มือซ้ายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ที่อ้างว่าสามารถเอาชนะเคล็ดวิชาของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ได้ทั้งหมด และนี่เป็เื่จริงอย่างแน่นอน
ปัญหาคือตอนนี้หลัวเลี่ยอ่อนแอเกินไป มันเหมือนกับว่ามือซ้ายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คือน้ำ และพลังของฝ่ายตรงข้ามคือไฟ เขาจะดับไฟบนท้องฟ้าด้วยน้ำเพียงหยดเดียวได้อย่างไร? จะต้องเป็ความแข็งแกร่งที่สอดคล้องกัน จึงจะสามารถเอาชนะมันได้อย่างสมบูรณ์
ดังนั้นเมื่อหลงไป๋จางละทิ้งความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีของเขา และขอความช่วยเหลืออย่างไร้ยางอาย หลัวเลี่ยก็ต้องพ่ายแพ้เท่านั้น
ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็เป็ไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะอัจฉริยะัอายุน้อยมากกว่าหนึ่งร้อยคนด้วยตัวเองได้ และสองคนในนั้นก็เป็อัจฉริยะชั้นยอด เว้นแต่จะเป็การต่อสู้ปกติ เช่น การพึ่งพาความเร็ว ทักษะการต่อสู้ และอื่นๆ แต่อันนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับเื่นั้น ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่จ้องมองด้วยความโกรธ
หลัวเลี่ยทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่จิติญญาับรรพชนสั่นอย่างบ้าคลั่ง ภายใต้พลังของวิชาอัญเชิญั มันค่อยๆ หลุดออกจากพันธนาการของมือขวาของหลัวเลี่ยและหลบหนีไปทีละน้อย
“ออกมา”
หลงไป๋จางเปล่งเสียงดังและกล่าวอย่างดุเดือด เขาระดมกำลังของคนมากกว่าหนึ่งร้อยคนและปะทุขึ้นอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นจิติญญาัของบรรพบุรุษก็หลุดพ้นจากพันธนาการของหลัวเลี่ยพลิกผ่านพันธนาการของสังเวียนับรรพชน และชนเข้ากับัสีน้ำเงินโดยตรง
“มันเป็ของข้า!”
หลงไป๋จางรู้สึกดีใจ และเอื้อมมือออกไปคว้าปราณับรรพชน เขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้อีกต่อไป และหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ัทุกตัวแสดงท่าทีดีใจ
“ขอแสดงความยินดีกับเ้าด้วยไป๋จาง” ความอิจฉาฉายแวววาบในดวงตาของหลงเติ้งอวิ๋น
“เติ้งอวิ๋น ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของเ้า” หลงไป๋จางใบหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น “หลงจวินด้วย ความช่วยเหลือของเ้าข้าจะไม่มีวันลืม”
หลงจวินและอัจฉริยะรุ่นเยาว์อีกนับร้อยต่างก็โห่ร้องแสดงความยินดี
หลงเติ้งอวิ๋นกล่าวว่า “ไป๋จางรีบเอาจิติญญาับรรพชนมาใช้เร็วเข้า ข้าเห็นแล้วว่าตอนที่มันอยู่กับหลัวเลี่ยทำให้เกิดสัญญาณความยิ่งใหญ่ของเผ่าั มันอาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันมหัศจรรย์ในพลังของับรรพชน หากเ้าเชี่ยวชาญแล้ว ข้าเชื่อว่าเ้าก็มีโอกาสที่จะแปลงร่างเป็ับรรพชน และกลายเป็ความหวังในการนำเผ่าัไปสู่จุดที่เจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ที่สุด”
“ใช่แล้ว พี่เติ้งอวิ๋นพูดถูก พี่ไป๋จาง เร่งมือเลย” หลงจวินก็เห็นด้วยเช่นกัน
“ได้”
หลงไป๋จางไม่รีรอ เขาหยดเืสีทองกลับเข้าไปในหัวใจของเขา กระจายมันไปทั่วร่างกายของเขา ทำให้สภาพของเขากลับคืนมาดังเดิม จากนั้นจึงบีบผนึกัที่มีเอกลักษณ์ด้วยมือทั้งสองทันที ะเิพลังของับรรพชน
เขาเห็นพลังงานับรรพชนแปลงร่างเป็ับรรพชนบินไปรอบๆ หลงไป๋จางสองครั้ง และในที่สุดก็รวมตัวกันที่กลางหว่างคิ้วของเขา ก่อตัวเป็ลวดลายั
ร่างกายของหลงไป๋จางได้รับการชำระล้างด้วยรัศมีแห่งแสง และรัศมีของเขาก็ขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ทว่ายังมีร่องรอยของจิติญญาับรรพชน ซึ่งเป็สัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง
“ข้าได้จับคู่ิญญาของับรรพชนแล้ว” ดวงตาของหลงไป๋จางเปล่งประกายด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ เขามองไปที่สังเวียนับรรพชน “หากใช้จิติญญาับรรพชนเพื่อรับแสงศักดิ์สิทธิ์บนสังเวียนับรรพชนอีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงก็ถือเป็อันสิ้นสุด”
เขายกนิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองข้างชี้ที่ขมับซ้ายและขวา
ลวดลายับรรพชนระหว่างคิ้วสั่นไหว
ม่านหมอกโปรยปรายลงมาที่สังเวียนับรรพชนอีกครั้ง และแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งออกมาจากสังเวียนก็ส่องประกาย
เปลี่ยนเป็รูปร่างับรรพชนที่กำลังคำรามอย่างน่าเกรงขาม ทันใดนั้นัที่แท้จริงก็บินออกมาจากสังเวียนับรรพชน และบินไปทางหลงไป๋จาง
“ฮ่าๆ มันคือิญญาของัที่แท้จริง!” หลงไป๋จางกล่าวอย่างปลาบปลื้ม “หากข้าได้รับิญญาของัที่แท้จริง ข้าก็จะสามารถแปลงร่างเป็ัที่แท้จริงได้ ด้วยพลังของับรรพชน ข้าจะแปลงร่างเป็ัได้อย่างแน่นอน ข้าจะกลายเป็คนที่ทำให้เผ่าัเจริญรุ่งเรือง!”
เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
หลงเติ้งอวิ๋น หลงจวิน และคนอื่นๆ ต่างอิจฉา ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็แอบถอนหายใจด้วยความเสียดาย ทว่าพวกเขาคงไม่กล้าตัดสินใจเด็ดเดี่ยว และยอมเสี่ยงกับการสูญเสียวรยุทธ์ตลอดกาลอย่างที่หลงไป๋จางทำอย่างแน่นอน
สำหรับไห่ปี้เถา สุ่ยอวิ๋นเหยา และอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนอื่นๆ จากตระกูลไห่ พวกเขาทำได้เพียงเฝ้ามองด้วยความริษยา
“ผู้คนที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายมากกว่าร้อยคนร่วมมือกันแย่งชิงจิติญญาับรรพชนของข้าไป เ้าคิดว่าข้าจะยอมปล่อยให้เ้าแย่งชิงสิ่งที่อยู่บนสังเวียนับรรพชนไปได้ตามใจอีกครั้งหรือ?” เสียงเ็าดังขึ้น
หลัวเลี่ยยืนอยู่ข้างิญญาัที่แท้จริงที่บินด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
เขากำลังโกรธ
จิติญญาับรรพชนที่เขาได้รับมา ถูกฝังอยู่ในหุบเขาสุสานัมานานกว่าสามเดือน หลังจากฝ่าฟันอันตรายมากมายและมาถึงที่นี่ กลับกลายเป็ว่าเขาทำชุดแต่งงานให้ผู้อื่น แล้วหลัวเลี่ยจะทนได้อย่างไร?
เขาไม่โกรธจนเสียสติก็นับว่าดีมากแล้ว
พอถูกชิงปราณัไปต่อหน้าต่อตา ทั้งยังเก็บเกี่ยวสมบัติต่อหน้าเขาอย่างเปิดเผย เช่นนี้จะยอมได้อย่างไร
ชิ้ง
แสงที่สะท้อนกับคมกระบี่ทำให้เกิดส่วนโค้งอันงดงาม
กระบี่ราชันถูกดึงออกจากฝักภายใต้การซึมซับของพลังอันรุนแรงในร่างกายของหลัวเลี่ย ลมปราณสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากปลายกระบี่
สังหารในดาบเดียว
ชิ้ง
ิญญาัที่แท้จริงถูกคมกระบี่เฉือนแตกกระจาย และกลายเป็เศษแสงจำนวนนับไม่ถ้วน ลอยไปยังกลุ่มหมอกที่กำลังม้วนตัวอยู่บนสังเวียนับรรพชน และรวมเข้ากับแสงัผู้พิทักษ์ จึงช่วยเพิ่มพลังของมันขึ้นมาเป็อย่างมาก
“หลัวเลี่ยเ้าแพ้แล้ว ข้าคือผู้ที่จะทำลายล้างเ้า เ้าควรยอมรับชะตากรรมของตนเองได้แล้ว เ้าหยุดข้าไม่ได้หรอก” หลงไป๋จางกล่าวอย่างมั่นใจราวกับว่าเขากลายเป็ผู้ชนะไปแล้ว
หลัวเลี่ยไม่ได้โต้ตอบในสิ่งที่เขากล่าวออกมา เขายืนดูอย่างเ็า
หลงไป๋จางกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ตอนนี้เ้าอาจจะไม่เชื่อข้า เช่นนั้นเ้าก็เป็พยานว่าข้าจะเป็ผู้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ”
เขาออกแรงอีกครั้ง
ค่ายกลัสั่นไหว ทำให้ิญญาัที่แท้จริงบินออกมาจากสังเวียนับรรพชนอีกครั้ง
กระบี่ถูกโบกออกไปอีกครั้ง แสงของมันสว่างวาบและผ่านสายตาของทุกคนไปอย่างรวดเร็ว
ิญญาัที่แท้จริงถูกคมกระบี่ตัดออกและแตกสลายอีกครั้ง กลับคืนสู่กลุ่มหมอกและแสงัผู้พิทักษ์อีกครั้ง
หลงไป๋จางจะยอมแพ้ได้อย่างไร เขายังคงลงมือต่อไป ในขณะที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้กับสังเวียนับรรพชนขึ้นเรื่อยๆ
เป็ผลทำให้ิญญาัที่แท้จริงปรากฏขึ้นอีกครั้ง
หลัวเลี่ยสังหารด้วยการโจมตีด้วยกระบี่เพียงครั้งเดียว
ในเวลาไม่นานหลงไป๋จางกระตุ้นิญญาัที่แท้จริงทั้งหมดเจ็ดดวง ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ถูกสังหารโดยหลัวเลี่ย
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของหลงไป๋จางค่อยๆ หายไป เปลี่ยนเป็ใบหน้าที่โเี้
หลัวเลี่ยเยาะเย้ยตอบ
“พี่หลง ใจเย็นๆ” ไห่ปี้เถาขัดจังหวะหลงไป๋จาง
“เ้าจะบอกอะไรข้า?” หลงไป๋จางอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก ดวงตาของเขากะพริบบ่อยครั้ง และเห็นได้ชัดว่าเขากำลังสูญเสียความเป็ตัวเอง
ไห่ปี้เถากล่าวอย่างใจเย็น “เป็ไปไม่ได้ที่ท่านจะได้รับิญญาัที่แท้จริงโดยการทำเช่นนี้ ตอนนี้ท่านได้รับจิติญญาของับรรพชนแล้ว ท่านจะไปที่สังเวียนับรรพชนไม่ได้เชียวหรือ พอขึ้นไปบนนั้นแล้วก็ใช้สังเวียนับรรพชนเอาชนะหลัวเลี่ยจะไม่ดีกว่าหรือ”
แปะ
หลงไป๋จางตบหน้าผากของเขาอย่างแรง “ให้ตายสิ ข้าลืมไปได้อย่างไร”
คนอื่นๆ ก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขายิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัวเบาๆ
เป็เื่จริงที่จิติญญาับรรพชนอาจพลาดไปได้อย่างง่ายดาย และความหวังในการฟื้นฟูเผ่าัให้เจริญรุ่งเรืองอาจจะล้มเหลวหากพวกเขากระทำการโดยประมาท
ไห่ปี้เถากล่าวว่า “เป็ธรรมดาที่ข้าต้องคอยเตือนเมื่อเห็นท่านกำลังจะหลงทาง เราไม่สามารถปล่อยให้ความหวังของเผ่าัทำผิดพลาดได้”
“ขอบคุณที่เตือนข้า” หลงไป๋จางหันกลับไปและโจมตีอีกครั้ง
เฉพาะผู้ที่มีจิติญญาของับรรพชนเท่านั้น จึงจะสามารถขึ้นสู่สังเวียนับรรพชนได้ หลงไป๋จางผู้มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาอยู่ในขั้นปลายของขอบเขตหยินหยาง และอยู่ที่จุดสูงสุดของสภาวะจิตใจ เขา้าเอาชนะหลัวเลี่ยเพียงลำพังและฟื้นฟูเผ่าัให้กลับมายิ่งใหญ่ดังเดิม เมื่อครู่นี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ดังนั้นเพื่อเป็การกู้หน้า เขาจึงมีความปรารถนาที่จะได้รับจิติญญาัที่แท้จริงให้เร็วที่สุด
เขารีบวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่หยุด
หลัวเลี่ยกระชับด้ามกระบี่ราชันในมือให้แน่นขึ้น ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยจิติญญาแห่งการต่อสู้
เขาเห็นหลงไป๋จางตรงเข้าไปในหมอกของสังเวียนับรรพชนและแสงัผู้พิทักษ์
ตูม!
หลงไป๋จางที่เร่งฝีเท้าจนเต็มที่ชนเข้ากับพื้นผิวที่เหมือนม่านพลังใสๆ ที่ถูกเปลี่ยนโดยแสงของัผู้พิทักษ์ ทำให้จมูกของเขาหักและมีเืไหลออกมา
มีบางอย่างขวางเขาไว้