“เพราะเหตุใด” หานหลินเยว่ไม่เข้าใจ
เฟิ่งเฉี่ยนสูดลมหายใจลึกๆ นางนวดคลึงหว่างคิ้วเบาๆ “เปรียบเทียบกับความโชคร้ายที่ยังไม่รู้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน ไม่สู้คงสภาพเช่นนี้ไปก่อน!”
ในเมื่อไม่มีทางหลบหลีกความโชคร้าย เหตุใดนางจึงไม่เลือกวิธีการที่จะโชคร้ายเล่า
หานหลินเยว่และคนอื่นๆ สบตากัน นี่มันตรรกะอะไรกัน
เฟิ่งเฉี่ยนโบกมือให้คนทั้งหมด “พวกท่านไปเถิด วางใจ ข้าควบคุมทุกอย่างได้!”
หานหลินเยว่และคนอื่นหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เห็นนางยืนกรานเช่นนั้นจึงได้แต่หันหลังจากไป เพื่อไม่เป็การรบกวนสมาธิของนาง
คนทั้งหมดเดินออกไปไม่กี่ก้าว พลันได้ยินเสียงคนด้านหลังพูดว่า “ถูกต้องแล้ว เหลือคนไว้สักสองคนดูแลบ่อน้ำ จะให้บ่อน้ำหยุดไหลไม่ได้!”
ทันทีที่น้ำหยุดไหล ความโชคร้ายอย่างอื่นก็จะประเดประดังกันเข้ามา ดังนั้น นางจำเป็ต้องรักษาสภาพให้น้ำไม่หยุดไหลไว้เช่นนี้
หานหลินเยว่และคนอื่นๆ อับจนคำพูด เคยพบคนที่ไม่แยแสอะไร แต่ไม่เคยพบคนที่บ้าคลั่งเช่นนี้มาก่อน!
ทว่าพวกเขายังคงเลือกที่จะทำตามที่นาง้า ทิ้งคนไว้สองคนเพื่อเติมน้ำเข้าไปในบ่อน้ำ จากนั้นหิ้วน้ำมาใส่โองใบใหญ่ที่วางไว้ชั้นล่าง เพื่อรองรับน้ำที่ไหลลงมาจากชั้นบน!
การเดินหมากล้อมในสภาพการณ์เช่นนี้ เป็ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทุกคนได้แต่รู้สึกงงงวย!
“แม่นางเฟิงถูกเทพเ้าแห่งความโชคร้ายตามตัวจริงๆ หรือ”
“น่าอนาถเหลือเกิน!”
“นั่งอยู่ในเรือนก็ยังหนีไม่พ้น นางโชคร้ายเหลือเกิน!”
“จะส่งผลกระทบต่อการเดินหมากหรือไม่ แม่นางเฟิงจะแพ้ไม่ได้เชียว ข้าวางเดิมพันด้วยทรัพย์สมบัติของครอบครัวทั้งหมด!”
“ใครจะรู้เล่า”
ผู้คลั่งไคล้ในหมากล้อมจากแคว้นหนานเยียนหัวเราะเยาะเย้ย
“กล้าท้าประลององค์ชายสามของพวกเรา ล้วนเป็คนสุดโต่งทั้งสิ้น ดูเถิด อันตรายเพียงใด!”
“ยังไม่ได้เริ่มต้น ก็แพ้แล้ว!”
“ครั้งนี้รวยแล้ว!”
“ฮ่าๆๆๆๆ...”
หลานเยว่หรูที่อดทนอดกลั้นมาตลอดพรูลมหายใจอย่างสบายอกสบายใจ นางหัวเราะถากถาง “นี่เรียกว่าทำชั่วได้ชั่ว! ต้องเป็เพราะนางทำเื่ไม่ดีมากเกินไป ตอนนี้กรรมตามสนอง! อยากให้หลังคาห้องพิเศษถล่มลงมาจริงๆ ทับนางให้ตายจะดีที่สุด!”
หลินไห่เฟิงพูดอย่างแค้นใจ “สมน้ำหน้า ์ต้องจัดการนางแน่!”
เฟิ่งเทียนรุ่ยถือกระบี่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้คน เขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าต่างห้องพิเศษ ตี้ ด้วยความวิตกกังวล
ซือคงเซิ่งเจี๋ยเอนกายพิงกรอบหน้าต่างมองเหตุการณ์อลหม่านที่เกิดขึ้นในห้องพิเศษตรงข้าม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนยกยิ้มน้อยๆ พลันหัวเราะขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้
“เ้าแน่ใจว่าไม่้าให้หยุดการแข่งขันชั่วคราวหรือ” เขาหันไปพูดกับคนที่อยู่ตรงข้าม
เฟิ่งเฉี่ยนหันหน้ามามองเขาแล้วส่ายหน้า “ไม่จำเป็! แค่เปียกน้ำเล็กน้อย เื่เล็ก!”
ทันทีที่สิ้นเสียง น้ำที่ไหลลงมากระทบก้นกระทะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงดังก้องกังวาน
ซือคงเซิ่งเจี๋ยหัวเราะเบิกบานใจ รอยยิ้มของเขาประดุจพระจันทร์ในยามราตรี “ดูท่าแล้วเ้าล้มเหลวกระทั่งการใช้ชีวิต ์ยังคิดจะจัดการเ้า!”
เฟิ่งเฉี่ยนกลอกตาขาวอย่างไม่สบอารมณ์ “เ้าหัวเราะพอหรือยัง จะเดินหมากอีกหรือไม่”
ดวงตาเรียวหงส์ของซือคงเซิ่งเจี๋ยหรี่ลง “แมวเทพสำหรับเ้าแล้วสำคัญเพียงนี้”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า “ใช่แล้ว สำคัญมาก!”
“เพราะเหตุใด” ซือคงเซิ่งเจี๋ยไม่กระจ่างแจ้ง
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะเบาๆ ดวงตาเป็ประกาย “เพราะ ข้าต้องปกป้องครอบครัวและสหายของข้า”
ซือคงเซิ่งเจี๋ยหัวใจบีบรัด ด้วยถูกดวงตาทอประกายวับวาวของนางทำให้ตกตะลึง น่าแปลกที่เขารู้สึกว่านางในตอนนี้มีเสน่ห์จับตาจับใจเป็พิเศษ!
“น่าสนใจ!” เขาหัวเราะเบาๆ “เ้าต้องระวังแล้วล่ะ เพราะข้าไม่มีทางอ่อนข้อให้เ้าแน่นอน!”
เฟิ่งเฉี่ยนมองตอบกลับไปดวงตาเปล่งประกายแรงกล้า “ที่ต้องระวังควรเป็เ้า! หมากกระดานนี้ ข้าชนะแน่นอนแล้ว!”
ดวงตาของคนทั้งสองประสานกันแทบจะเกิดประกายไฟ!
บนกระดานหมากใหญ่ หมากดำพลันเริ่มโจมตี ก่อตัวเป็ปลายแหลมๆ ส่งผลให้ภายในชุมนุมหมากล้อมเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ฮือฮาขึ้นเป็ครั้งแรก
“มาแล้ว! ในที่สุดองค์ชายสามก็เล่นท่าไม้ตายแล้ว!
“ก็เป็สามเหลี่ยมที่สุดแสนจะธรรมดานี่นา!”
“ไม่ถูกต้อง หมากก้าวนี้ต้องไม่สามัญแน่นอน จะต้องมีความหมายอย่างอื่นแฝงอยู่”
“คิดมากไปรึป่าว”
“เป็เพราะสมองของเ้าไร้เดียงสาเกินไป! ข้าจะบอกเ้าให้ ทันทีที่องค์ชายสามลงมือ ย่อมต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!”
“...”
ผู้คลั่งไคล้ในหมากล้อมของแคว้นเป่ยเยียนและแคว้นหนานเยียนพลันมีปากเสียงกัน ไม่มีใครยอมใคร
ใต้กระดานหมากใหญ่ หานไท่ฟู่ลูบเครา “ซือคงเซิ่งเจี๋ยนี่ต้องคิดอะไรแน่นอน! เจดีย์แหลมๆ นี้จะบังเอิญเกินไปหรือไม่! ดูไปแล้วธรรมดาทว่ากลับสร้างความกดดันและอันตรายให้อีกฝ่าย ซ้ำยังถอยรุกได้อย่างอิสระ นี่้าควบคุมการเดินหมากแล้วล่ะสิ! แม่นางเฟิงครั้งนี้ยุ่งยากแล้ว!”
จ้าวฉีขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกอันตราย “ด้วยประสบการณ์ที่ข้าเคยเดินหมากกับซือคงเซิ่งเจี๋ย ทุกๆ ก้าวของการเดินหมากของเขาจะมีแผนการอย่างน้อยๆ สามทิศทาง เกรงว่านอกจากที่ท่านกล่าวแล้วยังมีแผนการอย่างอื่นอีก!”
หานไท่ฟู่ตกตะลึง “นี่ยังมีแผนการอย่างอื่นอีกหรือ เป็ไปไม่ได้กระมัง”
ฟางเสียหัวเราะเสียงขื่น “คนอื่นอาจจะเป็ไปไม่ได้ แต่สำหรับซือคงเซิ่งเจี๋ยแล้ว...ไม่มีอะไรที่เป็ไปไม่ได้!”
หานหลินเยว่อ้าปากค้าง นางรู้ว่าแต่ไรมาศิษย์พี่ฟางเสียไม่เคยพูดจาเกินจริง
ภายในห้องพิเศษ ตี้ เฟิ่งเฉี่ยนเข้าสู่ภวังค์ความคิดของตน
นางรู้มาโดยตลอดว่าซือคงเซิ่งเจี๋ยร้ายกาจ แต่เมื่อต้องประมือกับเขาจริงๆ นางจึงััได้ถึงความร้ายกาจของเขาที่ไกลเกินกว่าที่นางจะจินตนาการได้!
หมากก้าวนี้ดูไปแล้วแสนจะธรรมดา ทว่ากลับเดินได้อย่างบังเอิญที่สุด หากมองตรงๆ แล้วมองออกได้ถึงความหมายสามประการ ประการแรก สร้างความกดดันให้หมากขาว ประการที่สอง ตำแหน่งนี้มีความอิสระ รุกได้ถอยได้ ประการที่สาม ้าควบคุมเกมการเดินหมาก...ทว่านอกเหนือจากนี้ ััที่หกบอกกับนางว่า เื้ัหมากก้าวนี้ของเขาจะต้องมีความหมายที่ลึกซึ้งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และความตั้งใจนี้จะทำให้หมากขาวตกอยู่ในความลำบาก และพบทางตัน!
เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่นะ
นางคิดหนัก ไม่อาจตัดสินใจวางหมาก
ภายในห้องพิเศษ เทียน ซือคงจวินเย่หัวเราะเบาๆ “ยังเดินได้ไม่ถึงสิบก้าว ก็เห็นถึงความแตกต่างแล้ว! อาเซิ่ง ดูท่าแล้วครั้งนี้เ้าน่าเลือกคู่ต่อสู้ผิด...”
ปลายนิ้วเรียวยาวของซือคงเซิ่งเจี๋ยลูบคลำหมากดำตัวหนึ่งเล่น เขาเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างแล้วหัวเราะอย่างมั่นอกมั่นใจ “นี่เป็เพียงบททดสอบเล็กๆ ที่ข้ามอบให้นางเท่านั้น หากกระทั่งบททดสอบนี้นางก็ยังก้าวผ่านไปไม่ได้ ย่อมไม่มีความจำเป็ต้องเดินหมากต่อไปอีก!”
ซือคงจวินเย่มองสีหน้าท่าทางมั่นอกมั่นใจของน้องชาย ในแววตาพลันปรากฏให้เห็นความอ่อนโยน ในสายตาของเขาบนโลกนี้ไม่มีนักเดินหมากคนใดทำให้น้องชายของเขาพ่ายแพ้ได้ มีเพียงคู่ควรที่จะเป็คู่ต่อสู้ของเขาบนกระดานหมากหรือไม่!
ดังนั้น แม่นางเฟิงท่านนี้ ไม่มีค่าคู่ควรพอแม้กระทั่งจะกล่าวถึง!
ท่ามกลางผู้คน หลานเยว่หรูหัวเราะขึ้นมา “เฟิงเฉี่ยนช่างไม่รู้จักประมาณตนเสียเลย! กระทั่งนักเดินหมากระดับเก้าทั้งหกคนของชุมนุมหมากล้อมแห่งแคว้นเป่ยเยียนก็ยังพ่ายแพ้ให้กับซือคงเซิ่งเจี๋ย นางอาศัยอะไรคิดว่าตนเองจะเอาชนะซือคงเซิ่งเจี๋ยได้ ช่างน่าขันนัก!”
หลินไห่เฟิงรับลูกต่อทันที เขาหัวเราะเย้ยหยัน “ที่น่าขันยิ่งกว่านั้นคือ ถึงกับมีคนมากมายที่เชื่อนาง คิดว่านางเอาชนะซือคงเซิ่งเจี๋ยได้! เฮ้อ ช่างเป็ฝันกลางวันโดยแท้ เพ้อเจ้อ!”
ไม่ไกลออกไปนัก เฟิ่งเทียนรุ่ยที่มีประสาทการได้ยินดีเยี่ยม ได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสอง เขาขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ
ั้แ่พวกเขามาถึงชุมนุมเดินหมากก็พูดถึงน้องหญิงสี่ของเขาในทางลบมาโดยตลอด เป็เื่ที่ยากจะอดกลั้น!
เห็นด้านหน้าผู้คลั่งไคล้หมากล้อมคนหนึ่งมีกระดานหมากกางอยู่ เขาลอบเดินพลังลมปราณที่ฝ่ามือ แล้วรวบรวมหมากบนกระดานเข้ามาซ่อนไว้ในแขนเสื้อ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้