ไม่รู้ทำไมวันนี้ดูเหมือนว่าจะมีผู้เล่นเดินทางกลับเมืองมากเป็พิเศษตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็น ท้องฟ้าก็ยังไม่มืด แต่ก็อย่างว่าแหละไม่รู้ว่ามีผู้เล่นจำนวนมากเท่าไรในเกมที่ต้องกินและดื่มตามปกติถ้าตราบใดที่อาหารในกระเป๋ามิติยังไม่หมดก็จะยังไม่กลับเมืองอาจจะเป็เพราะผลกระทบจากการประกาศของระบบด้วยพวกเขาจึงต้องกลับไปที่เมืองเพื่อสอบถามข่าวคราวเกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้นฉินโจ้วก็ได้แต่คาดเดาเอาเอง
ปกติแล้วจะมีผู้เล่นสองหรือสามคนในระหว่างทางเดินกลับแต่วันนี้มีผู้เล่นเป็สิบคนที่เดินทางมาด้วยกัน ผู้ที่มาร่วมด้วยก็มีทั้งเมจนักรบ และมีอาชีพอื่นๆ อีกด้วยดูเหมือนว่าพวกเขาคงได้รับข่าวแล้วก็รีบกลับเมืองกันเป็ไปได้ไหมว่ามีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้น?
แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่มันผิดปกติไป
ในขณะที่ฉินโจ้วกำลังเดินจู่ๆ ในใจก็พลันมีความคิดไม่ดีแว่บขึ้นมา คนกลุ่มนี้ค่อนข้างน่าสงสัย ข้อแรก!พวกเขาปิดบังชื่อทั้งหมด การที่กลุ่มผู้เล่นที่ปิดบังชื่อไว้และเดินทางร่วมกันมันเป็เื่ที่ค่อนข้างหายากในสถานการณ์ปกติ ข้อสอง! ไม่มีผู้เล่นหญิงเลยสักคนมีแต่ผู้เล่นชายล้วน ต่อให้กำลังเดินทางกลับเมืองโดยไม่มีผู้หญิงเลยมันค่อนข้างผิดปกติ และข้อสาม! มีเฉพาะขโมย นักฆ่าและไม่มีอาชีพอื่นร่วมทางด้วยในขณะที่เดินเข้ามาใกล้เขา ในขณะที่นักธนูและเมจเริ่มถอยออกห่าง ซึ่งค่อนข้างชัดเจนแล้วว่านี่เป็รูปแบบสำหรับใช้โจมตี
"ลงมือ"
เมื่อฉินโจ้วเริ่มจับสังเกตได้แล้วเขาไม่แน่ใจว่าใครเป็คนะโขึ้น รอบตัวเขาปรากฏขโมยและนักฆ่าราว 8 คนพร้อมกับมีดสั้นที่แทงเข้าหาฉินโจ้วอย่างพร้อมเพรียงกัน เป็ไปอย่างรวดเร็วไร้ความปรานี
ขโมยได้ใช้ทักษะ''แทงต่อเนื่อง'' ซึ่งเป็การโจมตีต่อเนื่องสามครั้งและมีโอกาสที่จะเกิดสถานะมึนงง ซึ่งค่อนข้างทรงพลังเป็อย่างมากซึ่งถ้าเขาเกิดติดสถานะมึนงง ก็เท่ากับว่าเขาได้แต่รอความตายเป็แน่ในส่วนของนักฆ่านั้นใช้ทักษะ ''โจมตีจุดตาย'' โดยที่พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเป็สองเท่าในทันที แต่หลังจากที่โจมตีแล้วค่าสถานะทั้งร่างกายจะลดลง 50% เป็เวลา 10 นาทีนี่เป็ทักษะการลอบสังหารพิเศษซึ่งค่อนข้างเห็นผลเป็อย่างมากผู้เล่นส่วนใหญ่มักถูกสังหารด้วยวิธีนี้ ที่ผู้เล่นทั้งแปดคนโจมตีพร้อมกันนั้นเพื่อปิดกั้นทุกทิศทางไม่ให้เล็ดลอดไปได้ สถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะต้องตายอย่างแน่นอน
ตราบเท่าที่ลูกธนูยังไม่ได้ถูกยิงออกมาจากคันศรก็ยังพอมีหวัง... สิ่งแรกที่ฉินโจ้วทำก็คือ ผลักชุดขาวลอยล่องออกไปเขาไม่้าให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องติดร่างแหไปด้วยเหมือนครั้งสุดท้ายที่เขาทำให้หนานกงเสี่ยวต้องตาย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกผิดเขาจึงไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนต้องมาจบชีวิตเพราะเขาอีกถึงแม้ว่านี่จะเป็แค่เกมก็ตามที
"แสงของผู้พิทักษ์"เริ่มทำงาน
แสงสีเทาที่ป้องกันอยู่รอบตัวปรากฏขึ้นกลางอากาศแต่การโจมตีที่เกิดขึ้นพร้อมกันในเวลานี้ทำให้วงแหวนแห่งแสงที่ล้อมอยู่เริ่มแตกร้าวฉินโจ้วรู้ว่าอันตรายที่เจอยังไม่หมดแค่นี้แน่แต่เขาพยายามทำดีที่สุดด้วยการสงบสติอารมณ์ลง ในขณะที่แสงสีเทาแตกออก เขาก็เริ่มร่ายเวทออกไป
"ม่านฟ้าิญญา"
ท้องฟ้ามืดมิดลงในทันทีความมืดปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณก่อนที่แสงสว่างจะกลายเป็ความมืด แม้กระทั่งอยู่ต่อหน้าก็ยังมองเห็นไม่ชัดเจนราวกับมีหมอกบัง เห็นได้อย่างรางเลือนมาก แต่สำหรับผู้อัญเชิญิญญาธาตุแล้วนั้นเขาชอบสภาพแวดล้อมแบบนี้มาก เพราะสามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับปลาที่อยู่ในน้ำ
ว่ะ...ฮ่ะ... ฮ่ะ...
ในเวลาเดียวกันกับม่านฟ้าิญญาเริ่มแผ่ขยายออกมาลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งมาด้วยความเร็วจากระยะไกลที่ซึ่งแทบมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเมื่อฉินโจ้วเห็นแสงพุ่งมา ลูกธนูก็เสียบเข้าที่ร่างของเขาแล้วด้วยความแรงของมันทำให้เขาโดนกระแทกลอยออกไป ใน่ที่อยู่กลางอากาศลูกธนูก็พลันะเิขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวความรุนแรงของมันทำให้หน้าอกของเขาาเ็สาหัสจนสามารถมองลอดผ่านออกไปได้เลยเืไหลทะลักนองไปทั่ว ความเ็ปที่ไม่สามารถบรรยายเป็คำพูดได้กระจายไปทั่วร่างพลังชีวิตลดลงจนหมดภายในพริบตา ก่อนที่ฉินโจ้วจะกลายเป็แสงสีเทาและได้ตายลง
มันเป็ลูกธนูเวทที่ค่อนข้างหาได้ยากยิ่งในเวลานี้ยังไม่มีผู้เล่นที่สามารถสร้างขึ้นได้มันมีราคาค่อนข้างสูงและยังมีพลังในการทำลายล้างสูงมากซึ่งในตอนนี้ผู้ที่ถูกยิงด้วยลูกธนูเวทจะไม่สามารถป้องกันได้เลย
ถึงอย่างนั้นแล้วศัตรูก็ยังคงกังวลว่าฉินโจ้วนั้นอาจจะยังไม่ตายจริงจึงได้โยนคัมภีร์เวทไปที่ตำแหน่งปัจจุบันที่ฉินโจ้วยืนอยู่ก่อนจะกลายเป็พายุทอร์นาโดกำลังแรงลูกหนึ่งนักฆ่าสองคนที่หนีไม่ทันก็โดนดูดเข้าไปในวังวน แค่ 2-3 วินาทีก็กลายเป็แสงสีเทาไป
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทำได้แม้ต้องสละคนของเขาเองก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเพื่อสังหารฉินโจ้วมีการตัดสินใจไว้อย่างแน่วแน่จนยากที่จะจินตนาการถึง
พายุทอร์นาโด: ม้วนคัมภีร์เวทระดับกลาง ทักษะการโจมตีแบบกลุ่ม ลดพลังชีวิต 800 หน่วยต่อวินาทีนาน 300 วินาที ถึงแม้ว่าจะเป็่กลางเกมแล้วคัมภีร์เวทก็ยังเป็ไอเทมที่หาได้ยาก ออกจะหายากมากเสียด้วยซ้ำส่วนราคานั้นไม่ใช่คนทั่วไปจะหาซื้อมาได้เลย
การโจมตีอย่างต่อเนื่องั้แ่นักฆ่าพุ่งเข้าใส่ไปจนถึงการขว้างม้วนคัมภีร์เวทนั้นทั้งหมดแทบจะทำเสร็จในชั่วพริบตา ไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลือ ลงมืออย่างไร้ความปรานีทุกอย่างถูกคำนวณไว้อย่างแม่นยำวิธีจัดการกับฉินโจ้วถูกยกระดับให้เท่ากับผู้เชี่ยวชาญระดับพิเศษความโกรธแค้นนี้คงจะไม่สามารถลบเลือนไปได้ในระยะเวลาอันสั้นเป็แน่เหมือนว่าคนที่คิดวิธีการนี้ขึ้นไม่ได้เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังมีการสืบรายละเอียดของฉินโจ้วมาเป็อย่างดี
ฉินโจ้วผลักชุดขาวลอยล่องลงไปที่พื้นซึ่งอยู่นอกระยะของม่านฟ้าิญญา โดยที่เขาพยายามทำดีที่สุดแล้วแม้จะรู้ว่ายังดีไม่พอก็ตาม หลังจากที่เขาลุกขึ้น เธอก็เห็นฉินโจ้วถูกยิงด้วยลูกธนูเวทและในขณะที่ม่านฟ้าิญญาถูกยับยั้งด้วยพายุทอร์นาโด ควันสีดำถูกดูดม้วนไปด้วยอาจเป็เพราะการโจมตีของศัตรูนั้นรวดเร็วจนกระทั่งเธอเองที่เป็ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงยังตอบสนองไม่ทันเมื่อเห็นฉินโจ้วถูกสังหารต่อหน้า โดยไม่สามารถช่วยเหลือได้ ดวงตาคู่สวยส่องประกายเย็นเยียบก่อนจะร่ายเวท ''ฝนธนูธาตุแสง'' โจมตีใส่เมจหลายคนที่อยู่ด้านข้างที่กำลังยิงเวทบอลไฟจนมีรูพรุนคล้ายกระชอนก่อนจะสลายหายกลับจุดเซฟไป
สามวินาทีต่อมาเมื่อฉินโจ้วฟื้นขึ้นด้วยพรแห่งชีวิต เขาก็เรียกใช้ทักษะของไม้เท้าเพลิงดำในทันที ''เพลิงดำ'' ในพื้นที่ขนาด 100 ตารางเมตรได้เกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้น มันแปลกตรงที่เปลวไฟนั้นมีสีดำทะมึนดูแปลกประหลาดราวกับพลังแห่งความชั่วร้าย นอกจากนักธนูที่อยู่ห่างไกลจากฉินโจ้วพวกนักรบและขโมยที่อยู่ใกล้กับเขาก็เริ่มกรีดร้องเมื่อไฟแห่งความมืดลุกโชนคนที่พลังชีวิตเหลือน้อยก็ถูกสังหารก่อนจะวิ่งพ้นจากรัศมีถึงแม้ว่าสีของไฟจะดูน่าเกลียดไปบ้าง แต่ความรุนแรงของมันก็ไม่ธรรมดาเลย
ความเร็วของพายุทอร์นาโดนั้นรวดเร็วมากฉินโจ้วรู้ว่าเขาหนีไม่พ้นแน่แล้ว จึงกัดฟันแน่นตั้งรับใน่เวลาก่อนที่พายุทอร์นาโดจะมาถึง ทหารม้าโครงกระดูก 20 ตัวก็ถูกเรียกลงมาจากท้องฟ้าก่อนจะไล่สังหารผู้เล่นที่โจมตีเขาในเวลานี้เขาอัญเชิญด้วยพลังจิตแทนการใช้พลังชีวิตเพราะเขาคิดว่าพายุทอร์นาโดนี้ค่อนข้างรุนแรงมาก ซึ่งในเวลานี้พลังชีวิตทุกหยดนั้นมีค่าเป็อย่างมาก
เมื่อถูกดูดเข้าไปในพายุทอร์นาโดเขาจึงได้รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของพายุทอร์นาโดลมที่อยู่รอบตัวจะทำให้ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้จะยืนทรงตัวให้มั่นยังไม่สามารถทำได้เลยแค่ไม่ให้หัวทิ่มลงพื้นขาชี้ฟ้านี่ก็ดีมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเื่การใช้งานเวทเลย''รักษาชีพ'' นี่เลิกหวังไปได้เลย ตอนนี้คงทำได้แค่ครองสติให้อยู่และพึ่งยาแดงไปเรื่อยๆ ก่อนนี่เป็ครั้งแรกที่เขารู้สึกว่ายาแดงเวอร์ชันอัปเกรดที่เพิ่มพลังชีวิตได้ 250หน่วย มันช่างน้อยนิดเหลือเกิน การถูกลดพลังชีวิตทีละ 800หน่วยต่อวินาทีนี่ไม่ใช่เื่ที่น่าสนุกแต่อย่างใด เพื่อเพิ่มพลังชีวิตของเขากลับคืนเขาจำต้องกลืนยาแดงทุกวินาที ซึ่งเขาจะผิดพลาดได้แค่ 19 ครั้งเท่านั้นถ้าเกินจากนั้นเขาก็คงไม่รอด งานนี้คงไม่มีปาฎิหาริย์ถ้าเป็ในเวลาทั่วไปการกลืนยาแบบนี้เป็เื่ที่ทำได้ง่ายดายมากแต่ในพายุทอร์นาโดที่ชวนให้เวียนหัวแบบนี้ แค่กลืนยาก็เป็สิ่งที่ยากพอดูแล้ว
300วินาที ก็ราวๆ 5 นาที ฉินโจ้วกลับรู้สึกว่ามันยาวนานเป็ชาติในการที่ต้องอดทนรอให้พายุทอร์นาโดสลายหายไปในตอนนี้ฉินโจ้วรู้สึกเหมือนว่าโลกกำลังหมุนอยู่ตลอดไม่รู้แล้วว่าด้านไหนหัวด้านไหนพื้น แต่พลังชีวิตของเขาเหลือแค่ 69 หน่วยเพียงเขาััโดนแค่ปลายเล็บก็ส่งเขาไป์ได้ทันที
ข้อดีของพายุทอร์นาโดนี้ก็คือโจมตีได้อย่างรุนแรง และมันก็ไม่เลือกว่าใครมิตรหรือใครศัตรูซึ่งใน่เวลานี้ศัตรูเองเริ่มล่าถอย ไม่ได้เข้ามาโจมตีอีกคงจะนั่งรอให้ฉินโจ้วเสียชีวิตไปเอง
ซึ่งเวลานี้ม่านฟ้าิญญาก็หายไปแล้วและพายุทอร์นาโดได้หายไปพร้อมกับความมืดที่เคยมีก่อนหน้านี้ด้วยซึ่งทำให้มองได้กว้างขึ้น ภายใต้การโจมตีของทหารโครงกระดูกและชุดขาวลอยล่องจำนวนผู้เล่นที่ล้อมรอบฉินโจ้วดูเหมือนจะไม่ลดลง แต่หนำซ้ำยังกลับเพิ่มขึ้นอีกดูเหมือนผู้คนยังคงหลั่งไหลมาทางนี้อย่างเร่งร้อน
ชุดขาวลอยล่องเองก็ตกอยู่ในวงล้อมจากผู้เชี่ยวชาญนับสิบคนรอบด้านเต็มไปด้วยอันตราย แถมยังเหลือทหารโครงกระดูกอีกแค่สามตัวเท่านั้น
ในหัวของฉินโจ้วตอนนี้ยังคงหมุนติ้วอยู่เมื่อมองไปรอบๆ ก็เหมือนว่าโลกหมุน ดูปั่นป่วนไปเสียหมดแต่ด้วยสัญชาตญาณทำให้สิ่งแรกที่เขาทำก็คือ การใช้ ''รักษาชีพ''เพิ่มพลังชีวิตขึ้น 500 หน่วย ก่อนจะร่าย ''ม่านฟ้าิญญา''ขึ้นมาอีกรอบ และเข้าไปซ่อนตัวที่ด้านในเป็อย่างแรก
แต่ศัตรูก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วทั้งดาบและลูกธนูพุ่งตรงเข้าใส่ฉินโจ้วพร้อมกันทันที-210,-130 ลอยขึ้นมาความเ็ปทำให้ฉินโจ้วหล่นไปที่พื้นก่อนจะรีบกลิ้งตัวหลบไปทางอื่นในทันทีฟิ้วว... เฟี้ยวว... วิ้วววว...เวทและลูกธนูนับโหลพุ่งตรงมายังตำแหน่งที่เขาอยู่ก่อนหน้านี้พอดิบพอดีต้องขอบคุณที่เขานั้นพุ่งหลบทัน ไม่อย่างนั้นตอนนี้สภาพเขาคงไม่ต่างจากเม่นตัวหนึ่ง
"เสี่ยวจินลุยยย..." ถึงแม้ว่าเขาจะยังคงมึนงงอยู่บ้างแต่ใจของเขานั้นสงบลงอย่างรวดเร็วด้วยแรงกระตุ้นจากศัตรูผึ้งนักฆ่าเป็สิบปรากฏตัวขึ้นทันที ก่อนจะตรงเข้าโจมตีผู้เล่นโดยรอบถึงแม้ว่าจำนวนของมันจะน้อยไปหน่อย แต่ก็สามารถขัดจังหวะได้และทำให้ศัตรูนั้นโจมตีได้ช้าลง
ด้วยการป้องกันของม่านฟ้าิญญาทำให้คนภายนอกนั้นไม่สามารถมองจากภายนอกเข้ามาได้ฉินโจ้วจึงใช้เวลาที่มีอยู่น้อยนิดเรียกใช้ ''รักษาชีพ''เพื่อเพิ่มเืให้ตนเอง ก่อนจะกลืนยาน้ำเงินไปอีกสองขวด จากนั้นก็อัญเชิญทหารม้าโครงกระดูก10 นาย และทหารโครงกระดูกอีก 20 ตัว ออกมาเพิ่มมีทหารม้าโครงกระดูกเหลือแค่ตัวเดียวจากการอัญเชิญคราวก่อนนี่ก็พอจะแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของาครั้งนี้ได้เป็อย่างดี
กลุ่มของทหารโครงกระดูก31 ตัวได้ออกมา จำนวนนี้ฟังไม่ผิดหรอก เขาเพียงแค่้าปลดปล่อยพลังในการโจมตีให้เหมือนดั่งสายน้ำท่วมที่พัดพาทุกสิ่งไป เขาเริ่มโจมตีกลับอย่างดุเดือดเพราะการปรากฏตัวกะทันหัน จึงทำให้ศัตรูไม่สามารถป้องกันได้ ผู้เล่นนับสิบคนถูกสังหารในทันทีความกดดันที่ชุดขาวลอยล่องมีนั้นค่อยลดลงโดยพวกเขาสู้และถอยหนีเข้าม่านฟ้าิญญาอย่างชาญฉลาด
หลังจากฟื้นคืนพลังชีวิตมาได้10,000 หน่วยแล้ว ฉินโจ้วก็กลืนยาน้ำเงินตามไปอีกหลายขวดอย่างต่อเนื่องในเวลานี้ความมึนงงในหัวของเขาเริ่มค่อยคลายหายไปอย่างช้าๆอาจมีอาการอยู่บ้างหลังจากที่ยืนขึ้น แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็สามารถยืนขึ้นได้แล้ว
"ท่านย่ามันเถอะ"ในใจของฉินโจ้วนั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว โดยปกติแล้วเมื่อมีคนโจมตีเข้ามาก็มักจะปรากฏชื่อของศัตรูให้เห็น เขาจึงรู้ได้ทันทีว่ากลุ่มคนที่ล้อมเขาอยู่นั้นต้องมาจากกิลด์์เป็แน่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกเกลียดคนพวกนี้อยู่บ้างแต่ก็ไม่คิดเลยว่าเขายังไม่ได้เริ่มลงมือแต่ฝ่ายตรงข้ามกลับส่งคนมาชิงสังหารเขาก่อนเดี๋ยวพวกมันจะต้องรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป
ม่านฟ้าิญญานั้นไม่มีผลกับเขาทำให้สามารถมองออกไปด้านนอกเห็นหน้าศัตรูได้อย่างชัดเจนมองไปเห็นศัตรูยืนอยู่เป็จำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็เป็ระดับผู้เชี่ยวชาญ ผ่านมาอีกราว10 วินาที ทหารโครงกระดูก 20 ตัว ตอนนี้ก็หายไปครึ่งหนึ่งแล้ว ดูๆแล้วทหารม้าโครงกระดูกคงยากที่จะรับมือไหว หรือไม่ก็อาจเป็เพราะการโจมตีที่ทำให้ถึงตายแต่ศัตรูก็เริ่มถูกสังหารมากขึ้นเรื่อยๆ จึงสั่งให้ทหารโครงกระดูก 10 ตัวคอยปกป้องชุดขาวลอยล่องเอาไว้ เพราะในตัวของเธอเองคงเหลือยาไม่มากแล้วเกรงว่าจะต่อสู้ได้อีกไม่นาน
ทัวทาเทียนหวังยืนมองดูอยู่ห่างๆด้วยสีหน้าซีดเผือด แผนสำหรับจัดการฉินโจ้วในครั้งนี้เป็ฝีมือของเขาเองครั้งสุดท้ายที่เขาถูกสังหารทำให้เขารู้สึกอับอายขายขี้หน้าเป็อย่างมากหลังจากได้รับประสบการณ์อันเ็ป เขาก็ค้นหาวิธีเพื่อวางแผนอย่างละเอียดซึ่งเขามั่นใจว่าแผนนี้ไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าแผนการที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบขนาดนี้ก็ยังไม่สามารถจัดการกับฉินโจ้วลงได้แถมลูกน้องของเขาเกือบร้อยคนแล้วที่ยังถูกสังหารไปอีกคนเป็ร้อยจัดการคนคนเดียวด้วยการซุ่มโจมตียังไม่สำเร็จแถมโดนสวนกลับจนคนของเขาเป็ร้อยต้องล้มตาย ทำให้สีหน้าเปลี่ยนเป็ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไร
"ให้เมจและนักธนูยิงใส่เข้าไปในม่านฟ้าิญญาจากทุกทิศทางไม่ต้องสนใจพวกโครงกระดูกพวกนั้น ผมไม่เชื่อหรอกว่ามันจะแปลงเป็แมลงวันไปได้ต่อให้บินได้จริง อย่างไรก็ต้องถูกจัดการอยู่ดี" ทัวทาเทียนหวังกัดฟันแน่นเพื่อจัดการกับฉินโจ้วแล้วถึงแม้ว่าจะต้องเสียสละคนของเขาเองก็ต้องทำ
ก่อนที่พวกเขาจะคิดลงมือทำสิ่งใดก็ปรากฏมีวัตถุทรงกลมขนาดราวไข่มุกเป็สิบเม็ดถูกโยนออกมาจากม่านฟ้าิญญาก่อนจะตกลงบริเวณที่ผู้เล่นกิลด์์อยู่ ทันทีที่ััโดน ตูมม!พวกมันก็ะเิขึ้น และมีแสงสีเทากระจายขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็วพลังทำลายไม่มากไม่น้อยเกินไป ผู้เล่นที่อยู่ใกล้ก็ถูกสังหารทันทีแต่ไม่มีผลอะไรถ้าอยู่ห่างออกไปสักเล็กน้อยถึงอย่างนั้นพวกเขาเ่าั้ก็ถูกพิษจากแก๊สของซากศพอยู่ดีต่อให้ไม่โดนะเิก็ตาม ทันใดนั้นใบหน้าของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็สีเขียวเพราะถูกพิษนั่นเอง และมีค่าความเสียหาย -400, -400,-400... ลอยขึ้นเหนือร่างกายของพวกเขาถูกต้องแล้วความเสียหายหลักก็มาจากพิษที่อยู่ในวัตถุคล้ายไข่มุกนั่นเอง
สีหน้าของทัวทาเทียนหวังเปลี่ยนเป็สีดำคล้ำในทันทีก่อนที่เขาจะะโขึ้นทันใดว่า "พวกแกก็อย่ารวมกลุ่มกันสิโว้ย..."
ปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาเ่าั้ไม่เชื่องช้าแต่เพราะฉินโจ้วนั่นเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าต่างหาก ะเิศพเป็สิบๆ ลูกถูกโยนใส่ผู้เล่นของกิลด์์อย่างไม่เสียดายเงินทำให้พื้นที่หลายสิบแห่งปรากฏกลุ่มควันหนาขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกันต่อมากลายเป็พื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งผู้เล่นจำนวนมากของกิลด์์ในตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็เต่าเขียวไปหมดแล้วฉินโจ้วในเวลานี้ย่อมขาดแคลนสิ่งของหลายสิ่ง แต่ไม่ใช่กับะเิศพแน่ในการเก็บเกี่ยว่ 7-8 วันก่อนทำให้เขาพบะเิศพในขณะนี้นั้นมีมากกว่าสามพันลูกเพียงพอที่จะให้เขาโยนเล่นเหมือนโยนก้อนหิน
ทันทีที่เกิดการะเิผู้เล่นของกิลด์์นับสิบก็ถูกสังหารทันที และมีผู้เล่นอีกไม่น้อยที่ถูกพิษของะเิศพเข้าจนเขียวไปหมดยกเว้นแต่ทัวทาเทียนหวังที่อยู่ห่างออกไปจึงมีเวลาเตรียมตัวได้ทันเขาหนีออกจากพื้นที่ที่มีพิษได้ทันซึ่งตอนนี้พวกเขาที่เหลือได้ติดพิษไปเรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ตามพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีใครนำยาถอนพิษมาด้วย จึงทำได้แค่กินยาแดงประทังไปและะเิศพของฉินโจ้วก็ต่างจากะเิศพทั่วไป ซึ่งมีพิษร้ายแรงมากมีผู้เล่นบางคนที่ซื้อยาแดงเวอร์ชันอัปเกรดมาก็ยังยื้อชีวิตอยู่ได้แต่ผู้เล่นอื่นที่มีแค่ยาแดงธรรมดา ก็เริ่มจะทนกับพิษของะเิศพไม่ไหวพวกเขาได้แต่มองดูพลังชีวิตที่ลดลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นที่มีพลังชีวิตมากที่สุดก็อยู่ได้นานหน่อยใช้เวลาไม่นานนักผู้เล่นที่อ่อนแอทั้งหลายก็กลายเป็แสงสีเทาก่อนจะกลับไปคืนชีพอย่างสมเกียรติ
ฉินโจ้วขว้างะเิศพไปไม่ต่ำกว่าสองร้อยลูกซึ่งพอจะทำให้ความโกรธของเขาลดลงไปได้บ้าง จำนวนผู้เล่นทั้งหมดของกิลด์์ในเวลานี้เหลือน้อยกว่า400 คน และประมาณ 1 ใน 4 นั้นได้ถูกสังหารไปส่วนที่เหลือก็โดนพิษมีผู้เล่นจำนวนเล็กน้อยที่วิ่งหนีออกไปได้ทันคงจะพูดได้ว่าคนของกิลด์์รอบนี้ส่วนใหญ่ไม่รอดการลอบสังหารครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความล้มเหลว ก่อนที่ฉินโจ้วจะพบว่าชื่อบนหัวของเขาเปลี่ยนเป็สีแดงและค่อยๆ เข้มขึ้นเข้มขึ้นทุกที
ผู้เล่นกิลด์์ค่อนข้างร้ายกาจพอตัวพวกเขาไม่มากันเป็กลุ่ม แต่ใช้ผู้เล่นเป็รายคนในการโจมตีฉินโจ้วและถูกฉินโจ้วสังหาร เพราะเนื่องจากมีผู้เล่นเป็จำนวนมากผู้เล่นบางคนก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่โจมตีด้วย อย่างเช่นบางคนอาจจะกำลังหันไปโจมตีใส่ชุดขาวลอยล่อง แต่พวกเขาก็ถูกฉินโจ้วสังหารนั่นเพราะว่าตัวฉินโจ้วและชุดขาวลอยล่องนั้นไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน หรือพูดง่ายๆก็คือ ไม่เข้าปาร์ตี้เดียวกันนั่นเอง นั่นจึงเป็เหตุผลที่ทำให้ฉินโจ้วมีชื่อสีแดง
ความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็ที่แน่นอนแล้วผู้เล่นกิลด์์เองก็ไม่มีใครสนใจที่จะโจมตีอีกสีหน้าของทัวทาเทียนหวังเริ่มดำคล้ำไม่คิดว่าเื่มันจะบานปลายถึงขนาดนี้ต่อให้เขาไม่อาจเปลี่ยนผลลัพธ์ในครั้งนี้ได้ แต่เขายังคงหลบหนีไปได้พร้อมกับกลุ่มผู้เล่นที่รอดชีวิต
"แหมๆ...คิดจะไปโดยไม่ร่ำลากันสักคำเลยหรืออย่างไร? ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก"ฉินโจ้วในเวลานี้เพิ่งจะหลุดออกมาจากพายุทอร์นาโด หัวสมองหายมึนงงแล้วก่อนจะจ้องมองไปทางทัวทาเทียนหวัง พร้อมกับทำเสียงฮึดฮัดออกจมูกเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาต
"อัศวินปฐีโจมตี"
รอยแยกกลางอากาศได้เปิดออกก่อนที่ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยน้ำหนักที่มากมายของอัศวินปฐีจะตกลงมา ตึงง...มีผู้เล่นคนหนึ่งที่หลบไม่ทัน ทำให้ถูกทับจนเสียชีวิตคาที่เศษเนื้อและเืกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ส่งกลิ่นคาวคลุ้งรุนแรงจากเดิมที่มีผู้เล่นสี่คนที่กำลังติดตามทัวทาเทียนหวังแต่ตอนนี้หลังจากตายไปแล้วหนึ่ง จึงเหลืออยู่แค่สามคนเท่านั้น
ผู้ติดตามของทัวทาเทียนหวังนั้นเองก็พอมีฝีมืออยู่บ้างด้วยประกายของดาบแสง เขาเริ่มโจมตีใส่อัศวินปฐีในทันทีในส่วนของเมจนั้นก็เริ่มถอยหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่บอลไฟขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาในอากาศ
แคร้ง...แคร้ง...
การโจมตีของนักรบสร้างความเสียหายให้กับอัศวินปฐีต่อครั้ง-505,-480 แต่สิ่งที่รอต้อนรับเขาอยู่นั่นก็คือเงาหอกที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าพุ่งแหวกอากาศ เมื่อเงาหอกได้พุ่งผ่านไปก็มีรูโหว่ขนาดเท่าชามปรากฏอยู่บนหน้าอกของผู้เล่นทั้งสองคนสามารถมองทะลุไปเื้ัได้อย่างชัดเจน พวกเขาล้มลงและเสียชีวิตทันทีก่อนที่อัศวินปฐีจะพุ่งไปด้านหลัง เมื่อหันกลับไปก็เห็นรูโหว่ปรากฏบนหน้าอกของเมจโดยที่บอลไฟนั้นยังไม่ทันได้ถูกปล่อยออกมา
แม้ว่าทัวทาเทียนหวังนั้นมีความว่องไวมากและแถมยังวิ่งหนีไวที่สุดอีกด้วยแต่ไม่ว่าจะอย่างไร ต่อให้เร็วแค่ไหนก็ไม่มีทางหนีอัศวินปฐีที่ขี่ม้าอยู่ไปได้พ้นเมื่อรู้แล้วว่าหนีไม่พ้นเป็แน่ ทัวทาเทียนหวังจึงหยุดและหันกลับมาต่อสู้พละกำลังของเขาดีทีเดียว โดยสามารถป้องกันการแทงได้ถึงสองครั้งและในครั้งที่สามก็ถูกแทงทะลุหัวใจ ยังไม่ทันถึงฉากพูดสั่งลาก่อนจะไปเกิดใหม่หลังจากที่อัศวินปฐีสังหารทัวทาเทียนหวังแล้ว เขาก็ยังไม่หยุดแต่กลับพุ่งทะยานกลับไปเห็นเพียงแค่แสงสีขาวและก่อนที่จะพุ่งหอกออกไปสังหารผู้เล่นที่กำลังหลบหนี ผ่านไป 10 วินาทีอัศวินปฐีก็ย้อนกลับมาซึ่งตอนนี้ไม่มีผู้เล่นที่มีชีวิตหลงเหลืออยู่ในสนามรบเลยสักคน
ชื่อบนหัวของชุดขาวลอยล่องตอนนี้ก็กลายเป็สีแดงไปแล้วดูเหมือนว่าจะมีผู้เล่นหลายคนที่ถูกสังหารด้วยน้ำมือเธอทำให้ตอนนี้ไม่สามารถกลับไปเมืองัได้แล้ว และกิลด์์ก็ยังมีขุมกำลังขนาดใหญ่รออยู่อีกมันคงไม่ใช่เวลาเหมาะที่พวกเราจะอยู่ที่นี่เป็เวลานานทั้งสองจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะรีบจัดการเก็บกวาดสนามรบสิ่งของพวกนี้นับเป็สินาทั้งนั้น ถ้าไม่เก็บไปคงเสียใจแย่
ดูเหมือนว่าผู้เล่นของกิลด์์นั้นเตรียมตัวมาค่อนข้างดีนอกจากอาวุธแล้วพวกเขาพกมาแค่ยาเท่านั้น ไม่มีเงินหรือสิ่งของอื่นใดซึ่งในเวลานี้สิ่งที่ขาดแคลนมากที่สุดของชุดขาวลอยล่องก็คือ ยาดังนั้นเธอจึงเลือกเก็บเฉพาะยาและของบางสิ่ง ในส่วนของฉินโจ้วนั้นไม่เลือกมากเหมือนตั๊กแตนเขาจึงกวาดเรียบทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งลูกธนู เนื่องจากเขามีแหวนมิติดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเื่พื้นที่สำหรับเก็บของ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้