คนในเผ่าอิงกูฟื้นขึ้นมาจากอาการสลบไสล หลังจากผู้นำาุโทราบที่มาที่ไปของเื่ราวทั้งหมดก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของถังชิงหรูและเฉินิเป็อย่างยิ่ง เมืองชิ่งและเผ่าอิงกูจึงได้ทำสัญญาเป็พันธมิตรต่อกัน ต่อไปเผ่าอิงกูจะขายโคและแพะให้กับจวนชิ่งอ๋องโดยตรง และจวนชิ่งอ๋องจะให้ราคาที่สมน้ำสมเนื้อแก่พวกเขา เช่นนี้ก็นับว่าสองฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกัน
เผ่าอิงกูรู้สึกประทับใจในตัวเฉินิ จึงเป็ฝ่ายริเริ่มเสนอขายอาชาชั้นดีจำนวนห้าตัวให้แก่จวนชิ่งอ๋องทุกปี เพื่อเป็การตอบแทนที่ช่วยชีวิตทุกคนในเผ่า อย่างไรเสียการได้การค้าเพิ่มอีกอย่าง เผ่าอิงกูย่อมเป็ฝ่ายได้เปรียบ ชิ่งอ๋องรับซื้อโคและแพะของพวกเขาในราคาสูง ก็เป็การให้ความช่วยเหลือ จวนชิ่งอ๋องหาได้รับผลประโยชน์มากมาย
วันที่สามหลังจากฟื้นขึ้นมา อิงฉีหัวหน้าเผ่าคนใหม่ก็จัดพิธีแต่งงานกับถังอวี้ซู ถังชิงหรูลงครัวทำเนื้อย่างเลิศรสด้วยตนเอง ให้พวกเขาได้รู้ว่ารสชาติของอาหารปิ้งย่างที่อร่อยเป็เช่นไร ชาวเผ่าอิงกูเพิ่งรู้ว่าที่แท้การนำผักไปย่างยิ่งเพิ่มรสชาติ แต่นั่นก็เป็เพราะว่าพวกเขากินแต่เนื้อย่างมานานจนเอียนมากกว่า
"พวกเราไปดูที่นั่นกันเถอะ..." อิงฉีเข้ามาหาถังชิงหรู พลางกระซิบข้างหู
ถังชิงหรูกำลังตรวจคนไข้ ยามนี้อิงฉีมีความรู้สึกที่ดีต่อเฉินิมากขึ้น ชนเผ่าอิงกูได้รับอนุญาตให้เข้าออกเมืองชิ่งได้อย่างเป็อิสระ รวมถึงได้รับการยกย่องให้เกียรติมากขึ้น และสามารถมาทำการค้าที่นี่ได้อย่างอิสระ เฉินิผู้เป็อ๋องของเมืองชิ่งได้ร่างสนธิสัญญาหลายฉบับที่เอื้อประโยชน์ให้กับเผ่าอิงกู
อิงฉีหัวหน้าเผ่าคนใหม่มิได้เคร่งครัดกับคนในเผ่ามากเหมือนมารดาของนาง ผู้นำาุโเห็นบุตรสาวเพิ่งมารับตำแหน่งก็ร่างกฎระเบียบชุดใหม่ขึ้นมาเสียแล้ว แต่ก็ทำเป็หลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่ง
ั้แ่รับตำแหน่งหัวหน้าเผ่าคนใหม่ อิงฉีก็เข้ามาเมืองชิ่งอยู่บ่อยครั้ง โรงหมอของถังชิงหรูคือสถานที่ที่นางมาเยือนบ่อยที่สุด แต่ถังชิงหรูก็ไปเผ่าอิงกูเป็ประจำเช่นกัน เผ่าอิงกูดีไปเสียทุกด้าน ขาดแต่ด้านการรักษาโรค ยามคนในเผ่าเจ็บป่วยก็มักจะไปหาแม่มดหมอผี ใช้สมุนไพรส่งเดชไปตามมีตามเกิด ด้วยเหตุนี้เมื่อคนในเผ่าเจ็บไข้ อิงฉีก็จะมาลากถังชิงหรูไปช่วยรักษา
มือของถังชิงหรูหยุดชะงัก หันมามองอิงฉี ก่อนเอ่ยถามอย่างกังขา "ที่ไหน"
"ก็ที่นั่นไง" อิงฉีทำตาปริบๆ ท่าทางมีเลศนัย
แม่เฒ่าที่อยู่ด้านข้างหน้าแดงซ่าน อ้าปากพะงาบเหมือนอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ก็หุบกลับลงไป ถังชิงหรูเห็นเช่นนั้นก็ถามว่า "ท่านป้า ไม่สบายตรงไหนอีกหรือไม่"
หญิงวัยกลางคนผู้นั้นรวบรวมความกล้า ก่อนดึงมือของถังชิงหรูมากุมไว้ เอ่ยด้วยความซาบซึ้งใจ "ท่านหมอเทวดา ข้ามีบุตรสาวคนหนึ่ง หน้าตางดงามปานบุปผา แม้จะไม่สะสวยเหมือนแม่นางผู้นี้ แต่ดีชั่วอย่างไรก็เป็คนเมืองชิ่ง แม่นางผู้นี้เป็ชนเผ่าอิงกู หากท่านแต่งงานกับนาง วันหน้าก็ต้องเชื่อฟังนาง ท่านหมอ ท่านต้องใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนนะเ้าคะ"
ถังชิงหรู "..."
อิงฉี "..."
ทั้งสองหันมาสบตากัน หลังจากนั้นก็ขำพรืด
ถังชิงหรูยิ้มกล่าวอย่างนุ่มนวล "ท่านป้าเข้าใจผิดแล้ว พวกเราเป็แค่สหายกัน อีกอย่าง สหายข้าผู้นี้ก็แต่งงานแล้วด้วย"
คนไข้อื่นๆ ต่างพรูลมหายใจอย่างโล่งอก มีคนพูดขึ้นว่า "โชคดีๆ หากท่านหมอถูกคนเผ่าอิงกูพาไป วันหน้าพวกเราจะทำอย่างไร"
ถังชิงหรูส่งคนไข้ทั้งหมดกลับไปแล้ว ่บ่ายก็เป็เวลาอิสระของตนเอง ตอนนี้นางกำหนดรักษาคนไข้เพียงวันละไม่กี่สิบคน ดังนั้นจึงมีเวลาไปทำธุระอย่างอื่นบ้าง
"เมื่อครู่เ้าจะพูดอะไร" ถังชิงหรูเก็บข้าวของเสร็จก็เอ่ยถาม
"บอกใบ้ตั้งนาน เ้ายังไม่เข้าใจความหมายของข้าอีก ข้าพูดถึงรูปสลักกวนอิมที่พาเ้าไปคราก่อน พวกเราไปดูกันเถอะ ข้าเอาแจกันมาแล้ว" อิงฉีกระซิบ "เ้าไม่อยากรู้หรือ ข้าอยากรู้ว่าข้างในมีอะไร
"ที่แท้เ้าก็หมายถึงที่นั่นนี่เอง" ถังชิงหรูนึกได้ "่นี้ค่อนข้างยุ่ง ข้าลืมเื่นั้นไปสนิท ดีที่เ้าเตือนสติ พวกเราไปดูกันเถอะ"
"อื้ม" อิงฉีผงกศีรษะ "ต้องไปหาท่านอ๋องน้อยด้วยหรือไม่"
คราก่อนชาวอิงฉีทุกคนได้รับการช่วยเหลือ พวกเขาถึงทราบสถานะของเฉินิ เขาไม่เย่อหยิ่งถือตัวแบบชนชั้นสูง พวกเขาถึงยินดีคบค้าสมาคมด้วย
"เขาว่างทั้งวันคงจะเบื่อ ไปแจ้งให้รู้สักหน่อยดีกว่า หากมารู้หลังจากที่พวกเราไปแล้ว เกรงว่าจะโมโหหงุดหงิดขึ้นมาอีก" ถังชิงหรูกล่าว "ข้าจะกลับไปเปลี่ยนอาภรณ์ก่อน เ้าไปรอข้าที่จวนชิ่งอ๋อง"
"ข้าไปพร้อมกับเ้าดีกว่า คนที่ชิ่งอ๋องอยากพบคือเ้า หากเห็นข้าเดี๋ยวก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ ข้าคร้านจะรับกับสายตาเ็าเยี่ยงนั้น" อิงฉีหยิบผลไม้ด้านข้างมากัดคำหนึ่ง ก่อนทำตาโตร้องกล่าวอย่างตื่นเต้น "อร่อยจังเลย ชิงหรู เ้านี่ไม่มีคุณธรรมเอาเสียเลย ผลไม้อร่อยแบบนี้ ไม่รู้จักส่งมาให้ข้าบ้าง"
"งั้นหรือ? เ้าแน่ใจหรือว่าข้าไม่ได้ส่งไป ข้าจำได้ว่าเพิ่งส่งไปไม่นานมานี้เอง วันนั้นพี่ชายกับน้องชายของสามีเ้ามา เ้าก็หยิบส่งให้พวกเขาไปเลย" ถังชิงหรูเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "ตอนนี้ไม่มีของกินเลยมาโทษข้า ข้าไม่ยอมรับข้อกล่าวหาหรอกนะ"
"หา... มีเื่เช่นนี้ด้วยหรือ ข้าลืมไปได้อย่างไร" อิงฉีกล่าวด้วยความละอายใจ "เช่นนั้นก็ส่งมาให้ข้าอีกสิ ครานี้ข้าจะไม่เอาไปให้ใครเป็อันขาด
"เอาไว้ก่อนแล้วกัน" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "ข้าเองก็มีไม่เยอะนักหรอก"
ในสวนของนางปลูกผลไม้ไม่น้อย ต้นไม้เ่าั้นางใช้ปุ๋ยน้ำบำรุงจึงเติบโตเร็วและงอกงาม นางยังให้ปุ๋ยน้ำเ่าั้กับผู้คนอีกไม่น้อย พวกเขาต่างพบว่าผลไม้ที่บำรุงด้วยปุ๋ยน้ำหอมหวานเป็พิเศษ คนที่มาขอซื้อปุ๋ยน้ำนับวันก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ถังชิงหรูกลับไปเรือนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ยามนี้นางเคยชินกับการแต่งกายแบบสตรีแล้ว เสื้อผ้าของชนเผ่าอิงกูสวมใส่สบาย แต่หลังจากที่นางสวมอาภรณ์ของเผ่าอิงกูไปถึงจวนชิ่งอ๋อง สีหน้าของเฉินิก็ดำทะมึนยิ่งกว่าเดิมหลายส่วน
"พวกเราอุตส่าห์มาชวนไปเที่ยวเผ่าอิงกู แต่ดูเหมือนว่าใครบางคนจะไม่ยินดีต้อนรับ" ถังชิงหรูกอดอก เอ่ยปากอย่างเอ้อระเหย "งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ"
เฉินิออกปากรั้งพวกนางไว้ทันที "พวกเ้าตั้งใจมาเชิญเปิ่นหวางทั้งที เปิ่นหวางจะไม่ไว้หน้าได้อย่างไร"
ถังชิงหรูกับอิงฉีหันมายิ้มให้กัน โรคขัดแย้งในตัวเองของเฉินิพวกนางรู้จักดี
"แม่นาง..." ถังชิงหรูออกมาจากจวนอ๋อง เห็นจิ่นเอ๋อร์วิ่งมา นำจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้ถังชิงหรู "คุณชายส่งสารมาเ้าค่ะ"
"คุณชาย? " ถังชิงหรูรับจดหมายมา ชั่วขณะนั้นก็ตกตะลึงอย่างหาไม่ได้ นี่นางจะตื่นเต้นไปทำไม? ทว่าก็มิได้คิดมาก เปิดจดหมายออกอ่าน อ่านรวดเดียวจนจบสิบบรรทัด พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กล่าวว่า "เขาบอกว่าตอนนี้สุขสบายดี ให้ข้าไม่ต้องวิตกกังวล เขายังถามข้าว่า่นี้เป็อย่างไรบ้าง จิ่นเอ๋อร์ เดี๋ยวข้าจะไปเผ่าอิงกู หลังจากกลับไปแล้วค่อยเขียนตอบคุณชาย"
"แต่คนส่งสารยังคอยอยู่นะเ้าคะ เขาต้องรีบไปจากเมืองชิ่ง หากแม่นางมีสารฝากไป ทางที่ดีควรตอบกลับเดี๋ยวนี้เลย ดังนั้นบ่าวจึงรีบร้อนมานี่แหละเ้าค่ะ แต่หากแม่นางกำลังยุ่งอยู่จริงๆ เช่นนั้นเอาไว้วันหลังค่อยหาคนไปส่งสารให้คุณชายเถิด" จิ่นเอ๋อร์เอ่ยด้วยท่าทางขัดเขิน
"แบบนั้นก็วุ่นวายเกินไป" ถังชิงหรูส่ายหน้า "เมื่อคนผู้นั้นต้องรีบไป ข้าก็จะกลับไปตอบจดหมายเดี๋ยวนี้ ท่านอ๋อง ข้าขอยืมห้องหนังสือของท่านได้หรือไม่"
เฉินิได้ยินว่าน่าหลันหลิงส่งจดหมายมาก็อารมณ์ไม่ดี จึงตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ "แค่จดหมายฉบับเดียว จำเป็ต้องวุ่นวายขนาดนี้เชียวหรือ ในความเห็นของข้า เ้ากลับมาค่อยเขียนดีกว่า เขียนเสร็จ เปิ่นหวางจะให้คนไปส่งให้เอง ไหนเลยจะต้องหาคนส่งสารให้วุ่นวาย"
"ข้ากลับรู้สึกว่าการให้คนของท่านอ๋องส่งสารกลับจะยิ่งวุ่นวายมากกว่า" ถังชิงหรูเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "ตกลงท่านจะให้ข้ายืมห้องหนังสือหรือไม่ หากมิเต็มใจ ข้ากลับไปเขียนที่บ้านก็ได้"
"เปิ่นหวางใช่คนใจแคบขนาดนั้นเสียที่ไหน เ้าจะใช้ก็ใช้เถอะ" เฉินิขึงตาใส่นาง ใบหน้าหล่อเหลาคุกรุ่นไปด้วยโทสะ
ถังชิงหรูเดินตรงไปในห้องหนังสือของเฉินิ นางรู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่ต้องให้เ้าของจวนนำทาง ผ่านไปครู่หนึ่งก็ออกมาพร้อมกับจดหมายในมือ
"ท่านอ๋อง คุณชายน่าหลันหลิงผู้นี้เป็อะไรกับถังชิงหรูหรือเ้าคะ ดูเหมือนนางจะตื่นเต้นมากเลย" อิงฉีจงใจเอ่ยทิ่มแทงเฉินิ ั้แ่ได้ยินว่าน่าหลันหลิงส่งจดหมายมา เฉินิก็ไม่พอใจอยู่แล้ว พอได้ยินคำกล่าวของอิงฉีก็ยิ่งหงุดหงิดไปใหญ่ แค่นเสียงหึกล่าวว่า "ก็แค่สุภาพชนจอมปลอมน่าชังคนหนึ่ง"
"ข้าเชื่อมั่นในสายตาของชิงหรู คนที่ทำให้นางตื่นเต้นได้ขนาดนี้ จะเป็สุภาพชนจอมปลอมได้อย่างไร คงจะเป็คุณชายหน้าตาหล่อเหลาเสียมากกว่ากระมัง" อิงฉีลูบคางใบหน้ายิ้มกริ่มเอ่ยว่า "ไม่ใช่ว่าท่านริษยาเขาอยู่หรอกนะ เลยจงใจกล่าวเช่นนี้ ที่แท้ชิ่งอ๋องผู้สูงศักดิ์ก็มีเวลาที่เสียความมั่นใจในตนเองอยู่เหมือนกัน"
"ใครว่าเปิ่นหวางไม่มั่นใจในตนเอง" เฉินิเพิ่งเอ่ยออกมาไม่กี่คำ ก็เห็นถังชิงหรูนำจดหมายออกมา เขาขึงตาใส่นางพลางถามว่า "เร็วขนาดนี้เชียว เขียนอะไรบ้าง"
"ไฉนต้องบอกท่านด้วยเล่า" ถังชิงหรูเห็นเฉินิยื่นมือเข้ามาหมาย่ชิงจดหมายของตนเองก็รีบซ่อนไว้ด้านหลัง "นี่เป็ความลับส่วนตัว ท่านเป็ท่านอ๋อง หาใช่เง็กเซียนฮ่องเต้เสียหน่อย ไยต้องรู้ไปเสียทุกเื่"
อิงฉีอมยิ้มพลางสั่นศีรษะ ถอนหายใจเบาๆ "คนหนุ่มสาวก็ดีอย่างนี้เอง"
"เ้าเองเพิ่งพ้นวัยปักปิ่น ยังไม่แก่เสียหน่อย" ถังชิงหรูหัวเราะอย่างขบขัน
นางส่งจดหมายให้จิ่นเอ๋อร์ จิ่นเอ๋อร์หันมายอบกายคำนับให้ทุกคน หลังจากนั้นก็วิ่งกลับไปจวนสกุลถัง จวนของนางใช้ชื่อว่าจวนสกุลถัง ไม่อาจตั้งชื่อตามน่าหลันหลิง อย่างไรเสียสถานะของเขาก็พิเศษมาก สกุลน่าหลันก็ยิ่งพิเศษเข้าไปใหญ่ หากใช้แซ่ของเขา ศัตรูที่คอยตามล่าก็จะหาตัวพบได้ง่าย
พ่อบ้านหลินเห็นจิ่นเอ๋อร์วิ่งไปเยี่ยงนั้นก็ร้องเรียก "แม่นางจิ่นเอ๋อร์ ข้าจะให้คนเอารถม้าไปส่ง"
จิ่นเอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับด้วยความเกรงใจ "ขอบคุณเ้าค่ะท่านพ่อบ้าน จิ่นเอ๋อร์รีบร้อนจริงๆ ต้องรบกวนท่านแล้ว"
เฉินิไม่ได้ว่าอันใด แต่ก็ยังหน้าตาบึ้งตึง ถังชิงหรูให้ความสำคัญกับจดหมายของน่าหลันหลิงขนาดนี้ ทำให้เขานึกถึงคำพูดของนางก่อนหน้านี้
ข้าเป็คนของคุณชายแล้ว...
เชอะ! คิดจะหลอกใครหรือ พ่อบ้านบอกว่า ด้วยลักษณะรูปร่างของนาง มองปราดเดียวก็รู้ว่ายังเป็สาวพรหมจรรย์ คิดจะใช้ลูกไม้แบบนี้มาบีบให้ตนเองยอมวางมือ คิดว่าข้าโง่นักหรือไง
แต่ตนเองก็โง่จริงๆ นั่นแหละ หากไม่เพราะได้คำชี้แนะจากพ่อบ้าน ก็คงเชื่อคำพูดของนางไปแล้ว
"ตกลงจะไปหรือไม่" เฉินิเอ่ยปากอย่างหงุดหงิด "หากจะไปก็รีบหน่อย นึกว่าเปิ่นหวางว่างมากนักหรือ"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้