“ข้าไม่เชื่อ มาลองอีกครั้งกันเถอะ....อืม คราวนี้เรามาลองทีละคน” ซุนเฟยพูดก่อนจะคว้ามือเล็กๆ ของสาวน้อยผมสีม่วงที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็มีแสงสีฟ้าพร้อมเสียงดังวิ้งขึ้น เขาและวอร์ริฟก็หายไป แต่...สาวน้อยยังอยู่
แสงสีฟ้าสว่างวูบ ซุนเฟยกลับมาอีกครั้งด้วยท่าทางขึ้งโกรธ
“อีกครั้ง...”
ซุนเฟยหายไป
ซุนเฟยกลับมา
ซุนเฟยหายไป
……
สิบนาทีต่อมา
ซุนเฟยแทบจะจับมือสาวๆ ทุกคน ตอนแรกคนี้เีไร้ยางอายผู้นี้จับมือสาวๆ เพื่อครุ่นคิดหาสาเหตุ แต่หลังๆ เริ่มจงใจหาข้ออ้างแต๊ะอั๋งสาวๆ ด้วยการจับมือนิ่มๆ พวกโร้กสาววัยขบเผาะทั้งหลาย...ฮ่าๆๆ มีแต่ไอ้หน้าโง่เท่านั้นที่ปล่อยโอกาสทองนี่ไป
แต่ไม่ว่าจะพยายามย้ายไป 'ลุกค์ โกลไลน์' เท่าไรเขาก็ไม่สามารถทำได้
นอกจากเอเลน่า
“นี่มันแปลกจริงๆ ต้องมีเหตุผลที่สำคัญสิ ข้ามองข้ามอะไรไปนะ...”
ซุนเฟยก้มหน้าครุ่นคิดหาสามารถสาเหตุ
ทำไมกัน ทั้งๆ ที่เป็โร้กสาวเหมือนกัน แต่มีเพียงเอเลน่าคนเดียวที่สามารถไป 'ลุกค์ โกลไลน์' กับตัวเองได้ แต่คนอื่นกลับไปไม่ได้? ฉับพลันซุนเฟยกลับนึกขึ้นได้ว่า สถานการณ์แบบนี้เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่บังเอิญใช้ทักษะ 'อัญเชิญ' หนึ่งในทักษะพระเ้า สถานการณ์ทั้งสองอย่างนี้มีความคล้ายคลึงกัน ทักษะ 'อัญเชิญ' ทักษะพระเ้าในตอนนี้ มีเพียงเอเลน่าคนเดียวที่เขาสามารถอัญเชิญมาที่โลกแห่งความจริงได้ แต่กลับอัญเชิญคนอื่นไม่ได้
คิดไปคิดมา สายตาของซุนเฟยก็พลันมาหยุดอยู่ที่วอร์ริฟ ชายที่เป็กุญแจสำคัญ
รอยยิ้มเจื่อนๆ ผุดขึ้นมาบนหน้า
“วอร์ริฟ เ้ารู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” ซุนเฟยพอจะเดาอะไรบางอย่างได้
“ใช่แล้ว นายท่าน เหตุผลง่ายๆ เลย เอเลน่าเป็ทหารรับจ้างของท่าน นางได้ทำ 'สัญญาจ้าง' กับท่าน ดังนั้น ด้วยอำนาจของสัญญา นางจึงสามารถติดตามท่านผ่านห้วงมิติได้ แต่กับสาวๆ คนอื่นพวกนางไม่ได้ทำสัญญาจ้างกับท่าน ดังนั้น เพราะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอำนาจของสัญญาจ้างได้ ท่านจึงไม่สามารถพาพวกนางไป 'ลุกค์ โกลไลน์' ได้”
'สัญญาจ้าง' ?
ทันใดนั้นก็มีบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวของซุนเฟย
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่าตัวเองได้กุญแจสำคัญมาไว้ในมือแล้ว และเป็ส่วนหนึ่งของคำตอบเกี่ยวกับทักษะ 'อัญเชิญ' ทันทีที่วอร์ริฟพูดประโยคนี้ ราวกับว่าใบหน้าที่แท้จริงที่อยู่หลังม่านลึกลับกำลังเปิดออกมาให้ซุนเฟยเห็นทีละนิด
ใช่แล้ว!
ทันใดนั้นซุนเฟยก็พลันตระหนักขึ้นมา
ที่เขาสามารถอัญเชิญเอเลน่าจากโลก Diablo ออกมาที่โลกแห่งความจริงได้เพียงคนเดียวนั้น เป็เพราะว่าระหว่างเราทั้งสองคนมี 'สัญญาจ้าง' อยู่ สัญญาฉบับนี้ได้รับการลงนามโดยอัตโนมัติหลังจากที่ตัวเองทำเควสสังหาร 'บลัด เรเว่น' ที่ผู้นำทหารรับจ้างคาเชียมอบให้ เมื่อเขาทำเควสสำเร็จจึงได้รับรางวัลเควส นี่คือสาเหตุลึกลับที่ถูกเขามองข้ามไป หากทำสัญญาประเภทนี้กับคนอื่นใน 'ค่ายโร้ก' ได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าตัวเองสามารถอัญเชิญคนอื่นไปโลกแห่งความจริงได้หรอกหรือ?
ซุนเฟยแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้พิสูจน์ความคิดนี้
เขาบอกลาวอร์ริฟและเหล่าโร้กสาว จากนั้นก็เดินผ่านหลายเต็นท์จนมาถึงเต็นท์เล็กๆ ทรุดโทรมที่อยู่มุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ของค่าย เขาเดินไปหาแม่ชีอาคาร่าที่กำลังปรุงน้ำยาอยู่
“สัญญา?”
เมื่อได้ยินการคาดเดาของซุนเฟย ดวงตาของแม่ชีอาคาร่าก็เปล่งประกาย ราวกับนึกขึ้นได้จึงพูดอย่างช้าๆ ว่า “จากการคาดเดาของท่าน นี่อาจจะเป็เหตุผลว่าทำไมมีเพียงเอเลน่าเท่านั้นที่สามารถไปยังโลกของท่านได้ตามลำพัง”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าสามารถทำ 'สัญญาจ้าง' กับคนอื่นๆ ได้ไหม?” ซุนเฟยถามประเด็นสำคัญที่สุดขึ้นมา
“อืม...เกรงว่าคงไม่ได้” อาคาร่าส่ายหน้า
“อะไร...นี่...ทำไม?” ซุนเฟยได้ยินก็รีบถามทันที
“บนแผ่นดินอาเซรอท 'สัญญาจ้าง' เป็สัญญาประเภทพิเศษที่สุดในบรรดาสัญญาอื่นๆ มันมีลักษณะและเอกลักษณ์ที่พิเศษ ท่านได้ทำ 'สัญญาจ้าง' กับเอเลน่าแล้ว ดังนั้นไม่สามารถทำสัญญากับคนอื่นได้อีก นอกเสียจากว่า ท่านจะยกเลิก 'สัญญาจ้าง' ระหว่างเอเลน่าเสียก่อน”
คำอธิบายของอาคาร่าทำให้ความตื่นเต้นในใจของซุนเฟยค่อยๆ ลดลง ใบหน้าก็เปลี่ยนดูไม่ได้ขึ้นมา
หรือว่า นี่คือสิ่งที่พระเ้ากำหนดไว้ ตัวเองสามารถอัญเชิญคนได้เพียงคนเดียวจากโลก Diablo มาที่โลกแห่งความจริง? สมควรตาย!
ทว่า ไม่ว่าอย่างไร ไอ้เื่ที่จะให้ยกเลิก 'สัญญาจ้าง' กับเอเลน่า แน่นอนว่าซุนเฟยไม่ทำ เอเลน่าเคยพูดว่า สำหรับโร้กสาวคนหนึ่งแล้ว หากถูกยกเลิกว่าจ้าง นั่นเท่ากับว่าสูญเสียเกียรติยศของตัวเอง เลวร้ายยิ่งกว่าตาย นอกจากนี้ เขากับทหารรับจ้างสาวแสนสวยคนนี้ก็ร่วมมือกันมาเป็เวลานานจนต่างฝ่ายต่างรู้ใจกัน สำหรับซุนเฟยแล้ว ทหารรับจ้างสาวคนนี้เหมือนดอกบัว ทหารรับจ้างสาวที่ด้านนอกอาจดูอ่อนนิ่มแต่ข้างในกลับแข็งแกร่งคงจะเกิดความรู้สึกเศร้าเสียใจอยู่ลึกๆ หากเขาทำแบบนั้นไป
แต่ตอนนี้เองจู่ๆ แม่ชีอาคาร่าก็แสยะยิ้มลึกลับบนใบหน้าพลางพูดต่อไปว่า “แต่แผ่นดินโร้ก นอกจาก 'สัญญาจ้าง' แล้ว ยังมีรูปแบบสัญญาอื่นๆ ที่มีผลเหมือนกัน เช่น 'สัญญามิตรภาพ สัญญาข้ารับใช้ สัญญารบ สัญญาลูกศิษย์ สัญญาพันธมิตร' เป็ต้น หากสิ่งที่ท่านเดาไม่ผิดจริงๆ ก็ทำสัญญาพวกนี้กันเถอะ มันอาจจะบรรลุความคาดหวังของท่านก็ได้ ทำไมท่านไม่ลองดูล่ะ?”
ซุนเฟยสำลักน้ำลาย “…”
ในที่สุดเขาก็แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่า เมื่อครู่นี้ตัวเองถูกยัยป้าอาคาร่าชั่วร้ายมันแกล้งเข้าให้อีกครั้ง
……
ูเาด้านหลังเมืองแซมบอร์ด ณ เขาวงกตใต้ดิน
วิ้ง วิ้ง วิ้ง
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น มีอะไรในอากาศกำลังสั่นไหวอยู่ จากนั้น วินาทีต่อมามิติก็ถูกฉีกขาด ก่อนที่ประตูมิติสีฟ้าขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นในห้องโถง
ซุนเฟยก้าวออกมาจากประตูมิติ
ด้านหลังของเขาตามมาด้วยร่างเงาเล็กๆ ผอมบางที่สวมคลุมชุดสีม่วง ต่อมาเป็นักธนูเวทสาวแสนสวยที่มีผมสีแดงสดดุจเปลวเพลิงพร้อมทั้งสวมชุดเกราะสวยงาม ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายความแข็งแกร่ง
ทั้งสองคนก็คือแม่ชีอาคาร่าและเอเลน่า
“อา! ทำไมอากาศสดใหม่ขนาดนี้ พลังธรรมชาติก็บริสุทธิ์มาก...” อาคาร่าที่ยืนอยู่ในห้องโถงหลับตาลง เคลิบเคลิ้มกับการสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เพื่อััอากาศของแผ่นดินอาเซรอท บนใบหน้าแสดงถึงความตื่นเต้นดีใจ “นี่คือความรู้สึกของโลกที่สดใส...นานแล้วที่ไม่ได้พบแบบนี้!”
ซุนเฟยและเอเลน่าต่างมองท่าทางของอาคาร่าที่กำลังตื่นเต้นโดยไม่พูดอะไร
ในฐานะผู้นำทางจิติญญาของ 'ค่ายโร้ก' น้อยครั้งมากๆ ที่แม่ชีอาคาร่าจะเสียท่าทีออกมาแบบนี้ ใน่เวลาที่ความมืดเข้าปกคลุมแผ่นดินโร้ก ไหล่ผอมบางของนางแบกรับความหวังของทุกคนและกลายเป็ผู้พยากรณ์ของแผ่นดินโร้ก เหมือนมีดวงไฟที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืด คอยชี้แนะทิศทางที่ทุกคนต้องไป ให้ความหวังเล็กๆ แก่เหล่าโร้กสาว ตลอดมา ในสายตาทุกคนคำว่า 'อาคาร่า' สามคำนี้คือผู้ที่คอยวางแผนกลยุทธ์ เป็ตัวแทนของความเงียบสงบ แต่มาวันนี้ เพราะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของโลกนี้ที่บริสุทธิ์ กลิ่นอายนี้คล้ายกับแผ่นดินโร้กในอดีตที่ยังไม่มีมลพิษความมืด มันทำให้ผู้นำทางจิติญญาอดไม่ได้ที่จะตกอยู่ภวังค์อันตื่นเต้น
เป็เวลานานกว่าอาคาร่าจะค่อยๆ สงบอารมณ์ลงอย่างช้าๆ
“นายท่านซุนเฟย นื่อาณาจักรของท่านใช่ไหม? ตามที่เอเลน่าเล่าว่าที่นั่นมีเขาวงกตลึกลับอยู่ด้วย? แต่ทำไมนะ ข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันนัก?” แม่ชีอาคาร่ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายบริเวณรอบๆ จึงถามออกมาอย่างสงสัย
“ข้าจะให้คนพาท่านไปเยี่ยมชมก่อน ด้านอกเขาวงกตนี้เป็โลกที่สวยงาม ข้าคิดว่าท่านน่าจะหลงรักโลกนี้แน่” ซุนเฟยหยอกล้อก่อนจะพูดต่อไปว่า “สำหรับความรู้สึกแปลกๆ นั่น ข้ากับเอเลน่าก็รู้สึกเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่พวกข้าก็หาสาเหตุไม่ได้เลย”
อาคาร่าครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะพยักหน้าตกลง
ซุนเฟยคิดเกี่ยวกับค่ามานาทั้งหมดที่เสียไปของ 'โหมดคนเถื่อน' เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนจะเปิดประตูมิติอีกสองสามครั้งเพื่อทำการ 'อัญเชิญ' เหล่าโร้กสาวแสนสวยหลายสิบคนและช่างตีเหล็กสาวชาร์ซีมาที่ห้องโถง เขากำชับสิ่งที่ต้องระวังอย่างละเอียด ก่อนจะเดินออกจากห้องโถงแล้วกวักมือเรียกพัศดีโอเลเกร์ที่กำลังทำงานอยู่ให้เข้ามา แล้วสั่งให้พาแม่ชีอาคาร่าและคนอื่นๆ ไปเที่ยวชมในเมือง
“น้อมรับคำสั่ง ฝ่าา”
เมื่อเห็นสาวๆ สิบกว่าคนที่พากันเดินออกมาจากในห้องโถง โอเลเกร์รู้สึกว่าหัวของเขาชักไม่ฉลาดซะแล้ว เขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้หลบเลี่ยงสายตาของตัวเองและเหล่าทหารด้านนอกเข้ามาในห้องโถงได้อย่างไร แต่เห็นได้ชัดว่า ฝ่าาและพวกนางดูสนิทชิดเชื้อกันพอสมควร โอเลเกร์ไม่กล้าถามมาก เขาให้ความสำคัญแก่อาคาร่าและคนอื่นๆ พานำออกไปด้านนอกห้องโถง
ตอนนี้เอง ซุนเฟยก็หันมากุมมือเอเลน่าที่อยู่ด้านหลัง
เขากระซิบข้างหูว่า “เ้าคงคุ้นเคยกับโลกนี้มากแล้ว จงดูแลแม่ชีและพวกพี่น้องของเ้าให้ดี ่นี้มีผู้คนมากมายในเมือง อย่าปะทะกับคนอื่น มีเื่อะไรก็ให้แจ้งกับเ้าอ้วนคนนั้นก่อน” ซุนเฟยชี้ไปทางพัศดีโอเลเกร์ ในด้านการแก้ไขเฉพาะหน้าของเ้าอ้วนถือว่าเป็คนที่เก่งมาก
ในขณะที่พูด เส้นผมตรงขอบหูของเอเลน่าคลอเคลียกับแก้มของซุนเฟย ทำให้หัวใจของเขาสะดุดไปจังหวะหนึ่ง
ขณะที่เอเลน่าก้มหน้าลงก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากมือของซุนเฟย ราวกับว่าคุ้นเคยกับการที่ซุนเฟยจับมือเล็กๆ ของนาง นางจึงไม่ได้รู้สึกเขินอายอีก เพียงยิ้มแล้วพยักหน้า
“ท่านไม่ไปเที่ยวกับพวกเราหรือ?” นางถาม
ซุนเฟยหัวเราะเล็กน้อย “ข้ายังมีเื่ต้องทำอีกเล็กน้อย”
ในตอนนั้น ทั้งสองคนเหมือนเด็กชายและเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังพยายามหลีกเลี่ยงสายตาของครูและแอบกระซิบกันอยู่ด้านหลังห้องเรียน บรรยากาศอบอุ่นและมีเสน่ห์ชวนให้หัวใจเต้น
สุดท้ายเอเลน่าเดินจากไปอย่างมีความสุข
---------------------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้