ต้นฝน โยโกะจัง....
“อ๋อพอดีเธอเป็ลมนะครับ”เสียงไพเราะของอาจารย์ภามตอบอีตาซาโนะไปด้วยน้ำเสียงเป็มิตรฉันก็รีบหลับตาอย่างไวเมื่อสายตาของฉันไปผสานเข้ากับนัยตาสีดำของอีตาซาโนะนั้น
“เป็ลม? ”เขาเอ่ยทวนถามอีกครั้งพร้อมนำ้เสียงสงสัย ฉันจึงแอบหรี่ตามองเขาเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา ซาโนะก็พยักหน้าเข้าใจและไม่ได้ทำหน้าสงสัยอะไร เฮ้อค่อยโล่งอกไปที
“ส่งยัยโยโกะมาให้ผม คุณมีสอนกลับไปสอนเถอะครับ”คำพูดของตาซาโนะแทบจะทำให้ฉันลืมตาและไปด่าเขาสักสองสามที อย่านะคะอาจารย์ภามอย่าส่งตัวหนูให้อีตาบ้านี่นะคะนะคะ
“อ๋อครับคุณซาโนะ”เสียงนุ่มละมุนของอาจารย์ภามเอ่ยขึ้นพลางร่างของฉันที่ถูกส่งไปให้อีตาซาโนะ
พรึบ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ครับ ขอบคุณครับ^_^”มิซาโนะเอ่ยขึ้นพร้อมกับพาร่างฉันเดินไปไหนสักที
พรึบ
“เข้ามาจุ้นทำไม! ”ฉันลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเราห่างออกมาจากอาจารย์ภามไกลพอสมควรแล้ว
“อ้าวได้สติแล้วเหรอ? ”มิซาโนะเบิกตาโตขึ้นพลางทำหน้าใ ไอ้นี่มันน่านัก!!!
“อย่าตอแหล ปล่อยฉันลงได้ล่ะ! ”ฉันโวยขึ้นพลางดีดดิ้นตัวไปมา
“โอเค^_^”ซาโนะพูดพลางทำสีหน้ามีเลศนัย
พรึบ ตุ๊บ
“โอ้ยยย! ไอ้บ้า!! ”ฉันร้องโอดโอยด้วยความเ็ปเมื่อซาโนะทุ้มร่างฉันลงกับพื้นห้องสุดหรูเวอร์วัง น่าจะเป็ห้องทำงานของเขานะ
“อ้าว ขอโทษ^_^”ซาโนะเอ่ยขึ้นพลางทำหน้ายิ้มระรื่น ฉันก็ก่นด่าเขาพลางลูบก้นตัวเองไปด้วย
“จะด่าก็กรุณาออกเสียงด้วยนะครับคุณโยโกะจัง”
“ฉันชื่อต้นฝนกรุณาอย่าเรียกฉันว่าโยโกะ ฉันไม่ชอบ!! ”ฉันโวยใส่ซาโนะพลางค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปนั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ที่มีร่างสูงโปร่งของอีตาซาโนะนั่งไขว้ห้างอยู่ กิริยาท่าทางเหมือนเกย์เลยเนอะ?
“เหอะทำยังกับผมอยากเรียกชื่อคุณอย่างงั้นแหละ”เขาโวยใส่ฉันกลับ เอ้าอีตานี่หนิ!
“คุณเป็เกย์รึเปล่าเนี่ย? ”ฉันเอ่ยถามเขาไปในขณะที่พาร่างของตัวเองเดินมาถึงโซฟาด้วยความทุรักทุเรโดยไร้การช่วยเหลือจากสุภาพบุรุษตรงหน้าที่ตอนนี้นั่งไขว้ห้างในมือถือแก้วไวน์พลางจิบอย่างสบายใจเชิบ
“ไม่ทราบว่าคุณเอาสมองส่วนไหนคิดครับ ว่าคนหล่อๆอย่างผมจะเป็เกย์? ”เขาถามฉันกลับมาพร้อมกับเหลือบหางตามามองฉันั้แ่หัวลงเท้าเม้าขึ้นหัวด้วยสายตาพินิจพิจารณา
“ก็ผู้ชายอะไรมาต่อปากต่อคำกับผู้หญิงสวยๆอย่างฉัน! ”ฉันโวยใส่เขาไปตามความจริง เกิดมาเพิ่งเคยมีคนมาเถียงด้วยแบบนี้เพราะปกติมีแต่มาขายขนมจีบ
“แฮ่กๆๆ”อีตาซาโนะสำลักไวน์พลางไอหน้าดำหน้าแดง
“ตะลึงในความสวยของฉันจนถึงขนาดสำลักไวน์เลยเหรอเนี่ยคริๆๆ”ฉันเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองและหัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ
“หลงตัวเองชะมัด”เสียงบ่นงึมงำของซาโนะเอ่ยขึ้นทำให้ฉันหันขวับกลับไปมองเขาอย่างไว เขาก็ยักคิ้วให้ฉันอย่างกวนๆ ฉันกำลังจะยกมือขึ้นมาชี้หน้าด่าเขาแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักไว้เมื่อซาโนะก้มหน้าลงไปมองหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของเขาและเบิกตาโตขึ้นด้วยความใและดีใจผสมปนเปกันไป
“คุณอยู่ที่นี้ในห้องนี้ รอจนกว่าผมจะมารับกลับบ้าน”เขาพูดขึ้นด้วยความรีบร้อนเขาลุกขึ้นยืนอย่างไว
“อ้าว แล้วทำไมฉันต้องรอคุณด้วยล่ะ? ”ฉันถามเขาไปด้วยความสงสัยพลางยกแขนขึ้นมากอดอก
“เพราะผมไม่มีเวลามาดูแลคุณน่ะสิ อย่าทำให้ผมกับพ่อต้องลำบากเพราะผู้หญิงอย่างคุณ!! ”เขาชี้หน้าฉันพลางทำสีหน้าและนำ้เสียงจริงจัง แววตาของเขาฉายแววเบื่อหน่ายเต็มทนทำไมแค่ฉันเห็นแววตาแบบนั้นของเขาใจของฉันถึงรู้สึกเจ็บจี๊ดๆแบบนี้ล่ะ
“ในห้องนี้มีของทุกอย่างที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้คุณทุกอย่างมีอาหารอยู่ในตู้เย็นถ้าอยากกินก็เอามาเวฟเพราะผมจะล็อคประตูจากด้านนอกคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้านอกจากผม! ”เขาพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นและรีบหยิบของของเขาออกไปจากห้องพลางปิดประตูและใส่กุญแจจากด้านนอกจริงๆ
“อะไรกัน เอาฉันมาทิ้งไว้ในห้องนี้คนเดียว เดี๋ยวแม่ก็ขโมยของมีค่าไปขายให้หมดซะหรอกไอ้มาเฟีย ไอ้จอมเผด็จการ!! ”ฉันโวยขึ้นพลางมองสำรวจไปรอบๆห้องรับรองนี้ของมิซาโนะที่มันสุดหรูหราทำให้รู้ถึงรสนิยมของเ้าของห้องได้เป็อย่างดี ห้องเรียบร้อยสะอาดตามีกระจกบานใหญ่มองลงไปจะเห็นวิวทิวทัศน์ทั้งหมดของมหาลัยแห่งนี้ อ๋อจริงสิ เขาเป็เ้าของมหาลัยหนิ
“รวยไม่ใช่เล่นเลยน่ะเนี่ย แต่คงจะมีเมียเป็ฝูงเอ้ยคนไม่ใช่หมาฮ่าๆๆ”ฉันพูดคนเดียวหัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้า ฉันเกลียดการถูกขังแบบนี้ที่สุดเลย
“โทรศัพท์ก็ไม่มีเห้อ!! ”ฉันบ่นและผ่อนลมหายใจออกมา ถ้าฆ่าตัวตายแล้วไม่บาป สาบานว่าฉันจะะโตึกนี้ลงไปตายแน่นอน!
“เฮ้อเบื่อเบื่อๆๆๆๆๆๆ!! ”ฉันทุบมือลงไปบนโซฟาราคาแพงและในจังหวะนั้นความคิดอันชั่วร้ายก็บังเกิด
“หึๆเล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับต้นฝนคนนี้เดี๋ยวได้รู้แน่อีตาบ้าซาโนะ!! ”ฉันพูดขึ้นและกระตุกรอยยิ้มอันชั่วร้ายที่มุมปากและสอดส่องสายตามองไปรอบๆห้องเพื่อจะทำการชั่วร้ายต่อจากนี้ไป
“ฉันจะทำให้นายส่งตัวฉันกลับไปให้ท่านมิซานแทบจะทันทีเลยล่ะ^_^”ฉันลุกขึ้นยืนกอดอกอย่างนุกสะใจเมื่อนึกถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ต่อนี้
“ฮ่าๆๆๆแค่คิดก็สุขใจ^_^”
นครโตเกียว
ร้านอาหารสุดหรู มิงากะ
“คุณพ่อมีอะไรคะ!! ”เสียงฉุนเฉียวของนางเอกเบอร์หนึ่งของประเทศไทยโวยขึ้นเมื่อเธอพาร่างอันสวยสง่าและบอบบางของเธอมาถึงห้องวีไอพี
“กว่าจะมาได้”ผู้เป็พ่อมีนามว่า ท่านฮิเรน ทาโมโต้เอ่ยขึ้นพลางกรีดสายตาอันคมกริบมองไปยังลูกสาวของตัวเองด้วยความเบื่อหน่ายกับความเอาแต่ใจของหล่อน
“มินเป็ดาราดังนะคะคุณพ่อ ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งเครื่องบินไปบินมาระหว่างสองประเทศนี้! ”เธอโวยวายเสียงดังยังกับคนที่เอาแต่ใจ เธอหย่อนก้นงอนๆของเธอลงบนเก้าอี้ราคาแพงในห้องอาหารและมองผู้เป็พ่อด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย เพราะพ่อของเธอมักจะเรียกเธอให้มาหาที่นี้เป็ประจำทุกอาทิตย์แต่เธอก็ไม่ค่อยได้มาเพราะติดงานถ่ายละครของเธอ
“แกต้องทิ้งงานบ้าๆนั้นของแกได้แล้ว และมาช่วยฉันทำมาหากินที่นี้!! ”
“เพราะที่ฉันต้องหนีจากประเทศไทยมาที่นี้ก็เพราะว่าฉันจะต้องมาเป็ใหญ่ที่นี้ แกเข้าใจไหม แต่ดูที่แกกับพี่ของแกทำกับฉันสิ! ”ผู้เป็พ่อแววตาและนำ้เสียงดุดันจนน่ากลัว เขาเป็นักการเมืองที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในตอนที่เขาอยู่ที่เมืองไทยแต่เพราะเขาคดโกงมากเกินไปจนไม่สามารถที่จะอยู่ที่โน้นต่อได้ เขาจึงหนีมาอยู่ที่ประเทศนี้แทนเพื่อความเป็ใหญ่ที่เขาใฝ่ฝัน
“ชื่อเสียง เกียรติยศและเงินทองมหาศาลที่มันควรจะเป็ของฉันแต่บัดนี้มันได้ถูกไอ้มิซานแย่งไปแล้ว!! ”
“คุณพ่อก็ไปแย่งกลับมาสิคะ ไม่เห็นจะยาก”มินตราเอ่ยขึ้นเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำบ่นของผู้เป็พ่อ
“ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ฉันคงไม่เรียกแกกับพี่ของแกมาที่นี้หรอก!! ”ผู้เป็พ่อโวยขึ้นอีกพลางหยิบแก้วไวน์สีสวยขึ้นกระดกรวดเดียวตามอารมณ์ที่กรุ่นโกรธแค้นขุ่นในใจ
“แล้วไหนพี่ภามละคะไม่เห็นหัวเลย! ”มินตราเอ่ยขึ้นพลางมองหาผู้เป็พี่ชายที่เดินรอยตามความฝันในการเป็คุณครูสอนหนังสือ
“นั้นไงมาแล้ว”ผู้เป็พ่อเอ่ยขึ้นพลางชี้แก้วไวน์ไปยังหน้าประตูห้องอาหารสุดหรูที่ปรากฏร่างสูงโปร่งสง่าหล่อเหลาของผู้มาใหม่
“หึ! ”มินตราหึในลำคออย่างเบื่อหน่ายเมื่อเห็นหน้าของพี่ชายตัวเอง
“หวัดดีมินตรา”ภามเอ่ยทักทายน้องสาวพ่อเดียวกันด้วยความสุภาพตามอุปนิสัยตีสองหน้าของเขา
“หวัดดีค่ะพี่ภาม!! ”มินตราเอ่ยทักทายผู้เป็พี่ชายกลับอย่างขอไปที ภามไม่ได้สนใจอะไรน้องสาวตัวเองพลางเดินไปกราบผู้เป็พ่อด้วยความเคารพ ที่เขาเลือกเส้นทางการเป็ครูก็เพื่องานยิ่งใหญ่ของเขาที่ผู้เป็พ่อมอบหมายให้เขาเข้าไปตีสนิทและล้วงความลับของเ้าของมหาลัยที่เขาเข้าไปเป็ครูแลกเปลี่ยน
“สวัสดีครับคุณพ่อ”
“เป็ยังไงบ้างได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับมันบ้าง”ผู้เป็พ่อเอ่ยเข้าเื่งานทันทีที่ก้นของภามติดกับเก้าอี้ เขายิ้มให้พ่อ
“ผมได้ข้อมูลมาเยอะมากครับ แต่ผมคิดว่าถ้าจะโค่นมันลงคงไม่ง่ายดังใจเราคิดครับพ่อ”ภามเอ่ยตอบไปตามความจริง เพราะตลอดที่เขาสอนอยู่ที่นั้นเขาก็แอบสะกดรอยตามซาโนะไปดูแหล่งการค้าของเขาและตลาดหลักทรัพย์มากมายที่ซาโนะเป็เ้าของ
“มันรวยมหาศาลครับพ่อ”
“มันจะรวยขนาดไหนกันเชียว? ”ผู้เป็พ่อบีบแก้วไวน์ในมือแน่นด้วยความอิจฉาริษยา
“รวยมากครับ ตีเป็จำนวนเงินคงไม่ได้เพราะนับไม่ถ้วน”
“นับไม่ถ้วน!! ”มินตราตาลุกวาวขึ้นมาเมื่อพูดถึงเื่เงิน เพราะครอบครัวของเธอเฟ้อเื่การใช้เงิน จนเป็หนี้หัวโตทำให้พ่อของเธอต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาอยู่ที่นี้หลังจากที่โกงเงินรัฐบาลเสร็จ
“หล่อม่ะพี่ภาม? ”มินตราเอ่ยถามภามขึ้น ภามจึงหันไปมองหน้าผู้เป็พ่อและทั้งสองก็กระตุกรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมา
“ดูเองสิ ถ้าเธอได้เจอตัวจริงมันเธออาจจะไม่อยากกลับเมืองไทยอีกเลยก็ได้”ภามพูดขึ้นพลางส่งสมาร์ทโฟนเครื่องหรูมาให้น้องสาวของเขาดู มินตราเอื้อมมือไปหยิบสมาร์ทโฟนมาจากภามและก้มหน้าดูคนในรูปอย่างไว แววตาของเธอเป็ประกายเมื่อเห็นความหล่อและแบดของคนในรูป

“หล่อ แบดกายสเปคเลยอ่ะ^_^”มินตราเอ่ยขึ้นด้วยความพึงพอใจเมื่อเห็นรูปของมิซาโนะ
“มันชื่อ มิซาโนะ ซานโต้ ถ้าเธอได้ขึ้นเป็นายหญิงของซานโต้ทรัพย์สินมากมายของมันก็จะตกเป็ของเธอและตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพ่อก็จะอยู่แค่เอื้อมครับพ่อ^_^”ภามเอ่ยขึ้นพลางหันไปก้มหัวให้ผู้เป็พ่อด้วยความเคารพ
“ให้มันได้อย่างงี้สิ สมแล้วที่แกเป็ลูกพ่อภาม^_^”ผู้เป็พ่อเอื้อมมือไปตบไหล่ลูกชายด้วยความพึงพอใจ
“ขอบคุณครับพ่อ^_^”ภามก้มหัวให้ผู้เป็พ่อด้วยความเคารพ
“แต่ทำไมหน้าเขาคุ้นๆจังเหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ? ”มินตราพึมพำขึ้น เพราะโครงหน้าที่รู้สึกเหมือนเคยเห็นทำให้เธอเกิดความสงสัยและอยากรู้
“แต่มินคงจะเข้าหาเขาตอนนี้ไมาได้นะคะ”
“ทำไม? ”
“เพราะมินนัดกับภูมิไว้แล้ว”
“นี่แกยังไม่เลิกยุ่งกับมันอีกเรอะ! ”ผู้เป็พ่อโวยขึ้นมา
“จะเลิกได้ยังไงค่ะ ก็เขาเป็สามีของมิน”
“แล้วไอ้ซาโนะล่ะ แกไม่อยากได้เงินมันรึไง? ”ถามเอ่ยถามน้องสาวของเขาด้วยความสงสัย
“อยากได้สิคะ แต่ภูมิเขาก็รวยใช่เล่นผู้หญิงสวยๆอย่างมินไม่ว่าหนุ่มๆที่ไหน
ก็อยากได้มินจนตัวสั่นทั้งนั้รแหละค่ะ รวมไปถึงมิซาโนะคนนี้ด้วย^_^”มินตราเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ เธอคิดว่าตัวเองสวยจนทำให้หนุ่มๆมาสยบแทบเท้าเธอได้
