นอกจากทะเบียนสมรสยังมีฐานะหัวหน้าครอบครัวสตรีอีกเื่
กระไรคือหัวหน้าครอบครัวสตรี ในยุคต้าโจว หากคนในครอบครัวยังไม่ล้มหายตายจากไปเสียหมดก็เป็หัวหน้าครอบครัวสตรีไม่ได้
หมายความว่า หัวหน้าครอบครัวสตรีคือคนที่ครอบครัวล้มตายหมดแล้ว
ต้องไร้บุพการี ไร้พี่น้องและไร้บุตรหลานจึงจะเป็หัวหน้าครอบครัวสตรีได้
หลินหวั่นชิวมีฐานะเป็หัวหน้าครอบครัวสตรี นั่นก็หมายความว่านางไม่มีพ่อแม่พี่น้อง…อย่างน้อยทางที่ว่าการก็คิดเช่นนี้
หลินฟาไฉกับสวี่ซื่อไปฟ้องร้องหลินหวั่นชิวที่ที่ว่าการไปย่อมไม่เป็ผล
แต่แน่นอนว่าโดยส่วนตัวแล้วจะนับเป็ญาติหรือไม่ก็ไม่มีผู้ใดควบคุมได้
นี่เป็วิธีที่คนจากศาลว่าการแนะนำให้เจียงหงหย่วนตอนไปทำทะเบียนสมรส แน่นอนว่าเจียงหงหย่วนจ่ายเงินไปไม่น้อยเช่นกัน
หลินฟาไฉฟังเจียงหงหย่วนแล้วหน้ามืด ต้องกัดลิ้มไม่ให้ตัวเองล้มหมดสติไป
“เจียงหงหย่วน หลินหวั่นชิว พวกเ้าเหี้ยมมาก!” หลินฟาไฉชี้หน้าทั้งคู่ด้วยความแค้นเคือง “ข้าจะคอยดูว่าพวกเ้าจะได้ใจถึงเมื่อไร หลินหวั่นชิว วันใดถึงคราวของเ้า อย่าได้คิดกลับบ้านหลินมาร้องหาพ่อแล้วกัน! วันนี้พวกเ้าตัดความสัมพันธ์ เช่นนั้นวันหน้าอย่าโทษว่าข้าไร้น้ำใจ!”
รอก่อนเถิด เขารู้ดีกว่าผู้ใดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเป็คนเช่นไร หัวหน้าหมู่บ้านคงรอเวลาเพื่อลงมือ อาจรอนานสุดแค่วันขึ้นบ้านใหม่ หัวหน้าหมู่บ้านไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาฉลองปีใหม่ที่บ้านนี้เป็แน่
ถึงเวลานั้น…
(หลินฟาไฉมองหลินหวั่นชิว “เ้าเตรียมบ้านแตกสาแหรกขาดได้เลย!”)
“กลับ!” หลินฟาไฉดึงแขนเสื้อสวี่ซื่อแล้วแทรกตัวออกจากฝูงชน น่าขายหน้าชะมัด
เพราะนังแก่นี่คนเดียว หากไม่ใช่เพราะนางบอกว่าจะมาหาหลินหวั่นชิว เขามีหรือจะมา
หลินฟาไฉยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห กลับถึงบ้านปิดประตูแล้วตบหน้าสวี่ซื่อ
สวี่ซื่อร้องไห้คร่ำครวญอีกครั้งแต่ถูกหลินฟาไฉทำตาขวางใส่ นางรีบเงียบปากประหนึ่งโดนบีบคอทันที!
โจวเอ้อร์เหนิงที่เห็นภาพนี้แอบสมน้ำหน้าในใจ!
“เอาล่ะๆ แยกย้ายกันไปได้แล้ว!” สวีฝูไม่สบอารมณ์มาก เขานึกว่าจะได้เหยียบย่ำหลินหวั่นชิว ไม่นึกมาก่อนว่าเจียงหงหย่วนจะทำถึงขนาดนี้
เขามองบ้านหลังใหญ่ด้านหลังพวกเขา ท้ายที่สุดก็พาภรรยาเดินหน้าดำจากไป
“ตาแก่…พวกเขากำลังตบหน้าท่านนะ!” กลับถึงบ้าน ซุนซื่อบ่นให้สวีฝูฟัง
สีหน้าสวีฝูไม่สู้ดีมาก “ไม่ต้องพูดมาก คืนนี้เต๋อเซิ่งกับเต๋อเม่ากลับมาบ้าน มีกระไรก็รอพวกเขามาก่อนค่อยปรึกษา เ้าไปซื้อเนื้อมา คืนนี้ทำกับข้าวสองสามอย่าง พวกข้าสามคนจะดื่ม”
“ได้” ลูกชายจะกลับบ้าน ความหงุดหงิดในใจซุนซื่อสลายไปบางส่วน หยิบเงินออกไปซื้อเนื้อ
ซุนซื่อยุ่งกับงานตลอดทั้งบ่าย เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด สวีเต๋อเซิ่งกับสวีเต๋อเม่ากลับมาถึงบ้านเวลาไล่เลี่ยกัน
“ท่านแม่” ซุนซื่อออกจากห้องครัว ทั้งคู่ทักทายนางแล้วจึงเดินเข้าห้องโถง
“ท่านพ่อ”
“นั่งลง คืนนี้พวกเราดื่มกันหน่อยเถิด” พูดจบก็เปิดตู้หยิบสุรา
ซุนซื่อยกกับข้าวเข้ามา นางไม่ได้นั่งที่โต๊ะด้วย ถอยออกไปแล้วปิดประตูห้องโถงกับประตูลานบ้าน
แบ่งอาหารแยกไปกินที่ห้องครัวเพียงเล็กน้อยก็กลับห้อง ไม่ได้รบกวนบุรุษทั้งสาม
“เต๋อเซิ่ง เ้ารู้เื่ที่เกิดขึ้นในบ้านแล้วใช่หรือไม่?” สวีเต๋อเม่ารินสุราให้ทุกคนเสร็จ สวีฝูก็ถามลูกชายคนโต
สวีเต๋อเซิ่งพยักหน้า “เต๋อเม่าเล่าให้ข้าฟังแล้วขอรับ” เขาขมวดคิ้ว สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเช่นกัน
“ท่านพ่อตามใจบ้านอารองมากเกินไปจนหลายปีมานี้พวกเขาเริ่มใจกล้า ถึงกับกล้าลอบกัดพวกเรา!”
สวีฝูถอนหายใจ “ข้าคิดว่าเป็ครอบครัวเดียวกันก็ควรช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เ้าก็รู้ว่าหากไม่ใช่เพราะพวกเ้าสองพี่น้องมีอนาคต ตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านของข้าอาจไม่มั่นคงขนาดนี้…”
ที่สำคัญคือไม่มีทางหาเงินได้ราบรื่นขนาดนี้
“ต้าเกอ ข้าอัดสั่งสอนสวีเทากับสวีลั่งไปชุดใหญ่ พวกเขาคงลุกจากเตียงไม่ได้เป็เดือน!” สวีเต๋อเม่าพูด มารดามันเถิด กล้าทำพวกเขาเสียเื่ ไม่ต้องพูดว่าเป็ลูกพี่ลูกน้องกัน เพราะต่อให้เป็พี่น้องแท้ๆ เขาก็กล้าลงมือ
เขาเคยหาเวลามาดูบ้านตระกูลเจียงแล้ว ขนาดเห็นแค่ข้างนอกยังโอ่อ่าสุดๆ
ส่วนป่าด้านหลัง ชาวบ้านธรรมดาไม่มีวิสัยทัศน์ รู้สึกว่าป่าใช้ทำนาไม่ได้ ซื้อไปก็เปลืองเงิน แต่ชาวบ้านพวกนี้รู้ที่ไหนกันว่าคฤหาสน์คนรวยต่างก็มีสวนหลังบ้านกันทั้งนั้น
เขาเดาว่าบ้านเจียงคงอยากทำสวนขนาดใหญ่เช่นกัน แต่เพราะเงินยังไม่พอจึงซื้อที่ดินก่อน
เขาคิดมาั้แ่ก่อนหน้านี้แล้วว่าเมื่อยึดบ้านมาได้ อย่างแรกที่เขาจะทำคือล้อมกำแพงให้ป่าด้านหลัง อย่างที่สองคือตัดต้นไม้ในป่ามาทำเป็ฟืนให้หมด ยืมมือท่านพ่อให้หากรรมกรที่ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างมาตัดต้นไม้…ถึงเวลานั้น พวกเขาจะได้มีสวนหลังบ้านเหมือนครอบครัวคนรวย
มีทั้งสวนทั้งบ้านหลังใหญ่ เขาจะย้ายกลับมาอยู่ในหมู่บ้าน ซื้อรถล่อสักคัน ขับไปทำงานที่บ่อนทุกวัน…จริงสิ ต้องซื้ออนุหน้าตางดงามด้วย…ไม่ต้องพูดถึงว่าชีวิตจะมีความสุขขนาดไหน
น่าเสียดายที่ความฝันนี้ถูกคนทำลาย เขาจะไม่แค้นได้หรือ?
“มิน่าเล่า วันนี้หลินฟาไฉไปตำบลแต่หาสวีเทาไม่เจอเลยเปลี่ยนไปหาเื่ตระกูลเจียงแทน จริงสิเต๋อเซิ่ง เื่นี้ถูกหลินซย่าจื้อป่าวประกาศให้รู้ทั่วหมู่บ้านแล้ว เช่นนั้นพวกเรา…จะทำอย่างไรต่อ? หากลงมือจะเท่ากับยืนยันคำพูดหลินซย่าจื้อหรือไม่?”
สวีฝูกังวลเื่นี้มากที่สุด
เขามีอำนาจปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียวในหมู่บ้านก็จริง แต่ถึงกระนั้นก็ต้องรักษาเกียรติ พูดแบบไม่น่าฟังคือต้องเป็ทั้งคนขายตัวทั้งตนสร้างป้ายสรรเสริญเกียรติคุณ ถึงจะทำเื่เลวทรามแต่ก็ต้องยืนอยู่บนเปลือกศีลธรรม ไม่ให้ผู้ใดเอาผิดหรือคุกคามได้
หากผู้ใดถูกกดขี่รังแกจนไปฟ้องที่ว่าการอำเภอก็ไม่มีหลักฐาน
อืม สวีฝูเป็หัวหน้าหมู่บ้านที่มีความทะเยอทะยานมาก
“แผนการยังคงเดิม ถึงเวลาแล้วทางการเป็คนจับกุม บ้านถูกทางการยึด พวกเราแค่ต้องนำเงินไปซื้อบ้านกลับมา ไม่ว่าผู้ใดก็ว่ากระไรไม่ได้ทั้งนั้น แต่แผนเดิมคือให้พ่อตาข้าช่วยจัดการเื่นี้ ไม่ต้องผ่านที่ว่าการ ทว่าตอนนี้หลินซย่าจื้อทำให้เื่ราวบานปลาย เื่นี้จึงจำเป็ต้องผ่านที่ว่าการ พวกเราต้องซื้อบ้านจากที่นั่น…เกรงว่าคงต้องใช้เงินมากขึ้น”
ใช้เงินมากขึ้น?
สวีเต๋อเม่าไม่ค่อยยินดีแล้ว
สวีฝูขมวดคิ้วถาม “ต้องใช้เงินประมาณเท่าไร?”