท่านปฏิบัติกับพวกเขาอย่างมิเท่าเทียม ทั้งที่พวกเขาก็เป็ลูกกับหลานของท่านเหมือนกัน ผู้ใดก็ต้องคิดกันทั้งนั้น โดยเฉพาะพี่สี่ ท่านมิคู่ควรที่จะเป็แม่เสียด้วยซ้ำ ท่านเกลียดพี่สี่ เพราะใบหน้าของนางมีปานแดงอยู่ หากท่านอยากเกลียดก็เกลียดไปผู้เดียว นี่ท่านยังให้ทุกคนเกลียดนางด้วย”
“พี่สะใภ้ห้า คราที่พี่สี่เกิดมา ทุกคนต่างบอกว่านางเป็ตัวซวย มิควรเข้าใกล้นางคือความจริงนะเ้าคะ” ซ่งเป่าจูหลุดพึมพำออกมา
จิ่นเซวียนไร้คำจะพูด “เป่าจู ผู้อื่นพูดอย่างไรเราเข้าไปยุ่งมิได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเราจะรับมืออย่างไรต่างหาก เ้าคือน้องสาวแท้ๆ ของพี่สี่ ขนาดเ้ายังมิรักนาง แล้วคนนอกจะรักนางหรือ?”
ลูกสะใภ้ผู้นี้มิเพียงเฉลียวฉลาด นางยังแข็งแกร่งยิ่งนัก มิคิดเลยว่านางพูดเพียงไม่กี่คำ จะเอาเ้าใหญ่กับเ้ารองอยู่ หากบ้านซ่งสามัคคีและร่วมมือกันพัฒนาไปในทางที่ถูกที่ควร คงเป็เื่ที่ดียิ่งนัก
“เป่าจู เ้าอย่าเถียง สะใภ้ห้าอายุน้อยกว่าเ้า แต่นางกลับมองปัญหาได้อย่างทะลุปรุโปร่งมากกว่าเ้า เช่นวันนี้เ้ามิควรขอปิ่นปักผมทองของนาง เหมือนที่นางพูด หากเ้าอยากมีความสุข เ้าต้องพยายามเอามาด้วยความสามารถของตนเอง มิใช่สั่งให้พวกเราเอามาให้เ้า”
“ท่านพ่อ ท่านแม่บอกว่าข้าเกิดมามีดวงชะตาคุณหนู งานในบ้านให้ผู้อื่นทำไปเ้าค่ะ” แม้ซ่งเป่าจูจะดื้อ แต่นิสัยมิได้เลวร้าย นางเพียงแค่โดนเฉียวซื่อเลี้ยงจนเสียคน
“เป่าจู ข้าพูดเช่นนี้กับเ้าเพราะเห็นแก่หน้าพี่ห้า หากเ้ามิฟัง เ้าจะเสียใจในสักวัน” บางคำพูด พูดไปก็ไร้ค่า จิ่นเซวียนหวังว่าซ่งเป่าจูจะรักษาโอกาสดีๆ นี้ไว้
“เวลานี้ข้าขอประกาศเื่ใหญ่เื่หนึ่ง ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป บ้านหลังนี้ให้เซวียนเซวียนดูแล เฉินเอ๋อร์ อาฉีและอาเจี๋ยมีหน้าที่เรียนหนังสือและเตรียมสอบรับตำแหน่งขุนนาง ส่วนข้าและคนอื่นๆ จะช่วยกันสนับสนุนเซวียนเซวียน ทำให้บ้านซ่งเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น” ทุกคนใยิ่งนักที่ซ่งผิงมอบอำนาจดูแลบ้านให้จิ่นเซวียน
จิ่นเซวียนเองก็ใเช่นกัน นางเป็ผู้มาใหม่ พ่อสามีให้รับผิดชอบงานใหญ่เช่นนี้ มันผิดปกติ
นอกจากนี้การที่ให้สะใภ้ใหม่เพิ่งแต่งเข้ามาดูแลบ้าน นางเพิ่งจะพบเจอเป็หนแรก
“ท่านพ่อ ท่านคือหัวหน้าครอบครัว ลูกสะใภ้รับผิดชอบงานใหญ่เช่นนี้มิไหวหรอกเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเพียงบอกว่าจะพาทุกคนร่ำรวยไปด้วยกัน นางกลายเป็หัวหน้าครอบครัวเมื่อใด
“เซวียนเซวียน ข้าคิดมาดีแล้ว ข้ามิรู้เื่เกี่ยวกับการทำธุรกิจเลย มิมีดีสักอย่าง นอกจากใช้แรงงาน เพื่อตรากตรำเก็บเงิน” ก่อนที่ซ่งผิงจะตัดสินใจเช่นนี้ เขาพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาเห็นว่าจิ่นเซวียนมีความเป็ผู้นำ ต้องเป็นายหญิงที่ดีในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน เขาคือพ่อของซ่งจื่อเฉิน แต่เป็เพียงแค่ในนามเท่านั้น เขาสละได้ทุกสิ่ง แม้กระทั่งชีวิตของตนเองเพื่อซ่งจื่อเฉิน
“เหตุใดต้องให้นางดูแลบ้าน ข้าต่างหากคือนายหญิงของบ้านหลังนี้” เฉียวซื่อโกรธจัด นางกังวลว่าเมื่อจิ่นเซวียนได้ดูแลบ้านแล้วจะใช้อำนาจข่มเหงนาง
“ท่านแม่ ข้ามิคัดค้านที่ท่านพ่อให้น้องสะใภ้ห้าดูแลบ้านขอรับ” เหตุผลที่ซ่งหวาสนับสนุนจิ่นเซวียนนั้นเรียบง่ายยิ่งนัก เขาพอใจในความสามารถของจิ่นเซวียน สตรีที่ยอมเอาสินสมรสออกมาเกื้อกูลครอบครัวมิใช่สตรีธรรมดา หากได้ไปทำงานกับนาง บางทีอาจจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
“พวกเราเองก็สนับสนุนให้น้องสะใภ้ห้าดูแลบ้านขอรับ” ซ่งเหลียงและซ่งหงแสดงจุดยืนทีละคนจนเฉียวซื่อรู้สึกหดหู่ พวกลูกชายมิคิดจะช่วยนาง ดูท่าในวันข้างหน้านางคงอยู่ยากเสียแล้ว!
“ภรรยา เ้าฟังท่านพ่อเถิด ท่านพ่อเชื่อใจเ้า เขาถึงได้มอบหมายเื่สำคัญเช่นนี้ให้” ซ่งจื่อเฉินเกลี้ยกล่อมให้จิ่นเซวียนยอมรับหน้าที่สำคัญนี้เอาไว้ เขารู้ว่าพ่อเลี้ยงมิมีหัวทางธุรกิจ พวกเขา้าแก้แค้น ้าชิงสิ่งที่เป็ของพวกเขากลับมา ก่อนที่จะทำได้นั้น พวกเขาต้องมีเงิน และรอเวลาที่เหมาะสมกว่านี้เสียก่อนจึงจะเปิดเผยภูมิหลังของเขาให้ภรรยาตัวน้อยรู้ได้
“ขอบคุณทุกคนที่วางใจในตัวข้าเ้าค่ะ ในเมื่อพวกท่านเลือกให้ข้าเป็หัวหน้าครอบครัวแล้ว ข้าก็ต้องรับผิดชอบบ้านหลังนี้ ข้าจะกลับไปจัดทำกฎบ้านอย่างละเอียด ข้ารับรองว่าทุกคนจะมิเสียเปรียบแน่เ้าค่ะ”
ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของซ่งจื่อเฉิน สุดท้ายจิ่นเซวียนก็ยอมรับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวมา แต่เพื่อให้เกียรติซ่งผิง นางเลยบอกทุกคนว่านางรับผิดชอบเพียงเื่หาเงินเท่านั้น ภายนอกซ่งผิงยังเป็หัวหน้าครอบครัวอยู่
“พี่สะใภ้ห้า เช่นนั้นจากนี้ข้าต้องทำงานแล้วใช่หรือไม่เ้าคะ?” ซ่งเป่าจูถามจิ่นเซวียนอย่างใจเสีย นางกลัวจิ่นเซวียนบอกให้นางทำงานที่สุด
“นี่คือสิ่งจำเป็ หากเ้าอยากแก้นิสัยเสียพวกนั้น เ้าก็ต้องรู้จักดูแลตนเองให้เป็ เ้ามิทำอาหาร พวกเรามิบังคับ แต่งานอื่นเ้าต้องทำเอง”
จิ่นเซวียนตัดสินใจดัดนิสัยน้องสามีหัวดื้อ สอนให้นางพึ่งพาตนเอง
“ว่าอย่างไรนะ เ้ากล้าให้ลูกสาวของข้าทำงานหรือ” ท่าทางตีโพยตีพายของเฉียวซื่อช่างน่าขันเสียจริง ลูกสาวของนางเป็เช่นนี้ มิใช่เพราะนางหรอกหรือ
“ข้าคือพี่สะใภ้ของนาง ข้ามิทำร้ายนางหรอกเ้าค่ะ ข้าแค่สอนหลักการพื้นฐานในการใช้ชีวิตให้ หากนางยังเอาแต่ตนเองเช่นนี้ วันข้างหน้าแต่งเข้าบ้านผู้อื่นไป นางจะทำอย่างไร ผู้อื่นจะตามใจนางหรือเ้าคะ?” คนที่ทำให้จิ่นเซวียนปวดหัวที่สุดคือแม่ลูกคู่นี้ ผู้อื่นยังพอพูดคุยกันได้ แต่แม่ลูกคู่นี้ไร้ยางอายเกินไป
ผู้อื่นเห็นด้วยกับคำพูดของจิ่นเซวียน พวกเขายอมให้ซ่งเป่าจูวางอำนาจในบ้าน แต่คนนอกมิมีทางยอม
หากนางมิแก้นิสัยเสียๆ ของตนเอง นางจะต้องลำบากในวันข้างหน้าแน่
“พี่สะใภ้ห้า ขอแค่มิให้ข้าลงไปทำนา ข้าจัดการเื่ส่วนตัวของข้าได้เ้าค่ะ” ซ่งเป่าจูขอต่อรองจนจิ่นเซวียนพูดมิออก
“เป่าจู ตอนท่านปู่ของข้ายังอยู่ ท่านก็มิเคยให้ข้าไปทำนาเช่นกัน แต่ข้าก็ยังยืนกรานที่จะทำนา และทำงานบ้านทุกอย่าง ตอนที่ท่านปู่ยังอยู่มิมีผู้ใดกล้ารังแกข้าหรอก แต่พวกเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะเติบโต เพราะท่านต้องจากเราไปในสักวันอยู่ดี หรือเ้ามิอยากกำหนดชะตาชีวิตด้วยความสามารถของตนเองหรือ?”
“เป่าจู พี่สะใภ้ห้าทำเพื่อเ้านะ ข้าจะบอกกับเ้าตามตรง หลายปีมานี้พวกเราสุดจะทนกับเ้าแล้วจริงๆ หากเ้ามิใช่น้องสาวแท้ๆ พวกเราคงทุบตีเ้าไปนานแล้ว” ซ่งหงยังหวังให้ซ่งเป่าจูแก้นิสัยร้ายๆ ของนาง เพราะหากนางยังทำเช่นนี้ต่อไป ทุกคนคงเกลียดนางมากขึ้นไปอีก
“เป่าจู คนเราต้องมีเป้าหมาย เ้าอยากทำตัวให้ดีขึ้น เ้าก็ต้องรักตนเอง รักคนในครอบครัวและเพื่อน มิอาจเห็นแก่ตัวได้” จิ่นเซวียนพูดถึงเป้าหมายในชีวิต เพื่อตะล่อมให้ซ่งเป่าจูคล้อยตาม แต่ซ่งเป่าจูโพล่งออกมาเสียก่อน “เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าคือแต่งงานกับผู้ชายดีๆ โดยมิต้องกังวลเื่เสื้อผ้าและอาหารเ้าค่ะ”
“หากเ้าเอาการแต่งงานเป็เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเ้า ข้าพูดได้เพียงว่าเ้าโง่ยิ่งนัก ผู้ชายเชื่อถือมิได้สักคน พวกเราพึ่งพาได้เพียงตนเองเท่านั้น อีกอย่าง เ้ามีดีอย่างไรให้คนมาสู่ขอเป็ภรรยาเศรษฐีหรือ”
จิ่นเซวียนยอมซ่งเป่าจูจริงๆ ความคิดของนางเหมือนซย่าจิ่นอวิ๋นมิมีผิด รู้เพียงว่าผู้อื่นต้องปฏิบัติกับพวกนางอย่างไร แต่มิเคยรู้ว่าตนเองต้องปฏิบัติกับผู้อื่นอย่างไร
“ภรรยา เ้ามิเชื่อใจข้าหรือ?” ซ่งจื่อเฉินคิดว่าผู้ชายมิได้เหมือนกันหมด เขาจึงมิค่อยพอใจกับคำว่าผู้ชายเชื่อถือมิได้สักคนของจิ่นเซวียน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้