ฉินฟงกระโจนเข้าหาร่างไร้ิญญาของฉินิหยวนด้วยน้ำตาไหลนอง มันพยายามเขย่าร่างไร้ิญญาอย่างสิ้นหวัง "หยวนเอ๋อร์! หยวนเอ๋อร์!"
เสียงกรีดร้องอันบ้าคลั่งของฉินฟงกระจัดกระจายไปทั่วอาณาเขตตระกูลฉิน ทันใดนั้นสายตาเกรี้ยวกราดของมันจ้องเขม็งไปยังไป๋เฉินด้วยเจตนาฆ่า "ไป๋เฉิน! นี่ต้องเป็ฝีมือของเ้า!"
ความไร้ซึ่งเหตุผลทำให้ฉินฟงเืขึ้นหน้า มันเปล่งเสียงคำรามพุ่งทะยานด้วยความเร็วดุจสายฟ้าโดยไม่สนใจผู้ใด กรงเล็บพลังปราณของมันพยายามขย้ำไปที่ศีรษะของไป๋เฉินอย่างอาฆาตแค้น!
เพราะในชีวิตของฉินิหยวนไม่เคยมีผู้ใดกล้าหือรือกับมันอันเนื่องมาจากอำนาจของตระกูลฉินที่คุ้มกะลาหัวอยู่ นอกเสียจากไป๋เฉินเท่านั้นที่มันพยายามทำตัวเป็ปฏิปักษ์มาโดยตลอด
"ตาย!"
สมาชิกตระกูลฉินกลับแสดงสีหน้าซีดเผือด แม้แต่ฉินเยว่ฉานเองก็เบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก
แต่ทว่าไป๋เฉินในระยะไกลกลับยืนนิ่งเฉยด้วยสีหน้าสงบไร้ซึ่งความกลัว
สายลมเบาๆพัดผ่านจู่ๆร่างของฉินเหยียนพลันปรากฏขึ้นปิดกั้นเส้นทางในชั่วพริบตา พลางอัดฝ่ามือพลังปราณผลักไสฉินฟงจนกระเด็นไปเกือบจะสิบเมตร
"ปัง!"
ฉินฟงที่ไม่ทันระวังตัวก็ถูกส่งกระเด็นถอยร่นออกไปเกือบสิบก้าว พร้อมทั้งกระทืบเท้าย่ำอยู่กับที่เพื่อคงความสมดุลไว้
มันเงยหน้าขึ้นมาเผยให้เห็นสายตาเย็นะเื "ท่านผู้นำ ท่านกำลังปกป้องฆาตกรที่สังหารบุตรชายของข้างั้นหรือ?"
"ฆาตกรงั้นรึ!? ฉินฟง! มาดูกันว่าบุตรบุญธรรมของเ้าได้ทำอะไรลงไปจนมันจำต้องถูกแขวนประจานให้อับอายเช่นนี้!" เมื่อกล่าวจบฉินเหยียนคลี่ม้วนกระดาษออกมาพร้อมทั้งอ่านเนื้อหาเสียงดังฟังชัด แม้แต่บุคคลกว่าร้อยคนที่รายล้อมภายนอกก็ต้องตกตะลึงกับเนื้อหาภายใน
"ฉินิหยวนพยายามกดขี่ตระกูลข้าราชบริพารของตระกูลฉินที่มีธุรกิจค้าขายร่วมกันผ่านทางค่าคุ้มครองเป็สื่อกลางโดยใช้อำนาจและชื่อเสียงของตระกูลฉินในทางที่มิชอบ
"ซ้ำยังลักพาตัวหญิงสาวงดงามจากตระกูลข้าราชบริพารต่างๆเพื่อกระทำการย่ำยีขืนใจโดยที่เ้าตัวไม่ยินยอม หลังจากนั้นมันได้ขายหญิงสาวที่มันเล่นจนสาแก่ใจให้แก่ซ่องบุปผาหากหญิงสาวผู้นั้นเป็ตระกูลอันต่ำต้อย และแม้แต่เ้าเฒ่าฉินฟงก็ยังลิ้มลองหญิงสาวต่อจากมันอีกด้วย ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ ช่างเป็ตระกูลฉินที่มีอำนาจล้นฟ้าอะไรเยี่ยงนี้!"
"โดยส่วนใหญ่แล้วมันจะให้ลูกสมุนของมันไปลักลอบขโมยค่าคุ้มครองก่อนการเก็บค่าคุ้มครองประจำเดือนหรือประจำปี เพื่อให้ตระกูลข้าราชบริพารหวาดกลัวและยอมทำตามทุกสิ่งอย่าง แม้แต่การส่งบุตรสาวของพวกเขาเพื่อเอาอกเอาใจฉินิหยวนและเลื่อนการเก็บค่าคุ้มครองออกไป"
"แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วทั้งหมดนี้คือแผนการของฉินิหยวนที่อยากจะย่ำยีหญิงสาวที่มันหมายปอง และแน่นอนว่าด้วยอำนาจของตระกูลฉิน ตระกูลข้าราชบริพารมีสิทธิ์จะร้องเรียนอันใดได้บ้าง? ในเมื่อฉินิหยวนได้ปิดกั้นเส้นทางการสนทนาให้ไปที่มันแต่เพียงผู้เดียว เพราะนั่นคือหน้าที่ของมันภายในตระกูลฉินที่ได้รับการมอบหมายโดยตรงจากฉินฟงและผู้าุโอีกสองคน"
"และข้อมูลเกี่ยวกับหญิงสาวที่เป็ผู้เสียหายเกี่ยวกับเื่นี้คือตระกูลเสิ่นถู ตระกูลอวี้ ตระกูลเยี่ยน ตระกูลหลัว ตระกูลหลี่ ฯลฯ ยังมีหญิงสาวอีกมากมายที่มันทุบตีจนตายหลังจากขืนใจเพราะอารมณ์ของมันเอง หากจะลองสืบสาวราวเื่เกี่ยวกับการหายตัวไปของหญิงสาวพวกนั้น เ้าจะรับรู้ได้ว่าเหตุการณ์และเวลาจะเกิดขึ้นหลังจากที่ฉินิหยวนได้เก็บค่าคุ้มครองจากตระกูลนั้นๆ"
"และผู้สมรู้ร่วมคิดคือสมุนของฉินิหยวนนามว่าจางต้าหนิว จางเอ้อร์หนิวและรวมถึงพ่อบ้านในตระกูลฉินที่มีนามว่าหลงคุน!"
"หากคิดว่าข้ากุเื่หรือสร้างข้อมูลเท็จขึ้นมา เ้าสามารถสอบสวนให้ลึกลงไปได้ ข้าเชื่อว่าหน่วยข่าวกรองของตระกูลฉินมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง แต่ข้าขอเพียงแค่ประการเดียวคือการให้ความคุ้มครองกับตระกูลที่ถูกกดขี่ย่ำยีให้ได้รับความปลอดภัยสูงสุดหลังจากที่เ้าได้อ่านข้อความนี้"
"และสุดท้ายนี้เ้าจงอ่านม้วนกระดาษให้แก่สาธารณะชนได้รับฟังเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าผู้นำตระกูลฉินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของฉินิหยวนในครั้งนี้"
"แต่หากเ้าไม่อ่านมันชื่อเสียงของตระกูลฉินของเ้าก็จะเริ่มเสื่อมถอยจากตระกูลข้าราชบริพารที่จงเกลียดจงชังฉินิหยวนในการกระทำเช่นนี้ และอาจจะลามไปถึงขั้นที่ว่าก่อความเกลียดชังต่อตระกูลฉินที่กดขี่ข่มขู่โดยการกระทำอันมิได้ผ่านการยอมรับจากผู้นำตระกูลฉิน"
"และหากเ้าไม่แก้ปัญหาเสียตอนนี้ หลังจากนี้อีกไม่กี่ปี ตระกูลข้าราชบริพารอาจจะลุกฮือขึ้นมาล้มล้างการปกครองของตระกูลฉินในเมืองเทียนหยุนก็เป็ได้"
"เ้าอย่าลืมว่าแม้นว่าเ้าจะเป็ตระกูลอันดับหนึ่ง แต่หากตระกูลอันดับที่สองถึงลำดับที่เก้ารวมตัวกัน เ้าคิดว่าตระกูลฉินของเ้าจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้หรือไม่?"
"ฉินเหยียน ข้าขอเตือนเ้าด้วยความหวังดี เ้าควรจะจัดการเื่นี้ให้ถึงที่สุด มิเช่นนั้นผลลัพธ์ที่ปรากฏจะเป็สิ่งที่แม้แต่เ้าก็มิอาจจะจินตนาการได้"
"เพราะทุกอย่างนี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติต่อตระกูลฉินในภายภาคหน้าทั้งปวง..."
ในระหว่างกล่าวจะได้ยินเสียงกัดฟันกรอดจนกรามแทบแตกของฉินเหยียนอยู่ตลอดเวลา ั์ตาของเขาเป็สีแดงก่ำจากความโกรธเกรี้ยวและเจตนาฆ่า!
ฝูงชนโดยรอบที่ได้ยินกลับมิได้จ้องมองใบหน้าของฉินเหยียนแม้แต่น้อย แต่พวกเขาทั้งหมดกลับมองไปยังฉินฟงที่ซึ่งเป็บิดาของมันด้วยความรังเกียจขยะแขยง
และมีคำอธิบายเกี่ยวกับฉินฟงที่ย่ำยีหญิงสาวต่อจากบุตรชายของมันเอง นั่นเป็ข้อพิสูจน์แล้วว่าฉินฟงมีส่วนร่วมกับสิ่งที่ฉินิหยวนได้กระทำลงไป!
บางส่วนที่ยืนรออยู่ด้านนอกต่างก็ร้องห่มร้องไห้ด้วยความปิติยินดี พวกเขาเ่าั้ก้มหน้าหมอบกราบให้แก่ม้วนกระดาษราวกับสิ่งนั้นเป็ประกาศิตจากพระเ้าด้วยน้ำตาที่ไหลนองอาบพื้น
เสียงสะอื้นพวกนั้นคือกลุ่มคนที่เป็คนในครอบครัวของหญิงสาวที่อยู่ในรายชื่อของม้วนกระดาษทั้งสิ้น
"ในที่สุด...์ก็มีตา เจวียนเอ๋อร์ของพวกเรามิได้ตายไปโดยเปล่าประโยชน์"
"ข้าตั้งหน้าตั้งตารอมาเนิ่นนาน ตระกูลฉินที่พวกเรามิอาจจะร้องเรียนใดๆได้ แต่วันนี้์ได้ส่งพระเ้ามาเพื่อมอบความยุติธรรมให้แก่หนวนเอ๋อร์ของข้าแล้ว"
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ช่างดีจริงๆที่ข้ามิได้ฆ่าตัวตายเสียในตอนนั้น มิเช่นนั้นข้าคงจะไม่มีความสุขถึงเพียงนี้...ที่รัก เ้าเห็นหรือไม่ว่ามารร้ายได้ถูกกำจัดลงไปแล้ว! พระเ้าได้กำจัดความชั่วร้ายให้สิ้นซากไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
"ขอบคุณพระเ้า! ขอบคุณพระเ้า! ในที่สุดหลานสาวที่น่าสงสารของข้าจะได้พักผ่อนอย่างสงบเสียที"
"กรรมดีกรรมชั่วได้รับการคืนสนอง หากไม่ใช่ยามนั้นเพราะยังไม่ถึงเวลา แต่บัดนี้เวลานั้นที่ข้ารอคอยได้มาถึงเสียที"
ถนนยาวทั้งสายเริ่มเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้ครวญครางสะอึกสะอื้น ดังก้องไปไกลในระยะรอบๆอาณาบริเวณของตระกูลฉิน และไม่มีผู้ใดสนใจว่าฉินฟงจะรู้สึกเช่นไร พวกเขาเพียงแค่ระบายความอัดอั้นตันใจออกมาจนถึงขีดสุด
เพราะต่อให้จะถูกโทษทัณฑ์ถึงขั้นปะาชีวิตจากตระกูลในข้อหาดูิ่ก็ไม่เสียใจ เพราะที่พวกเขายังคงใช้ชีวิตจนถึงบัดนี้ก็เพื่อรอดูวันที่ฉินิหยวนได้ตกตายไปต่อหน้าต่อตา
และหนึ่งในนั้นคืออวี้ปิงลั่วในอาภรณ์สีบานเย็นที่กำลังกัดฟันและปาดน้ำตามองไปยังซากศพของฉินิหยวนด้วยแววตาสะใจ
แน่นอนว่าฝูงชนที่ได้รับความเสียหายจากฉินิหยวนได้ยกให้ไป๋เฉินเปรียบดั่งพระเ้าของพวกเขาเสียด้วยซ้ำ
ขณะที่ฝูงชนบางส่วนพูดในขณะร่ำไห้ ฉินเหยียนมิอาจระงับอารมณ์ที่ปั่นป่วนของเขาและเกือบจะร่ำไห้ออกมาเฉกเช่นเดียวกัน
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างกระเพื่อมและพลุ่งพล่านในอก พลันเงยหน้าขึ้นและไม่พูดเป็เวลานานอันเนื่องมาจากความรู้สึกผิดในฐานะผู้นำตระกูลเอง
เขาจ้องมองไปยังฉินฟงที่มีสีหน้าซีดขาวราวกับไก่ต้มก่อนจะคำรามใส่หน้าด้วยความโกรธ "ฉินฟง! ผู้ใดกันแน่ที่พยายามทำลายตระกูลฉินด้วยการกระทำชั่วช้าของมัน!"
"เ้าก็แค่้าจะกำจัดไป๋เฉินเพราะไม่มีที่จะระบายอารมณ์มันก็แค่นั้น! เ้าบอกข้าอีกทีว่าผู้ใดกันแน่ที่เป็ฆาตกรตัวจริง!" ฉินเหยียนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง
การแสดงสีหน้าฉินฟงแปรเปลี่ยนเป็หวาดกลัวโดยที่มิได้โต้แย้งทำได้เพียงกัดฟันกลืนความโกรธและความเกลียดชังลงไป ก่อนจะก้มหน้าลงราวกับกำลังรู้สึกผิด
"ผู้าุโทุกท่านไปจับตัวบุคคลที่อยู่ในรายชื่อนี้มาซะ ให้มันมาคุกเข่าตรงหน้าข้าเดี๋ยวนี้!" ฉินเหยียนกัดฟันตะคอกไปยังเหล่าผู้าุโด้านหลังด้วยความเด็ดขาด
หลังจากได้เห็นการตอบสนองของฝูงชน หากตนไม่ทำอะไรสักอย่าง ตระกูลฉินต่อจากนี้จะมีแต่ข้อครหาและอาจจะนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้
ฉินฟงถอยฝีเท้ากลับไปยืนนิ่งอยู่ที่มุมๆหนึ่งโดยที่มิได้ต่อล้อต่อเถียง สีหน้าของมันยังคงแสดงความมั่นใจว่ามันสามารถแก้ต่างได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวของกับการกระทำทั้งหมดของฉินิหยวนเพื่อเอาตัวรอดได้ แต่ทว่าความโกรธยังคงฉาบอยู่บนใบหน้าของมันอยู่เวลา
ฉินฟงยังคงเป็ผู้าุโของตระกูลฉินและเป็กองกำลังที่สำคัญ เพราะฉะนั้นฉินเหยียนจะไม่ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดต่อฉินฟงในยามนี้ แต่แน่นอนว่าความไว้ใจของฉินเหยียนที่มีต่อฉินฟงจะค่อยๆมลายหายไป
แต่ทว่าั้แ่นี้วันนี้เป็ต้นไป อำนาจของฉินฟงจะถูกลดทอนลงจนมันต้องดำเนินแผนการขั้นต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก และอาจจะถึงขั้นตัดสินใจโดยไร้การไตร่ตรองที่สุขุมอันเนื่องมาจากเพิ่งสูญเสียบุตรชายไป
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็ฝีมือของไป๋เฉินที่กำลังพยายามชักจูงและบีบคั้นฉินฟงเพื่อให้มันไม่มีทางเลือกและจะบังเกิดผลลัพธ์ในแบบที่ตน้า
และเมื่อนั้นจะเป็วันโลกาวินาศของฉินฟงโดยสมบูรณ์